ห้องแฟนตาซีของmoony
|
|||
รักละไม ไอทะเล บทที่ 3 การพบกันอีกครั้ง (2) รถยนต์สีเขียวสดใสของมุกมณีวิ่งด้วยความเร็วค่อนข้างสูงผ่านสี่แยกย่านธุรกิจ มุ่งหน้าตรงไปยังอาคารอันเป็นที่ตั้งของบริษัท พีเจ แอดเวอร์ไทซิ่ง ปรกติแล้วนางแบบสาวมักจะนั่งรถของเย็นตาโฟ แต่ในวันนี้เขามีงานด่วนทำให้ไม่สามารถแวะไปรับเธอได้ ดังนั้นหญิงสาวจึงต้องขับรถออกมาเองโดยนัดเจอกับช่างแต่งหน้าคนเก่งที่บริษัทแห่งนี้ ทันทีที่ถอยรถเข้าซองได้สำเร็จ มุกมณีหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาโทร.ไปหาเย็นตาโฟทันที เสียงอีกฝ่ายรับอย่างระริกระรื่นพร้อมกับบอกว่าอีกสิบนาทีเจอกัน นางแบบสาวจึงปิดโทรศัพท์และคว้ากระเป๋ามาสะพายจากนั้นจึงเดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปยังชั้นของห้องรับรอง เมื่อไปถึง พนักงานประจำบริษัทที่รออยู่จึงนำนางแบบสาวไปนั่งพักที่ห้องรับรองพิเศษ เพราะต้องรอช่างแต่งหน้า ซึ่งพอจัดหาเครื่องดื่มให้เธอเสร็จเรียบร้อย พนักงานสาวผู้นั้นก็อันตรธานหายไป ทิ้งให้มุกมณีนั่งอยู่เพียงลำพัง ตอนแรกเธอก็รู้สึกเฉยๆเพราะชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่พอผ่านไปได้สักพัก หญิงสาวก็เริ่มหงุดหงิดเพราะมันเหมือนกับว่า ทางบริษัทไม่สนใจใยดีในตัวเธอ หายไปไหนกันหมดเนี่ย มุกมณีเปรยด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังและขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นมีใครโผล่หน้ามาสักคน นี่ ฉันคอแห้ง ใครก็ได้ช่วยหาน้ำมาให้หน่อย เธอแกล้งสั่งทั้งที่ข้างตัวก็มีแก้วน้ำวางไว้อยู่แล้ว นั่งรออยู่สองสามนาที พอเห็นว่าไม่มีใครเข้ามาดูแลเธอแน่ นางแบบสาวจึงหันมองรอบห้องและเตรียมจะอาละวาด แต่สายตาไปสะดุดที่ป้ายบอกหมายเลขติดต่อภายในเสียก่อน ไม่รอช้า เธอคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขทันที ครับ เสียงทุ้มของชายหนุ่มขานรับ มุกมณีจึงพ่นคำพูดใส่ชนิดไฟแลบ จะให้ฉันนั่งรอไปถึงไหน แล้วทำไมไม่มีใครมาดูแลฉันสักคน รู้หรือเปล่าว่าในนี้มันร้อน คอฉันก็แห้งจนจะเป็นผงอยู่แล้ว เสียงปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจก่อนตอบกลับ งั้นรอสักครู่นะครับ เสียงสัญญาณตัดสายดังขึ้น มุกมณีกระแทกหูโทรศัพท์อย่างแรงด้วยความโมโห ไม่มีมารยาท เธอบ่นพลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างหงุดหงิด อารมณ์คุกรุ่นเมื่อครู่เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาในวงการนางแบบ ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้เลยสักคน ส่วนใหญ่แล้วเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายตัดสายทิ้ง แล้วหมอนั่นเป็นใคร กล้าดียังไงถึงได้ทำอย่างนี้กับเธอ ความโกรธทำให้มุกมณีคว้าแจกันดอกไม้บนโต๊ะและเงื้อขึ้นเตรียมจะขว้างแต่ต้องชะงักค้างเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เชิญ เธอพูดเสียงห้วนพร้อมกับวางแจกันลง คิ้วเรียวสวยขมวดเข้ากันเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่ก้าวเข้ามาเป็นหนุ่มแว่นหน้าตาดี ที่สำคัญคือเธอจำได้แม่นว่าเขาทำหน้าที่เป็นช่างภาพแทนนายอะไรสักอย่างที่ไม่ได้มาทำงาน มีธุระอะไร เธอถามแต่จิรายุสไม่ตอบ เขาเดินไปเปิดตู้เย็นที่อยู่ภายในห้องและหันกลับมาถาม คุณจะดื่มน้ำอะไรครับ นั่นเองทำให้นางแบบสาวรู้ว่าเขาคือคนรับโทรศัพท์เมื่อครู่ เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนถามเสียงกระด้าง คุณใช่ไหมที่กระแทกหูโทรศัพท์ใส่ฉัน ผมเปล่า ชายหนุ่มตอบสั้นๆ มุกมณีเม้มปากแน่นและสูดลมหายใจเข้าเพื่อระงับความโกรธ อย่ามาโกหก ถ้าไม่ใช่คุณ แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉันต้องการอะไร คุณบอกว่าคอแห้ง จิรายุสตอบอย่างเคร่งขรึม แต่นางแบบสาวกลับมองว่ากิริยานั้นคือเขากำลังวางท่าหยิ่งยโสใส่เธอ คุณเป็นคนรับโทรศัพท์เมื่อกี้จริงๆ แล้วยังจะมีทำเป็นตีหน้าเซ่อบอกว่าเปล่า ผมยังไม่ได้พูดเลยว่าไม่ใช่คนรับ จิรายุสพูดอย่างอดทนพลางหยิบขวดน้ำดื่มขึ้นมา ตกลงคุณจะรับอะไร ชาหรือน้ำเปล่า อย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง มุกมณีพูดเสียงเขียวพร้อมกับลุกขึ้น ฉันจะแจ้งคุณพีระให้เฉดหัวคุณออกจากบริษัท โทษฐานที่ไร้มารยาทกับลูกค้า คราวนี้จิรายุสวางขวดน้ำกลับที่เดิมและปิดตู้เย็นก่อนจะหันหน้ามาประจันกับนางแบบสาว ตามสบายเลยครับ ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเจ้านายของผมเป็นคนมีเหตุผลมากกว่าที่คุณคิด ถ้าจะหาเรื่องไล่ผมออกจากบริษัท คุณคงต้องหาข้ออ้างที่มันหนักแน่นกว่านี้หน่อย ไม่อย่างนั้นคุณก็คงต้องทนเห็นหน้าผมทุกครั้ง ที่ถ่ายแบบ ช่างภาพมีเยอะแยะ มุกมณีเถียง แต่จิรายุสยักไหล่ แต่ตอนนี้มีผมแค่คนเดียว งั้นฉันไปทำที่บริษัทอื่นก็ได้ นางแบบสาวโต้อย่างไม่ลดละ ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นเกาคางด้วยท่าทางเนือยๆ สัญญาว่าจ้างเขาทำล่วงหน้ากันเป็นเดือน คงไม่มีที่ไหนยอมเสียค่าปรับราคาแพงเพื่อเอาใจคุณหรอกครับ มุกมณีกำหมัดแน่นยืนตัวสั่น แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีใครกล้าต่อปากต่อคำกับเธอเลยสักครั้ง แล้วเจ้าหนุ่มแว่นคนนี้เป็นใคร กล้าดียังไงถึงมาเถียงกับเธอ ด้านจิรายุสพอเห็นนางแบบสาวยืนหน้าแดงก่ำเป็นมะเขือเทศสุกก็รู้ว่าเธอกำลังโกรธจัด ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงใช้คำพูดกวนอารมณ์อีกสองสามคำให้คนฟังเดือดจนสมองระเบิดกระจาย แต่เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นนางแบบชื่อดังซึ่งถือเป็นลูกค้า เขาจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกับอธิบาย มันอาจจะเหมือนเป็นการแก้ตัว แต่เมื่อกี้ผมรีบไปหน่อยเลยเผลอทำโทรศัพท์หลุดมือ เขามองหน้ามุกมณีแน่วนิ่ง เห็นคุณบอกว่าคอแห้ง ผมเลยเป็นห่วง ไม่อยากให้รอนาน ลำพังคำพูดไม่ทำให้มุกมณีเชื่อถือเท่าใดนัก แต่สีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจของจิรายุส ทำให้เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาทั้งหมดเป็นความจริง นางแบบสาวคลายมือออกแต่ยังไม่ยอมทิ้งมาดของราชินีผู้สูงศักดิ์ เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับถามเสียงห้วน เป็นห่วงอย่างนั้นหรือ ครับ ชายหนุ่มตอบตามตรงพลางชี้หัวแม่มือไปที่ตู้เย็น คุณเป็นลูกค้าคนสำคัญ คงไม่ดีแน่ถ้าให้เดินมาหยิบน้ำด้วยตัวเอง เขาเปิดตู้เย็นอีกครั้งพร้อมกับถาม ตกลงคุณจะรับน้ำอะไรครับ มุกมณีไล่สายตามองเข้าไปในตู้เย็นเพื่อสำรวจว่ามีน้ำอะไรบ้างก่อนหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้และยกขาขึ้นไขว่ห้างก่อนตอบเสียงกระด้าง ชาเขียว จิรายุสหยิบขวดชาเขียวรินใส่แล้วและแอบอมยิ้มเมื่อเห็นว่าคำพูดของตนเองสามารถสงบสติอารมณ์ของนางแบบสาวเจ้าปัญหาคนนี้ได้ เขารีบปรับสีหน้าให้ดูเคร่งขรึมก่อนหมุนตัวหันกลับไปที่เธอและวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะ เชิญครับ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุภาพทำให้มุกมณีเหลือบตาขึ้นมองเพราะคิดว่าเขากำลังประชด แต่พอเห็นสีหน้าที่ปราศจากเล่ห์เหลี่ยมกับการวางตัวอย่างระมัดระวังแล้วเธอจึงรู้ว่าเป็นการกระทำอย่างจริงใจ ซึ่งนับว่าแปลกเพราะส่วนใหญ่แล้วเธอจะพบแต่ผู้ชายที่เสแสร้ง ยอมทำทุกอย่างเพื่อหวังบางสิ่งบางอย่างจากร่างกายของเธอ คุณเป็นช่างภาพมานานแล้วหรือยัง นางแบบสาวเปิดหัวข้อสนทนา จิรายุสยิ้ม เพิ่งเป็นได้ห้าวันนี่เองครับ มือที่กำลังยกแก้วชาขึ้นดื่มชะงักค้าง คิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสนเท่ห์ก่อนจะหลุดปากพูด อย่าบอกนะว่า อัญมณีแห่งหิมพานต์เป็นงานแรกของคุณ ใช่ครับ จิรายุสตอบอย่างภาคภูมิใจ แต่มุกมณีกลับนิ่วหน้า ตายแล้ว เอาช่างภาพมือใหม่มาทำงานใหญ่แบบนี้มันจะได้เรื่องเหรอ เธอพูดเป็นเชิงบ่นเพราะกลัวว่าจะต้องย้อนกลับมาถ่ายทำโฆษณาชิ้นนั้นใหม่อีกครั้ง แต่จิรายุสกลับสั่นศีรษะ
อะไรกัน แค่ห้าวันเอง งานเสร็จหมดแล้วเหรอ ครับ จิรายุสตอบสั้นๆ นางแบบสาวนั่งนิ่งไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยปากถาม ขอฉันดูหน่อยได้ไหม ไม่ได้ครับ ชายหนุ่มตอบสวนทันควัน คิ้วของมุกมณีขมวดเข้าหากันทันที ทำไมถึงไม่ได้ ฉันเป็นนางแบบงานชิ้นนี้นะ เธอตวาดแหวอย่างไม่พอใจ จิรายุสส่ายหน้าช้าๆก่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นเชิงอธิบาย งานทุกชิ้นถือเป็นความลับของบริษัท คุณเป็นนางแบบก็จริงแต่ไม่ใช่ผู้ว่าจ้าง จึงไม่มีสิทธิดูงานโฆษณาก่อนได้รับอนุญาต ถ้าไม่ให้ดู ฉันก็ไม่ยอมถ่ายโฆษณากับบริษัทคุณอีกต่อไป เธอยื่นคำขู่ จิรายุสถอนใจออกมาเบาๆด้วยความเบื่อหน่ายในความเอาแต่ใจแบบเด็กๆของนางแบบสาวก่อนขยับแว่นและตอบด้วยท่าทางเคร่งขรึม งานแต่ละชิ้นขึ้นอยู่กับผู้จ้างว่าต้องการนางแบบคนไหน และอย่างที่ผมบอกในตอนแรก งานโฆษณาทุกชิ้น มีการทำสัญญากันล่วงหน้า คุณอาจจะบ่ายเบี่ยงไม่มาบริษัทผมก็ได้ แต่อย่าลืมนะครับว่าทางคุณเองก็มีสัญญาเหมือนกัน ขืนเบี้ยวแล้วละก็มีหวังโดนเรียกค่าเสียหายกันกระเป๋าแฟบ ฉันมีปัญญาจ่าย มุกมณีตอกกลับเสียงดัง จิรายุสยักไหล่ ผมทราบครับ แต่ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ อีกหน่อยคงไม่มีใครกล้าจ้างคุณ ฉันไม่สน นางแบบสาวพูดอย่างไม่แยแส ชายหนุ่มจึงมองเธออย่างสมเพช เพราะเท่าที่ผ่านมาเขานึกว่ามุกมณีจะเป็นผู้หญิงมีสมองอยู่บ้าง แต่เท่าที่เห็นในตอนนี้ นอกจากความเจ้าอารมณ์แล้ว เธอมีแค่ความสวยเพียงอย่างเดียว ผมยอมรับตอนนี้คุณเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่สมัยนี้คนสวยมีให้เลือกเยอะแยะ ถ้าคุณทำเล่นตัวบอกปัดทุกคนไปเสียหมด อีกหน่อยเขาก็จะมองหาคนอื่น ไม่ต้องนานนักหรอกแค่สองสามเดือนเท่านั้น วงการแฟชั่นก็มีนางแบบสาวเซ็กซี่หน้าใหม่มาแทนคุณแล้วละครับ คำเตือนของจิรายุสทำเอามุกมณีถึงกับสะอึก เธอนั่งนิ่งอยู่ราวหนึ่งนาทีเพื่อหาคำตอบโต้ แต่กลับนึกอะไรไม่ออก เพราะทุกอย่างที่ชายหนุ่มพูดเป็นความจริง เมื่อเถียงไม่ได้ นางแบบสาวจึงเลี่ยงไปหยิบแก้วชาและขว้างไปที่ผนังอย่างสุดกำลัง ปากดีนักนะ ! เธอตวาดเสียงดังลั่น ตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ จิรายุสมองเศษแก้วที่กระจายเกลื่อนพื้นด้วยความไม่พอใจและขยับเตรียมจะต่อว่า เป็นจังหวะเดียวกับที่ประพจน์เปิดประตูเข้ามาพอดี สวัสดีครับคุณมุกมณี เขาเอ่ยทักและชะงักคำพูดค้างเมื่อเห็นสีหน้าบูดบึ้งของนางแบบสาว พอเห็นเศษแก้วบนพื้นกับจิรายุสที่กำลังใช้นิ้วชี้ดันแว่นตาเท่านั้น นายประพจน์ก็รู้ในทันทีว่าเจอลมได้ฝุ่นมุกมณีเข้าให้แล้ว เอ่อ คุณมุกมณีไม่พอใจอะไรหรือเปล่าครับ เขาเลียบเคียงถามอย่างระมัดระวังเพราะกลัวคำพูดจะไปสะกิดต่อมอารมณ์ร้ายของนางแบบสาวจนเกิดเรื่องใหญ่ มุกมณีสะบัดหน้าไปทางจิรายุสพร้อมกับตอบ ก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไรหรอกค่ะ แค่โมโหอะไรนิดหน่อย พอจะบอกได้ไหมครับ ว่าเรื่องอะไร นายประพจน์ถามด้วยท่าทางที่คิดว่าสุภาพที่สุด นางแบบสาวจ้องหน้าจิรายุ สเขม็งก่อนตอบ ฉันแค่อยากเห็นอะไรนิดหน่อยเท่านั้น แต่ลูกน้องของคุณอ้างโน่นอ้างนี่ไม่ยอมให้ดู คุณมุกมณีอยากดูอะไรหรือครับ ผมจะหามาเปิดให้ นายประพจน์รีบเอาใจ มุกมณียิ้มในหน้าแต่ก็ยังแกล้งทำเป็นปฏิเสธ มันจะดีหรือคะ พวกคุณงานยุ่ง ฉันกลัวว่ามันจะเป็นการรบกวน น้ำเสียงกระแทกกระทั้นในขณะที่คนพูดยืนกอดอกและเชิดหน้าขึ้น จิรายุสขยับเพื่อจะแย้งแต่นายประพจน์กลับยกมือห้ามพร้อมกับพูด ไม่เป็นการรบกวนหรอกครับ คุณมุกมณีอยากดูอะไร ผมจะให้จิรายุสจัดการเปิดเดี๋ยวนี้เลย ได้แน่เหรอคะ นางแบบสาวถามย้ำ นายประพจน์รีบพยักหน้าครับ ครับ ได้แน่นอน มุกอยากดูอัญมณีแห่งหิมพานต์ค่ะ เธอพูดเน้นเสียงทีละคำโดยไม่มองนายประพจน์ซึ่งยืนอ้าปากค้างหน้าซีด เอ่อ สำหรับเรื่องนี้ผมคง... คุณบอกว่าได้ มุกมณีตัดบท นายประพจน์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะถอนใจและผงกศีรษะ งั้นก็ได้ครับ เขาหันไปทางจิรายุสที่กำลังยืนขมวดคิ้ว ช่วยจัดการตามที่คุณมุกมณีต้องการด้วย แต่ว่า ชายหนุ่มแย้งแต่ต้องเงียบเมื่อเห็นสายตาเชิงสั่งจากนายประพจน์ รอสักครู่นะครับ เขาพูดกับมุกมณีก่อนเดินออกจากห้อง อึดใจก็กลับเข้ามาพร้อมกล่องดีวีดี ซึ่งพอเปิดให้นางแบบสาวชมแล้วเขาก็ขอตัวไปเตรียมงานที่สตูดิโอ อันที่จริงมุกมณีไม่ได้สนใจเรื่องภาพยนต์ที่เธอเป็นนางแบบเท่าใดนัก เพราะเห็นมาหลายครั้งจนชินตา แต่พอได้ดูโฆษณาชุด อัญมณีแห่งหิมพานต์แล้วกลับให้ความรู้สึกแตกต่าง เพราะเพียงภาพแรกก็สามารถสะกดสายตาของเธอจนไม่อาจละไปมองสิ่งอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นแสง สี หรือบรรยากาศทั้งหมด ล้วนงดงามอย่างน่าหลงใหล โดยเฉพาะเหล่าสัตว์หิมพานต์ซึ่งมีรูปลักษณ์และเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนของจริง ช่างมีมนต์เสน่ห์อันลึกลับอย่างน่ามหัศจรรย์ สิ่งที่สร้างความทึ่งให้กับมุกมณีมากที่สุดคือรัศมีที่เปล่งออกมาจากตัวของเธอ มันดูเรืองรอง งดงาม จนแทบจะกลบประกายระยิบระยับของสร้อยเพชรบนลำคอ หญิงสาวเคยถ่ายทำโฆษณาเชิงแฟนตาซีแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีใครทำได้วิเศษอย่างโฆษณาชิ้นนี้เลย สวยมาก คำแรกหลุดจากปากเมื่อโฆษณาจบลง นายประพจน์ซึ่งกำลังยืนลุ้นถึงกับถอนใจออกมาอย่างโล่งอก ขอบคุณครับ ดีใจที่คุณมุกมณีชอบ เขารีบพูดแต่ดูเหมือนนางแบบสาวจะไม่สนใจเลยสักนิดเพราะเธอหันมาถาม ใครเป็นคนทำ จิรายุสครับ จิรายุส มุกมณีทวนคำและขมวดคิ้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าได้ยินนายประพจน์เรียกหนุ่มแว่นจอมกวนเมื่อครู่ด้วยชื่อนี้ เขาเป็นช่างกล้องไม่ใช่เหรอ อันที่จริงเขาเป็นคนตัดแต่งภาพกราฟฟิคอนิเมชั่นครับ แต่ตอนนี้คนของเราขาดเลยให้เขามาทำหน้าที่นี้ชั่วคราว
|
กิสึเนะ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี Group Blog
All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |