เคล็ดลับในการปลูกผักหวานป่า
ปี 2555 ปีแรกของการปลูกผักหวานของพ่อผม (สวนผักหวานครูยนต์ อ.เมือง จ.ลพบุรี)
ผักหวานเป็นผักที่มีวิตามิน C สูง อร่อย เป็นผักที่ปลอดภัยจากสารเคมีครับที่สำคัญหากินยากและราคาแพงมาก มีคนนำมาปลูกแต่ส่วนใหญ่มักจะล้มเหลวผมเลยเอาเคล็ดลับการปลูกมาฝากผู้ที่สนใจครับ
ข้อ 1 ก่อนปลูกผักหวาน ต้องปลูกไม้พี่เลี้ยงให้ร่มเงาก่อนสัก 1 ปี ไม้ที่ดีและเหมาะกับการปลูกที่สุดคือ ต้นแคบ้านครับ เพราะหาง่าย โตไว เป็นพืชตระกูลถั่ว ช่วยตรึงไนโตรเจน เป็นปุ๋ยให้ดินครับ ให้ร่มเงาพอประมาณไม่ทึบจนแสงลอดผ่านไม่ได้ ลำต้นตรง ดอกเอามาแกงส้มอร่อยครับ

ในรูปคือต้นแคที่ปลูกไว้เป็นไม้พี่เลี้ยงให้ร่มเงาครับ
ข้อที่ 2 การปลูกโดยการเพาะเม็ดจะโตเร็วกว่าปลูกจากกล้าครับ การปลูกจากกล้าที่เราซื้อมาต้องระวังเรื่องรากอย่าให้กระทบกระเทือน อย่าให้ดินหุ้มรากแตกครับ ไม่งั้นต้นมักตายหรือแกรนครับ
การซื้อเม็ดผักหวานที่สุกจะหาได้ยาก ถ้าได้เม็ดสดมาก็ต้องล้างเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออกก่อน การล้างเม็ดต้องใส่ถุงมือ ไม่งั้นมันจะกัดมือ ล้างเสร็จให้ผึ่งไว้ในร่ม พอแห้งต้องเอาเม็ลดเก็บไว้ในตู้เย็นครับ เพราะเม็ดผักหวานจะมีช่วงเดือนเมษายน ปีละ 1 ครั้ง การปลูกจะต้องรอปลูกช่วงต้นฝน หรือเดือน พค -กค การเก็บในตู้เย็นจะช่วยยืดเวลาและรักษา % งอกครับ
ข้อ 3 ช่วงต้นฝนที่เราจะปลูก เราก็เอาเมล็ดมาเพาะในแกลบดำ หรือ เอากระสอบชุบน้ำแล้วเอาคลุมเมล็ด และรดน้ำให้มีความชื้นส่ำเสมอ เพื่อรอให้รากมันงอก เมื่อได้เม็ดพร้อมราก แล้วจึงย้ายไปปลูกในหลุม หรือบางคนก็เอาเม็ดไปปลูกเลย แต่การปลูกต้องมั่นใจว่าฝนตกอย่างต่อเนื่อง ถ้าฝนทิ้งช่วงต้องรดน้ำบ่อยๆครับเพื่อเพิ่ม % การงอกครับ
ข้อ 4 การขุดหลุมไม่ต้องกว้างมาก แต่เน้นความลึกให้ลึกสัก 30-50 ซ.ม. เหมือนขุดเสาบ้าน เราขุดลึกเพราะต้องการให้รากมันเดินลงดินได้ลึกๆ ในแนวดิ่ง เพื่อให้ต้นเจริญเติบโดไดเร็ว เลียนแบบธรรมชาติแหล่งที่อยู่อาศัยในธรรมชาติที่มันชอบดินลูกลัง หรือดินที่โปร่ง ที่รากมันเดินได้เร็วตามความพรุนของดิน ขั้นตอนการเตรียมดิน เราเอาปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายแล้วแนะนำ มูลวัวนมที่เก็บไว้อย่างน้อย 6 เดือน มูลไก่ไม่แนะนำเพราะมันเค็ม มีกรดยูริคสูง ต้นมันจะเสียน้ำและเหี่ยวตาย เมือผสมดินเสร็จเอาดินลงไปก้นหลุม จนเต็มหลุมและพูนดินให้สูงกว่าระดิบผิวดินสัก 5-10 ซ.ม. ต้องสูงกว่าระดับดินมีเหตุผลครับเพื่อกันน้ำขังในช่วงฝนตกหนักเมล็ดถ้าน้ำขังเมล็ดจะเน่าครับ การเตรียมหลุมควรเตรียมล่วงหน้าก่อนปลูกสัก 1 เดือนครับ
ข้อที่ 5 เมื่อฝนเริ่มตกและมั่นใจว่าเข้าหน้าฝนดีแล้ว เราก็เตรียมเมล็ดตาม ข้อ 3 เลยครับ การปลูกถ้าเพาะให้เม็ดมีราก การฝังเม็ดมีเคล็ดลับคือเราใช้ไม้ไผ่ขนาด ครึ่งนึ้วแทงทำรูนำร่องไปก่อน ให้ลึกกกว่ารากเล็กน้อย แล้วค่อยๆหย่อนเมล็ดลงไปอย่าให้รากขาด ค่อยๆกลบดิน กรณีไม่ได้เพาะให้รากงอกการหยอดเมล็ด ก็ใช้ไม่แทงนำร่องให้ลึก 5 ซม หยอดเมล็ดลงไปโดยเอาส่วนขั้วเมล็ดขึ้นบน แล้วค่อยกลบดินบางๆ จากนั้นก็คลุมหลุมปลูกด้วยฟางบางๆครับ ผักหวานมันจะใช้เวลางอกนานมากครับ ประมาณ 2-3 เดือน ถึงจะเห็นต้นอ่อนครับ บางทีรอจนนึกว่ามันจะไม่งอกซะแล้ว ระหว่างนั้นฝนทิ้งช่วงต้องรดน้ำวันเว้นวันครับ (การหยอดเม็ดหลุมละ 2-3 เมล็ดให้ห่างกันในแต่ละมุม กันบางเมล็ดไม่งอกครับ หรือบางต้นตายในช่วงปีแรก)
ข้อที่ 6 จากนั้นมาถึงเคล็ดลับอีกข้อ คือ การทำที่ป้องกันต้นอ่อนครับช่วงปีแรกสำคัญครับ การทำที่ป้องกันจะช่วยมันรอดพ้นจากการจิกของไก่ การเหยียบต้นอ่อนของสัตว์เลี้ยงหรือศัตรูอื่นๆ ป้องกันแดดจัดที่จะทำให้ต้นมันตาย หรือรอดจากอากาศแห้งแล้ง การทำก็ง่ายๆคือใช้ไม้ไผ่มาปักหลัก 4 - 6 มุม สูงสัก 50 ซม (ในภาพทำต่ำไปหน่อย พอปีที่ 2 ต้นมันจะล้นออกมา แต่ต้องรอให้ลำต้นสูงสัก 30 ซม จึงจะมั่นใจได้ว่าต้นมันรอดไม่ต้องการที่ป้องกันอีก) จากนั้นก็ล้อมด้วย ตาข่ายเขียวรอบหลุมที่ปลูก ด้านบนก็ใช้ตาข่ายคลุมด้วยกรณีที่แดดตอนบ่ายแรงส่องตรงๆโดนต้นผักหวาน หรือใช้ทางมะพร้าวคลุมก็ได้ แต่ถ้าพืชนำร่องให้ร่มเงาไม่ให้โดนแดดตอนบ่ายตรงๆ ก็ไม่ต้องใช้ที่คลุมด้านบนก็ได้ครับ ถ้าอยู่กลางแดดทั้งวันไม่มีร่มเงาจากไม้นำร่อง จำเป็นมากสำหรับการพรางแสง ตาขายเขียวที่ใช้ใช้ป้องกันแสงได้ที่ 50- 60 % หมายความว่าแสงลอดได้ 40 -50%ครับ

ข้อที่ 7 ระยะปลูกไม่แน่นอนครับแล้วแต่ว่าเราจะต้องการปลูกเป็นพุ่มแบบระยะชิด เพื่อเก็บเอาแต่ยอดขาย หรือซึ่งต้องการปลูกแบบห่างกันพื่อให้ต้นใหญ่เอาผลิตเมล็ด (บางทีต้องรอเกิน 10 ปี กว่าจะให้เม็ด) และเก็บยอดด้วยก็ปลูกห่าง ตามความเหมาะสมกับพื้นที่ครับ ให้ถือหลักว่าดินเลวปลูกถี่ ดินดีปลูกห่าง ตามหลักของวิชาเกษตรที่เคยได้เรียนมาตอนอยู่มหาวิทยาลัยครับ
(ที่ทดลองปลูกหลังบ้านผม เป็นแบบปลูกชิด ระยะ 2*2 เมตร เป็นการทดลองปลูกเพื่อเก็บยอดครับ )
ข้อที่ 7 เคล็ดลับการดูแล แรกปลูก - 1 ปีครึ่ง เป็นช่วงวิกฤติของผักหวานครับต้นที่โตก็โตไปเลยครับ ต้นที่ตายก็ตายโดยไม่มีเหตุผล ต้นที่แกรนก็แกรนไป เพื่อนๆสูง 50 ซม บางต้นยังแกรนเลยอายุ 3 ปีแล้วสูงไม่ถึง 20 ซม การกำบังแดดโดยร่มเงาต้นไม้นำร่องเป็นสิ่งสำคัญ และ ต้องช่วยเรื่องการป้องกันลำต้นในช่วง แรกปลูก- 2 ปีแรก ด้วยมุ้งเขียวจะช่วยให้มันรอดมากขึ้น จากการประเมินด้วยสายตา อัตราการงอกของเมล็ดอยู่ประมาณ 70% ตอนที่ปลูก เมื่อมันงอกแล้วเป็นต้น มันจะรอดเหลืออีกไม่เกิน 80% ของต้นที่งอกครับในปีที่ 2 ก็ถือว่าสูงกว่าปลูกแบบฝากเทวดาดูแลมากครับ

ข้อที่ 8 เคล็ดลับที่สำคัญ เมื่อเข้าปีที่ 2 มันต้องผ่านฤดูหนาวและฤดูแล้งที่สำคัญของมัน ถ้าผ่านไม่ได้มันมักจะตายช่วงนี้แหละครับ ข้อปฎิบัติต้อง รดน้ำวันเว้นวัน รดจนชุ่ม แต่ไม่แฉะจนน้ำขังนะครับ มันจะเน่าตายครับ ต้องทำต่อเนื่อง จนเข้าฤดูฝนปีที่ 2 ครับ ต้นมันจะใหญ่ขึ้นผิดหูผิดตาครับ พอเข้าแล้งปีที่ 3 ต้นมันจะโตพอที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้ แต่ก็ต้องรดน้ำครับ 7 วันครั้ง และคลุมโคนต้นด้วยฟางข้าวเพื่อลดการระเหยของน้ำ
ภาพของผักหวานที่สมบูรณ์ผ่านมา 1 ปีครึ่งครับ

จะเห็นว่าการปลูกผักหวานต้องใช้การดูแลแบบใกล้ชิดอย่างน้อย 3 ปี จึงมั่นใจว่ามันจะรอดแน่นอน จากนั้นก็ฝากเทวดาเลี้ยงได้เลยครับ มันจะอึดสุดๆ และให้ยอดท่านกินในหน้าแล้ง
ข้อ 9 เคล็ดลับที่ดูว่าต้นผักหวานอายุ 3 ปี ขนาดไหนถึงจะปล่อยไม่ต้องดูแล ผมให้ข้อสังเกตุง่ายๆ
> ต้นต้องสูงไม่น้อยกว่า 50 ซม > เราสังเกตเปลือกที่ลำต้นจะมีสีน้ำตาลเข้ม เหมือนผิวต้นกระถิน > การเจริญเติบโตในปีต่อไปจะค่อยๆโตช้าๆ ไม่รวดเร็วเหมือนสามปีแรกครับ > ช่วงหน้าแล้ง มีนาคม มันจะเริ่มแตกยอดอ่อนให้เราเก็บครับ
ผมมีต้นที่ผมปลูกอีกสวนมาให้ดูครับ อายุ 3 ปี ที่โตเป็นปกติ สมบูรณ์และเริ่มให้ยอดอ่อนครับ (ส่วนที่โตไม่ดีลองไปดูในบล็อดเก่าของผมที่เขียนไว้ครับ)

ข้อ 10 เคล็ดลับการดูแล
> การให้ปุ๋ยให้ปุ๋ยคอกเท่านั้น และที่มันชอบคือมูลโคที่เก็บสักครึ่งปี ผ่านการย่อยสลาย ให้ช่วงต้นฝนโรยรอบๆทรงพุ่ม ต้นละ 5 - 10 กก แล้วแต่ขนาดต้น มูลสัตว์อื่นต้องหมักอย่างน้อย 1 ปี ขึ้นไป ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ไม่ควรให้เป็นดีที่สุด
> ผักหวานชอบดินร่วน ดินลูกรัง หรือดินที่มีการระบายน้ำดี ไม่ชอบดินเหนียวดินที่ระบายน้ำไม่ดี ไม่ชอบที่แฉะ เราจะพบผักหวานในป่าเต็งรัง ป่าละเมาะ ป่าที่มีการทิ้งใบในหน้าแล้ง หรือ พบมากตามภูเขาแถว จ.ลำปาง ลำพูน ตาก กาญจนบุรี ที่มีหน้าแล้งชัดเจน เราจะพบว่าไฟไหม้ป่าจากล่าสัตว์และการเก็บของป่า ที่สำคัญก็คือ ผักหวาน เมื่อมีผักหวานคนเก็บของป่าจะใช้ไฟเผาเอาไข่มดแดงไฟก็จะไหม้ป่า และการเผาป่าของคนเก็บของป่าเพื่อจะให้ เห็ดถอบ หรือ เห็ดเผาะ มันเป็นเห็ดดิน พอเผาเสร็จ เมื่อฝนตกมันจะเกิดดีขึ้น คนเก็บของป่าเล่าให้ฟัง ตอนแรกไปทำงานทางเหนือสงสัยว่าไฟทำไมไหม้ป่าบ่อยพอไปถามคนเก็บของป่าเลยรู้ครับ การปลูกผักหวานช่วยลดโลกร้อน ตามกระแสรักโลกครับ
> การบังคับผักหวานแทงช่อ ง่ายๆ คือ การรูดใบผักหวานจากกิ่งให้หมด จากนั้นรดน้ำวันเว้นวันครับ
> ศัตรูพืชพอมีแต่ไม่มาก ที่พบคือ เพลี้ยแป้ง และเพลี้ยไฟ ที่ชอบมาดูดน้ำเลี้ยงตอนต้นยังเล็ก ในช่วงที่แล้งจัดๆ ฝนทิ้งช่วงนานๆ
ผมชอบกินผักหวานครับ แกงผักหวานใส่ปลาย่างสุดยอดของอาหารครับ หรือ เอามาผัดน้ำมันหอยก็อร่อยๆสุดๆ เอาสเต็กมาแลกก็ไม่ยอม >>> สาเหตุที่ผมปลูกผักหวานเพราะผมขี้เกียจครับ ตอนเด็กๆผมอยู่ลพบุรีช่วงหน้าแล้งก็จะไปหาเก็บผักหวานป่า ตามป่าละเมาะ หรือชายเขา ไกลก็ไกล ร้อนมากช่วง เมษายน แดดโคตรร้อน มันจะมีอยู่ไม่กี่จุด และไม่มีการบอกกัน ถ้าไปช้าจะโดนเก็บไปก่อน เดินไปฟรี ถ้ารอให้มันออกช่อใหม่ก็ช้าไป จึงเป็นที่มาของการพยายามปลูกผักหวานของผม ตอนนี้หน้าแล้งผมมีผักหวานกินตลอด ทุกปี
>>> สุดท้าย ถ้าข้อมูลทีประโยชน์กับท่าน ก็ขอยกความดีให้คุณพ่อของผม ที่ปลูกและดูแล ผมเพียงหาเมล็ดให้ท่านปลูกเท่านั้นเองครับ เมื่อสวนหลังบ้านผมมีผักหวานโตขึ้น ปีหน้าจะเอามารายงานผู้ที่สนใจครับ<<<
ผลการปลูกปี 2556 ปีที 2ของการปลูก
>>>> มาดูความคืบหน้าของสวนผักหวานปี 2556 กันครับ ถ่ายเมื่อต้นเดือนเมษายน <<<<
ช่วงนี้ก็รถน้ำเพื่อเร่งการเจริญเติบโตและช่วยให้มันพัฒนาลำต้น และบางต้นก็เก็บยอดกินได้แล้วครับ ผมแบ่งการโตของผักหวานผมเป็น 3 กลุ่ม
1. กลุ่มแรกต้นโตดี ลำต้นสูง 1-1.50 เมตร กลุ่มนี้มี 20 % เก็บยอดแกงกินได้แล้วครับ อยูใต้ร่มแคและต้นกฤษณางามมากครับ
กลุ่มนี้จะโตดีเพราะได้ร่มเงาไม่ช่วย และช่วงที่ฝนไม่ตกหรือช่วแล้งจะรถน้ำบ่อย 5 วันครั้งถ้าต้นขนาดนี้ปล่อยให้เทวดาเลี้ยงได้ ยังไงก็ไม่ตาย กลุ่มต้นพวกนี้จะอยู่ใก้ลร่มเงาต้นกฤษณาที่ปลูกไว้ครับ
2.กลุ่มที่สอง โตปานกลางมี 60 %ถึงแม้จะปลูกวันเดียวกัน พอจะอธิบายความแตกต่างจากกลุ่มแรกได้ดังนี้
> ความสมบูรณ์ของลำต้นที่งอกอาจไม่เท่ากัน >ร่มเงาที่ได้ไม่ดีเท่ากลุ่มที่ 1 จึงโตได้ไม่ดีเท่า > โครงสร้างดินแต่ละต้นมีความร่วนชุยหรือ ความอุดมสมบูรณ์ไม่เท่ากัน
กลุ่มนี้ลำต้นสูงประมาณ 50 ซม คาดว่าปีหน้าจะทันกลุ่มแรกครับ
3.กลุ่มสุดท้ายจะออกแนวแคระแกรนสูงไม่เกิน 20 ซม หรือตายกลุ่มนี้มีประมาณ 20%
ต้องเอาเม็ดมาปลูกซ่อมใหม่หรือต้นที่ไม่โตก็เร่งปุ๋ย ปุ๋ยที่ใช้คือปุ๋ยคอกขี้วัว รดด้วยน้ำปุ๋ยหมักชีวภาพ และคลุมดินด้วยฟาง เปลือกถั่วเขียว หรือเปลือกนอกถั่วลสงให้มันรักษาความชื้นช่วงหน้าแล้ง พอหน้าฝนมันก็ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย กลุ่มนี้ต้องดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ยเป็นพิเศษโดยเฉพาะหน้าแล้ง ถ้าดูแลไม่ดีโอกาสตายสูงมาก
วิธีสังเกตว่าผักหวานโตแล้วไม่ต้องดูแลมากคือ ลำต้นจะมีสีน้ำตาลอ่อน หรือแตกยอดอ่อนตามปลายยอดให้เก็บได้นั่นก็หมายความว่าต้นมันเริ่มสมบูรณ์แล้วละครับ
สวนนี้มีผักหวานประมาณ 120 ต้น สภาพดินเป็นดินร่วนผสมดินเหนียวซึงผักหวานโตได้ดีปานกลาง สภาพสวนโดยรวมครับ
รายงานการปลูกผักหวานปี 2557 update 20 กพ 2557(ปีที 3 ) ต้นที่สมบูรณ์เริ่มออกดอก
เมื่อผักหวานเริ่มแทงช่อดอกปลายเดือน มกราคม สิ่งที่ต้องทำคือ หาฟางข้าวหรือเศษใบไม้เอามาคลุมโคนต้นผักหวาน และเริ่มใหน้ำ เพื่อช่วยให้ช่อดอกออกมาสมบูรณ์และให้น้ำทุก 5-7 วัน ดอกสมบูรณ์แมลงช่วยผสมเกสร โอกาสจะได้เมล็ดผักหวานป่าจะมากกว่าแบบปล่อยตามธรรมชาติครับ
ลักษณะดอกจะจะเป็นช่อ ออกตามปลายกิ่ง ไล่ลงมาจนถึงแทงช่อดอกออกมาจากลำต้น ลักษณะการออกดอก คล้ายมะไฟ ลองกอง หรือ ลางสาดครับ
จากการปลูก 3 ปี ต้นที่โตเร็วก็จะได้ความสูง 1.5 -2 เมตร ต้นที่แกรนก็สูงไม่เกิน 50 เซนติเมตรครับ ลักษณะต้นที่สมบูรณ์ที่ออกดอก
จากการสังเกต ผักหวานที่มีร่มไม้รำไร จากต้นแค จะเจริญเติบโตได้เร็วกว่า ต้นที่โดนแดดตรงๆ บางต้นที่โดนแดดตรงๆ แกรน หรือ มักจะตายครับ
ต้นที่โตสุดอยู่ใต้ต้น กฤษณา สูงประมาณ 2.5 เมตร แต่ไม่ออกดอกครับ
ส่วนพวกที่โตไม่ทันเพื่อนก็ช่วยรดน้ำช่วงแล้ง พอได้น้ำและเจออากาศร้อนจัดในหน้าแล้งมันจะแตกยอดในแนวตั้งยืดลำต้นอย่างรวดเร็วแบบรีบโต ส่วนพวกไม่โตก็แกรนข้ามปี ผักหวานป่าเป็นผักที่แปลกครับ ถ้าสภาพแวดล้อมได้ตามความต้องการมันจะโตเร็วจนเราแปลกใจ ถ้าไม่ได้มันก้แกรนจนเรารำคาญเช่นกันครับ
ระบบให้น้ำแบบง่ายๆที่พ่อของผมทำขึ้นมาครับ
ต้นที่ได้น้ำและพร้อมจะแทงยอดในแนวดิ่งผ่านฝนรับรองสูงเกิน 1.5 เมตร รอดตายฝากเทวดาเลี้ยงได้ครับ
ต้นนี้ก็เช่นกันปีหน้าโตจนจำไม่ได้แน่นอน
สุดท้ายการเก็บยอดผักหวานป่าช่วงแรกที่ต้นยังโตไม่เต็มที่ ไม่ควรเก็บยอดแนวดิ่งมี่พร้อมจะพัฒนาเป็นลำต้นหรือกิ่ง เราเก็บยอดแนวราบที่แทงออกด้านข้างลำต้นครับ
มีข้อมูลผมจะนำมาลงเรื่อยๆครับ ขอบคุณที่ให้ความสนใจ
สรุป ผักหวานที่อายุ 3 ปี ที่ออกดอก ต้นไม่สมบูรณ์ดอกร่วงหมดไม่ติดลูก
มีเพียงต้นเดียวที่อยู่ อ.พัฒนานิคม ลพบุรี ที่ต้นอายุ 10 ปี ติดลูก ช่วงติดลูกก็รดน้ำ ลูกเลยดกเป็นพวง ปีนีจะได้เอาไปปลูกขยายสวนต่อไปครับ
ลูกดกจริงๆ ต้นนี้ให้ลูกทุกปี ปีนี้รดน้ำวันเว้นวัน ดอกร่วงน้อย ลูกดกมากครับ
>>>เคล็ดลับอีกประการของการปลูกผักหวานคือ ต้องปลูกกับต้นไม้อื่น มีต้นไม้เรือนยอดที่คอยเป็นร่มเงาใบโปร่งแสงลอดผ่านได้รำไร ในสวนของผมมี เช่น ต้นแค ต้นมะกรูด(ต้องตัดแต่งกิ่ง) ต้นกฤษณา และปลูกมะนาว พริก มะเขือ มะละกอ แซมจะดีกว่าปลูกผักหวานเดี่ยวๆมีต้นไม้น้อยชนิดและต้องคลุมดินหน้าแล้ง >>>และข้อสังเกตอีกข้อ มันจะไม่ชอบต้นไม้ที่มีใบหนาทึบเช่น มะม่วง มะขาม และต้นไม้ที่มีรากหากินเก่งๆ เช่น ต้นไผ่ ยูคาลิปตัส มันจะแข่งขันกับไม้พวกนี้ไม่ได้ครับเพราะระบบรากผักหวานสู้ระบบรากพวกนี้ไม่ได้ครับ
Create Date : 03 มิถุนายน 2555 | | |
Last Update : 1 เมษายน 2557 22:49:43 น. |
Counter : 41515 Pageviews. |
| |
|
|
|