วัดใหม่ทองเสน
สมัยเรียนรด. ตรงม.พันสี่ ใกล้ๆเกียกกาย ผมนั่งรถผ่านวัดนี้ทุกวัน เป็นพื้นที่เล็กๆที่โอบล้อมด้วยเขตทหาร ก็ไม่เคยได้เข้าไปสักที จนกระทั่งเรียนโบราณคดีนั่นแหละครับ อยู่ปี 3 นู้น ถึงได้เ้ข้าไป ซึ่งก็นานมาแล้ว ตอนนั้นประมาณปี 2550

วัดใหม่ทองเสนเป็นวัดเล็กๆ อยู่ชานเมืองทีเดียว ตัววัดอยู่แถวๆเกียกกาย ไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยานัก แต่ก่อนเชื่อว่าคงเคยมีคลองซอยเชื่อมต่อกับตัววัด แถวๆนั้นยังมีวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่ง คือวัดแก้วฟ้าจุฬามณี



สิ่งศักดิ์ิสิทธิ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของวัดนี้ก็คือ พระพุทธรูปปางปาเลไลยก์ ขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างโดยหลวงพ่อโต หรือสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรังสี)

หลาย ปีผ่านไป ผมก็ลืมๆวัดนี้ไปเสียแล้ว จนมาเปิดเนต พบว่าเมื่อปี 2552 มีโครงการจะบูรณะหอพระไตรปิฎก ไม่ทราบว่าตอนนี้โครงการไปถึงไหนแล้ว เพราะไม่ได้เข้าไปดูอีกเลย (เกืือบ 5 ปีแน่ะ) ก็เลยขออนุญาต นำภาพหอไตรที่งามที่สุดหอหนึ่งในประเทศไทย สภาพเดิมๆก่อนที่จะถูกซ่อมมาเผยแพร่ไว้ก่อน

.

น่าเสียดายที่ ผมถ่ายด้วยกล้องกระป๋อง (ตอนนั้นเป็นนักศึกษาจนๆ ไม่มีเงิน) ใช้แต่กล้อง 3 ล้านพิกเซล นึกๆดูแล้วก็ขำตัวเอง 3 ล้านพิกเซลสมัยนี้ยังน้อยกว่ากล้องมือถือเสียอีก

หอไตรหลังเล็กๆนี้ แสดงศิลปะรัตนโกสินทร์อย่างภาคภูมิ เป็นหลังน้อยตั้งขวางพระอุโบสถ หลังนิดเดียวก็จริงแต่ช่างท่านทำอย่างประณีตบรรจง ตรงไหนควรว่างให้ว่างไว้ ตรงไหนควรมีลายก็ประดิษฐ์เสีย ปั้นปูนงดงามยังกับร้อยพวงมาลัย แล้วค่อยๆ เอากระจกเกรียบที่หุงเป็นสีเขียว ตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆเท่าๆกัน ทาบลงบนผืนปูน ผนังโล่งๆ ตัดกับลายบรรจง ให้อารมณ์ขัดแย้งแต่กลับงามอย่างประหลาด ช่างสมัยกรุงเทพท่านเล่นกับสุนทรียภาพเช่นนี้เอง




หอไตรแห่งนี้มีหลังคาปีกนกหน้าหลังครับ แต่จากภาพข้างบน เราไม่เห็นมุขหลัง เพราะัเสามันพังไปแล้ว เสียดายจริงๆ ยังเหลือเสาอีกสองคู่ พอจะเป็นร่องรอยได้บ้าง





บานประตูลายรดน้ำครับ เป็นก้านขดออกหัวสัตว์ งามแบบช่างกรุงเทพ ใครจะบอกว่ากลัวเปลืองทองก็ช่าง ผมว่าคงเป็นเพราะช่างเป็นโรครังเกียจพื้นที่ว่างมากกว่า






วัดใหม่ทองเสน

สมัยเรียนรด. ตรงม.พันสี่ ใกล้ๆเกียกกาย ผมนั่งรถผ่านวัดนี้ทุกวัน เป็นพื้นที่เล็กๆที่โอบล้อมด้วยเขตทหาร ก็ไม่เคยได้เข้าไปสักที จนกระทั่งเรียนโบราณคดีนั่นแหละครับ อยู่ปี 3 นู้น ถึงได้เ้ข้าไป ซึ่งก็นานมาแล้ว ตอนนั้นประมาณปี 2550

วัดใหม่ทองเสนเป็นวัดเล็กๆ อยู่ชานเมืองทีเดียว ตัววัดอยู่แถวๆเกียกกาย ไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยานัก แต่ก่อนเชื่อว่าคงเคยมีคลองซอยเชื่อมต่อกับตัววัด แถวๆนั้นยังมีวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่ง คือวัดแก้วฟ้าจุฬามณี



สิ่ง ศักดิ์ิสิทธิ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของวัดนี้ก็คือ พระพุทธรูปปางปาเลไลยก์ ขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างโดยหลวงพ่อโต หรือสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรังสี)

หลาย ปีผ่านไป ผมก็ลืมๆวัดนี้ไปเสียแล้ว จนมาเปิดเนต พบว่าเมื่อปี 2552 มีโครงการจะบูรณะหอพระไตรปิฎก ไม่ทราบว่าตอนนี้โครงการไปถึงไหนแล้ว เพราะไม่ได้เข้าไปดูอีกเลย (เกืือบ 5 ปีแน่ะ) ก็เลยขออนุญาต นำภาพหอไตรที่งามที่สุดหอหนึ่งในประเทศไทย สภาพเดิมๆก่อนที่จะถูกซ่อมมาเผยแพร่ไว้ก่อน

.

น่าเสียดายที่ ผมถ่ายด้วยกล้องกระป๋อง (ตอนนั้นเป็นนักศึกษาจนๆ ไม่มีเงิน) ใช้แต่กล้อง 3 ล้านพิกเซล นึกๆดูแล้วก็ขำตัวเอง 3 ล้านพิกเซลสมัยนี้ยังน้อยกว่ากล้องมือถือเสียอีก

หอไตรหลังเล็กๆนี้ แสดงศิลปะรัตนโกสินทร์อย่างภาคภูมิ เป็นหลังน้อยตั้งขวางพระอุโบสถ หลังนิดเดียวก็จริงแต่ช่างท่านทำอย่างประณีตบรรจง ตรงไหนควรว่างให้ว่างไว้ ตรงไหนควรมีลายก็ประดิษฐ์เสีย ปั้นปูนงดงามยังกับร้อยพวงมาลัย แล้วค่อยๆ เอากระจกเกรียบที่หุงเป็นสีเขียว ตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆเท่าๆกัน ทาบลงบนผืนปูน ผนังโล่งๆ ตัดกับลายบรรจง ให้อารมณ์ขัดแย้งแต่กลับงามอย่างประหลาด ช่างสมัยกรุงเทพท่านเล่นกับสุนทรียภาพเช่นนี้เอง



หอ ไตรแห่งนี้มีหลังคาปีกนกหน้าหลังครับ แต่จากภาพข้างบน เราไม่เห็นมุขหลัง เพราะัเสามันพังไปแล้ว เสียดายจริงๆ ยังเหลือเสาอีกสองคู่ พอจะเป็นร่องรอยได้บ้าง



บาน ประตูลายรดน้ำครับ เป็นก้านขดออกหัวสัตว์ งามแบบช่างกรุงเทพ ใครจะบอกว่ากลัวเปลืองทองก็ช่าง ผมว่าคงเป็นเพราะช่างเป็นโรครังเกียจพื้นที่ว่างมากกว่า




บัว หัวเสาครับ เป็นบัวโถ (บัวกลมๆ) ปั้นด้วยปูนตำประดับกระจกสีเขียวที่หุงไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้ 555 (ถึงหุงได้ก็ไม่สวยเหมือนของเก่า) น่าแปลกที่ช่างกรุงเทพเลือกใช้บัวโถ ซึ่งไม่เป็นที่นิยมกันแล้ว (บัวแบบนี้เคยนิยมมาก่อนในสมัยอยุธยาครับ)






บานหน้าต่างครับ ก็ยังเป็นลายรดน้ำเหมือนกัน แต่ทองก็ลบเลือนจนจะเหลือแต่รักดำๆหมดแล้ว น่าเสียดายของเก่าจริงๆครับ





มุขหลังที่พังไปแล้ว ทรุดโทรมมาก หวังว่าทุกวันนี้คงซ่อมเสร็จแล้วนะครับ





ชุดทางเข้าครับ กรอบประตู มีการเดินสายไฟทำลายของเก่า ขัดตามากๆ ของโบราณจะอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีแบบกลมกลืนไม่ได้หรือไง เฮ้ออ




Create Date : 03 พฤษภาคม 2554
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2558 21:30:35 น.
Counter : 1839 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลาทองสยองเมือง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]



New Comments