|
เมื่อเคียวบ้าคลั่งเกมเก่า
เรื่องมันเริ่มที่ว่า ได้คอมใหม่มา ก็เลยคิดการใหญ่กับน้องชายว่าได้เวลาไปหาเกม Celtic Tales มาเล่นแล้วกระมัง
ก่อนนี้เคยเกมนี้มาแล้ว แต่พอหาอีกครั้ง แผ่นก็หายไป
จะว่ามันเป็นเกมดีวิเศษ มันก็ไม่ใช่ถึงปานนั้น เป็นเกมเล่นใน DOS ธรรมดา ของค่าย KOEI ( ค่ายที่ผลิตเกมสามก๊กนั่นแหละ ) แต่ถ้าว่าด้วยฟังก์ชั่นสำหรับเกมวางแผนเล็ก ๆ ก็ถือว่าเป็นเกมที่ดี
ที่สำคัญ มันทำให้เรารู้ว่ามีสิ่งที่เรียกว่าเซลติกอยู่ในโลก
และจนบัดนี้ ความบ้าเซลติกก็ยังไม่เหือดหายไปจากร่าง เพราะอย่างนั้นศิลปะคงมีอิทธิพลต่อบุคคลจริง ๆ แหละนะ - -''
เอาเป็นว่าเราไปหาดาวน์โหลดเกม Celtic Tales แล้วก็เจอเว็บนี้เข้า
//www.abandonia.com
มันคือเว็บรวบรวมเกมเก่าเกมแก่ ประดาเกมเล่นใน DOS ที่ตกยุคไปแล้ว แถมโปรแกรมที่น่ารักมากชื่อ โปรแกรม DOSBOX เป็นโปรแกรมที่สร้างไว้สำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ให้เล่นเกม DOS เก่า ๆ ได้โดยเฉพาะ ( ถ้าไม่มีโปรแกรมนี้ การเล่นเกม DOS เก่า ๆ จะเป็นเรื่องยุ่งยากมาก เพราะคอมพิวเตอร์ที่ใหม่กว่า 3.11 ขึ้นไปมักจะเห็น DOS เป็นโปรแกรมจัณฑาล และไม่ยอมเล่นด้วย )
ดังนั้นตอนนี้ เรา ( และน้อง ) จึงเล่นเกมเก่าอย่างเมามัน ดีใจมากที่เห็นเกมสมัยที่ adventure โดยเฉพาะของค่าย sierra ยังรุ่งเรืองอีกหน T T ( เซียร์ร่ารุ่งช่วงทศ 90 )
รูปมันอาจจะไม่สวย แต่มันเป็นอดีตแสนหวานสมัยที่บางครั้งเกมก็ naive ได้อย่างน่ารัก เรื่องยุคกลางยังเป็นที่นิยม และไม่ซับซ้อนเสียจนน่ารำคาญ
ตอนนี้กำลังเล่นเป็นโรบินฮู้ดในเกม Conquet of the longbow รู้สึกดีที่ได้เล่นเกมเกมหนึ่งซึ่งขึ้นทำเนียบของเซียร์ร่าในที่สุด
สำหรับคนที่อยากลอง ขอเรคคอมเมนต์เกม kingquest ( สำหรับคนที่ไม่ชิน คิดว่าเริ่มที่ kingquest 6 อาจจะสบายใจที่สุด ไว้ชินแล้วค่อยกลับไปเล่นที่เก่ากว่านั้น )
ถ้าเจ้าของบล็อคนี้หายไป แสดงว่ามันไปเล่นเกมนั่นเอง...
Create Date : 06 มีนาคม 2548 | | |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 21:06:04 น. |
Counter : 712 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
And after that...
พี่วัสส์เอามาให้ดู ( อีกแล้ว )
ที่มา : //www.deviantart.com/view/14726723/
Create Date : 01 มีนาคม 2548 | | |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 21:05:15 น. |
Counter : 460 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Many Meanings
รู้สึกว่าสองสามวันนี้จะอยู่ในอารมณ์กลูมมี่มากไปแล้ว - -'' ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปนาน ๆ คงเซ็งมากแน่ ๆ และก็คงจะกลายเป็นคนน่าเบื่อประเภทเพื่อนหนีหมด เพราะอย่างนั้นจึงควรที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง
ช่วงนี้หนังสือที่อ่านคือการ์ตูนของไอ ยาซาว่า คิดว่าอีกสักพักจะเริ่มทำวิจารณ์แบบละเอียดกว่านี้
แต่มาพูดถึงสิ่งที่น่าสนใจอย่างกว้าง ๆ ก่อนก็ได้ เราคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจของไอ ยาซาว่า คือวิธีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้าง subtle ซึ่งทำให้การกลับไปอ่านยิ่งหลายครั้งเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบสิ่งที่ซ่อนมากขึ้นเท่านั้น ถึงจะเป็นเรื่องที่จัดอยู่ในระดับ "เบา" ก็ยังคงใช้วิธีการเล่าใกล้เคียงกัน
เราคิดว่าการเล่าเรื่องที่ไม่พูดตรง ๆ เป็นศิลปะที่สูงมาก โดยเฉพาะสำหรับคนที่จะเขียนนิยายในฐานะเรื่องเล่า ( ถ้าจะเขียนนิยายแบบโพสต์โมเดิร์น หรือจะเขียนแบบอื่น ๆ ก็ค่อยว่ากันอีกทีนะ ) เราเกือบคิดด้วยซ้ำว่าถ้าใครก็ตามที่ข้ามพ้นแล้วเข้าสู่ระบบการเล่าเรื่องแบบนี้ได้ จะค่อนข้างเป็นหนังสือที่การันตีแล้วว่ามันจะอยู่ทน
มันละเอียดอ่อนนะ การใส่ใจอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะ
ช่วงหลัง ๆ เราก็เริ่มรู้สึกว่าจำเป็นแค่ไหนที่ต้องละเอียดอ่อน จำเป็นแค่ไหนที่เรื่องต้องซับซ้อน จนในที่สุดถึงขนาดที่ว่าจำเป็นแค่ไหนที่คนเราจะต้องเขียนเรื่องให้เข้าใจมนุษย์อย่างลึก
แต่เอาเข้าจริงแล้ว เราก็ชอบความละเอียดอ่อน เราชอบงานที่ใส่ใจ ที่ไม่หยาบ ที่มองมนุษย์ด้วยความเข้าใจ และไม่ตัดสินใคร ถึงแม้จะเพื่อความบันเทิง เราก็ชอบแบบนั้นมากกว่า
บางทีก็คิดว่าถึงแม้คนเราจะไม่กินซูชิก็ไม่ตาย หรือถึงกินซูชิปรกติไม่ต้องวิเศษมากก็โอเคได้เท่ากัน
แต่ว่าเราก็ยังยกย่องโชตะที่ประดิษฐ์ประดอยซูชิออกมาเต็มความสามารถทุก ๆ ชิ้นแหละนะ
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2548 | | |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 21:02:38 น. |
Counter : 520 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
อะไรกันหนอ
บล็อคนี้เป็นบล็อคที่ยี่สิบแล้ว ถ้าเขียนบล็อคอีกเราคงต้องเพิ่มหัวข้อใหม่เป็น "บันทึกเรื่อยเปื่อย2" แล้วก็ปรับเอาอันนี้ไปไว้อีกหน้า เพราะเห็นว่าชักยาว ถ้าคอมไม่เร็วเวลาเปิดกันคงปวดหัว ( แถมยังชอบแปะรูปอีกแน่ะ )
ช่วงนี้เราอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับธีสิสเล่มสุดท้ายที่มีในมือ ( เฉพาะตัวบท ถ้าเทกซ์น่ะยังอีกเยอะเลย T T ) เป็นวรรณกรรมของ young adult ชื่อ April and the Dragon Lady
ดราก้อนเลดี้หมายถึงคุณย่า ผู้ซึ่งออกจะเป็นเผด็จการในบ้านสักหน่อย ( ตามวิธีของแก ) เนื่องจากมันเป็นเรื่องยังอะเดาท์ ดังนั้นมันก็เกี่ยวข้องกับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของตัวเอกคือเอพริล ของการค้นพบว่าชีวิตแบบไชนีสอเมริกันควรจะเป็นยังไง หรือว่าการจัดการกับคุณย่าผู้ซึ่งยังมีความจีนเต็มตัวควรจะทำยังไง
ไม่ใช่เราไม่เชื่อหรอกว่ายายแก่ตัวแสบเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีอยู่จริง ( แปลว่าเราเชื่อว่าแกคงมีตัวจริงอยู่บ้าง ) เพราะคนแก่ก็เป็นมนุษย์ปุถุชน มีความรู้สึกหลายอย่างเหมือนคนธรรมดา แต่ว่าตั้งแต่เด็ก ๆ มา ถึงเราจะไม่ได้สนิทกับคุณยายหรือคุณย่าเป็นพิเศษ แต่เราจะรู้สึกรุนแรงถ้าใครทำอะไรไม่ดีกับคนแก่ ถ้าใครเอาคนแก่มาเป็นตัวตลก หรือทำร้ายคนแก่ เราจะออกเคืองมาก
เพราะงั้นอ่านมาจนถึงตอนจบ เหมือนยัยเอพริลกะป๊ะมันทิ้งบ้านไป ให้ย่าอยู่กับหลานชาย ( พี่ของเอพริล ) และคนใช้ เราก็รู้สึกว่าโคตรจะ wrong
เราไม่ได้หมายความว่าฝรั่งมันช่าง...กับคนแก่ มันช่างไม่รู้จักเรื่องผู้หลักผู้ใหญ่ เราคิดว่าโอเค พ่อกับเอพริลก็เสียสละอะไรหลายอย่างเพื่อย่ามากไปจริง ๆ
แต่ก็ wrong อยู่ดี
หรือว่ามันเป็นความรู้สึกของคนตะวันออก และเพราะว่าคนเขียนแกอยู่กึ่ง ๆ ระหว่างสองโลก แกเลยพรีเซนต์เรื่องออกมาแบบนั้น แล้วอะไรกันแน่ที่มันเป็นสิ่งที่ควรทำ
ว่าตามตรง เราไม่ชอบคนที่รู้สึกน้อยใจฝรั่ง แล้วก็เลยพาลว่าฝรั่งไม่รู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ เราว่ามันออกจะเหยียดผิว แต่เราก็ไม่ชอบคนที่ชมฝรั่งจนเวอร์เหมือนกัน เราคิดว่าฝรั่งก็คงมีข้อจำกัดของฝรั่ง และคนแถวนี้ก็มีข้อจำกัดของคนแถวนี้
เราฝรั่งที่มันเหยียดคนอื่นก็ออกโง่ แต่บางทีการเหยียดผิวมันก็เกิดมาจากความกลัว
เราไม่คิดว่าใครจะทำอะไรคนอื่นก่อน ถ้าไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย
จะว่าไปบล็อคนี้มันต๊อง ๆ แฮะ - -''
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2548 | | |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2548 16:19:34 น. |
Counter : 409 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Robert Frost's Poems
ที่จริงจะหาบทที่ขึ้นว่า Whose woods these are I think I know แต่มาเจอสองบทนี้ก่อน
เรามีความทรงจำกับฮูสวู้ด เพราะมันออกมาเป็นข้อสอบเอนท์ ( เช่นเดียวกับสารคดีเรื่องปิรันย่า ) ตอนเอนท์ก็ไม่ได้คิดถึงความหมายมันหรอก แต่มาคิดทีหลังก็รู้สึกดีนะ
สองบทนี้เราก็ชอบ บทนอตติงโกลด์แคนสเตย์นี่เคยไปเก็บใบสรุปธีมกลอนที่เด็กเอกอังกฤษทำตกไว้ แล้วก็ชอบที่เขาสรุป
ส่วนโรดนอตเทคเคนเป็นบทที่รุ้งเคยเล่าให้ฟังน่ะ
Nothing Gold Can Stay
Nature's first green is gold, Her hardest hue to hold. Her early leaf's a flower; But only so an hour. Then leaf subsides to leaf. So Eden sank to grief, So dawn goes down to day. Nothing gold can stay.
##########
THE ROAD NOT TAKEN Two roads diverged in a yellow wood, And sorry I could not travel both And be one traveler, long I stood And looked down one as far as I could To where it bent in the undergrowth; Then took the other, as just as fair, And having perhaps the better claim, Because it was grassy and wanted wear; Though as for that the passing there Had worn them really about the same, And both that morning equally lay In leaves no step had trodden black. Oh, I kept the first for another day! Yet knowing how way leads on to way, I doubted if I should ever come back. I shall be telling this with a sigh Somewhere ages and ages hence: Two roads diverged in a wood, and I- I took the one less traveled by, And that has made all the difference.
ค้นอีกที เจอแล้ว เลยเอามาปะไว้ด้วยกัน
Stopping By Woods On A Snowy Evening Whose woods these are I think I know. His house is in the village though; He will not see me stopping here To watch his woods fill up with snow. My little horse must think it queer To stop without a farmhouse near Between the woods and frozen lake The darkest evening of the year. He gives his harness bells a shake To ask if there is some mistake. The only other sound's the sweep Of easy wind and downy flake. The woods are lovely, dark and deep. But I have promises to keep, And miles to go before I sleep, And miles to go before I sleep.
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2548 | | |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2548 23:07:45 น. |
Counter : 1570 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|