ไม่รู้ว่าจะตั้งหัวข้อว่าอะไรดี
คราวก่อนที่เขียนบทความ “สิบอย่าในบอร์ดหุ้น” ก็ยังมีคนไม่เข้าใจมากพอสมควร ทั้งๆที่ผมก็ได้เขียนคำแนะนำไว้ข้างล่างด้วยแล้วว่าการถามที่ดี และจะได้รับคำตอบที่ดีนั้นน่าจะถามอย่างไร ผมเองนอกจากเคยเป็นผู้ถามแล้ว(และยังเป็นอยู่) ยังเป็นผู้ตอบอีกด้วย ผมเน้นเสมอว่าการทำความเข้าใจกับคำถามนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะเรื่องของการเงินและการลงทุน ทั้งนี้เพราะสภาวะการณ์ของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน สิ่งที่ดีสำหรับเราอาจจะไม่ได้ดีสำหรับคนอื่น แน่ล่ะกระโปรงย่อมไม่เหมาะสำหรับผู้ชายไทย หรือรถจักรยานย่อมไม่เหมาะสำหรับขับขี่ข้ามจังหวัด (ใช่ ในทั้งสองกรณีมีคนทำ แต่คงไม่ใช่คนทั้งหมด หรือคนส่วนใหญ่แน่นอน) เช่นกันการให้คำตอบเดียวกันสำหรับคำถามเดียวกันอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องใน โลกแห่งการลงทุน เพราะในโลกแห่งนี้ 1+1ไม่ได้เท่ากับ2เสมอไป เผอิญ ว่าวันก่อนได้อ่านจดหมายข่าวของนักลงทุนท่านนึง หลายคนน่าจะรู้จัก และหลายคนคงได้เคยอ่านหนังสือที่เค้าเขียนแล้ว นั่นคือ “ขุมทองแห่งอนาคต : Tomorrow s Gold” ซึ่งเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่อยากแนะนำให้อ่านกัน ถึงตรงนี้หลายคนคงรู้แล้วว่าผมกำลังเอ่ยถึง มาร์ค เฟเบอร์ นักลงทุนแถวหน้าของโลก(แอบปลื้มด้วยที่เค้ามีบ้านอยู่เมืองไทย อิอิ) ว่าแต่มาร์คมาเกี่ยวอะไรกับที่ผมเกริ่นไว้น่ะหรอ เพราะว่าในจดหมายข่าวเดือนมิถุนายน ย่อหน้าสุดท้ายเค้าเขียนไว้แบบนี้ครับ I recently received an email: “Should I buy stocks and if so which ones?” The same day a medical doctor received an email from someone he had never met in his life and about whose medical condition, gender, age, etc he had no idea. It read: “Do you recommend I take some medicine today and if so which tablets?” I hope my readers get the point: I really cannot be their personal financial planner because I have no idea about their financial position, current asset allocation, cash flow, risk tolerance, investment objectives etc. Therefore, some questions, which I receive, I receive I simply cannot answer. ขออนุญาตแปลในแนวผมเองนะ อาจไม่ตรองกับเนื้อข่าวเป๊ะๆ เมื่อเร็วๆนี้ผมได้รับอีเมล์ฉบับหนึ่ง ในนั้นเค้าเขียนมาถามผมว่า ”ผมควรจะซื้อหุ้นหรือเปล่า ถ้าควรผมควรจะซื้อหุ้นตัวไหน ใน วันเดียวกันมีคุณหมอท่านนึงก็ได้รับอีเมล์จากใครบางคนที่คุณหมอคนนี้ไม่เคย เจอมาก่อนเลยในชีวิต และไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนที่ส่งอีเมล์มา ไม่ว่าจะเป็น อาการแพ้ยา เพศ และอายุ เค้าไม่รู้รายละเอียดใดๆพวกนี้เลย ในอีเมล์ฉบับนั้นถามว่า ”วันนี้คุณจะแนะนำให้ผมกินยาบ้างไหม และถ้าควรผมควรจะกินยาชนิดไหน ผมหวังว่าผู้อ่านของผมคงเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อนะครับ ผม ไม่สามารถเป็นนักวางแผนทางการเงินส่วนบุคคลให้กับเขาเหล่านั้นได้ เพราะผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเขาเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น สถานะทางการเงิน การลงทุนในปัจจุบัน กระแสเงินสด ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หรือแม้กระทั่งเป้าหมายในการลงทุน ดังนั้นคำถามบางคำถามที่ผมได้รับ ผมทำได้เพียงแค่รับรู้แต่ไม่สามารถตอบอะไรได้ ย้ำกันอีกครั้งนะ ครับ ผมไม่เคยบอกว่าอย่าถามเลยนะ ห้ามนะ แต่ผม”ให้ความเห็นว่า”ถ้าจะถามก็ควรจะมีรายละเอียดมาด้วยนะ ไม่อย่างนั้นคำแนะนำที่ได้มันจะเป็นอันตรายกับผู้ถามเองด้วย แต่จากกระทู้เก่าผมก็เห็นหลายคนต่อว่า ว่าถ้าไม่ให้ถามแล้วจะมีเวปบอร์ดไปทำไม ผมก็สงสัยว่ารีบอ่านจนไม่ได้อ่านคำแนะนำในส่วนท้ายหรือเปล่า ถึงตรง นี้ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมถูกต้องเสมอไปนะ ผมอาจจะยังยึดติดอยู่ในกรอบที่ผมเคยเรียนรู้และเข้าใจอยู่ ซึ่งโลกแห่งการเงินอาจจะก้าวหน้าไปมากกว่าความรู้ที่ผมมีอยู่แล้วก็ได้ อันนี้ไม่ได้ประชดนะ เพราะเห็นเด็กรุ่นใหม่ๆสมัยนี้แล้วรู้สึกทุกทีเลยว่า “เราแก่จัง” (@_@)
Create Date : 26 กรกฎาคม 2553
Last Update : 26 กรกฎาคม 2553 20:32:29 น.
0 comments
Counter : 766 Pageviews.
Location :
สมุทรปราการ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [? ]
ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ