|
ต้นทุนการทำไร่อ้อย ปี 2554-2555
เนื่องจากอาชีพดั้งเดิมของครอบครัวผมทำอาชีพเกษตรกรครับ ตอนนี้ก็ยังทำอยู่แต่เกษตรของเราไม่ค่อยได้คิด ต้นทุนกำไรกันเท่าไหร่ คิดกันง่ายๆ คือลงทุนกู้เงิน ธกส หรือ เถ้าแก่มาเท่าไหร่ ขายผลผลิตเท่าไหร่ หักลบกลบหนี้เหลือเงินเท่าไหร่ก็คิดว่าเป็นกำไร หรือ บางปีติดลบก็ถือว่าเป็นหนี้ ดังนั้นผมจึงเอาต้นทุนการทำไร่อ้อย ที่เกิดจากการลงทุนจริง บันทึกค่าใช้จ่ายทุกอย่างโดยคุณพ่อขอผมเป็นคนบันทึก โดยมีเงื่อนไขดังนี้
1.การทำไร่อ้อยที่พ่อผมทำเป็นการจ้างทำทั้งหมดจากต้นจนจบ เพราะอายุเยอะแล้วจ้างอย่างเดียว
2. ต้นทุนเป็นการปลูกอ้อยปีแรกต้นทุนการปลูกจะสูงกำไรจะน้อย แต่ปี 2-3 กำไรจะสูงขึ้นเนื่องจากไม่ต้องลงทุนค่าไถและค่าปลูกอีก
3.การทำไร่อ้อยเป็นเขตน้ำฝน อยู่ที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ผลผลิตขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน ซึ่งปี 2554-2555 ฝนตกดี สม่ำเสมอ ผลผลิตสูงครับ
4.การลงทุนใช้เงินสดที่มีหมุนเวียน ไม่ได้กู้มาทำไร่อ้อย ต้นทุนดอกเบี้ยจึงไม่มีในรายการ (ความจริงต้องคิดค่าเสียโอกาสในการฝากเงินครับ)
5.กำไร ถือเป็นรายได้จึงไม่ได้คิดค่าแรงเจ้าของครับ
ก่อนอื่นต้องชมเชยรัฐบาลดูแลเกษตรกรชาวไร่อ้อยดีมากครับ อีกทั้งมีการรวมกลุ่มเกษตรชาวไร่อ้อยได้เข้มแข็ง ไร่ของพ่อผมอยู่ในเขต สมาตมชาวไร่อ้อย เขต 3 ครับ มีการบริการส่งเสริมการปลูกจากโรงงาน มีการตรวจดินให้สมาชิกเพื่อให้เกษตรกรปรับการใช้ปุ๋ย
การทำไร่อ้อยต้องลงทุนใช้จ่ายมากในการปลูกปีแรกครับ
เมื่อปลูกแล้วงานหลักคือ ใส่ปุ๋ย การฉีดยาคุมและฆ่าหญ้าก่อนที่อ้อยจะโตคลุมพื้นที่ครับ เมื่ออ้อยคลุมพื้นแดดส่องได้น้อยวัชพืชก็หายไปครับ
ผลผลิตของอ้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ ปุ๋ยที่ให้ครับ
>> ผลผลิตในเขตน้ำฝน ถ้าฝนดีสม่ำเสมอได้ผลผลิต 15-20 ตัน/ไร่ ถ้าฝนแล้งผลผลิตจะลดลงได้ประมาณ 7-10 ตัน/ไร่
>>ในเขตชลประทานถ้าให้ปุ๋ยและน้ำสม่ำเสมอได้ผลผลิตได้ 25-30 ตัน/ไร่
แต่คนไทยเก่งครับถ้านอกเขตชลประทาน ก็คิดระบบน้ำหยดมาใช้เงินลงทุนประมาณ 7,000-10,000 บาท/ไร่ ใช้ได้นาน 3-5 ปี เปลี่ยนเฉพาะท่อน้ำหยดส่วนปั๊มน้ำ ท่อประทาน แท๊งน้ำใช้ได้นานครับ
ใช้ระบบน้ำหยด สามารถใส่ปุ๋ยโดยละลายกับน้ำหยดได้เลยครับ และระบบน้ำหยดน้ำจะซึมลงได้ลึกถึงรากได้เกิน 1 ฟุต จะซึมลึกกว่าปล่อยตามร่องเข้าแปลง และอ้อยจะโตกว่า ที่สำคัญคุมวัชพืชได้ดี กว่าการปล่อยน้ำให้ไหลไปตามร่องของแปลง แบบหลังวัชพืชจะเกิดมากกว่าครับ
การใช้น้ำจะประหยัดและมีประสิทธิภาพ
การวางระบบน้ำก็ง่ายๆ และใช้แรงงานน้อยครับ
การม้วนเก็บก็ใช้เครื่องม้วนต่อกับรถไถครับ
ระบบน้ำที่ดีผลผลิตก็ดีเช่นกันครับ
เมื่ออายุอ้อยได้ประมาณ 8-10 เดือน ก็เริ่มเก็บเกี่ยว
>>> แบบใช้คนตัดอ้อย มักมีปัญหาเรื่องแรงงาน และต้องเผาอ้อยก่อนตัดไม่งั้นคนงานไม่ยอมตัดอ้อย และตอนเย็นก็ต้องเสียค่าน้ำมันให้คนตัดอีก E 35 ดีกรี
แรงงานเป็นปัญหาหลักในการปลูกอ้อยครับ
มาแล้วครับคนตัดอ้อยคนใหม่ ขยัน ไม่บ่น สู้งาน ไม่ขอเหล้าตอนเย็น ทำงานเร็ว ทั้งวันทั้งคืน
ตัดอ้อยใช้คน 2 คน ก็ตัดได้ทั้งวันครับ
หลังจากตัดอ้อยตอแรกก็ต้องบำรุงตอที่สองต่อไป ต้องให้น้ำหรือรอให้ฝนตกเพื่ออ้อยลำใหม่จะได้งอกออกมาครับ
และก็มาถึงต้นทุนการทำไร่อ้อยครับ
สรุปง่ายๆดังนี้
1.ต้นทุนการปลูกและค่าดูแลรักษาปีแรก = 9,525 บาท/ไร่ (62% เงินลงทุน)
2. ค่าแรงตัดอ้อย และ ค่าขนส่งอ้อยไปโรงงาน =5,919 บาท/ไร่ ( 38% เงินลงทุน)
3.กำไร = 4,212 บาท/ไร่ หรือ 27.3% ของเงินลงทุน
เงื่อนไขราคา
>>> ราคาอ้อย 1,000 บาท/ตัน
>>> ค่าเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล 154 บาท/ตัน
>>>>เงินเพิ่มค่าความหวาน 40 - 50 บาท/ตัน
ดูแล้วก็น่าลงทุนครับ ใครอยากเปลี่ยนพืชไร่อื่นๆมาเป็นอ้อยลองพิจารณา
หรือใครอยากเป็นชาวไร่เพราะอินกับ ละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ก็ลองพิจารณาดูครับ
ส่วนต้นทุน-กำไร ในปีที่ 2 คือ ปีการผลิต 2555-2556 จะนำมาลงในปีหน้าครับ
คิดเล่นๆครับ ถ้าต้องการกำไรจากการปลูกอ้อย 1,000,000 บาท ในการปลูกปีแรกต้องทำอย่างไรบ้าง
1.ผลผลิตอ้อยต้องได้ 1,000,000/กำไร 267 บาท/ตัน = 3,745 ตัน
2.คิดเป็นพื้นที่ ถ้าทำในเขตน้ำฝน 15 ตัน/ไร่ = 3,745/15 = 250 ไร่
ถ้าเป็นเขตชลประทาน 25 ตัน/ไร่ =3,745/25=150 ไร่
ในปีที่ 2-3 กำไรจะเพิ่มจากปีแรก 50-80 % ครับ ลองถามเกษตรกรถ้าทำไร่อ้อยระดับ 200 ไร่ขึ้นไปนั่นแหละครับเศรษฐีครับ เห็นขี่รถกระบะเก่าๆแต่เงินฝาก 8 หลักครับ
| Create Date : 14 กรกฎาคม 2555 | | |
| Last Update : 15 กรกฎาคม 2555 10:48:50 น. |
| Counter : 54707 Pageviews. |
| |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 109 คน [