• กล้วยไม้
• ท่องเที่ยวทั่วไทยไปกับนายแจ้ห่ม47
• งานนิทรรศการทั่วไทย
• คนนอกวัด
• เที่ยวสวนกล้วยไม้กับนายแจ้ห่ม47
• เส้นทางอาชีพกับนายแจ้ห่ม 47
• พาเที่ยวมหาวิทยาลัย
• ชีวิตที่พอเพียง
• เพลินกับเฟิน
• ข้อคิดเพื่อคนทำงาน
• รถยนต์
• ความรู้เรื่องวัวชน ไก่ชน กีฬาพื้นบ้าน
• ริมรั้วกีฬา
• ต้นไม้-ดอกไม้
• ข่าวท้องถิ่น
• บ้านของเรา
• ยางพารา (Rubber)
• ต้นไม้ใบหญ้า
• การลงทุนในหุ้นและหลักการบริหารเงินแบบพอเพียง
• โคนม อาชีพพระราชทาน
• เกษตรกรแข็งขัน เป็นกระดูกสันหลังของชาติ
• หุ้น (ในมุมมองของฝ่ายขาย)
• โคนม
• โคเนื้อ
• แพะ-แกะ

ลำปางแล้งและร้อนมากๆ....แต่ก็มีกล้วยไม้สวยๆช่วยคลายร้อน ปีนี้ อ.แจ้ห่มแล้งมากๆ จนกระทั่งบ่อน้ำที่รดกล้วยไม้น้ำแห้ง ฝนไม่ตก มีแต่เมฆผ่านให้ดีใจ ดูสภาพสวนสัปปะรดแล้งๆครับ จากรูปน้ำในเขื่อนกิ่วลมก็แห้งขอดเหลือแต่บริเวณที่มีน้ำขังนิดหน่อยครับ กล้วยไม้ที่สวนก็ได้รับผลกระทบจากความร้อนแล้ง และการได้น้ำน้อย บางชนิดก็แย่รอฝนอย่างเดียว บางชนิดระบบรากดีก้พอได้เห็นดอกครับ เริ่มจากเอื้องสายสามสี ครับ ดอกไม่ค่อยสมบูรณ์นักผลกระทบจากโลกร้อน อากาศแล้ง กุหลาบมาลัยแดง ต้นนี้ดอกงามมาก บานนาน กลิ่นหอมอ่่อนๆ เลี้ยงที่ลพบุรี ได้ชมแต่ใบ เลยย้ายมาลำปางได้เห็นดอกสมใจครับ ไอยเรศกำลังแทงช่อแต่ยังไม่บาน แววมยุรา ออกดอกให้ชมบ้างแต่ไม่มากและเหี่ยวเร็วผลจากความร้อน ดอกสีไม่สดและเหี่ยวเร็วเช่นกัน ปีหน้าแก้ตัวใหม่ครับ มีแต่สายหลวง หรือเอื้องครั่งสายยาว มาช่วยให้ความสดชื่นแบบเต็มๆ ทั้งดอกและกลิ่นหอม ออกแบบเต็มๆ ลำละ 20 ดอก ที่แจ้ห่มลำปาง สายหลวงจะงามเป็นพิเศษ รวมทั้งเอื้องสายอื่นๆด้วยครับ ดูดอกใกล้ๆ ฟอร์มดอก สมบูรณ์ดีมาก อีกต้น ต้นนี้ออกสามลำบานสะพรั่งสมใจ หายเหนื่อยที่รดน้ำและให้ปุ๋ยมาทั้งปี สิ่งที่พอจะแก้ไขได้เบื้องต้น ก็ย้ายพวกที่กำลังแทงช่อ ให้ดอกเอามาไว้ใต้ต้นมะม่วง และให้น้ำเช้าเย็นเพื่อความสมบูรณ์ของดอก ผมว่ามันน่าจะเกิปรากฎการโลกร้อนแน่ๆ ปรกติเืดือน พค ของทุกปีฝนก็จะตก มีความชุ่มชื้น แต่ปีนี้แจ้ห่มเงียบฝนยังไม่ตกเลยครับ ขนาดต้นสักที่ปลูกไว้ปลายฝนปี 52 ยังตายเลย แย่มนุษย์เป็นตัวการทำให้โลกร้อน อากาศ พค กับ เมย ร้อนไม่ต่างกันเลย ไม่รู้ เดือน มิถุนายน ฝนจะตกวันไหน !!!! (ขอบ่นหน่อยนะครับเกี่ยวกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง)   Create Date : 29 พฤษภาคม 2553     Last Update : 29 พฤษภาคม 2553 22:43:25 น. Counter : 4269 Pageviews.   7 comment Share Tweet

กล้วยไม้รองเท้านารี Paphiopedilum honey จากโครงการหลวงดอยตุง โครงการหลวงดอยตุงเป็นแหล่งที่มีกล้วยไม้รองเท้านารีหลากหลายสายพันธุ์ ในการเลือกซื้อ ผมได้ไปอุดหนุน กล้วยไม้รองเท้านารีมาหลายกระถาง ราคา 150 - 500 บาท ต่อกระถาง ผมก็ไปซื้อมาเป็นการช่วยชาวเขาให้มีงานทำและ ช่วยรักษาป่าต้นน้ำ Paphiopedilum honey(ลูกผสม) ราคา 300 บาทต่อกระถางได้เอามาแบ่งออกเป็น 3 กระถาง ในเดือน พย 52 และเลี้ยงต่อมาจนถึงเดือน เมย ก็ให้ดอกแล้วครับ เลยเอาาให้ชม ต้นยังไม่สมบูรณ์นักแต่ก็ให้ดอกมาสวยพอสมควร น่าจะเป็นอากาศ ที่ อ.แจ้ห่ม ลำปาง เหมาะสมก็ได้ คือกลางวันร้อน กลางคืนเย็น เครื่องปลูก ถ่านรองกระถาง กรวดแม่น้ำ เปลือกถั่วลิสง ใบมะขาม ตามสูตรที่คิดเองครับ เน้นการระบายน้ำ ส่วนปุ๋ยให้ปุ๋ยเกล็ดทางใบ ออกดอกทีละคู่ บานไม่พร้อมกัน ดอกสวยแปลกครับ ถ้าชอบกล้วยไม้รองเท้านารี โครงการหลวงดอยคุงก็เป็นแหล่งอีกแหล่ง ที่น่าอุดหนุนนะครับ   Create Date : 20 พฤษภาคม 2553     Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 21:29:23 น. Counter : 3130 Pageviews.   5 comment Share Tweet

เอื้องครั่งสั้น(Dendrobium parishii Rchb.f.) VS เอื้องครั่งยาว (Dendrobium anosmum Lindl.) วันนี้ขอเปรียบเทียบเอื้องครั้งสั้นกับเอื้องครั้งยาว เนื่องจากในตลาดกล้วยไม้ทั่วไปเรามักจะพบแต่เอื้องครั่งสั้น ส่วนเอื้องครั่งยาวหายากพอสมควร 1.ลำต้น เอื้องครั่งสั้น ลำต้นยาว 15-20 ซม เส้นผ่าศูนย์กลางลำลูกล้วย 0.5-0.7 ซม ใบยาว 7-10 ซม กว้าง 3 ซม ลำต้นแก่จะมีกาบสีน้ำตาลอ่อน เอื้องครั่งยาว ลำต้นยาว 45-60 ซม เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น 1-1.4 ซม ใบยาว 12-15 ซม กว้าง 4 ซม ลำต้นแก่จะมีกาบออกสีน้ำตาลเข้ม ขนาดดอก เอื้องครั่งสั้น ขนาดดอก 2.5-3 ซม กลีบดอกจะสีม่วงเข้มกว่า ครั่งสายยาว และกลิ่นครั่งสั้นจะหอมมากกว่า เอื้องครั่งยาว ขนาดดอก 5-6 ซม กลีบดอกจะเข้มน้อยกว่า และดอกจะคล้ายสายหลวง แต่ให้สังเกตความยาวของลำต้นประกอบ สายหลวงลำต้นจะยาว 80-120 ซม และกลีบดอกจะสีออ่นกว่า การบานจะเริ่มจากปลายเข้ามาหาโคนต้น และบานทั้งหมดภายใน 3 วัน ดอกจะเกิดตามข้อสลับกันจำนวน 10 -15 ดอกต่อต้น กลุ่มของดอกจะมีช่อละ 3 ดอกเหมือนกันทั้งคุ่ การปลูกครั่งสั้นเกาะกับขอนไม้จะดีที่สุด ส่วนครั่งสายยาวจะเกาะกับขอนไม้หรือใส่กระถางไม้สัก หรือกระถางพลาสติกกลม 6 - 8 นิ้ว รองก้นกระถางด้วยถ่านและอัดกาบมะพร้าวสับ ภาพมุมต่างๆของครั่งยาว   Create Date : 16 เมษายน 2553     Last Update : 17 เมษายน 2553 19:04:09 น. Counter : 6190 Pageviews.   6 comment Share Tweet

ไอยเรศ (Rhynchostylis retusa Blume.) ไอเรศเป็นกล้วยไม้ป่าที่นิยมเลี้ยงกันมากอีกชนิดหนึ่ง ออกดอก เมย -พค ดอกมีลักษณะเป็นพวงช่อดอกยาว 20-35 ซม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นับเป็นความโชคดีของชาวกล้วยไม้ ที่สวนใหญ่ๆมีการพัฒนาไอยเรศ มีการปรับปรุงพันธุ์ให้มีดอกสวยงาม และทำไม้ขวดออกมาจำหน่าย แต่ยังไม่แพร่หลายมาก ก็ช่วยลดการซื้อจากป่าให้น้อยลง คุณภาพ ดอกและขนาดดอก ความยาวของช่อดอก ดีกว่าจากธรรมชาติอย่างชัดเจน การออกขวดไอยเรศ ก็ทำเหมือนแวนด้าทั่วไป ส่วนท่านที่ซื้อไม้ป่า มีข้อแนะนำดังนี้ ใบต้องไม่เหี่ยวสังเกตจากริ้วรอยย่นของใบ รากต้อง สมบูรณ์ไม่ควรชื้อต้นที่ตัดรากออกเกือบหมด เลือกต้นที่มีรากสมบูรณ์ การปลูกเกาะต้นไม้ดีที่สุด หรือ ปลูกในกระถางไม้ หรือเกาะขอนไม้ รากไม้ จะโตเร็ว โดยใช้เครื่องปลูกรากชายผ้าสีดา หรือมอสรอง เพื่อให้ความชื้น ช่วง 6 เดือนแรกต้องมีความชื้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่แฉะเพราะจะทำให้เน่า จากวันแรกที่ท่านเอาเกาะไม้ มันจะใช้ เวลาอย่างน้อยเกือบปีกว่ารากจะเดิน ดังนั้นเราไม่ควรย้ายปลูก ไอยเรศบ่อยๆ การกระจายพันธุ์มีเกือบทุกภาค การเปลูกในภาคกลางสามารถให้ดอก เกือบทุกปี ถ้าต้นสมบูรณ์มันจะให้ดอก ถ้าต้นไม่สมบรณ์โอกาสออกดอก ก็น้อยลง ส่วนการปลูกให้ออกดอกสวยๆต้องปลูกเป็นกลุ่มเมื่อถึงเวลา ออกดอกมันจะดูเด่นกว่าการปลูกต้นเดี่ยว ราคาขายในตลาดค่อนข้างสูง เพราะการเจริญเติบโตต่อปีให้ใบไม่เกิน 2 คู่ ที่ท่านเห็นต้นที่ให้ดอกมักจะมีใบเกิน 4 คู่ ระยะเวลาการปลูก 4 ปี ขึ้นไป การให้ปุ๋ยและให้น้ำก็เหมือนกับแวนด้าทั่วไป ส่วนท่านที่เอาไปเกาะกับต้นไม้เมื่อรากเดินแล้วก็ไม่ต้องดุแลมากนัก เพียงให้ปุ๋ยให้น้ำบ้าง ก็งาม เพราะมันจะใช้ความชื้นและสารอาหารจากเปลือกไม้ และถ้าจะหาไม้ป่ามาปลูกควรปลุช่วงต้นฝนโอกาสรอดมากกว่าปลูกช่วงอื่นครับ   Create Date : 10 เมษายน 2553     Last Update : 10 เมษายน 2553 7:24:30 น. Counter : 6814 Pageviews.   9 comment Share Tweet

รองเท้านารีเหลืองปราจีน (Paphiopendilum concolor ) รองเท้านารีเหลืองปราจีน เป็นกล้วยไม้ที่เลี้ยงง่ายในภาคกลาง ออกดอกเกือบทั้งปี แต่ส่วนมากจะออกดอกช่วง เดือน พค - กค จากการสังเกตของผม เมื่อมีการย้ายกระถางเลี้ยงเดี่ยวมันจะออกดอก เมื่อมีใบคู่ที่ 4 มักจะออกคู่กัน 2 ดอกเมื่อต้นสมบูรณ์ ช่อดอกจะไม่ยาวนักเหมือนรองเท้านารีตัวอื่นๆ เครื่องปลูก ผมใช้ถ่านรองพื้น เปลือกถั่วลิสง และกรวดแม่น้ำ การให้น้ำควรให้วันละครั้ง และไม่ควรให้แฉะเกินไปโอกาสเน่าสูงมาก การให้ปุ๋ยควรใช้ปุ๋ยเกล็ดแทนปุ๋ยออสโมโคส ฉีดพ่นทุกสัปดาห์ พร้อมเสริม B1 ช่วยกระตุ้นราก รากรองเท้านารีสำคัญมากถ้ารากมีมากสมบูรณ์ ลำต้นจะใหญ่ ออกดอกเร็วดอกใหญ่ ก้านดอกแข็งแรง ท่านที่ซื้อไม้ป่า มาถ้าแม่ค้าตัดราก ส่วนใหญ่นำมาปลูกมักจะไม่รอดครับ สรุปแล้วถ้าเพื่อนๆยังไม่เคยเลี้ยงกล้วยไม้รองเท้านารี และอยู่ในพื้นที่ อากาศร้อนทั้งปี รองเท้านารีเหลืองปราจีน เป็นตัวแรกๆที่ผมแนะนำให้เลี้ยง จะได้ไม่ผิดหวัง และได้ชมดอกทุกๆปี อย่างสม่ำ Tips 1.รองเท้านารี ไม่ชอบแฉะ เครื่องปลูกต้องโปรง จากประสบการการเลี้ยง มันจะตายเพราะขาดน้ำเหี่ยวตายน้อยมาก ส่วนมาก 99% ตายเพราะให้น้ำมากไป ใบและยอดเน่าครับ 2.การแบ่งกอบ่อยๆ จะทำให้มันชะงักไม่ออกดอก 3.ถ้าใบเน่า ยังเหลือรากอยู่ ให้แยกออกมาแล้วรอมันอาจจะมีลำต้นงอกออกจากรากเดิมได้   Create Date : 09 เมษายน 2553     Last Update : 9 เมษายน 2553 10:13:16 น. Counter : 3031 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• โหยหาชนบท
• pinuaoo2006
• mutcha_nu
• phu-sin
• DZym
• มะโรง
• Violeta Lady
• endless man
• ปุ้ม ครับ
• Ni.Somsak
• ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
• เหมียวสินธร
• นายแป๊ะก้วยพาเที่ยว
• kuk-42
• Mr.Kim Henry
• ลิงเล
• Dendmax
• doyngam
• ดาท เวเดอร์
• Opey
• 1twenty2
• spry_dragon
• bushycottage
• Green Thumb
• หนูบู้บี้
• Patteera
• สำเภางาม
• น้าโหด
• sarawut_cm
• konjon
• kunjoja
• Webmaster - BlogGang