The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 

Fixation ฝันถึงที่นั่นนิรันดร

ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบนิยายพาฝัน

และไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบความ exotic

เราชอบมาก แต่ว่าบางทีบางเวลา เราก็อดคิดไม่ได้ว่าความชอบของเราเป็นแค่ของจอมปลอม ฝันถึงอดีตที่หมดไปตั้งนานแล้ว และฝันถึงกาลเวลาซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่มีจริง

บางครั้งเราอดคิดไม่ได้ว่าอียิปต์ไม่ใช่แดนฟาโรห์มานานปีแล้ว แต่ไม่มีใครจำเรื่องปัจจุบันของอียิปต์ได้ ทุกคนนึกถึงแต่คนที่ตายไปแล้ว นึกถึงแต่พีระมิด

บางครั้งเราก็คิดว่ากรีกไม่ใช่แดนเทพเจ้ามานานปีแล้ว กรีกไม่ใช่ชื่อจริงของประเทศด้วยซ้ำ เป็นเพียงคำว่า "ทาส" ในภาษาตุรกี กรีกไม่ได้นับถือเทพเจ้า และเคยผ่านสมัยที่นับถือกรีกออธอดอกซ์อย่างเข้มข้นมา

ไม่ใช่ฝรั่งทุกชาติที่เคยมียุคอัศวิน ฝรั่งเศสไม่ใช่ชาติคาบดอกกุหลาบ

ชีคทะเลทรายไม่ได้เป็นอย่างที่เราฝัน ฮาเร็มของจริงคงหมดไปนานปีแล้ว

แต่ในขณะที่ชีวิตมนุษย์เลื่อนไหลไป จิตใจมนุษย์ก็ยังคงฝันถึงจุดบางจุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งที่จริงแล้วก็ถูก romanticize ไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้น

เคยมีเรื่องเสียดสี พระเอกกลับไปอยู่ในโลกแฟนตาซีได้ แต่ก็เป็นแค่คนเลี้ยงหมูไปจนตาย ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น อยู่ในโลกแฟนตาซี ถ้าไม่เป็นคนระดับดีพิเศษก็ไม่มีประโยชน์ เพราะแฟนตาซีก็เป็นโลกที่มีไฮราคีเท่า ๆ กับโลกจริง เพียงแต่เราไม่เห็นเท่านั้นเอง

แต่ในที่สุด ทุกคนก็อยากทำให้มันง่าย เพราะการที่ทุกอย่างมันง่าย มันก็จะทำให้เข้าใจอะไรได้ง่าย จับอะไรได้มั่น เห็นอะไรได้ชัด

อียิปต์ไม่มีฟาโรห์มาตั้งนานแล้ว...




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2548    
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 23:05:18 น.
Counter : 490 Pageviews.  

ขึ้นใหม่เสียหน่อย

อันเก่ายาวมากแล้ว เวลาเปิดต้องโหลดนาน

แต่ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องอะไรมาก และไม่มีมู้ดจะเขียนอะไรยาว ๆ เลยเอาวาทศิลป์แบบเพลโตมาปะไว้ เพราะชอบจัง เราอยากให้ตัวเองพูดแล้วเป็นแบบนี้ได้บ้าง

Socrates, in the description of Plato, who seemed outwardly to those about him to be but a simple, talkative, blunt fellow; whilst at the bottom he was full of such gravity and matter, as would even move tears, and touch the very hearts of his auditors.

มาจาก Plutarch's Parallel Lives: Marcus Cato

ตอนนี้ก็ยังคงเสิร์ชหาเรื่องของพลูตาร์ชมาอ่านอยู่เหมือนเดิม




 

Create Date : 23 กันยายน 2548    
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 23:04:43 น.
Counter : 487 Pageviews.  

ได้อะไรมา

วันนี้เปิดทีวีไปมา ก็เจอหนุมาน ( ซีรีย์อินเดียโบราณ ๆ ทำได้ยืด ๆ ยาน ๆ )

ไม่ได้ดูตั้งนาน มาดูอีกทีจบสงครามเสียแล้ว พิเภกขึ้นครองบัลลังก์เป็น "ลังเกศวร" ( ผู้เป็นใหญ่แห่งลงกา )

อย่างที่เคยบอกมาในบล็อคก่อน ๆ คือเราชอบพิเภก และเราไม่ได้ชอบเพราะมันเป็น "ฝ่ายดี" เราชอบเพราะเรารู้สึกว่าพิเภกมีความลึกที่ตีความได้หลากหลาย

อย่างในฉากที่เห็น พิเภกขึ้นเป็นจ้าวกรุงลงกา โดยมีพระลักษมณ์สวมมงกุฏให้ ในท้องพระโรงมีแต่ลิง

มีแต่ลิงจริง ๆ มองไปปราด มียักษ์ไม่เกินสองสามตัว

เราคิดว่าหนังแขกมันมี "เพดาน" อยู่ และจะมีอย่างนั้นตลอดไป คือหนังแขกที่ทำเรื่อง "เทพเจ้า" นั้นจะตีความใหม่ไม่ได้ จะตีความให้ฝ่ายดีเลว และฝ่ายเลวดีไม่ได้ จะทำให้พิเภกรู้สึกสะท้อนใจในวันราชาภิเษกของตัวเองไม่ได้ แม้ในท้องพระโรงมีแต่ลิง และประเทศมันจะกลายเป็นเมืองขึ้น มันก็ต้องดีใจ

เพราะหนังแบบนี้ทำตามคำสอนของศาสนา และวัฒนธรรมการตั้งคำถามกับศาสนาของตัวเองยังไม่แพร่หลายในอินเดีย ( รวมทั้งประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ )

บางทีเราก็คิดว่า...การตั้งคำถามมันก็ดี เพราะมันเปิดโปงสิ่งที่ถูกปิด ทำลายกำแพงที่บางครั้งก็ก่อไว้ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรก่อ

แต่บางทีเราก็คิดว่า...ชีวิตมันคืออะไร และชีวิตจะไปถึงไหน ถ้าเราอยู่ภายใต้ศาสนาโดยไม่เกิด disillusion เลย เราจะสบายใจกว่าการที่พบว่าที่จริงทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นหรือเปล่า

แต่ถ้าเราได้รู้ว่าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เห็น มันสบายใจกว่าหรือเปล่า

หรือบางทีทุกอย่างอาจจะลวงตา และไม่มีอะไรสำหรับเห็นหรือไม่เห็นเลย

เราดูพิเภกมาหลายเวอร์ชั่น ทุกครั้งเราก็คิดว่า "พิเภก ได้อะไรมา เสียอะไรไป"

มันมีเวอร์ชั่นที่ justify การกระทำของพิเภกได้ไม่เลว ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้

และมันก็มีเวอร์ชั่นที่ทำให้พิเภกเหมือนคนคลั่งศาสนาธรรมดา ๆ

เราคิดว่าทุกคนน่าจะรู้ว่า "ชีวิตมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น" แต่ถ้าหากว่าไม่ทำให้มันง่าย บางทีมันก็ซับซ้อนเกินไปจนคนเราขี้เกียจเข้าใจ

เราไม่อยากให้คนขี้เกียจเข้าใจ แต่เราก็ยังมีความไม่รู้ในชีวิตอีกมาแหละนะ




 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 23:00:01 น.
Counter : 466 Pageviews.  

ความหวังแปลก ๆ ในชีวิต

วันนี้เดินผ่านหน้าร้านขนม แบบร้านท็อฟฟี่ตามห้างมีท็อฟฟี่เยอะ ๆ น่ะ ทำให้นึกขึ้นมาได้

ว่าเรามีความฝันชั่วชีวิตว่าอยากกินอมยิ้ม

คือไม่ใช่อมยิ้มแบบจุบาชูปส์นะ เราอยากกินอมยิ้มแบบที่เหมือนในการ์ตูน ( แบบที่อยู่หลังชื่อคนที่มีบล็อคนี่แหละ ) ไอ้ที่เป็นสีแดงสลับขาว อันแบน ๆ ใหญ่ ๆ กลม ๆ

เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะอร่อยหรือเปล่า เราแอบคิดว่าคงไม่อร่อย แต่เราไม่เคยเห็นขายที่ไหนในไทยแลนด์แดนสยามเลย เราเคยเห็นมันตั้งแต่เด็ก อ่านการ์ตูนก็เจอ คนวาดรูปอมยิ้มก็ชอบวาดแบบนี้ แต่ทำไมไม่มีคนทำขาย ไม่มีคนกิน

สมัยเด็ก ๆ ที่โรงเรียนอนุบาล ตอนแสดงประจำปีเสร็จจะมีแจกอมยิ้ม อันเล็ก ๆ กลม ๆ สีเหลืองสีแดงสีเขียว เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะแบบนั้นหรือเปล่า แต่ถึงเราจะไม่ค่อยได้กินท็อฟฟี่และไม่ค่อยได้ซื้อ แต่เราจะชอบอมยิ้มเป็นพิเศษ คือถ้าจะซื้อท็อฟฟี่ขึ้นมา เราก็จะซื้ออมยิ้ม ( จุบาชูปส์นั่นแหละ )

มันเป็นความหวังแปลก ๆ - -'' แต่ก็หวังมาตลอดแหละนะ




 

Create Date : 19 สิงหาคม 2548    
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 22:57:31 น.
Counter : 500 Pageviews.  

ถึงเมื่อไหร่

วันนี้เล่าให้น้องชายฟัง เรื่องเรียลลิตี้โชว์ที่อ่านเจอในแพรวเล่มเก่า ๆ

เป็นเรียลลิตี้ เฟ้นหาพระเอกหนังเอกซ์ เนื้อหาคือให้ผู้ชายที่เป็นผู้แข่งขันอยู่ในบ้านกับนางเอกหนังเอกซ์ ต่างคนก็จับคู่กันไป กล้องก็อยู่ทั่วบ้าน ใครถูกที่ถูกท่าถูกใจ ก็ได้เป็นเดอะวินเนอร์

น้องชายก็บอกว่า เรื่องแบบนี้ วันนี้ ที่นี่ รับไม่ได้ แต่ผ่านไปอีกสิบปี ยี่สิบปี เดี๋ยวเรื่องแบบนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องที่ "รับได้" เป็นเรื่องที่ "ธรรมดา"

เพราะสมัยหนึ่งฝรั่งกับญี่ปุ่นก็มีเรื่องที่ "รับไม่ได้" มีเรื่องที่ "ไม่ธรรมดา" เหมือนกัน

กาลครั้งหนึ่ง เราสามารถดูทุกเรื่องได้โดยไม่ต้องคิดอะไรเลย ไม่ต้องคิดว่าชายคนนั้นจะเป็นอะไรได้มากกว่าเพื่อนของชายคนนี้

แต่เดี๋ยวนี้ ในบางมุมของสังคม การที่ชายคนนั้นเป็นอะไรกับชายคนนี้ กลายเป็นดูธรรมดายิ่งกว่าหญิงคนนั้นเป็นอะไรกับชายคนนี้เสียแล้ว

น้องชายเราบอกว่าสักวัน กระแสสังคมก็จะไหลไป สู่ความเสื่อม พินาศ แล้วก็สร้างขึ้นมาใหม่

เราถือว่าตัวเราเองเป็นคนฟรี คือตัวเราก็มีมาตรฐานอย่างหนึ่งในใจ แต่เราไม่เคยคิดว่าใครจะต้องทำตามมาตรฐานของเรา เราคิดว่าทุกคนมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้

ถ้าทุกคนรับผิดชอบ

เราเห็นในการ์ตูนของไอ ยาซาว่า มันมีฉากเซ็กซ์ในวัยเรียน แต่เราก็เห็นด้วยว่าไอ ยาซาว่า ต้องพูดเรื่องถุงยางทุกครั้ง

เราคิดว่านั่นเป็นความรับผิดชอบ

แต่...เรากำลังคิดอยู่ว่าความคิดเรื่อง "ฟรี" ของเราถูกต้องแค่ไหน

เพราะว่าเส้นบาง ๆ ระหว่างความฟรี กับความลุ่มหลงมัวเมานั้นมันบางเสียจนน่ากลัว

และถ้าผ่านเส้นนั้นไปแล้ว ทุกอย่างก็จะหมุนวน วน วน ลงไปสู่ท่อน้ำทิ้งที่เรียกว่า "ความเสื่อม" จริง ๆ

ผู้ชายที่ข่มขืนผู้หญิง มีไม่น้อยก็เกิดขึ้นเพราะดูรูปโป๊มากเกินไป ดู ๆ เสียจนคิดว่าผู้หญิงกลายเป็น "วัตถุ" คิดว่าผู้หญิงเป่าซอกคอทีหนึ่งก็ระทวย และพอระทวยแล้วก็จัดการได้ เพราะผู้หญิงชอบ

คำพูดชุดเดียวกันถูกใช้กับเกย์ เพิ่งมีคนรู้จักบอกเราว่า "เกย์บางคนข่มขืนผู้ชาย แล้วจากนั้นผู้ชายจะติดใจในเพศรส เพราะมันเจ๋งกว่าผู้หญิง"

ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม แต่เราเห็นว่าโลกนี้ไม่ได้อยู่ได้ด้วยเพศรส

ถ้าทุกอย่างเหลือเพียงเพศรส ทุกอย่างที่เหลือก็เป็นเพียงความฉาบฉวย ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนจะถูกลบไป ความลึกซึ้งอื่น ๆ ก็ไม่มี เพราะปัญหาทุกอย่างถูกมองว่าแก้ได้บนเตียง

ถึงตอนนั้นก็เละ เหมือนที่อาณาจักรโรมันเละ เหมือนที่อาณาจักรอินเดียเละ เพราะว่าทุกอย่างมัน "ฟรี" ไปหมด มันเน่าอยู่ข้างใน

และลูกตุ้มก็จะเหวี่ยงกลับ ไปสู่ด้านที่เข้มงวดจนน่าตกใจ

เราอยากจะหวังว่าที่ใดที่หนึ่งในโลก มันมีอะไรบางอย่างที่อยู่ตรงกลาง อะไรที่จะประนีประนอมได้ ระหว่างความเข้มงวดจนน่ากลัว ผู้หญิงต้องใส่สุ่มออกจากบ้าน กับความฟรีจนน่ากลัว ชนิดที่เขียนไว้เกี่ยวกับเมืองโซดอม กอมโมราในไบเบิ้ล หรือเป็นลัทธิตันตระในอินเดีย

แต่บางทีตรงกลางอาจจะไม่มีจริง

บางทีทุกอย่าง โลกที่เราอยู่ อาจจะกำลังหมุนวนไปสู่ท่อน้ำทิ้งทางประวัติศาสตร์

มันจะเป็นอย่างนั้นถึงเมื่อไร อีกนานแค่ไหน เราจะได้อยู่จนเห็นมันไหม

เราจะคิดว่ามันธรรมดาไหม เราจะได้เห็นจนมันวินาศ และตัวเราเองจะต้องใช้ชีวิตผ่านวินาศครั้งนั้นไหม

หรือบางทีทุกคนต่างพากันคิดว่าโลกที่ตัวเองอยู่แย่ ทั้งที่มันไม่ได้ หรือไม่เคย แย่ขนาดนั้น

คนเมื่อสหัสวรรษแรกก็เคยคิดว่าโลกจะแตก แต่มันก็ไม่แตก

คนคิดว่าโลกจะแตก จะเสื่อม จะพินาศอยู่ทุกยุคทุกสมัย

แต่มันก็ไม่ได้แตก มันเสื่อม แล้วก็กลับขึ้นมา แล้วก็เสื่อม แล้วก็กลับขึ้น

บางทีตั้งแต่แรกที่ของบางอย่างเกิด มันก็อาจจะเริ่มเสื่อมในวินาทีนั้นด้วยเลยก็ได้

เราตั้งตุ๊กตาแป้งของเราไว้นานแล้ว เราคิดว่า "คนเราเกิดมาเพื่อทำให้บางอย่างดีขึ้น" เรารู้ว่ามันเป็นตุ๊กตาแป้ง แต่เราก็กอดมันไว้แน่น

เรารู้สึกว่ามีตุ๊กตาแป้งก็ดีกว่าไม่มี




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 22:54:24 น.
Counter : 524 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.