• กล้วยไม้
• ท่องเที่ยวทั่วไทยไปกับนายแจ้ห่ม47
• งานนิทรรศการทั่วไทย
• คนนอกวัด
• เที่ยวสวนกล้วยไม้กับนายแจ้ห่ม47
• เส้นทางอาชีพกับนายแจ้ห่ม 47
• พาเที่ยวมหาวิทยาลัย
• ชีวิตที่พอเพียง
• เพลินกับเฟิน
• ข้อคิดเพื่อคนทำงาน
• รถยนต์
• ความรู้เรื่องวัวชน ไก่ชน กีฬาพื้นบ้าน
• ริมรั้วกีฬา
• ต้นไม้-ดอกไม้
• ข่าวท้องถิ่น
• บ้านของเรา
• ยางพารา (Rubber)
• ต้นไม้ใบหญ้า
• การลงทุนในหุ้นและหลักการบริหารเงินแบบพอเพียง
• โคนม อาชีพพระราชทาน
• เกษตรกรแข็งขัน เป็นกระดูกสันหลังของชาติ
• หุ้น (ในมุมมองของฝ่ายขาย)
• โคนม
• โคเนื้อ
• แพะ-แกะ

เอื้องครั่ง (Dendrobium parishii Rchb.f.) ชื่ออื่นๆที่เรียก เอื้องครั่งสั้น เอื้องครั่งสายสั้น เอื้องสายน้ำครั่ง เอื้องอินทกริต จุดเด่นคือ ดอกสวย กลิ่นหอมมาก ผมคิดกลิ่นหอมของมันหอมเย็นๆบอกไม่ถูกครับ แต่ชอบครับ ออกดอกเดือน กพ-พค ก่อนออกดอกมันจะทิ้งใบช่วงปลายปี หลังจากผ่านอากาศเย็น มันจะแทงช่อช่วงต้นเดือน กพ ครับ พบในป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ชอบอยู่ในที่โลงแสงแดดจัด ที่ความสูง 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล การเจริญจะแตกกอ มันจะมีกาบสีขาวหุ้มลำต้น ดอกจะออกตามข้อ ช่อละ 1-3 ดอกครับ ดอกมีขนาดเล็ก 4 ซม ดอกมีสีชมพูออ่น จนถึงสีม่วงเข้ม บางครั้งมีสีขาว กลีบปากมีขนปกคลุม นับเป็นไม้หายากอีกชนิดหนึ่ง เป็นที่นิยมเลี้ยง แต่ช่วงหลังมามีการทำไม้ขวด หรือไม้นิ้ว ขายตามงานประกวดกล้วยไม้ต่างๆครับ สรุปเอื้องครั่งเป็นกล้วยไม้ ดอกสวย กลิ่นหอมครับ จงทำดีกับคนรอบข้างก่อนที่จะไปทำดีกับคนอื่นๆที่ไม่รู้จักครับ เพิ่มเติมอีกชุด ถ่ายเมื่อ 15 กพ 2553 ดอกตูมของต้นนี้ดกมากกว่าปีที่แล้ว ต้นนี้บางดอกเหี่ยวแล้วครับ อีกต้นปลายลำมี 4 ดอกบานส่งกลิ่นหอมทั่วบ้านครับผม แบบเป็นช่อยาว   Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2553     Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2553 23:40:38 น. Counter : 3165 Pageviews.   10 comment Share Tweet

เอื้องสายน้ำผึ้ง (Dendrobium primulinum Lindl) ชื่ออื่นๆที่เรียก เอื้องสายประสาท เอื้องสายเหลือง มีสองสายพันธุ์ย่อย คือ สายน้ำผึ้งไทย ดอกจะเล็กแต่ กลีบดอกจะมีสีชมพู และ กลีบปากมีลายริ้วสีชมพู ดอกขนาด 3.5 ซม สายน้ำผึ้งลาว ดอกจะมีขนาดใหญ่กว่าขนาดดอก 5-7 ซม กลีบดอกจะมีสีขาวปลายกลีบอมสีชมพู กลีบปากจะใหญ่มีสีเหลือง มีขนกำมะหยี่ที่ปากดอก พบได้เกือบทุกภาค พบในป่าเบณจพรรณ ชอบที่โลงและมีแสงแดดจัด การปลูกห้อยลำต้นลง เกาะกับต้นไม้จะงามกว่าเกาะขอนไม้ ออกดอกช่วง กพ-เมย ก่อนออกดอกมันจะทิ้งใบก่อนสัก 2 เดือน หลังจากนั้นอากาศเย็นจะเร่งการแทงช่อ ดอกจะออกปลายลำต้นตามข้อ ช่อละ 2-3 ดอก ดอกมีกลิ่นหอมเล็กน้อยครับ เป็นกล้วยไม้ที่ผมชอบอีกชนิด ถ้าต้นมันสมบูรณ์มันจะออกดอกทุกข้อ และมีการเรียงตัวกันอย่างสวยงาม และด้วยความที่มันทิ้งใบก่อนออกดอกดังนั้นเมื่อมันออกดอกดอกมันจะเด่นมาก ดอกบานได้ถึง 2 สัปดาห์ ช่วงออกดอกอย่ารดน้ำให้โดนดอกดอกจะบานทนขึ้นครับ เมื่อเลี้ยงไปนานๆมันจะแตกกอเพิ่มจำนวนลำมากขึ้น เราก็สามารถแยกกอออกเอามาเลี้ยงได้ครับ นับว่าเป็นกล้วยไม้ที่น่าเลี้ยงอีกชนิดหนึ่งครับ ขอให้มีจิตใจที่เบิกบานเหมือนดอกกล้วยไม้บาน สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจครับ บานเพิ่ม 2 มีค 53 สายน้ำผึ้งไทย สายน้ำผึ้งลาว Update สายน้ำผึ้งลาวบานที่สวน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ปี 2555 1 2 3 4 5   Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2553     Last Update : 17 มีนาคม 2555 14:57:31 น. Counter : 2776 Pageviews.   1 comment Share Tweet

เอื้องมัจฉา(Dendrobium palpebrae Lindl)และเอื้องมัจฉานุ (Dendrobium fermeri Paxton) เอื้องมัจฉา พบในป่าดิบเขา ป่าเต็งรัง ป่าสนเขา ชอบแสง บางที พบเจริญบนหิน ออกดอกเดือน กพ - มีค ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่อดอกยาว 10 - 20 ซม จำนวนดอก 15-30 ดอกต่อช่อ ดอกสีขาว กลีบปากมีสีเหลือง มีขนสั้นปกคลุมทั่วกลีบปาก ลำต้นเป็นลำสี่เหลี่ยม โคนเรียวกลมปลายสอบ ลำต้นยาว 20 ซม ใบเกิดใก้ยยอดมีใบ 2-5 ใบ ช่อดอกเกิดปลายยอด ช่วงแรกผมจะจำสับสนกับญาติของมันคือ เอื้องมัจฉานุ (Dendrobium fermeri Paxton) แต่จะมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้ 1. เอื้องมัจฉา ลำต้นมักจะยาวและใหญ่กว่า เอื้องมัจฉานุ 2. เอื้องมัจฉา ดอกจะมีสีขาวปากเหลือง ส่วนเอื้องมัจฉานุ ดอกจะมีสีขาวอมชมพูจนถึงถึงม่วงอ่อน ปากสีเหลือง 3. เอื้องมัจฉา กลีบดอกรูปไข่ขอบมีขนสั้นๆ กลีบปากรูปกลม มีขนปกคลุมทั่วกลีบปาก เอื้องมัจฉานุ กลีบดอกรูปไข่ปลายมน กลีบดอกปลายมน ขอบกลีบเป็นขนกำมะหยี่ กลีบปากเป็นรูปพัด มีขนปกคลุมทั่วกลีบปาก แต่สำหรับผมดูสีของดอกจะชัดสุดในการจำแนก เอื้องมัจฉา อีกมุม จัดเป็นไม้พันธุ์แท้ที่นิยมเลี้ยง และหายากอีกชนิดหนึ่ง ปลูกเลี้ยงง่าย พอสมควรส่วนจะออกดอกหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ต้องรอสภาพแวดล้อม และสภาพอากาศที่เหมาะสมจึงจะได้เห็นดอก ผลจากการปลูกเลี้ยงที่บ้านลพบุรี บางต้นให้ดอกบางต้นไม่ให้ดอกครับ ขอให้สนุกสนานกับการเลี้ยงกล้วยไม้ครับ เพิ่มเติม 2 มีค 53 เอื้องมัจฉานุ บานแล้วที่ลำปาง อากาศที่ลำปางหนาวและเหมาะสมกับมัจฉานุ กลางวันร้อน อากาศกลางคืนเย็น ไม่เกิน 25 องศา ผมย้ายจากลพบุรี 3 เช้า แทงช่อดอกทุกกระเช้า ในขณะที่ลพบุรีบาน 2 กระเช้า นอกนั้นมีแต่ต้นกับใบ มาดูต้นแรกครับมี 7 ช่อ อีกกระถางมี 2 ช่อ เหี่ยวไปแล้ว 1 ช่อ   Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553     Last Update : 2 มีนาคม 2553 21:19:02 น. Counter : 14268 Pageviews.   8 comment Share Tweet

ข้อมูลกล้วยไม้พันธุ์แท้ที่เลี้ยงได้ในกรุงเทพและปริมณฑล มีคำถามบ่อยๆว่าไม้ที่ซื้อมาเอามาเลี้ยงกรุงเทพแล้วจะให้ดอกได้หรือไม่ วันนี้ผมจึงรวบรวมข้อมูลจากหนังสือ ความสุขจาการเลี้ยงกล้วยไม้ และหนังสือกล้วยไม้จากเล่มต่างๆ ถึงกล้วยไม้ที่เลี้ยงได้ดีและเลี้ยงได้ยาก ในกรุงเทพและปริมณฑลเพื่อเป็นแนวทางครับ จะได้ไม่เสียเงินเปล่าๆ กล้วยไม้พันธุ์แท้ที่ออกดอกได้ในกรุงเทพและปริมณฑล ช้างต่างๆ เข็มแสด เข็มขาว เขาแกะ เขากวางออ่น สิงโตกลอกตา พญาไร้ใบ สายหลวง สายนกกระจิบ สายน้ำครั่ง กุหลาบเหลืองโคราช ผีเสื้อน้อย กะเรกะร่อน เหลืองจันทบูร เพรชหึง รองเท้านารีเหลืองปราจีน ขาวสตูล เอื้องดอกมะขาม เอื้องดอกมะเขือ เอื้องโมก เอื้องพร้าว เอื้องหนวดพราหม์ เอื้องมะลิ รองเท้านารีเหลืองตรัง กะเรกะร่อนปากเป็ด สายไหม รองเท้านารีเหลืองกระบี่จุกโรหินี ไอยเรศ แดงอุบล อั่วชมพูไพร เอื้องเข็มชมพู กล้วยไม้พันธุ์แท้ที่ออกดอกได้ยาก ในกรุงเทพและปริมณฑล (ต้องอาศัยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่นบางปีอากาศเหมาะสมก็จะออกดอก) เข็มม่วง กุหลาบกระบี่ กุหลาบแม่เมย เอื้องผึ้ง เอื้องคำ สามปอยขุนตาลสามปอยชมพู ฟ้ามุ่ยน้อย เก๊ากิ่ว ฟ้ามุ่ย เอื้องทอง สายน้ำเขียว เอื้องมัจฉาสามปอยหลวง สามปอยชมพู กุหลาบกระเป๋าปิด-เปิด กุหลาบมาลัยแดงเอื้องเงิน ม้าวิ่ง เอื้องครั่งแสด เอื้องผาเวียง เอื้องกิ่งดำ เอื้องช้างน้าวเอื้องช้างน้าว กุหลาบอินทรจักร เอื้องกุหลาบน่าน สามปอยชมพู สำเภางามรองเท้านารีอินทนนท์ กะเรกะร่อนอินทนนท์ รองเท้านารีสุขขะกุล รองเท้านารีดอยตุงเอื้องคำปอน แววมยุรา เอื้องช่องวงช้าง กล้วยไม้พันธุ์แท้ที่เลี้ยงยากและออกดอกได้ยากมาก ในกรุงเทพและปริมณฑล(ไม่แนะนำให้ซื้อครับ ถ้าจะทดลองเลี้ยงต้องทำใจครับ)เอื้องมอนไข่ เอื้องมณีไตรรงค์ เอื้องสายวิสูตร เอื้องแซะ กระดิ่งภู พลายชมพูเอื้องไม้เท้าฤษี เอื้องสายสามสี เอื้องชะนี กะเรกะร่อนปากนกแก้ว พวงหยกเอื้องจำปาน่าน เอื้องคำผักปราบ เอื้องสายมรกต เอื้องเมี่ยง ตรียัมปวาย เอื้องแซะหลวงเอื้องสายม่วง เอื้องแซะภูกระดึง และกล้วยไม้ที่มีถิ่นอาศัยสูงจากระดับน้ำทะเลมากๆ กล้วยไม้ที่อยู่ที่สูงต้องการความชื้นสูงและอุณหภูมิต่ำ ลองพิจารณาดูนะครับ ผิดพลาดประการใดขอรับไว้แต่ผู้เดียว ขอให้มีความสุขในการเลี้ยงกล้วยไม้ครับ   Create Date : 28 มกราคม 2553     Last Update : 27 ตุลาคม 2553 8:25:53 น. Counter : 6376 Pageviews.   10 comment Share Tweet

แวนด้า ไม้สำหรับผู้อาวุโสจริงหรือ ถ้าท่านเข้าเรือนกล้วยไม้พันธุ์ทิพย์ สมาชิกมักจะแซวผู้เล่นแวนด้าว่า เป็นผู้อาวุโส ผมคิดว่ามันเป็นไม้ตัวแรกๆที่วงการกล้วยไม้ของไทยเราเล่นกันมานานมาก ตั้งแต่รุ่นพ่อของเรา เมื่อก่อนแวนด้าฟ้ามุ่ยจะเป็นอะไรที Hot มากๆ ใครมีต้นที่ให้ดอกสวยๆ เหมือนมีลูกสาวสวยต้องหวงและห่วง มาก สามารถทำไม้ขวดขายจนรำจนรวย วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลแวนด้าฟ้ามุ่ย จากข้อมูลหลายๆที่เพื่อประดับความรู้ของพวกเราชาวผู้รักกล้วยไม้ครับ ฟ้ามุ่ย Vanda coerulea เป็นไม้ที่สำคัญในสกุลแวนด้า เรียกว่า The mother of vandalถิ่นกำเหนิด ภูเขาสูงเป็นแนวจากพม่า ผ่านทางตอนเหนือของไทย ไปจนถึงจีนตอนใต้ พบอยู่ในที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 -3,000 เมตร อุณหภูมิแตกต่าง 15 องศาC ระหว่างกลางวันและกลางคืนฟ้ามุ่ยชอบภูมิอากาศที่มีฤดูแต่ละฤดูมีความแตกต่างกันชัดเจน คือฤดูหนาวๆจริงๆ ฤดูร้อนรอนจัด ฤดูฝนฝนตกชุก ชื้นและเย็น แต่ไม่ชอบอากาศชื้นมากตลอดเวลาเพราะจะติดเชื้อราเน่าได้ง่าย วงการกล้วยไม้ไทยเลี้ยงฟ้ามุ่ยมานานมากช่วงปี 2500 เป็นต้นมา มีกระแสบูมมากมาย ก่อนที่จะซาเพราะมีลูกผสม แวนด้า และ ไม้ใหม่ๆที่นำเข้ามาให้นักล้วยไม้ได้เสพความงาม มันจึงค่อยๆซาลง แต่ความสำคัญก็ไม่ลดลงนะครับ คุณลักษณะดีเด่นของฟ้ามุ่ย ดอกใหญ่ ดอกดก ก้านช่อยาว มีลายตาข่ายที่ดอก เรียกว่า ลายสมุก บานทน กล้วยไม้สกุลแวนด้าหรือลูกผสม ที่มีดอกสีม่วง สีม่วงอมฟ้า ล้วนแต่มีเลือดของฟ้ามุ่ยทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 75 ชนิด แนวทางการเลี้ยงฟ้ามุ่ยหรือแวนด้าอื่นๆ ให้งามเหมือนธรรมชาติ 1.ใช้วิธีเกาะกับต้นไม้เพื่อให้รากเดินเกาะกับต้นไม้แบบนี้ก็จะดีที่สุด 2.ใช้กระเช้าไม้สัก มีถ่านรองก้นกระถางเล็กน้อย หรือไม่ใช้ก็ได้ และใช้ลวดออ่นมัดต้นติดกระเช้ากันโยกทำให้รากเดินติดกระเช้าได้เร็วขึ้น ถ้าเป็นลูกไม้นิ้วควรใส่ถ่านด้วยเพราะต้องการความชื้นในการเติบโต 3.การเริ่มปลูกไม้ประมาณ เดือน เมษายน ไม้จะแตกรากและตั้งตัวได้เร็ว 4.การใช้น้ำกระด้าง หรือ เป็นกรดเป็นด่างมากไป หรือให้ปุ๋ยมากไป รากมันจะชงัก ทำให้โตช้ากว่าปรกติ ข้อสังเกตของเซียนแวนด้าฟ้ามุ่ยให้คำแนะไว้ 1.ฟ้ามุ่ยที่มีลายชัดตอนออกจาป่า ถ้ามาเลี้ยงในเมือง สีและลายมักจะหาย เหลือแต่สีที่ปาก 2.ฟ้ามุ่ยที่ใบเรียงกันแน่น ใบหนากว้างและสั้น ปลายรากมีสีแดงเข้ม มักจะให้ดอกสีเข้มและฟอร์มดอกดี 3.การที่เร่งปุ๋ยมากอาจทำให้สีของดอกฟ้ามุ่ยหายได้ การให้ปุ๋ยให้ยาต้องระวังอย่าให้มาก 4.โรงเรือนที่โปร่งพรางแสง 50 % จะให้ดอกสีเข้ม และให้ดอกมากกว่าโรงเรือนทึบแสง โรคยอดเน่าจะน้อยกว่า 5.ความสูงจากระดับน้ำทะเล มีผลต่อความเข้มของสีดอก เชื่อกันว่ายิ่งสูงสีดอกยิ่งเข้ม 6.การให้ดอกแต่ละครั้งของฟ้ามุ่ย แต่ละครั้ง สี ฟอร์ม ขนาดดอก ความยาวช่อ จะแตกต่างกัน ผันแปรกับสภาพอากาศในแต่ละครั้งที่ออกดอก 7ถ้าให้ฟ้ามุ่ยติดฝัก หลังจากนั้นดอกที่เกิดภายหลังจะมีคุณภาพต่ำกว่าเดิม 8.ฟ้ามุ่ยจะได้อย่างเสียอย่างคือ ฟอร์มดอกดีสีมักจะไม่ดี สีเข้มฟอร์มดอกจะไม่สวย ถ้าสวยทั้งสองอย่างจะหายาก 9.ถ้าเราตัดช่อดอกออก สัก 40 % คุณภาพดอกจะดีขึ้นกว่าเดิมอย่าชัดเจน 10.ดอกที่มีควรไม่ต่ำกว่า 10 ดอกต่อช่อ 11.มีความไวต่อการเปลรียนแปลงต่อสภาพแวดล้อมมาก ไวต่อการใช้สารเคมี ปุ๋ย หรือ ย้ายตำแหน่งแขวน ก็มีผล 12.ฟ้ามุ่ยที่เลี้ยงในภาคกลาง รากไม่ค่อยสวย ใบมักเป็นจุดและเน่าง่าย กว่าเลี้ยงทางภาคเหนือที่เป็นต้นกำเหนิด 13.การใช้ บี 1 บำรุงรากจะช่วยให้รากสมบูรณ์ (ปัจจุบันราคาไม่แพง แกลลอนละ 300 บาท/4 ลิตร) 14.โรคใบเน่าเละจะเกิดช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝน เมย – มิย การฉีดยากันราก่อนเข้าหน้าฝนล่วงหน้าจะช่วยป้องกันได้ 15.ฟ้ามุ่ยจะเริ่มให้ดอกช่อแรกเมื่อมีใบจำนวน 4 คู่ สูงประมาณ 15 ซม และลำต้นยาวได้ถึง 100 ซม ดอกแต่ละช่อจะมีได้ 3-20 ดอก ช่อดอกยาว 15 -50 ซม ขนาดดอกกว้าง 6-10 ซม เนื่องจากข้อจำกัดของฟ้ามุ่ย ทำให้นักปรับปรุงพันธุ์ของเราได้นำเข้าไม้สกุลแวนด้า มาจากต่างประเทศ หรือใช้ไม้สกุลแวนด้าในประเทศเพื่อปรับปรุงลักษณะด้อยของฟ้ามุ่ยให้ดีขึ้น เลี้ยงง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีลูกผสมที่มีเลือดขอแวนด้าที่เลี้ยงง่ายมาก คือ สกุลอแรนด้า (Aranda) เป็นลูกผสมสกุลแวนด้า กับ สกุลอแรคนิส(Arachnic)สกุลแมลงปอ สกุลมอคคารา (Mokara) เป็นลูกผสมสกุลอแรคนิส(Arachnic)กับ สกุลแอสโคแซนด้า (Ascocenda) ทั้งสองสกุลลักษณะจะเหืมอนกันมาก แต่มีข้อสังเกต คือสกุลอแรนด้า (Aranda) มีกลีบดอกกว้างและลำต้นสูงกว่า สกุลมอคคารา (Mokara) ข้อดีของลูกผสมของสองสกุลนี้คือปลูกง่าย ใช้ปุ๋ย น้อยกว่าสกุลหวาย ปลุกง่ายปลูกลงแปลงกับพื้นโดยใช้กาบมะพร้าวรองพื้น หรือปลูกบนร้านกล้วยไม้ ชอบแสงมากพรางแสง 50% การขยายพันธุ์โดยการตัดยอดปลูก หรือออกขวด จะออกดอกง่ายมากถ้าปุ๋ยถึง 3 ครั้งต่อปี ผมว่าแวนด้าเป็นไม้มหาชน ดอกสวย ราคาไม่แพง หาซื้อง่ายราคา 150 - 250 บาทต่อกระถาง ไม่ใช่ไม้สำหรับผู้สูงวัยแต่ประการใด จริงไหมครับ   Create Date : 25 มกราคม 2553     Last Update : 25 มกราคม 2553 22:28:13 น. Counter : 10826 Pageviews.   3 comment Share Tweet

• โหยหาชนบท
• pinuaoo2006
• mutcha_nu
• phu-sin
• DZym
• มะโรง
• Violeta Lady
• endless man
• ปุ้ม ครับ
• Ni.Somsak
• ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
• เหมียวสินธร
• นายแป๊ะก้วยพาเที่ยว
• kuk-42
• Mr.Kim Henry
• ลิงเล
• Dendmax
• doyngam
• ดาท เวเดอร์
• Opey
• 1twenty2
• spry_dragon
• bushycottage
• Green Thumb
• หนูบู้บี้
• Patteera
• สำเภางาม
• น้าโหด
• sarawut_cm
• konjon
• kunjoja
• Webmaster - BlogGang