Bloggang.com : weblog for you and your gang
ห้องแฟนตาซีของmoony
เทวทูตที่รัก บทที่ 10 จุมพิตเทวทูต 2
รถยนต์คันงามวิ่งเข้าไปจอดในลานใกล้ตึกเรียน น้ำทิพย์ร้องเพลงอย่างมีความสุขขณะหยิบตำราและกระเป๋าใส่โน้ตบุค ระหว่างทางเธอพบกับอรอนงค์ นักศึกษารุ่นน้องร่วมชมรมเทควันโด หญิงสาวจึงเอ่ยปากทัก
ไงจ๊ะเนย วันนี้มีซ้อมหรือเปล่าคะ
น้ำทิพย์ชะงักคำพูดค้างเมื่ออีกฝ่ายหันมามองตาขวาง
มี อรอนงค์ตอบสั้นๆและทำท่าจะเดินจากไป น้ำทิพย์รีบฉวยแขนเธอไว้พร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง
เป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่าคะ
อรอนงค์มองหน้ารุ่นพี่พร้อมกับดึงแขนกลับ
เนยไม่ได้เป็นอะไร ได้เวลาเรียนแล้วต้องขอตัวก่อน
รุ่นน้องตอบด้วยท่าทางเฉยเมยผิดไปจากทุกครั้งจากนั้นจึงเดินจากไป น้ำทิพย์มองตามด้วยความสงสัยแต่ไม่ได้ติดใจอะไรมากนักเพราะคิดว่าวันนี้รุ่นน้องตัวแสบคงจะกังวลเรื่องการแข่งขันถึงได้แสดงอารมณ์หงุดหงิดใส่เธอ แต่พอเดินต่อไปได้อีกหน่อยหญิงสาวก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปรกติ นักศึกษาเกือบทุกคนที่เคยพูดจาเล่นหัวกันอย่างร่าเริงวันนี้กลับดูเฉยเมยไม่สนใจต่อสิ่งใด บางคนเดินแข็งทื่อเหมือนไม่มีชีวิตดวงตากระด้างมองตรงไปข้างหน้า พอเจอคนรู้จักและเอ่ยปากทักทายก็ได้รับคำตอบแบบเดียวกับอรอนงค์ จะว่าทุกคนเครียดเพราะการสอบที่ใกล้เข้ามาก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาต่อให้อยู่ในช่วงสอบนักศึกษาส่วนใหญ่ก็ยังสดชื่นแจ่มใสไร้ความกังวล
แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆทุกคนจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
น้ำทิพย์ตั้งคำถามกับตัวเองด้วยความสงสัยขณะเดินเข้าห้อง ตอนแรกเธอกังวลว่าเพื่อนร่วมชั้นจะเป็นแบบเดียวกับนักศึกษาที่เจอด้านล่างแต่กลับผิดคาดเพราะเพียงก้าวแรกที่เดินเข้าประตูเสียงจันทรนิภาก็ร้องเรียกอย่างร่าเริง
ทางนี้ทิพย์
ไม่เรียกเปล่ามือยังโบกไหวๆเหมือนกลัวอีกฝ่ายมองไม่เห็น น้ำทิพย์จึงเดินตรงไปนั่งและชมวดคิ้วเมื่อเห็นจิรายุสนั่งก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบนคอมพิวเตอร์อย่างตั้งอกตั้งใจ
ทำอะไรน่ะเต่า
ชายหนุ่มรีบเอามือบังหน้าจอพร้อมกับพูดพึมพำพอให้ได้ยิน
ความลับ ถ้าอยากรู้ก็ต้องเอาชีวิตมาแลก
งั้นฉันเอาชีวิตนายก่อนเลยก็แล้วกัน จันททรนิภาพูดด้วยความหมั่นไส้พลางเงื้อปากกาขึ้น จิรายุสตาเหลือกร้องลั่น
กลัวแล้วครับ อย่าทำอะไรผมเลย เขาทำตาละห้อยดูน่าสงสาร เพื่อนสาวแยกเขี้ยวและวางปากกาในมือลงก่อนจะหันไปให้คำตอบกับน้ำทิพย์
เขากำลังออกแบบเทพบุตรกาเบรียลกับมิคาเอล
โธ่นึกว่าเรื่องสำคัญอะไร ถ้าเป็นเทวทูตสององค์นี่ฉันก็ออกแบบมาแล้วเหมือนกัน น้ำทิพย์พูดพลางส่งสมุดร่างภาพให้เพื่อน ทั้งสองเปิดดูแล้วขมวดคิ้วเมื่อเห็นลายเส้นมีเพียงแค่โครงร่างหยาบๆกับเส้นโค้งด้านหลังที่พอจะดูออกว่าเป็นปีก ส่วนอื่นนอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเลย
ทำไมถึงมีแค่นี้ละทิพย์ จันทรนิภาถามด้วยความผิดหวังเพราะเธอคาดว่าจะได้เห็นเทวดาหน้าตาหล่อล่ำตามแบบภาพของราฟาเอลและลูซิเฟอร์ที่เพื่อนสาววาดออกมาเป็นชุดแรก น้ำทิพย์ย่นจมูกน้อยๆ
ฉันยังนึกไม่ออกว่าพวกเขาควรมีหน้าตาแบบไหน ใส่ชุดเกราะและถืออาวุธอะไร
ไม่เห็นจะยากเลย มิคาเอลเป็นจอมทัพนักรบ หน้าตาก็ต้องดุเหมือนคนเถื่อนแดนทมิฬ ชุดเกราะก็ให้ดูหนาๆหนักๆส่วนอาวุธต้องเป็นดาบอยู่แล้ว
จิรายุสแนะนำอย่างคล่องแคล่วแต่น้ำทิพย์กลับส่ายหน้า
ถึงจะเป็นนักรบแต่มิคาเอลเป็นถึงอัครเทวทูต จะให้เขามีหน้าตาอย่างที่นายบอกได้ยังไง
แล้วกาเบรียลล่ะ ถึงจะพอเดาคำตอบจากสุภาพบุรุษผู้มีจินตนาการแหวกแนวสุดกู่อย่างจิรายุสออกแต่จันทรนิภาก็อดถามไม่ได้ ชายหนุ่มยิ้มกว้าง
เท่าที่ศึกษามา กาเบรียลเป็นสัญลักษณ์ของผู้ส่งข่าว ดังนั้นเขาจะต้องเป็นเทวดาผอมสูงนุ่งผ้าโปร่งๆปลิวไปตามลม มือถือไม้ตะพดแทนดาบ
ทำไมต้องไม้ตะพด จันทรนิภาถามด้วยความสงสัย จิรายุสขยับถอยออกมาจนแน่ใจว่าปลอดภัยจากปากกามหาภัยแล้วจึงตอบ
เหมือนบุรุษไปรษณีย์ที่ต้องมีเครื่องป้องกันสุนัขเวลาไปส่งจดหมายไงครับ
ปากกาในมือพุ่งเข้าใปในปากของจิรายุสอย่างแม่นยำ เขารีบดึงมันออกพร้อมกับเบ้หน้า
โหด
เขาเรียกว่าแม่นต่างหาก จันทรนิภาเงื้อไม้บรรทัดขึ้น ถ้าไม่เชื่อจะขว้างให้ดูอีกที
ไม่ต้องหรอกครับ ผมเชื่อแล้วว่าหญิงกุ้งปาแม่น จิรายุสยกมือขึ้นโบกในท่ายอมแพ้ข้อศอกจึงพลาดไปโดนศีรษะเพื่อนที่นั่งข้างๆโดยบังเอิญ เขาหันไปกล่าวคำขอโทษทันทีแต่ต้องหยุดคำพูดค้างไว้แค่นั้นเมื่ออีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมขยับ ดวงตาจ้องกระดานหน้าชั้นเขม็งเหมือนกลัวว่ามันจะถูกขโมยหรือหายไป ไม่ใช่แค่คนนี้เท่านั้นเพื่อนในชั้นเรียนเกือบครึ่งก็ตกอยู่ในอาการแบบเดียวกัน จันทรนิภามองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ
ฉันว่าวันนี้เพื่อนเราดูแปลกไป
น้ำทิพย์มองเพื่อนนักศึกษาไล่ไปทีละคน เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นอะไรบางอย่างคล้ายไอหมอกสีดำลอยวนรอบตัวพวกเขา ด้วยความสงสัยหญิงสาวจึงกระซิบถามเพื่อน
หรือจะเป็นเพราะควันพวกนั้น
ควันอะไร จันทรนิภาถาม น้ำทิพย์มองหน้า
ควันสีดำพวกนั้นไง หญิงสาวอธิบายและขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้างงงันของจันทรนิภา เธอไม่เห็นงั้นเหรอ
เมื่อเห็นเพื่อนส่ายหน้าน้ำทิพย์จึงรู้ว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่เห็นสิ่งผิดปรกติเหล่านี้ เพื่อตัดคำถามที่จะมีตามมาหญิงสาวจึงแสร้งเปรยว่าสงสัยจะตาฝาดจากนั้นจึงทำทีเป็นหยิบตำราการเรียนขึ้นมากาง ถึงจะทำเป็นไม่สนใจแต่น้ำทิพย์ยังคงชำเลืองตามองเพื่อที่มีอาการผิดปรกติทุกคนและเม้มปากน้อยๆเมื่อยังคงเห็นไอสีดำหมุนวนอย่างเชื่องช้าอยู่รอบๆตัวของพวกเขา ดูเหมือนบางคนจะรู้สึกว่าถูกจับจ้อง เพราะมีนักศึกษาคนหนึ่งหมุนศีรษะหันมามอง น้ำทิพย์จึงรีบเบนสายตากลับมาที่หนังสือทันที สมองใคร่ครวญหาเหตุผลว่าทำไมจึงมีแต่เธอเท่านั้นที่เห็นหมอกสีดำพวกนี้ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเห็นหรือสัมผัสสิ่งลี้ลับจำพวกภูตผีหรือวิญญาณอะไรเลยสักครั้ง หลังจากพยายามคิดทบทวนหาเหตุผลอยู่ชั่วอึดใจหญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าอาจจะเป็นผลลัพธ์จากพลังที่ได้รับจากราฟาเอล
ถ้าเธอเห็นสิ่งเหล่านี้ได้เพราะพลังของเทวดา หมอกสีดำก็น่าจะมาจากอำนาจของลูซิเฟอร์
ชื่อของจอมปิศาจทำให้น้ำทิพย์ขนลุกซู่ไปทั้งตัว เธอรีบสะบัดหน้าเพื่อไล่ใบหน้าหล่อเหลาแต่เต็มไปด้วยความอำมหิตออกไปออกไปจากความคิดแต่การกระทำเช่นนั้นกลับเหมือนเป็นการตอกย้ำเพราะยิ่งพยายามลืมมากเท่าไหร่ภาพของลูซิเฟอร์ก็ยิ่งแจ่มชัดในความทรงจำ น้ำทิพย์รู้สึกเหมือนกลับเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดน่าขนลุกนั่นอีกครั้ง ร่างกายเกิดอาการสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ หัวใจที่เคยเต้นถี่ระรัวกลับชะลอจังหวะช้าลงจนเหมือนกับกบที่กำลังกระโดดอยู่ในหม้อยางมะตอย ลมหายใจติดขัดจนเธอต้องอ้าปากหอบหายใจและคงหมดสติไปกับความหวาดกลัวหากจิรายุสไม่เรียก
ทิพย์
เหมือนคนจมน้ำที่สามารถโผตัวขึ้นสูดลมหายใจ น้ำทิพย์หลุดจากความทรมานทั้งหมดในทันที เธอมองไปรอบห้องเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเช่นนี้แต่นอกจากอาจารย์ที่กำลังเดินเข้ามายืนหน้าชั้นกับเพื่อนๆแล้วหญิงสาวไม่พบบุคคลที่ว่านั้นเลย
เธอหน้าซีดมากเลยนะทิพย์ เป็นอะไรหรือเปล่า จันทรนิภาถามด้วยความเป็นห่วง น้ำทิพย์กวาดตามองรอบห้องอีกครั้งและระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะหันไปตอบ
ฉันไม่เป็นไร
แน่ใจนะ จิรายุสซึ่งปรกติมักจะใช้คำพูดเชิงเย้าแหย่กับเพื่อนๆอยู่เสมอถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง น้ำทิพย์ส่งยิ้มให้เขา
แน่ใจสิ
จิรายุสขยับปากเตรียมจะซักไซ้อีกครั้งแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกขัดด้วยคำพูดจากอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าชั้น
คุยอะไรกันอยู่
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยใช้กับนักศึกษาคนใดมาก่อน ความที่กลัวจะถูกตำหนิว่าไม่ตั้งใจเรียนจิรายุสจึงรีบแก้ตัว
ผมไม่เข้าใจที่อาจารย์สอนไปเมื่อกี้เลยถามเพื่อนครับ
ผมเพิ่งเข้ามาในห้องยังไม่ได้สอนอะไรเลยสักคำ อาจารย์ตอบเสียงต่ำ ตาจ้องจิรายุสเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ อีกอย่างถ้าไม่เข้าใจก็ควรจะถามผมซึ่งเป็นอาจารย์ แต่ถ้าคิดว่าเพื่อนของคุณเก่งจนถึงขนาดสอนแทนกันได้ก็เชิญออกจากห้องแล้วนั่งเรียนกันเอาเอง
มือชี้ไปที่ประตูเชิงขับไล่ จิรายุสจึงกล่าวคำขอโทษและก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิดต่างจากน้ำทิพย์ซึ่งมองอาจารย์หน้าห้องอย่างนึกสงสัย เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาอาจารย์ท่านนี้เป็นคนใจดี มีวิธีการสอนเชิงประยุกต์คือสอดใส่วิชาการลงไปในความขี้เล่น ความสนุกสนานระหว่างการเรียนทำให้นักศึกษาทุกคนให้ความเคารพและรักเขาเป็นอย่างมาก คำพูดและท่าทางที่ผิดไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้นับเป็นเรื่องผิดปรกติ หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงมองว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากความหงุดหงิด แต่หลังจากพบกับเหตุการณ์ระทึกขวัญหลายครั้ง การที่อาจารย์กลายเป็นคนดุร้ายน่ากลัวเช่นนี้มีเพียงเหตุผลเดียว
พลังมืด
Create Date : 09 พฤษภาคม 2556
Last Update : 9 พฤษภาคม 2556 15:45:24 น.
Counter : 322 Pageviews.
0 comments
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
กิสึเนะ
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [
?
]
moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี
Group Blog
เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า
my Art
นักล่าแห่งรัตติกาล The Dark Hunter
เซ็นซู พัดคู่ปราบมาร
นักล่าแห่งรัตติกาล ภาค 2 โรงงานมรณะ
นิยายที่ได้รับการตีพิมพ์ และเรื่องย่อ
ห้องทักทาย
comic นักล่าแห่งรัตติกาล ตอนพิเศษ
ยมทูต
นักล่าแห่งรัตติกาล 3 ภาค การทดลองแห่งความตาย
ศึกแม่มดมหัศจรรย์
มันตราพันธนาการ
ศาสตราแห่งเดราเนียร์
ผลึกวิญญาณมังกร
เซ็นซู ภาค จอมอสูรจากหิมาลัย
ศาสตราแห่งเดราเนียร์ตอนพิเศษ อดีตของฟอร์เซ็ตติ
หัวใจรักสัตว์อสูร
ภูตคราม
เทวทูตที่รัก
นักล่าแห่งรัตติกาล ภาค สัญลักษณ์เลือด
องครักษ์พิทักษ์อสูร (Yaoi)
รักละไม ไอทะเล
All Blog
เทวทูตที่รัก บทที่ 13 ปีกแห่งแสง (2)
เทวทูตที่รัก บทที่ 13 ปีกแห่งแสง
เทวทูตที่รัก บทที่ 12 สำนึกของหัวใจ
เทวทูตที่รัก บทที่ 11 หมอกมรณะ 3
เทวทูตที่รัก บทที่ 11 หมอกมรณะ 2
เทวทูตที่รัก บทที่ 11 หมอกมรณะ 1
เทวทูตที่รัก บทที่ 10 จุมพิตเทวทูต 5
เทวทูตที่รัก บทที่ 10 จุมพิตเทวทูต 4
เทวทูตที่รัก บทที่ 10 จุมพิตเทวทูต 3
เทวทูตที่รัก บทที่ 10 จุมพิตเทวทูต 2
เทวทูตที่รัก บทที่ 10 จุมพิตเทวทูต 1
เทวทูตที่รัก บทที่ 9 สัมผัสทิพย์ 2
เทวทูตที่รัก บทที่ 9 สัมผัสทิพย์
เทวทูตที่รัก บทที่ 8 ช่ออสรพิษ 3
เทวทูตที่รัก บทที่ 8 ช่ออสรพิษ 2
เทวทูตที่รัก บทที่ 8 ช่ออสรพิษ 1
เทวทูตที่รัก บทที่ 7 แผนของจอมปิศาจกับความร้ายกาจของมนุษย์(2)
เทวทูตที่รัก บทที่ 7 แผนของจอมปิศาจกับความร้ายกาจของมนุษย์(1)
เทวทูตที่รัก บทที่ 6 ลูซิเฟอร์ (2)
เทวทูตที่รัก บทที่ 6 ลูซิเฟอร์ (1)
เทวทูตที่รัก บทที่ 5 สัญญาณปิศาจ
เทวทูตที่รัก บทที่ 4 ความเปลี่ยนแปลง(2)
เทวทูตที่รัก บทที่ 4 ความเปลี่ยนแปลง
เทวทูตที่รัก บทที่ 3 ราฟาเอล
เทวทูตที่รัก บทที่ 2 ขนนกที่ร่วงลงจากสวรรค์
เทวทูตที่รัก บทที่ 1 วันฟ้าหม่น
Friends Blog
g_maru
ramay
อิมาอิซัง
ดาวริมทะเล
Webmaster - BlogGang
[Add กิสึเนะ's blog to your weblog]
Link
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ไงจ๊ะเนย วันนี้มีซ้อมหรือเปล่าคะ
น้ำทิพย์ชะงักคำพูดค้างเมื่ออีกฝ่ายหันมามองตาขวาง
มี อรอนงค์ตอบสั้นๆและทำท่าจะเดินจากไป น้ำทิพย์รีบฉวยแขนเธอไว้พร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง
เป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่าคะ
อรอนงค์มองหน้ารุ่นพี่พร้อมกับดึงแขนกลับ
เนยไม่ได้เป็นอะไร ได้เวลาเรียนแล้วต้องขอตัวก่อน
รุ่นน้องตอบด้วยท่าทางเฉยเมยผิดไปจากทุกครั้งจากนั้นจึงเดินจากไป น้ำทิพย์มองตามด้วยความสงสัยแต่ไม่ได้ติดใจอะไรมากนักเพราะคิดว่าวันนี้รุ่นน้องตัวแสบคงจะกังวลเรื่องการแข่งขันถึงได้แสดงอารมณ์หงุดหงิดใส่เธอ แต่พอเดินต่อไปได้อีกหน่อยหญิงสาวก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปรกติ นักศึกษาเกือบทุกคนที่เคยพูดจาเล่นหัวกันอย่างร่าเริงวันนี้กลับดูเฉยเมยไม่สนใจต่อสิ่งใด บางคนเดินแข็งทื่อเหมือนไม่มีชีวิตดวงตากระด้างมองตรงไปข้างหน้า พอเจอคนรู้จักและเอ่ยปากทักทายก็ได้รับคำตอบแบบเดียวกับอรอนงค์ จะว่าทุกคนเครียดเพราะการสอบที่ใกล้เข้ามาก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาต่อให้อยู่ในช่วงสอบนักศึกษาส่วนใหญ่ก็ยังสดชื่นแจ่มใสไร้ความกังวล
แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆทุกคนจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
น้ำทิพย์ตั้งคำถามกับตัวเองด้วยความสงสัยขณะเดินเข้าห้อง ตอนแรกเธอกังวลว่าเพื่อนร่วมชั้นจะเป็นแบบเดียวกับนักศึกษาที่เจอด้านล่างแต่กลับผิดคาดเพราะเพียงก้าวแรกที่เดินเข้าประตูเสียงจันทรนิภาก็ร้องเรียกอย่างร่าเริง
ทางนี้ทิพย์
ไม่เรียกเปล่ามือยังโบกไหวๆเหมือนกลัวอีกฝ่ายมองไม่เห็น น้ำทิพย์จึงเดินตรงไปนั่งและชมวดคิ้วเมื่อเห็นจิรายุสนั่งก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบนคอมพิวเตอร์อย่างตั้งอกตั้งใจ
ทำอะไรน่ะเต่า
ชายหนุ่มรีบเอามือบังหน้าจอพร้อมกับพูดพึมพำพอให้ได้ยิน
ความลับ ถ้าอยากรู้ก็ต้องเอาชีวิตมาแลก
งั้นฉันเอาชีวิตนายก่อนเลยก็แล้วกัน จันททรนิภาพูดด้วยความหมั่นไส้พลางเงื้อปากกาขึ้น จิรายุสตาเหลือกร้องลั่น
กลัวแล้วครับ อย่าทำอะไรผมเลย เขาทำตาละห้อยดูน่าสงสาร เพื่อนสาวแยกเขี้ยวและวางปากกาในมือลงก่อนจะหันไปให้คำตอบกับน้ำทิพย์
เขากำลังออกแบบเทพบุตรกาเบรียลกับมิคาเอล
โธ่นึกว่าเรื่องสำคัญอะไร ถ้าเป็นเทวทูตสององค์นี่ฉันก็ออกแบบมาแล้วเหมือนกัน น้ำทิพย์พูดพลางส่งสมุดร่างภาพให้เพื่อน ทั้งสองเปิดดูแล้วขมวดคิ้วเมื่อเห็นลายเส้นมีเพียงแค่โครงร่างหยาบๆกับเส้นโค้งด้านหลังที่พอจะดูออกว่าเป็นปีก ส่วนอื่นนอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเลย
ทำไมถึงมีแค่นี้ละทิพย์ จันทรนิภาถามด้วยความผิดหวังเพราะเธอคาดว่าจะได้เห็นเทวดาหน้าตาหล่อล่ำตามแบบภาพของราฟาเอลและลูซิเฟอร์ที่เพื่อนสาววาดออกมาเป็นชุดแรก น้ำทิพย์ย่นจมูกน้อยๆ
ฉันยังนึกไม่ออกว่าพวกเขาควรมีหน้าตาแบบไหน ใส่ชุดเกราะและถืออาวุธอะไร
ไม่เห็นจะยากเลย มิคาเอลเป็นจอมทัพนักรบ หน้าตาก็ต้องดุเหมือนคนเถื่อนแดนทมิฬ ชุดเกราะก็ให้ดูหนาๆหนักๆส่วนอาวุธต้องเป็นดาบอยู่แล้ว
จิรายุสแนะนำอย่างคล่องแคล่วแต่น้ำทิพย์กลับส่ายหน้า
ถึงจะเป็นนักรบแต่มิคาเอลเป็นถึงอัครเทวทูต จะให้เขามีหน้าตาอย่างที่นายบอกได้ยังไง
แล้วกาเบรียลล่ะ ถึงจะพอเดาคำตอบจากสุภาพบุรุษผู้มีจินตนาการแหวกแนวสุดกู่อย่างจิรายุสออกแต่จันทรนิภาก็อดถามไม่ได้ ชายหนุ่มยิ้มกว้าง
เท่าที่ศึกษามา กาเบรียลเป็นสัญลักษณ์ของผู้ส่งข่าว ดังนั้นเขาจะต้องเป็นเทวดาผอมสูงนุ่งผ้าโปร่งๆปลิวไปตามลม มือถือไม้ตะพดแทนดาบ
ทำไมต้องไม้ตะพด จันทรนิภาถามด้วยความสงสัย จิรายุสขยับถอยออกมาจนแน่ใจว่าปลอดภัยจากปากกามหาภัยแล้วจึงตอบ
เหมือนบุรุษไปรษณีย์ที่ต้องมีเครื่องป้องกันสุนัขเวลาไปส่งจดหมายไงครับ
ปากกาในมือพุ่งเข้าใปในปากของจิรายุสอย่างแม่นยำ เขารีบดึงมันออกพร้อมกับเบ้หน้า
โหด
เขาเรียกว่าแม่นต่างหาก จันทรนิภาเงื้อไม้บรรทัดขึ้น ถ้าไม่เชื่อจะขว้างให้ดูอีกที
ไม่ต้องหรอกครับ ผมเชื่อแล้วว่าหญิงกุ้งปาแม่น จิรายุสยกมือขึ้นโบกในท่ายอมแพ้ข้อศอกจึงพลาดไปโดนศีรษะเพื่อนที่นั่งข้างๆโดยบังเอิญ เขาหันไปกล่าวคำขอโทษทันทีแต่ต้องหยุดคำพูดค้างไว้แค่นั้นเมื่ออีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมขยับ ดวงตาจ้องกระดานหน้าชั้นเขม็งเหมือนกลัวว่ามันจะถูกขโมยหรือหายไป ไม่ใช่แค่คนนี้เท่านั้นเพื่อนในชั้นเรียนเกือบครึ่งก็ตกอยู่ในอาการแบบเดียวกัน จันทรนิภามองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ
ฉันว่าวันนี้เพื่อนเราดูแปลกไป
น้ำทิพย์มองเพื่อนนักศึกษาไล่ไปทีละคน เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นอะไรบางอย่างคล้ายไอหมอกสีดำลอยวนรอบตัวพวกเขา ด้วยความสงสัยหญิงสาวจึงกระซิบถามเพื่อน
หรือจะเป็นเพราะควันพวกนั้น
ควันอะไร จันทรนิภาถาม น้ำทิพย์มองหน้า
ควันสีดำพวกนั้นไง หญิงสาวอธิบายและขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้างงงันของจันทรนิภา เธอไม่เห็นงั้นเหรอ
เมื่อเห็นเพื่อนส่ายหน้าน้ำทิพย์จึงรู้ว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่เห็นสิ่งผิดปรกติเหล่านี้ เพื่อตัดคำถามที่จะมีตามมาหญิงสาวจึงแสร้งเปรยว่าสงสัยจะตาฝาดจากนั้นจึงทำทีเป็นหยิบตำราการเรียนขึ้นมากาง ถึงจะทำเป็นไม่สนใจแต่น้ำทิพย์ยังคงชำเลืองตามองเพื่อที่มีอาการผิดปรกติทุกคนและเม้มปากน้อยๆเมื่อยังคงเห็นไอสีดำหมุนวนอย่างเชื่องช้าอยู่รอบๆตัวของพวกเขา ดูเหมือนบางคนจะรู้สึกว่าถูกจับจ้อง เพราะมีนักศึกษาคนหนึ่งหมุนศีรษะหันมามอง น้ำทิพย์จึงรีบเบนสายตากลับมาที่หนังสือทันที สมองใคร่ครวญหาเหตุผลว่าทำไมจึงมีแต่เธอเท่านั้นที่เห็นหมอกสีดำพวกนี้ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเห็นหรือสัมผัสสิ่งลี้ลับจำพวกภูตผีหรือวิญญาณอะไรเลยสักครั้ง หลังจากพยายามคิดทบทวนหาเหตุผลอยู่ชั่วอึดใจหญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าอาจจะเป็นผลลัพธ์จากพลังที่ได้รับจากราฟาเอล
ถ้าเธอเห็นสิ่งเหล่านี้ได้เพราะพลังของเทวดา หมอกสีดำก็น่าจะมาจากอำนาจของลูซิเฟอร์
ชื่อของจอมปิศาจทำให้น้ำทิพย์ขนลุกซู่ไปทั้งตัว เธอรีบสะบัดหน้าเพื่อไล่ใบหน้าหล่อเหลาแต่เต็มไปด้วยความอำมหิตออกไปออกไปจากความคิดแต่การกระทำเช่นนั้นกลับเหมือนเป็นการตอกย้ำเพราะยิ่งพยายามลืมมากเท่าไหร่ภาพของลูซิเฟอร์ก็ยิ่งแจ่มชัดในความทรงจำ น้ำทิพย์รู้สึกเหมือนกลับเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดน่าขนลุกนั่นอีกครั้ง ร่างกายเกิดอาการสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ หัวใจที่เคยเต้นถี่ระรัวกลับชะลอจังหวะช้าลงจนเหมือนกับกบที่กำลังกระโดดอยู่ในหม้อยางมะตอย ลมหายใจติดขัดจนเธอต้องอ้าปากหอบหายใจและคงหมดสติไปกับความหวาดกลัวหากจิรายุสไม่เรียก
ทิพย์
เหมือนคนจมน้ำที่สามารถโผตัวขึ้นสูดลมหายใจ น้ำทิพย์หลุดจากความทรมานทั้งหมดในทันที เธอมองไปรอบห้องเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเช่นนี้แต่นอกจากอาจารย์ที่กำลังเดินเข้ามายืนหน้าชั้นกับเพื่อนๆแล้วหญิงสาวไม่พบบุคคลที่ว่านั้นเลย
เธอหน้าซีดมากเลยนะทิพย์ เป็นอะไรหรือเปล่า จันทรนิภาถามด้วยความเป็นห่วง น้ำทิพย์กวาดตามองรอบห้องอีกครั้งและระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะหันไปตอบ
ฉันไม่เป็นไร
แน่ใจนะ จิรายุสซึ่งปรกติมักจะใช้คำพูดเชิงเย้าแหย่กับเพื่อนๆอยู่เสมอถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง น้ำทิพย์ส่งยิ้มให้เขา
แน่ใจสิ
จิรายุสขยับปากเตรียมจะซักไซ้อีกครั้งแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกขัดด้วยคำพูดจากอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าชั้น
คุยอะไรกันอยู่
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยใช้กับนักศึกษาคนใดมาก่อน ความที่กลัวจะถูกตำหนิว่าไม่ตั้งใจเรียนจิรายุสจึงรีบแก้ตัว
ผมไม่เข้าใจที่อาจารย์สอนไปเมื่อกี้เลยถามเพื่อนครับ
ผมเพิ่งเข้ามาในห้องยังไม่ได้สอนอะไรเลยสักคำ อาจารย์ตอบเสียงต่ำ ตาจ้องจิรายุสเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ อีกอย่างถ้าไม่เข้าใจก็ควรจะถามผมซึ่งเป็นอาจารย์ แต่ถ้าคิดว่าเพื่อนของคุณเก่งจนถึงขนาดสอนแทนกันได้ก็เชิญออกจากห้องแล้วนั่งเรียนกันเอาเอง
มือชี้ไปที่ประตูเชิงขับไล่ จิรายุสจึงกล่าวคำขอโทษและก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิดต่างจากน้ำทิพย์ซึ่งมองอาจารย์หน้าห้องอย่างนึกสงสัย เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาอาจารย์ท่านนี้เป็นคนใจดี มีวิธีการสอนเชิงประยุกต์คือสอดใส่วิชาการลงไปในความขี้เล่น ความสนุกสนานระหว่างการเรียนทำให้นักศึกษาทุกคนให้ความเคารพและรักเขาเป็นอย่างมาก คำพูดและท่าทางที่ผิดไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้นับเป็นเรื่องผิดปรกติ หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงมองว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากความหงุดหงิด แต่หลังจากพบกับเหตุการณ์ระทึกขวัญหลายครั้ง การที่อาจารย์กลายเป็นคนดุร้ายน่ากลัวเช่นนี้มีเพียงเหตุผลเดียว
พลังมืด