In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
ข้อคิดจากมันนี่ แคมป์

ไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์ไว้ในบอร์ดRDTครับ เลยเอามาลงที่นี่อีกที

โฮ่ๆๆ ไม่ได้มาแบ่งปันเลย ช่วงนี้ยุ้ง ยุ่งเป็นยุงตีกัน
เริ่มเลยนะครับ จากวันแรกไปไม่ทันเล่นเกมส์ T-T
ไปถึงพอดี เขาเลิกกันหมดแระ กะลังสรุปกันเลย
ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าตอนเล่นเกิดเหตุอะไรขึ้นมาบ้าง
เลยไม่ค่อยเข้าใจตอนที่สรุปกันเท่าไหร่
ต่อมาก็ไปเล่นกันที่ชายหาด แบบว่ามาถึงก็เล่นเลยซะงั้น
แล้วก็ไปอาบน้ำ เพื่อมาฟังแผนธุรกิจ
เป็นอะไรที่ตั้งใจเพื่อมาฟังโดยเฉพาะ+อสังหาอีกอัน
ปรากฏว่าเสี่ยเหมียว(พี่นู)กระซิบว่า “อ๋อง ไปเสนอแผนด้วยกันนะ”
อ่ะโห ไม่ลากผมขึ้นไปตอนถึงเวลาเลยล่ะบอกกันซะเร็วเชียว
แต่เอาน่ามีเวลาเตรียมตัวนิดหน่อยหึหึหึ
คนแรกที่เสนอแผนคือพี่ร๊อค
(ตอนแรกนึกว่าเป็นเฮียร๊อคแห่งwww.setontherock.com)
เสนอแผนธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา
ซึ่งตอนนี้พี่เค้าสอนอยู่ที่โงเรียนกวดวิชาที่ผมเคยเรียนอยู่
(ไม่เกี่ยวไรกับแผนหรอกครับ แต่ตื่นเต้น)
รรที่พี่เค้าจะตั้งเน้นไปที่กลุ่มเด็กน้อยผู้น่ารัก
โดยมีคู่แข่งคือคุมงกับอีกท่ำชื่อไม่ได้แหล่ว
มีการสำรวจมาพร้อมตัวเลขที่ชัดเจน
ซึ่งก็มีเพื่อนๆให้ความเห็นกันมากมาย
ใครที่ไม่มีแผนไป ไม่มีทางได้ความเห็นแบบนี้หรอกครับ
“ใครทำใครได้สิน่า” (หัวเราะ)
ต่อมก็แผนของพวกเราครับ ไปเสนอสามคน
แต่คนคิดจริงๆมีประมาณฝูงหนึ่ง
โดยแผนของเราคือการทำหนังสือเกี่ยวกับ
การลงทุนในหุ้นโดยวิธีทางเทคนิค
ซึ่งผลตอบรับคือ………….ดีมาก
แต่อย่าทำเลยT-T
ซึ่งก็ขอขอบคุณพี่ๆทั้งหลายที่ให้คำแนะนำด้วยครับ
แต่เราก็ไม่ย่อท้อ จะพยายามลบข้อเสีย ล้างจุดด้อย
เพิ่มข้อดี และจุดแข็งเพื่อออกProductตามแนวคิดให้ได้ครับ
พี่หนุ่มพี่โจ้พี่ย้งยังออกFFได้ พี่นูกะตาโน้ตก็ต้อง
ออกหนังสือให้ได้สิจิงป่ะ(สังเกตว่าไม่มีชื่อผมนะ)
ช่วงแรกแอบขอไม่มีอะไรนะครับ
เพราะว่าที่ผมไปทันส่วนใหญ่เป็นการแชร์ไอเดียธุรกิจ
บางเรื่องมันเฉพาะกรณีมากๆ
เป็นเรื่องที่ใครทำใครได้จริงๆครับ

อ้อขอนิดนึงนะครับ จากแผนหนังสือของเรา
มีหลายคนให้ความสนใจว่าเจ๊งแน่นอนครับ
แต่ถ้าน้องๆเปิดคอร์สสอนพวกพี่ๆไปแน่นอน
อันนี้ผมจำได้นะครับ มีการทวงสัญญาแน่นอนแฮ่ๆ
พี่บ๊อบแนะนำมาว่าถ้าทำอะไรก็ตามแล้วตั้งราคาแพงๆไปเลย
เพื่อว่าคนซื้อนั้นจะได้เหลือแต่คนที่เห็นคุณค่าจริงๆ
ไม่ใช่เอาไปทิ้งขว้าง………..จากคำสอนพี่บ๊อบ
ผมจะตั้งราคาคอร์สเท่าไหร่ดีน้า (หัวเราะ)
มาถึงเรื่องที่ผม”ได้”มามากมายมั่งดีกว่า
ผมไปMCมาสองครั้ง ไม่น่าเชื่อว่า
ทั้งสองครั้งผมได้ความรู้นอกห้องเรียนมากกว่าในคอร์สซะอีก
โทรไปงงๆกับพี่หนุ่มมา พี่หนุ่มบอกไม่แปลก เฮ้อ…โล่ง
ครั้งแรกผมได้อะไรไปมากมายตอนโดนพี่บ๊อบสั่งอดข้าวเย็นกับพี่กิ่งไผ่
คราวนี้ผมได้แนวคิดมากมายตอนเล่นจับหมู!!!!!!!!!
จับหมูวงนั้นเลิกตอนตีสามกว่าเกือบตีสี่
แต่สามวันต่อมาผมยังนั่งคิดๆๆๆๆเกี่ยวกับไพ่ที่เล่น
1 ถ้าคุณเล่นไพ่โป๊กเกอร์ไป30นาทีแล้วไม่รู้ว่าใครเป็นหมู คุณนั่นแหละหมู
ครับนี่เป็นคำพูดของคนแก่ๆที่รวยอันดับสองของโลก
ผมนึกได้ถึงคำนี้ตอนเล่น เพราะผมไม่รู้ว่าใครเล่นแย่กว่าผม
นั่นคือผมเองนั่นแหละที่เป็นหมู….แล้วมันเกี่ยวกับการลงทุนยังไง
ในตลาดที่เป็นZero-Sum Game คือตลาดที่กำไรของคนนึง
มาจากการขาดทุนของอีกคนนึง เช่น หุ้น future โป๊กเกอร์ การพนันทั้งหลาย
รวมถึงอสังหาด้วย!!!
(การซื้อขายโดยไม่มีการสร้างเพิ่มในช่วงหนึ่งถือเป็น Zero-Sum Game
รายละอียดเพิ่มเติมหาอ่านได้จาก ทุนนิยมฟองสบู่ของดร.สุวินัยนะครับ)
การได้กำไรของเรานั่นคือการขาดทุนของคนอื่น
ดังนั้นถ้าเรายังหาคนที่จะมาขาดทุนให้เราไม่ได้ เรานั่นแหละ
ที่จะกลายเป็นคนไปเพิ่มกำไรให้กับผู้อื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดการเงินที่ผู้เล่นแต่ละคน”ไม่ได้โง่”
ดังนั้นก่อนเข้าตลาดไม่ว่าคุณจะอยู่ในตลาดไหน
ขอให้มั่นใจว่ารู้จริง เพื่อจะได้ไม่เข้าไปเพิ่มความร่ำรวยให้ผู้อื่น
“ด้วยเงินของคุณเอง”

2 มีอยู่รอบนึงที่ผมเล่นไพ่ได้เจ๋งสุดๆ
คือผมมีไพ่ที่บวกมากที่สุดและไพ่อีกใบ
ที่มีโอกาสได้ไพ่ที่ลบมากที่สุดอยู่ในมือ
ตานั้นจะจบรอบการลงแล้วครับ ผมต้องลง
และตามด้วยพี่หนุ่ม(กุนซือพี่แมวอีกที)
ผมจ้องเข้าไปในตาพี่หนุ่ม มองว่าเค้ามีไพ่ที่ลบมากที่สุดในมือไหม
สัญชาติญาณผมบอกว่า ไคนดีๆอย่างพี่หนุ่มไม่ทำเราแน่”
ครับ ผมค่อยๆบรรจงวางไพ่เอจโพธิ์ดำลงไป
แล้วพี่หนุ่มก็ตบแหม่มโพธิ์ดำลงมาT-T(ไพ่ที่ลบมากที่สุด)
ดวงตาของผมเอ่อล้นด้วยน้ำตา “พี่หนุ่มเล่นตรูแล้ว”
จากนั้นสมองผมก็ไม่ทำงานแล้วครับ
ผมทิ้งไพ่ใบที่บวกมากที่สุด ไพ่ที่สามารถทำให้ผมไม่ลบได้
แจกไพ่ใบนั้นให้คนอื่นไปอีกต่างหาก
เพราะตอนนั้นผมกำลัง “มีอารมณ์” กับ “การเสีย”
เปรียบกับการลงทุนแล้วเมื่อเสียมากๆหรือเสียต่อเนื่อง
เราไม่ควรจะอยู่ในตลาดอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตลาดไหน
หุ้น อสังหา ทองคำ การพนันทั้งหลาย
เพราะหากอยู่ต่ออาจเกิดอาการ “เมาหมัด” หน้ามืด
อยากได้คืนโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งการไร้เหตุผลนี่แหละ
คือตัวการสำคัญทำให้การตัดสินใจครั้งต่อๆมาของเราไม่ดีเท่าที่ควร
จริงๆผมมีกฏอยู่ว่าถ้าขาดทุนติดต่อกันให้หยุดไปสักพัก
จนกว่าจะหมดอาการอยากเอาคืน มิฉะนั้นจะหมดตัว
แต่ในกรณีนี้ไม่สามารถครับเพราะว่าบังคับให้เล่นต่อT-T
กฏข้อนี้ใช้ได้กับการลงทุนทุกประเภทครับ อ๋องรับรอง (หัวเราะ)

3เนื่องจากว่าตาสุดท้ายในการเล่นไพ่นั้น ผมได้แต้มสูงมาก
(โดยปกติไพ่จับหมู ไม่โดนลบแต้มก็เก่งแล้ว แต่ผมได้200แต้มแน่ะ)
ผมว่าเกมส์นั้นผมวางแผนได้ดีนะ(ชมตัวเองซะแล้ว)
บวกกับโชคนิดหน่อยที่พี่โจ้มองไม่เห็นไพ่ใบนึงในมือตัวเอง
ต้องเข้าใจครับ คนแก่ตาก็ฝ้าฟางเป็นธรรมดา
แต่ผมมาเข้าใจทีหลัง ว่าที่ทุกคนทำอะไรไม่ถูก
เพราะการเล่นในข้อที่สองขอผมนั่นเอง
คือตอนนั้นเสียจนประชดตัวเองไปแล้ว เล่นมั่วไปหมด
การกลับเป็นว่ารอบหลังๆไม่มีใครรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
เพราะเกิดอาการมึนส์การเล่นในรอบนั้นไปซะแล้ว
ผมมานั่งคิดทีหลังว่ามันไปเหมือนกับที่คนคนนึงพูดไว้ครับ
รู้สึกจะชื่ออะไรจอบๆนี่แหละ เห็นว่าก่อตั้งแอบเปิลด้วยนิ
(อยากรู้จังว่าใครก่อตั้งบานาน่ามา (หัวเราะ))
เค้าบอกว่าเราต้องเชื่อมแต่ละช่วงของชีวิต
เค้าเคยไปเรียนออกแบบตัวอักษร ไม่รู้หรอกว่าจะเอาไปทำอะไร
แต่ต่อมาเค้าก็ใช้ตรงความสามารถนั้นเอามาออกแบบฟ้อนของแอบเปิล
ดังนั้นเราทุกคนทำทุกสิ่งมันมีประโยชน์แหละ
ขึ้นอยู่กับว่าเราเอาแต่ละจุดมาต่อกันได้หรือไม่เท่านั้น
ในเกมส์นี้ก็เช่นกัน
ผมได้ประโยชน์จากช่วงหนึ่งของเกมส์โดยไม่ได้ตั้งใจ
ถ้าเปรียบในชีวิตและการลงทุน
ผมขอพูดเป็นชื่อหนังสือเล่มหนึ่งดีกว่าครับ สั้น และตรงดี
“สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ”
ดังนั้นอย่าไปกังวลกับสิ่งที่แก้ไม่ได้เลยนะครับ

4 ในเกมส์เดียวกัน ที่ผมบอกว่าผมวางแผนดี
เพราะตอนนั้นผมได้ไพ่มาแล้วใบนึงครับ
หากผมมีไพ่ใบนั้นใบเดียว ผมจะได้บวก50
แต่ถ้ามีไพ่ใบอื่นมาอีก จะกลายเป็นคูณสองทันที
เช่นบวก50*2=100
ลบ100*2=-200
โดยไพ่ในมือผมตอนนั้นมีไพ่บวก100อยู่อีกใบนึง
ดังนั้นผมมีโอกาสได้ 50 หรือ200เลยทีเดียว
แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิครับ
เพราะถ้าผมคิดจะเก็บไพ่บวกมากสุดไว้กับตัวเองเพื่อหวัง200
ผมอาจโดนยัดไพ่ลบมาได้
ทำให้ผมคิดว่าโอกาสแต้มผมคือ 50 200 หรือ0เลย
เมื่อผมไปดูแผ่นจดคะแนนแล้ว ผมอยู่อันดับที่สาม เก่งไหมครับ
(แต่เล่นกันสี่คนนะ แล้วคะแนนที่สี่กับผมนี่…..)
ผมมองแล้วว่าที่สี่ตอนนี้แต้มลบไปเต็มๆ
ถ้าผมได้บวกเพิ่มแค่50ก็จะได้ไปกลับมากกว่าร้อยแล้ว
เลยเล่นแบบไม่เสี่ยงครับ เลือกที่จะได้แค่50ดีกว่า
โดยทิ้งไพ่ที่มีโอกาสบวกมากสุดไปเลย
จะได้มาต้องมานั่งลุ้นไปลบสุดในตอนหลัง
ปรากฏว่าผมได้ไพ่บวกสุด(100แต้ม)มาเอง
ผมมาสรุปรอบนี้เอาเองว่า
การตัดสินใจใดๆก็แล้วแต่ เราต้องประเมินตัวเองก่อน
ไม่ใช่ว่าโลภจะอาท่าเดียว
เราต้องอยู่ในจุดที่ปลอดภัยก่อนเสมอ ก่อนที่จะได้กำไร
การประเมินคนอื่นนั้นยาก มันง่ายกว่าที่จะประเมินตัวเอง
“เราต้องหวังกำไรตามความสามารถ
ไม่ใช่เท่าที่เห็นคนอื่นเขาได้กัน”

อ้ามาตอนเช้ามาฟังเรื่องอสังหากันครับ
พี่หนุ่มมาเล่าแนวคิดเกี่ยวกับการลงทุนให้ฟัง
บวกด้วยเช็คลิสการลงทุนว่าเราต้องตรวจดูตรงไหนบ้าง
ซึ่งผมเองได้แต่นั้งอึ้งๆไป เพราะอะไรน่ะหรอ ติ๊กต่อกๆๆๆ
เพราะถ้าตัดคำว่า “อสังหาริมทรัพย์” ออกไปใส่คำว่าหุ้นเข้ามา
อ้าวมันหลักการเดียวกันเลยนี่นา
แนวคิดหลายๆอย่างผม”ถูก”สั่งสอนมาแล้ว
แต่ด้วยความโง่ของเราเอง ที่ยังไปมองเป็น”วิธีการ”
มากกว่าที่จะมองเป็น”แนวคิด”
วันนั้นผมได้อะไรมากกว่าสิ่งที่เป็น”วิธีการลงทุนในอสังหา”
โทรไปคุยกะพี่หนุ่ม โอ้วจอร์จ ซาร่างงอะไรมันจะ…ขนาดนั้น
แล้วสายก็ตัดไป เอ่อผมยังไม่ได้คำตอบเลยครับพี่ทวงๆ
ที่เจ๋งมากๆของMCคราวนี้คือต้องโทรจริง
คือโทรไปถามรายละเอียดของอสังหาที่ประกาศขายจริงๆ
แล้วเอามานั่งคำนวนว่าเราจะเคาะซื้อเท่าไหร่
อันนี้เจ๋งมากครับ ชอบ (หัวเราะ)
เพราะหลายครั้งการเรียนรู้ ไม่ได้ตามมาด้วยการกระทำ
คราวนี้พี่หนุ่มเลยให้นั่งทำจริงในห้องซะเลย (หัวเราะ)
อันนี้ใครทำใครได้อีกแล้วครับ
เพราะถึงผมบอกไปว่ากลุ่มผมได้ราคาที่8ล้าน8
ก็คงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าตัวเลขมายังไง ถ้าไม่ได้มาคิดด้วยกัน
อันที่จริงการคิดราคาของอสังหาก็เหมือนกับการหาราคาเหมาะสมของVI
เลยนะครับ แต่ผมคงขอข้ามไป เพราะเพื่อนๆคงเบื่อกระทู้ยาวๆของผมไปแล้ว
จากนั้นพี่หนุ่มก็ให้เขียนเกี่ยวกับการสัมมนาครั้งนี้
(มีคนเขียนชมสถานที่ด้วยละสวยดี หึหึหึก็คนหาสถานที่ไง ใครน้า?
คือไม่ใช่ว่าไม่สวยนะ สวยมาก แต่แหมชมตัวเองด้วยนะป้า…..)
สุดท้ายพี่หนุ่มให้คนที่สมัครใจออกมาพูดเป้าหมายที่จะทำในปีนี้
(อย่าแปลกใจที่มีแต่พี่หนุ่มๆ ตอนนั้นพี่โจ้หลับครับเป็นผลมาจากจับหมู)
ได้ฟังอะไรประทับใจมากมาย ใครจะแต่งงาน ใครจะทำให้พี่น้องรักกันมากขึ้น
ผมยินดีด้วยนะครับ
ขอต้นทุนจงอยู่กับท่าน แต่กำไรจงมาหาเรา
ขอโทษนะครับพิมพ์ซะยาวเหยียด

แล้วเราก็มาขอโทษอีกทีที่ไม่ได้เคาะเว้นบรรทัดเลย555


Create Date : 15 มีนาคม 2550
Last Update : 15 มีนาคม 2550 2:35:45 น. 0 comments
Counter : 791 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.