In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
ผลการเทรดเดโม

เริ่มเทรดมาสองอามิตย์ได้มั้งครับ ลองวิชาไปในตัว
อันนี้เป็นแค่กมส์นะครับ ไม่ได้เทรดจริง

เดี๋ยวว่างๆจะลองเขียนว่าทำไมถึงเข้าด้วย แต่ตอนนี้
แว้บบบบบบบบบบบบบบบ


Create Date : 13 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2549 22:50:53 น. 4 comments
Counter : 1120 Pageviews.

 
KWH มองตัวเดียวกันกับผมเลย แต่ทุน(เพื่อน)ผม 1.83 หากไปดู Technical ตำแหน่ง 1.83 ถือว่าเป็นจุดซื้อที่ตรงเวลาเป๊ะเลย เพราะซื้อตรงนี้มันขึ้นเดี๋ยวนั้นเลย ผมให้เพื่อนซื้อแต่ตัวเองดันไม่ได้ซื้อ เหตุเพราะ 1.83 มันซื้อถือได้แต่ผมรอ OBV 5 นาที แบบว่าชอบซื้อปุ๊บแล้วขึ้นปั๊บ มันตื่นเต้นดี วันนั้นมันยังไม่เข้ามา แต่มันมาตอนก่อนปิดตลาด ไม่ได้ตามดู พอมาดูอีกทีมันก็วิ่งม้วนเดียวยาวขึ้นมาเลย ก็เป็นหุ้นที่ Technical ระดับรายนาทีจับติดไม่มีพลาดอีกตัวนึง


โดย: Rockriverarms IP: 61.7.139.165 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:11:29 น.  

 
อยากดูได้แบบพี่จังครับ ทุกวันนี้ดูแต่EOD แล้วก็เป็นอย่างที่พี่ว่าจริงๆ คือต้องตั้งstopไว้ไกลๆ เสียดายครับ
ว่าแต่ว่าสงสัยมานานแล้วครับที่พี่บอกว่าOBVจะใช้ได้ผลต่อเมื่อเป็นระยะสั้นๆคือ5และ30นาที
ผมเลยงงว่าแล้วระยะเดย์เท่าที่พี่มีประสบการณ์มันใช้ไม่ค่อยได้ผลเลยหรือครับ
เพราะผมคิดว่าคนคิดก็น่าจะมีพื้นฐานมาจากกราฟรายวันเช่นเดียวกัน
แล้วการดูOBVนี่ใช้กับเมืองนอกมีประโยชน์ไหมครับ เพราะถ้าเรามีสมมติฐานที่ว่าราคาจะไปเมื่อแรงซื้อมา
บวกกับเราคิดว่าที่ต่างประเทศคงไม่มีเจ้ามือปั่น ดังนั้นการที่หุ้นขึ้นOBVมันก็ต้องขึ้นด้วยเสมออยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ
ตอนนี้ผมเองใช้indicatorเหมือนพี่หมดเลย ขาดก้แต่OBVนี่แหละครับ
เพราะว่าพอผมเอาOBVมาใส่กราฟทีไร ไม่เห็นเหมือนในเวบพี่สักทีเลยครับ
ขอบคุณครับ


โดย: อ๋อง (ขอบฟ้าบูรพา ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:59:51 น.  

 
ผมไม่รู้ว่าน้องชายใช้ข้อมูลกราฟจากที่ไหนนะ หากเป็นข้อมูลรายนาทีอย่างของ Efinance ระดับ 5-30 นาทีมันใช้ไม่ได้ครับ รายละเอียดมันมาไม่ครบ ข้อมูลมัน Realtime แต่มันจะเป็นค่า average เส้นกราฟมันเลยเป็นยึกๆยักๆไม่ได้เอาข้อมูลมาครบ ที่บอกว่า OBV ระยะ Day ดูไม่ได้ ผมหมายถึงมันดูยาก มันไม่สามารถบอกเรื่องจุดตัดสินใจแต่มันบอกแนวโน้มซึ่งผมมองว่า "แนวโน้ม" นี่แหละที่เป็นความคาดหวังที่หวังไม่ได้ มันเหมาะสำหรับการมองเรื่องของการ divergence ระหว่างราคาที่ต้องมองมุมกว้างๆ ซึ่งผมมองว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์ มันไกลไป แต่พอเอา OBV 5-30 นาทีมาใช้มักจะไม่ค่อยพลาด ซื้อหุ้น 100 ตัวตาม OBV ผมว่าพลาดขาดทุนไม่เกิน 10 ตัวเป็นอย่างมาก แต่อีก 90 ครั้งจะเป็นการซื้อที่ตรงเวลาเป๊ะเลย สิ่งที่ท้าทายนัก Technical ผมชอบซื้ออะไรแล้วขึ้นเดี๋ยวนั้นเลยนะ ผมไม่ชอบซื้อรอ ชอบลุ้นและสนุกกับ Technical มากกว่า ไหนๆจะซื้อแล้วก็ต้องซื้อแบบซื้อปุ๊บขึ้นปั๊บกันไปเลย การมองกราฟรายวัน ผมสมมุตอว่าหากเราดูกราฟ week แท่งเทียนระยะ week คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลา 5 วัน(1 week) เราแทบไม่รู้จุดตัดสินใจเลยว่าใน 1 สัปดาห์มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันสามารถเปลี่ยนแปลงขึ้นลง แท่งเทียนระยะ week สามารถทำให้เราสามารถขาดทุนได้ 20-30% ได้เลยนะ ส่วนเรื่องกำไรเราไม่พูดถึงเพราะอะไรๆหากกำไรมันดีหมดแหละ แต่เราสนใจที่โอกาสขาดทุนมากกว่า พอมาเล่นระยะ Day เราก็ไม่รู้ว่าจุดซื้อที่แม่นย้ำตรงเป๊ะอยู่ตรงไหนของแท่งเทียนระยะ Day แต่หากลงมาดล่นกับ 5-30 นาทีเชื่อเลยว่าเกิน 90% ซื้อแล้วไม่ขาดทุน ในบางครั้งการซื้อหุ้นรอตาม Technical มันหาไม่ยากนะ เปิดกราฟ scan หาหุ้นที่มีเงื่อนไขตามที่ต้องการ แต่ต้องหาที่สวยๆทุกช่วงเวลานะ ไม่ใช่สวยแต่ Day แต่ 5-30 นาทีกำลังขายหระหน่ำ หากเจอหุ้นที่เกิดสัญญานซื้อ 5-30-Day ซัดไปเลย เพราะมันจะ Surge กระชากขึ้นแรง แต่ส่วนใหญ่หาไม่เจอ ส่วนมากจะเกิดสัญญานซื้อในแต่ละช่วงเวลาไม่พร้อมกัน หากน้องชายเล่นแต่ระยะ Day เจอสัญญานซื้อสุดสวยแต่พอไปเปิด 5-30 นาทีกลับเห็นสัญานขายรุนแรง ถามว่าจะซื้อหุ้นตามระยะ Day ไหม นี่แหละคือสิ่งที่นัก Technical สามารถตายเพราะความสวยของกราฟได้ ผมไม่รู้ว่าใครมากำหนดให้เราใช้ระยะ Day กันน คงเพราะคนใช้กันมากเลยกลายเป็นว่าเชื่อียะ Day กันไปหมด ประสบการณ์ผมๆเชื่อการส่งต่อกำลังหรือการไล่ Step ผมให้ความสำคัญทุกๆเวลาของมันเพราะมันคือสิ่งเดียวกัน ต่อให้ MACD หรืออะไรต่ออะไรสวยสดงดงาม มันบอกเพียงหุ้นตัวนี้น่าสนใจ หากเป็นนัก Technical บางจำพวกจะซื้อตาม indicator และรอเวลาว่ามันจะต้องเป็นไปอย่างที่คาดไว้ แต่สำหรับผมเพียงเห็นเท่านั้นผมยังไม่ซื้อ ตราบใดที่ยังไม่มี OBV 5-30 นาที(เท่านั้น)เข้ามา เพราะมันหมายถึงพลังเงินขับดันให้ indicator ต่างๆตัดขึ้นอย่างที่เราคาดไว้ ดังนั้นจุดบอดอีกจุดที่สำคัญมากๆของนัก Technical คือซื้อเพราะความสวยของกราฟ แต่ไม่ได้ซื้อเพราะความสวยของเงินหรือ OBV ก็ค่อยๆศึกษาไปครับ สำคัญว่าข้อมูลที่ดูมันครบที่จะดูไหมหละ ผมสนใจรายละเอียดปลีกย่อยๆนะ ข้อมูลต้องครบและเป็นของจริงๆ ผมไม่เคยใช้อะไรนอกจาก Apex เลยไม่รู้ว่าที่อื่นมันเป็นยังไงกันบ้าง แต่เคยดู Efinance มันดูระดับนาทีไม่ได้ หยาบเกินไป ส่วนของ apex แบบรายเดือนที่จ่าย 1500/เดือน ผมเองก็ยังเห็นว่ามันก็ยังหยาบไม่เหมือน apex ที่ผมใช้ ของผมเป็น apex ที่โบรกฯใช้กันนะ หากน้องชายมีข้อมูลไม่เหมือนผมคงต้องปรับแต่งหรือต้องปรับเปลี่ยนเรื่องจุดตัดสินใจที่แตกต่างจากข้อมูลหรือกราฟที่ผมเอาลงเวปนะ อาจจะต้อง Delay อะไรบางอย่างบ้าง ก็ลองๆศึกษาดูนะ ไม่น่ายาก และเชื่อว่าจะเข้าใจตัวตนเส้นสายกราฟได้ความคาดหวังของนักลงทุนมันแอบแฝงอยู่ในเส้นสายกราฟ เราไม่ได้เอามามองพื้นฐานหุ้นแต่เราเอามามองพื้นฐานทุน ดดยเชื่อว่าทุนในหุ้นตัวไหนดี พื้นฐานหุ้นก็น่าจะดี แต่ว่าทุนนั้นทุนแบบไหน หากทุนมันขึ้นๆลงๆ OBV~ ลากยาวๆขึ้นๆลงๆแบบนั้นหุ้นปั่นก็ต้องระวังไว้หน่อย ฝรั่งเองมันก็ปั่นแต่มันปั่นไม่กระชากแรงๆแบบนักปั่นคนไทย และมันก็ปั่นแบบค่อยๆกระดึ๊บไปเรื่อย จน กลต มองว่าการทำแบบนี้เรียกว่าการลงทุน สำหรับผมแล้ว คุณจะลากหุ้นไป 1 วัน 1 เดือนหรือ 1 ปี 10ปี ผมเรียกว่าปั่นหมดแหละ 5555


โดย: Rockriverarms IP: 61.7.137.161 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:14:30 น.  

 
ขอบคุณมากครับ ผมสงสัยมานานมากแล้ว
ได้ความรู้มาอีกเรื่องคือเรื่องดูหุ้นปั่น
แอบนั่งเทียนมาตั้งนานว่าพี่ดูยังไง
เพราะพี่เขียนไว้เมื่อนานมากแล้ว ว่าถ้าดูแล้วแค่โยนสลับไปมาจะไม่สนใจ

ตอนนี้ผมก็เชื่อเหมือนพี่ครับ ว่านดี เงินไม่มา ราคาไม่ไป
กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาเรื่องที่รู้มาผสมกันอย่างไรให้ลงตัวดี
ขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับความรู้ดีๆ


โดย: ขอบฟ้าบูรพา วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:08:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.