เซ็นซู ภาค จอมอสูรจากหิมาลัย บทที่ 14 เงาของซาวาระ

บทที่ 14

เงาของซาวาระ

เหล่าบรรดาที่ปรึกษาและข้าราชการระดับสูงของแคว้นคาสึรางิต่างพากันนั่งนิ่งด้วยความคาดไม่ถึงหลังจากฟังข้อเสนอของซาวาระ ชินโนจบลง ทุกคนต่างหันไปมองอาซามิ ฮิโรซะ ซึ่งบัดนี้เป็นผู้นำของคาสึรางิดุจต้องการได้ยินการตัดสินใจแต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าเมืองอิวะพูดเท่าใดนัก โยรินากะ เท็นโน ที่ปรึกษาอาวุโสซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้น

“ท่านแน่ใจหรือว่าการตายของท่านอาซามิ เป็นฝีมือของยาสึฮิระ”

“แล้วยังจะมีใครอีกเล่าที่กล้าแข็งข้อต่อคาสึรางิ” ซาวาระย้อนถาม อีกฝ่ายนิ่งไปเล็กน้อย
“แต่ภายในจวนของเรามีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้ลอบเข้ามาโดยไม่มีใครเห็น อีกประการหนึ่งสภาพของท่านอาซามิสยดสยองเกินกว่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์ ข้าจึงไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นการกระทำของยาสึฮิระ”

โยรินากะยกเหตุผลมาแย้ง แต่เจ้าเมืองอิวะกลับยิ้ม

“งั้นช่วยบอกหน่อยว่ากองทัพของท่านพ่ายแพ้ต่อโคโตโระได้อย่างไร ไม่ใช่แค่ครั้งที่เพิ่งผ่านมา แต่รวมถึงคราวก่อนที่ลอบเข้าไปโจมตีถึงประตูเมือง”

ที่ปรึกษาคนหนึ่งขมวดคิ้วและตอบอย่างไม่พอใจนัก

“เรื่องที่ท่านโยรินากะกล่าวกับสิ่งที่ท่านถามเป็นคนละเรื่องกัน”

“แต่ข้ากลับคิดว่ามันเป็นเรื่องเดียว เพราะทุกอย่างโยงไปถึงโคะโตโระ หากไม่ใช่เพราะเล่ห์กลของยาสึฮิระ พวกท่านก็คงไม่พ่ายแพ้ติดต่อกันถึงสองครั้ง ซ้ำท่านเคียวคุเซ็นยังต้องมาตายในสภาพแบบนั้น”

“มีคนบอกข้าว่านั่นเป็นการะกระทำของปิศาจ” อาซามิ ฮิโรซะพูดขึ้นมาบ้าง ซาวาระหันไปทางเขา

“มันจะทำเพื่ออะไร และหากเป็นฝีมือของพวกปิศาจจริงก็ต้องมีคนบงการซึ่งก็น่าจะเป็นเจ้ายาสึฮิระ เพราะลำพังเมืองขนาดเล็กแบบนั้นคงไม่มีกำลังต้านทานทัพใหญ่อย่างคาสึรางิได้ อ้อ หวังว่าพวกท่านคงไม่ลืมขุนพลไร้พ่ายแห่งทาคุฮัน เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องสิ้นชีวิตจากการรบกับโคะโตโระ”

ทั้งหมดนั่งเงียบไปในบัดดล หลังจากนิ่งไปได้ชั่วครู่โยรินากะจึงพูดขึ้น

“ถ้าเป็นอย่างที่ท่านกล่าวเป็นความจริง เรายิ่งไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับยาสึฮิระ”

“ตรงกันข้ามข้ากับคิดว่าควรถล่มเขาให้ราบคาบ เพื่อความปลอดภัยของท่านฮิโรซะกับแคว้นคาสึรางิ”

“ท่านเพิ่งพูดเมื่อครู่นี้เองมิใช่หรือว่าทุกครั้งที่เราพ่ายแพ้เพราะปิศาจที่มาจากการบงการของยาสึฮิระ หากยังรั้นที่จะส่งกองทัพออกไปก็เท่ากับให้คนของเราออกไปตาย ดีไม่ดีอาจจะเป็นผลร้ายต่อท่านฮิโรซะของเรา”

โยรินากะกล่าว ซาวาระยิ้มอย่างใจเย็น

“ที่ข้าพูดก็คือพวกท่านพ่ายต่อเล่ห์กลของยาสึฮิระ และพวกท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่าหากยกเลิกการโจมตีแล้วท่านฮิโรซะจะปลอดภัย ถ้ากังวลว่าสงครามในครั้งนี้จะเป็นผลร้ายต่อคาสึรางิก็ขอให้ข้าเป็นคนออกหน้าจัดการโคะโตโระเอง”

“ข้าไม่เข้าใจ”

อาซามิ ฮิโรซะกล่าว ผู้นำอิวะจึงหันไปทางเขาพร้อมกับอธิบาย

“กองทัพของข้าแม้จะมีฝีมือแต่ด้วยทำเลที่ตั้งของเมืองโคะโตโระทำให้ยากต่อการรุก อีกทั้งเล่ห์ของยาสึฮิระที่อาจจะวางกับดักไว้ตามทางทำให้ข้าต้องแยกกำลังทหารออกเป็นหลายส่วนซึ่งจะเป็นข้อเสียเปรียบ ดังนั้นข้าจึงวางแผนที่จะให้ทหารของคาสึรางิเข้าร่วมในการโจมตีโดยแบ่งกำลังออกเป็นสองส่วน กลุ่มแรกเพื่อกรุยทางให้กับทหารของข้า ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกองหนุนเมื่อทัพของอิวะเข้าประชิดกำแพงโคะโตโระได้สำเร็จ”

“หากทำแบบนั้นยาสึฮิระคงไม่ละเว้นคาสึรางิและท่านฮิโรซะของพวกเรา ข้าไม่เห็นด้วยที่จะให้ยกกองทัพไปบุกโคะโตโระอีกครั้ง” โยรินากะแย้งขึ้นมาในทันควันและหันไปมองผู้นำซึ่งกำลังนั่งโบกพัดมองเขาและซาวาระสลับกันไปมา เจ้าเมืองอิวะมองที่ปรึกษาอาวุโสด้วยสายตาที่ฉายแววดุจต้องการจะเชือดเฉือนเขาให้เป็นชิ้นจากนั้นจึงเลื่อนไปยังฮิโรซะ

“ที่ข้าเสนอความคิดเช่นนี้เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของท่าน”

เจ้าครองแคว้นคาสึรางิพยายามโบกพัดในมือให้ดูสง่างามขณะมองซาวาระด้วยแววตาเชิงดูถูกที่อีกฝ่ายมีบรรดาศักดิ์ต่ำกว่า

“เจ้าคิดจะดึงทหารของเราไปใช้และถ้าเป็นไปได้ก็คงจะหาทางครอบงำข้าเพื่อปกครองคาสึรางิ บอกหน่อยซิว่าตรงไหนที่เจ้าคำนึงถึงความปลอดภัยของข้า”

แม้จะคาดไม่ถึงว่าผู้ด้อยปัญญาอย่างอาซามิ ฮิโรซะจะมองแผนการของตนออกแต่ซาวาระก็ยังคงรักษาท่าทางให้ดูเคร่งขรึมสงบนิ่ง เขาก้มศีรษะลงพร้อมกับตอบ

“ข้าเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็กๆเท่านั้นไม่อาจหาญที่จะกระทำในสิ่งที่ท่านกล่าวมาเลยสักนิด ความคิดทั้งหมดที่กล่าวออกมาก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของยาสึฮิระ เพราะหากเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารท่านเคียวคุเซ็นจริงก็ต้องเปลี่ยนเป้าหมายมาจัดการกับข้า ในฐานะผู้กุมกองทัพเข้าโจมตีโคะโตโระ”

ฮิโรซะนิ่งนิ่งและยกพัดขึ้นแตะริมฝีปากอย่างใช้ความคิด โยรินากะจึงขยับตัวเข้าไปหาพร้อมกับกล่าว

“แต่การยอมให้ท่านซาวาระมีอำนาจในการออกคำสั่งก็เท่ากับเป็นการยกตำแหน่งแม่ทัพให้กับเขา แบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อทั้งตัวท่านและแคว้นคาสึรางิ”

“ข้าขอแค่ทำหน้าที่ออกหน้าในการรบ มิได้หวังจะครอบครองคาสึรางิ หากพวกท่านไม่ไว้ใจก็ไม่เป็นไร” ซาวาระเว้นระยะคำพูดเล็กน้อยคล้ายต้องการดูท่าทีของอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่พูดอะไรจึงกล่าวต่อ “แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เป้าหมายของยาสึฮิระก็คือท่านซึ่งเป็นผู้นำแคว้นต่อจากท่านเคียวคุเซ็น”

คำพูดทิ้งท้ายถูกเน้นน้ำเสียงอย่างจริงจังจนฮิโรซะทำพัดหลุดร่วงลงจากมือ เขารีบหันไปทางซาวาระซึ่งลุกขึ้นและเตรียมจะออกไปจากห้องพร้อมกับร้องเรียก

“เดี๋ยวก่อนท่านซาวาระ” ผู้นำแคว้นคาสึรางิรีบยกมือห้ามโยรินากะที่ขยับตัวหมายจะเข้ามาห้าม”จริงหรือที่ยาสึฮิระต้องการจะสังหารข้า”

ซาวาระยิ้มในหน้าก่อนจะหันกลับมาตอบ

“หากเขาคิดว่าคาสึรางิเป็นศัตรู ย่อมหาทางปลิดชีวิตผู้ครองแคว้นทุกคน”

สีหน้าของอาซามิ ฮิโรซะซีดเผือดในบัดดล เขารีบลุกขึ้นและเอ่ยถามเสียงสั่น

“ท่านมีทางจัดการกับเขาหรือไม่”

“หากท่านยอมมอบทุกสิ่งที่ข้าร้องขอ โคะโตโระก็จะสูญสิ้นไปตลอดกาล”

เจ้าเมืองอิวะตอบเสียงเย็น เหล่าที่ปรึกษาและแม่ทัพที่นั่งอยู่ในห้องต่างพากันส่งเสียงร้องออกมาอย่างไม่พอใจ แต่ดูเหมือนฮิโรซะจะไม่สนใจ เขาก้าวลงจากยกพื้นอันเป็นที่นั่งประจำตำแหน่งพร้อมกับกล่าว

“ข้ายินดีมอบทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการ” ผู้นำแคว้นคาสึรางิหันไปทางโยรินากะ”เตรียมกระดาษ พู่กันและตราประทับเดี๋ยวนี้ ข้าจะทำหนังสือมอบหมายอำนาจให้กับท่านซาวาระ”

“แต่...” โยรินากะทำท่าจะแย้งแต่ฮิโรซะกลับโบกมือพร้อมกับตัดบท

“ไปจัดการตามที่ข้าสั่งเดี๋ยวนี้ก่อนที่หัวของเจ้าจะหลุดจากบ่า”

ที่ปรึกษาอาวุโสแห่งคาสึรางิถึงกับยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออก เขาค้อมตัวลงพร้อมกับกล่าวรับคำและออกคำสั่งกับข้ารับใช้ตามที่ฮิโรซะบัญชาทุกประการ หลังจากได้รับหนังสือจากผู้นำแคว้นแล้วซาวาระจึงขอตัวกลับที่พัก แต่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องเขาหยุดมองดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้านิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงดึงหนังสือที่ได้รับมาจ้องด้วยแววตาละโมบ

“ข้าจะจัดการกับเจ้าต่อจากยาสึฮิระ จากนั้นก็จะเป็นแคว้นทาคุฮัน เมื่อครอบครองแถบนี้ทั้งหมดแล้วเป้าหมายต่อไปคือเมืองหลวง หากทำสำเร็จแผ่นดินนี้ก็จะเป็นของข้าซาวาระ ชินโนแต่เพียงผู้เดียว”

มุมปากกระตุกรอยยิ้มอย่างลำพองพลางยัดหนังสือสำคัญกลับเข้าไปในเสื้อ เขามองแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่ฉาบท้องฟ้าให้เป็นสีแดงดุจโลหิตก่อนจะถูกความมืดยามรัตติกาลกลืนหายไป ซาวาระมองดวงไฟที่ถูกจุดขึ้นภายในปราสาทก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องและนั่งลงบนเบาะที่วางไว้ แสงไฟจากตะเกียงที่วางไว้ด้านข้างส่องกระทบร่างปรากฏเงาขึ้นบนพื้นห้อง แม้เปลวไฟจะสั่นระริกไปตามแรงลมแต่เงานั้นกลับนิ่งเฉยไม่ไหวติง ตรงกันข้ามมันกลับขยายตัวใหญ่ขึ้นและยืดยาวขึ้นไปจนจรดเพดาน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่สร้างความแปลกใจต่อซาวาระแม้แต่น้อย เขาเพียงชำเลืองตามองไปทางด้านหลังและเอ่ยถามเสียงเรียบ

“มีอะไร”

“เจ้าไม่ใช่นายข้า อย่าได้ใช้คำพูดกับน้ำเสียงเช่นนี้”

เสียงที่ฟังคล้ายสัตว์คำรามตอบกลับมา ซาวาระสูดลมจึงสูดหายใจเข้าดุจต้องการระงับความไม่พอใจที่ปะทุขึ้นมา เมื่อจิตใจสงบนิ่งเขาจึงกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนกว่าเดิม

“มีอะไรเร่งด่วนหรือถึงได้ตามข้ามาถึงที่นี่”

”แค่อยากจะฟังแผนการของเจ้าเท่านั้น” เสียงเดิมตอบ “ทั้งที่เจ้าสามารถกำชัยชนะได้โดยง่ายด้วยพลังของข้า เหตุใดจึงหันมาใช้คนของคาสึรางิ”

คำถามจากเงาปิศาจทำให้เจ้าเมืองอิวะยิ้ม

“มันเป็นวิธีการแสดงอำนาจอย่างหนึ่ง เจ้าก็เห็นมิใช่หรือว่าอาซามิ ฮิโรซะ เป็นพวกไร้ความสามารถ หากควบคุมเขาได้คาสึรางิก็จะเป็นของข้าในที่สุด”

“แต่เท่าที่เห็นมีบางคนไม่พอใจการกระทำของเจ้า” เสียงปิศาจพูด ซาวาระพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก

“เป้าหมายของข้าคือเจ้าครองแคว้น ใครเกะกะก็กำจัดมันทิ้งไปให้หมด” เขาเอียงศีรษะไปทางด้านหลังเล็กน้อย “เจ้าคงไม่ได้มาเพื่อถามเรื่องนี้เท่านั้นใช่ไหม”

“ใช่”อีกฝ่ายตอบ “ข้าจะมาเตือนเจ้าว่าอย่าลำพองใจให้มากนักเพราะยาสึฮิระเองก็มีผู้ช่วยฝีมือฉกาจด้วยเช่นกัน”

ซาวาระกระตุกยิ้มอย่างดูแคลน

“ผู้ช่วยของมันคงไม่เก่งไปกว่าเจ้าเท่าใดนัก”

“ตรงกันข้าม เขาเป็นจอมอสูรที่มีพลังแกร่งกล้ามากกว่าปิศาจทุกตัวบนแผ่นดินนี้” เงาสวนคำตอบกลับทันควัน ผู้นำอิวะเลื่อนสายตาไปมองพร้อมกับย้อนถาม

“รวมถึงเจ้าด้วยใช่ไหม”

“หากเป็นเมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ในตอนนี้ข้ามั่นใจว่าเราทั้งคู่มีพลังทัดเทียมกัน”

“งั้นเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกลัว” ซาวาระกล่าวและเบนสายตากลับไปยังที่เดิมจึงไม่ทันได้เห็นแสงสีแดงสองดวงที่ปะทุวาบขึ้นบนตำแหน่งดวงตาของปิศาจเงา

“ข้าไม่เคยกลัวอสูรตนนั้น แต่ที่มาเตือนก็เพื่อให้เจ้าระวังตัว เพราะแม้เจ้านั่นจะไม่เคยลงมือทำร้ายผู้ใด แต่ก็ไม่เคยละเว้นชีวิตผู้ที่ตั้งตนเป็นศัตรู”

คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ซาวาระนิ่งไปเล็กน้อย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย

“เจ้าแน่ใจหรือว่าอสูรตนนั้นคอยปกป้องโคะโตโระ เพราะเท่าที่ข้ารู้มายาสึฮิระเป็นคนที่ทะนงในศักดิ์ศรีชนิดที่ไม่มีวันยอมเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากใคร”

“เช่นเดียวกับจอมอสูรที่ข้าพูดถึง เจ้านั่นก็ไม่มีวันยอมก้มหัวให้กับผู้ใด ข้าจึงแปลกใจที่เห็นเขาเฝ้าวนเวียนอยู่ในปราสาทของยาสึฮิระ ข้าเคยส่งปิศาจแมวดำเข้าไปสืบหาข่าวแต่ก็ถูกจอมอสูรกับนักปราบมารคนหนึ่งไล่ตะเพิดออกมา”

“นักปราบมาร” ซาวาระทวนคำด้วยความแปลกใจ”หากยาสึฮิระเลี้ยงจอมอสูรไว้คอยปกป้อง เหตุใดจึงมีนักปราบมารร่วมอยู่ด้วย”

“ปิศาจแมวดำบอกว่าเขาเป็นอาจารย์สอนนาฏกรรมให้กับบุตรีของยาสึฮิระแต่มีพลังปราบปิศาจที่แข็งแกร่งจนน่ากลัว” เงาปิศาจตอบ “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้เพราะแม้ข้าจะส่งปิศาจลอบเข้าไปในโคะโตโระหลายครั้งแต่คนพวกนั้นก็ไม่เคยรู้ว่าพวกมันมาจากที่ใด ถึงจะมีอยู่สองสามครั้งที่เจ้าจอมอสูรนั่นจะออกมาเยี่ยมเยือนแคว้นแห่งนี้รวมถึงเมืองอิวะของเจ้าก็ตาม”

ประโยคสุดท้ายทำให้ผู้นำอิวะต้องนิ่วหน้า

“แล้วอสูรตนนั้นได้พบกับเจ้าหรือเปล่า”

“ข้าผนึกปราณของตัวเองเอาไว้ ต่อให้มีพลังกล้าแข็งแค่ไหนก็ไม่มีวันรู้” เงาปิศาจตอบและและนิ่งไปชั่วครู่จึงพูดต่อ

“เจ้าจะแสดงอำนาจหรือใช้คนของคาสึรางิยังไงข้าไม่สน แต่สำหรับอสูรตนนั้นข้าจะเป็นจัดการกับเขาด้วยตัวเอง และหากต้องการพลังของพวกปิศาจก็ขอให้บอกเพราะพวกมันพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเจ้าทุกเวลา”

“ตกลง” ซาวาระกล่าวพลางหันไปมองเงาของตัวเอง “สิ่งแรกที่พวกมันต้องทำก็คือคอยเฝ้าพวกที่ปรึกษาของคาสึรางิเอาไว้ หากใครคิดต่อต้านหรือขัดขวางข้าก็สังหารมันได้ทันที จะกัดกินหรือฉีกกระชากซากศพยังไงก็ได้แต่เหลือส่วนหัวเอาไว้เพื่อเตือนให้พวกที่เหลือรู้ว่าใครคือคนที่พวกมันสมควรภักดี”

“ได้” รับปากเพียงเท่านั้นเงาที่ยืดยาวไปจนจรดเพดานก็หดตัวลงทีละน้อยจนมีขนาดเท่ากับรูปร่างของซาวาระ เขาจึงรู้ว่าปิศาจที่สนทนาด้วยได้ออกไปจากที่นั่นแล้ว เมื่ออยู่ตามลำพังผู้นำอิวะจึงดึงแผนที่เมืองโคะโตโระออกมากางและจมอยู่กับความคิดที่จะครอบครองดินแดนทั้งหมดอย่างลำพอง

*/*/*/*/*

 




Create Date : 25 มิถุนายน 2555
Last Update : 25 มิถุนายน 2555 11:00:07 น.
Counter : 611 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กิสึเนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี
All Blog