ชีวิตพอเพียงกับการเลี้ยงกล้วยไม้
Group Blog
 
All Blogs
 

กล้วยไม้ Before &After

โดยส่วนเรามักจะซื้อกล้วยไม้มา เพราะชอบสีดอก กลิ่นหอม เมื่อซื้อมาช่วงแรกดดอกสวย สีสด ต้นอวบ ใบเขียวสด



หลังจากดอกโรยก็ไม่สนใจดูแลรดน้ำให้ปุ๋ย กล้วยไม้จะค่อยๆเหี่ยวไม่ให้ดอกอีกต่อไป




บางครั้งตายไปอย่างน่าเสียดาย





บางครั้งเอาไปแขวนไว้ใต้ต้นไม้ รดน้ำบ้างแต่ไม่บ่อย ส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ปุ๋ย พอยืดอายุกล้วยไม้ได้บ้าง แต่จะไม่เห็นดอกโดยเฉพาะ กล้วยไม้จำพวกแวนด้าต้องปุ๋ยและน้ำถึงจึงเห็นดอก จึงสรุปว่ากล้วยไม้ดูแลยาก






โดยส่วนใหญ่เราไม่ค่อยทำอะไรมากโดยเฉพาะเครื่องปลูกในกระถาง
ปรกติกล้วยไม้จะออกดอกช่อแรกอายุประมาณ 2 ปี หลังจากช่วงนี้เครื่องปลูกจะค่อยๆ หมดสภาพ
หรือไม้พวกแวนด้าหรือช้างจากฟาร์มไม่มีเครื่องปลูกเลย มันไม่ได้รับสารอาหารเพราะเราไม่ให้ปุ๋ย ปุ๋ยจะได้น้อยมากจากน้ำที่รด เมื่อปุ๋ยไม่พอจึงไม่มีดอก และต้นจะค่อยๆโทรม





ผมจึงนำเสนอแนวทางการจัดการหลังกล้วยไม้ออกดอก
เพื่อให้ได้ดูดอกได้อีกเรื่อยๆ และกอขยายใหญ่ขึ้น หรือลำต้นใหญ่ขึ้น
แบบแรก พอใช้ได้แต่ไม่ดีนัก คือเอาทั้งกระถางไปผูกกับต้นไม้แต่กอหรือต้นจะไม่ขยาย เนื่องจากต้นจะถูกกระถางขวาง พอจะเห็นดอกได้เรื่อยๆ การนำไปติดกับต้นไม้รากก็จะเกาะต้นและค่อยๆได้ปุ๋ยจากการย่อยสลายของเปลือกไม้ ถึงจะไม่ให้ปุ๋ยก็ยังพอได้เห็นดอกเมื่อรดน้ำ




เคล็ดลับ ถ้าเป็นต้นไม้เปลือกหนาขุขระ รากกล้วยไม้จะเกาะได้ดี เช่น
ต้นตีนเป็ด ต้นปีบ ต้นมะขาม ต้นมะม่วง กล้วยไม้จะงามดี




อีกภาพกล้วยไม้ที่เกาะกับไม้ที่มีเปลือกหนา มีรอยแตกจะเติบโตได้ดีเลียนแบบกล้วยไม้ที่อยู่ในธรรมชาติ




แบบที่สอง ถ้าจะให้ดีที่สุดคือการเอากระถางออก โดยมีเทคนิคง่ายๆคือเอากล้วยไม้ในกระถางไปจุ่มน้ำให้ชุ่ม เพื่อจะได้แกะเอารากออกได้ง่ายขึ้น จากนั้นจึงแยกออกและนำไปเกาะกับต้นไม้โดย มีเครื่องปลูก เช่น มอส กาบมะพร้าวช่วยเก็บความชื้นและดูดซับปุ๋ยที่เราให้
ต้นกล้วยไม้สกุลหวายดังรูป ถึงแม้ต้นแม่จะตายไปแล้วแต่มีเครื่องปลูกช่วยให้หน่อของต้นเดิมเจริญเติบโตและให้ดอกได้อีก




กล้วยไม้ที่ปลูกในกระถางขนาดใหญ่ การเปลี่ยนเครื่องปลูกจะทำต่อเมื่อจำนวนต้นล้นกระถางหรือเปลี่ยนทุก 3-4 ปี/ครั้ง เพียงแค่ให้ปุ๋ยและรถน้ำเราก็เห็นดอกออกอย่างสมำเสมอ เช่น

สกุลซิมบิเดียมบางตัว



หรือกล้วยไม้ดินบางชนิดถ้าใช้เครื่องปลูกดี นานๆจะเปลี่ยน เพียงรดนำและให้ปุ๋ยบ้างก็จะได้ชมดอกงามๆครับ




เพิ่มเติม ถ้านำกาบมะพร้าวมาหุ้มเสร็จแล้วใช้สแลนคลุมอีกครั้งแล้วยึดมุมด้วยเชือกหรือลวดกับต้นไม้ การแตกกอมันจะดีและมีการแตกหน่อใหม่และให้ดอกต่อเนื่อง



หรือใช้ตะแกรงพลาสติกหุ้มเปลือกมะพร้าวอีกครั้ง



รูปแบบที่ควรทำครับ




ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงกล้วยไม้ครับ




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2552    
Last Update : 20 ธันวาคม 2552 18:10:11 น.
Counter : 13578 Pageviews.  

น้ำและปุ๋ยสำหรับกล้วยไม้

เริ่มจากน้ำก่อน รุ่นพี่ที่เลี้ยงกล้วยไม้หลายๆท่านมักจะกล่าวว่า
"กล้วยไม้ที่รดน้ำมากๆ แฉะตลอดเวลามีโอกาสตายมากกว่ากล้วยไม้ที่ได้รับน้ำน้อย" ผมเห็นด้วยครับเพราะมันจะเน่าตาย จากการติดเชื้อรา

แต่ผมเสริมอีกนิดว่าถ้าไม่ได้รับน้ำเลยมันก็เหี่ยวตายเช่นกัน
คุณสมบัติน้ำมีดังนี้
1.PH 7
2. น้ำต้องไม่กระด้าง(หินปูนในน้ำจะไปเกาะรากทำให้กล้วยไม้โตช้า)
3.หลักการรดน้ำกล้วยไม้

รดช่วงเช้าดีที่สุด 8-9 โมงเช้า
หน้าฝนงดรดน้ำหลังฝนตก
หน้าแล้งอากาศแห้งควรเพิ่มตอนเย็น 1 ครั้ง (3-4โมงเย็น)

เปรียบเทียบคุณภาพน้ำจากดีไปหาแย่
น้ำประปา น้ำฝน น้ำบ่อ น้ำบาดาล





สำหรับปุ๋ย มี 2 ชนิด

1.ปุ๋ยเคมี กล้วยไม้จะใช้ปุ๋ยเกล็ด ปุ๋ยนำ และปุ๋ยออสโมโคส (ละลายช้า)
2.ปุ๋ยชีวภาพ ได้จากการหมักปลา สาหร่ายทะเล ได้เป็นปุ๋ยนำ นำมาผสมน้ำตามส่วนผสม การใช้ปุ๋ยชีวภาพต้องระวังเครื่องปลูกเช่น กาบมะพร้าว มอส จะผุเร็ว
ผมใช้ทั้งสองอย่างสลับกัน






ตัวอย่างปุ๋ยเกล็ดที่ใช้ราคา 80-150 บาท/ถุง(นน 1 กก) มีหลายสูตรครับ





ธาตุอาหารที่จำเป็นมี 16 ชนิด แบ่งเป็น
ธาตุหลัก 3 ตัว N-P-K

N คือไนโตรเจน เร่งการเจริญเติบโตของลำต้นและใบ
P คือ ฟอสฟอรัส เร่งการเจริญเติบโตของราก และเร่งการแทงช่อดอก
K คือ โปตัสเซียม เร่งการใช้นำตาลทำให้ดอกและผลมีขนาดใหญ่ ถ้า
เป็นผลไม้จะเพิ่มความหวานของผลไม้

เช่นปุ๋ยสูตร 25-5-5 จะมี ไนตรเจน 25% ฟอสฟอรัส 5%โปตัสเซียม 5%
ปุ๋ยสูตร 21-21-21จะมี ไนตรเจน 21% ฟอสฟอรัส 21%โปตัสเซียม 21%

ส่วนธาตุรอง ต้องการไม่มากแต่ขาดไม่ได้ส่วนใหญ่ใช้ในการสร้างฮอร์โมนด์และ เอนไซม์ มีดังนี้ Ca Mg S Fe Mn Zn B Cu Mo Cl ตัวย่ออยากทราบลองถามหลานที่อยู่มัธยมปลายน่าจะรู้ ผมขอข้ามเข้าสู่การใช้เลยครับ

1 ระยะออกขวด
14 วันแรกไม่ควรให้ปุ๋ย หลังจากนั้นค่อยๆให้สัปดาห์ละครั้งอย่าให้เข้มเดียวมันจะเน่า ควรให้ ปุ๋ยสูตรเสมอ หรือ ตัว N สูงเร่งต้นใบ สลับ 7 วันครั้งกับกับ P สูงเพื่อเร่งราก อัตราส่วนตามสลากแนะนำ หรือไม่เกิน 50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ไม่ควรให้เข้มข้น ส่วนมากจะใจร้อนกลัวโตไม่ทันใจ เลยให้มากไปผลคือ ใบไหม้ เพราะปุ๋ยมันมีเกลือจะดึงนำจากเซลออกหมดเลยเหี่ยวและมีรอยไหม้
กล้วยไม้ระยะออกขวดเดือนแรกๆ






2.ระยะไม้นิ้ว (ที่เรียกไม้นิ้วเพราะใส่กระถาง 1 นิ้ว) อายุ 4-6 เดือน ให้ปุ๋ยเช่นเดียวกับระยะแรกครับ ต้องระวังความเข้มปุ๋ยเช่นกัน





3. ระยะไม้รุ่น อายุ 6-12 เดือน ช่วงนี้ไม้จะเติบโตเร็วตัว N สูงเร่งต้นใบ 7 วันครั้ง หรือจะใช้สูตรเสมอก็ได้ อัตราเพิ่มเป็น ไม่เกิน 100 กรัม/นำ 20 ลิตร
ใช้เข้มข้นเพิ่มอีกนิดเพราะไม้มีความแข็งแรงและต้องการปุ๋ยในการเติบโต
สังเกตุว่าถ้าได้รับปุ๋ยมากเกินไป ใบจะอวบอ้วนแต่เปราะ ถ้าโดนฝนตรงๆใบจะเน่าได้





กล้วยไม้บางชนิดเช่น แวนด้าหรือช้าง ในสวนใหญ่ๆจะไม่มีการใส่เครื่องปลูกลงในกระถางดังนั้นแหล่งอาหารมาจากที่เดียวคือปุ๋ย ชาวศสวนจะให้ปุ๋ยถี่มาก 5-7 วันครั้งและเข้มข้นมันจึงงาม เป็นพิเศษมีดอกตอนขาย
พอเราซื้อมาดอกหมดและไม่ได้บำรุงปุ๋ย หรือไม่ได้นำไปเกาะกับต้นไม้จะไม่เห็นดอกบางทีค่อยๆเหลืองตายดังที่เคยพบกันมาครับ

นี่ครับมีแต่ต้นกับกระถางพลาสติกไม่มีเครื่องปลูก






ต้นนี้มีเครื่องปลูกเป็นกาบมะพร้าวสับอยู่ให้ดอกได้นาน





4 ระยะไม้เริ่มแทงช่อดอก อายุ 1 ปีขึ้นไป
เราจะใช้ปุ๋ย P ฟอสฟอรัส และ K โพแทสเซียมสูงื เพื่อเร่งและยืดช่อดอกให้ยาวและมีคุณภาพ





5.ระยะดอกตูมใกล้จะบาน เราจะให้ปุ๋ยตัวท้ายสูงคือ K โปแตสเชี่ยม เพื่อเพิ่มขนาดดอก สีดอก ความสมบูรณ์ของช่อดอก



สีจะสดใส





กล้วยไม้ที่ให้ปุ๋ยไม่เต็มที่ ทั้งชนิดและปริมาณ ใบจะซีดเหลือง ในแวนด้าช่วงหน้าหนาวจะทิ้งใบบางส่วน ดังรูป





ก่อนจบขอเสนอหลักการให้ปุ๋ยตามที่พอจะจำได้จากที่เรียนมา กับ อ.ยงยุทธ โอสถสภา ที่สอนมาตอนปี 2 ซึ่งนานมากแล้ว ดังนี้

1 ก่อนให้ปุ๋ยควรรดน้ำกล้วยไม้ให้ชุ่ม ทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วฉีดปุ๋ยตาม เพื่อความทั่วถึงของปุ๋ย

2 การฉีดปุ๋ยให้เริ่มจากยอดลงไปหาราก ให้เปียกทั่วถึง

3 ควรฉีดช่วงเช้า 8-9 โมงเช้ากล้วยไม้จะได้ดูดแร่ธาตุเอาไปสังเคราะห์แสง

4 ควรงดให้น้ำสัก 12-24 ชมหลังฉีดปุ๋ย ถ้ามีฝนตกหลังฉีดปุ๋ย ภายใน 3 ชม ปุ๋ยจะถูกน้ำชะไปหมด ควรพิจารณาฉีดใหม่ภายหลัง
5.ถ้ามีดอกไม่ควรให้ปุ๋ยโดนดอกเดี๋ยวดอกจะมีรอยด่างได้ ในกล้วยไม้บางตัวที่มีกลีบดอกบาง
6.ไม่ควรผสมปุ๋ยเข้มข้นเกินคำแนะนำ นอกจากใบจะไหม้และยังเปลืองโดยใช้เหตุ บางคนให้แบบ สายัญ สัญญา (ให้ไม่ต้องมาก แต่ให้บ่อยๆ)
แต่ผมประเภทขี้เกียจให้ 7-10 วันครั้ง ตามฉลากแนะนำ
ผมเข้าใจว่าเราอยากให้มันโตและออกดอกเร็วๆเลยให้ป๋ยมากและให้บ่อยๆ
ช่วงปีแรกผมเข้าไปดูบ่อย มากๆในโรงเรือน จนออกดอกแล้วจะเข้าน้อยลงวันไม่เกิน 3 ครั้ง (หายเห่อครับ)
ข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัย

ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงกล้วยไม้ครับ


เพิ่มเติม
ข้อมูลคุณภาพน้ำครับ
น้ำฝน น้ำบาดาล น้ำผิวดิน

ความขุ่น 0 0.5 50
ไนโตรเจน(มก/ลิตร) n/a 10 3
ความกระด้าง(มกCaco3/ลิตร) 25 120 90
PH 7 7.5 7.5
แมกนีเซียม(มก/ลิตร) 2 5 20
โปแตสเซียม 0 2 2
ไบคาร์บอเนต 18 120 90
ซัลเฟต 4 10 20
ฟลูออไรด์ 0 0.1 0.2
ฟอสฟอรัส 0 0.01 0.05
แคลเซียม 6 40 30
โซเดียม 5 5 20
เหล็ก 0.05 0.1 0.5
คลอไรด์ 5 25 25
ไนเตรท 0.1 10 0.5
แอมโมเนีย 0.05 0.02 0

น้ำที่รดกล้วยไม้ไม่ควรเป็นนำกระด้าง ความกระด้างของน้ำวัดจาก
จำนวน มิลลิกรัมของ แคลเชียมคาร์บอเนต หรือหินปูนที่ละลายในน้ำ

ประเภทของน้ำ ค่าความกระด้าง(mg/ลิตรCaco3)

น้ำอ่อน 0- 40
น้ำกระด้างปานกลาง 40-100
น้ำกระด้าง 100-300
น้ำกระด้างมาก 350-500
น้ำกระด้างรุนแรง มากกว่า 500
น้ำประปา ห้ามเกิน 300

เมื่อน้ำมีปัญหาถ้าเราอยากใช้รดกล้วยไม้ต้องบำบัดก่อนหลักการมีดังนี้
ตกตะกอน > การกรอง>การฆ่าเชื้อ> การกำจัดความกระด้าง> น้ำดี


คำแนะนำในการใช้ปุ๋ยสำหรับกล้วยไม้ของ ม.แม่โจ้ ครับ






 

Create Date : 15 ธันวาคม 2552    
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2553 18:50:33 น.
Counter : 22176 Pageviews.  

ผมเชื่อแล้วครับว่ากล้วยไม้ป่าเลี้ยงให้รอดยากจริงๆ

จากประสบการการปลูกกล้วยไม้ 1 ปี กว่าๆ ผมเลี้ยงทั้งไม้ที่ซื้อจากสวนที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ ออกขวดและเลี้ยงกล้วยไม้ที่มาจากป่าที่หาได้จากบริเวณชายแดน และตลาดนัดบางแห่งพบว่า กล้วยไม้ป่าร้อยละ 50จะตายหรือแกรนไม่โตเหมือนอยู่ในป่า แม้จะซื้อมาแบบต้นสมบูรณ์แล้วก็ตาม ส่วนกล้วยไม้จากสวนจะรอด 95% ตายบ้างเล็กน้อยจากการดูแล
การดูแลก็รดนำวันละ 1 ครั้ง ให้ปุ๋ย 7 วันครั้ง สูตร 21- 21-21 เพื่อบำรุงต้นและใบ ไม่เน้นเร่งดอก ปุ่ยชีวภาพจากสาหร่ายสะกัด เหมือนกันทั้งกล้วยไม้ป่า และฟาร์ม ผลมีดังนี้

กล้วยไม้จากฟาร์มที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์ งามดีและให้ดอกตลอด




ส่วนกล้วยไม้ป่าเดี้ยงหรือแกรน ทั้งที่ก่อนเลี้ยงได้ศึกษาจากเว็บพันธุ์ทิพย์
เรือนกล้วยไม้ส่วนใหญ่จะบอกว่าเลี้ยงยากถ้าไม่ใช่ถิ่นที่มันอยู่ ตอนแรกไม่เชื่อครับ คิดแบบบ้านๆว่าของที่อยู่ป่ามันน่าจะอึดกว่า เพราะมันอยู่แบบไม่มีการดูแลจึงเอามาเลี้ยงที่ภาคกลาง หมดเงินซื้อไปเยอะเหมือนกันผลงานที่ออกมาเป็นดังนี้ครับ

เอื้องพวงหยก ดอกสวยครับแต่ไปดูแห่ลงที่อาศัยเป็นป่าดิบเขาอากาศเย็นและชุ่มชื้น ค่อยๆเหี่ยวแห้งตายต้นไม่โตคาดว่าจะเลี้ยงไม่รอด



เอื้องสายนำเขียว ตัวนี้ชอบอากาศเย็นและอยู่ที่สูงภาคเหนือและอิสาน
เอามาเลี้ยงล้วไม่โตครับ



ตรียัมปวาย กล้วยไม้ใต้ ชอบขึ้นเกาะต้นไม้ริมลำธารความชื้นสูง ท่าทางจะไม่รอดครับ



เอื้องเงินหลวง หลังจากออกดอกแล้ว ซ็อตไปดื้อๆอาการน่าเป็นห่วง



หวายปม หรือ เอื้องไม้เท้าฤษี แห้งตายไปเฉยๆ



เอื้องตะขาบก็เช่นกันตอนใหม่ๆ งามมากๆ อยู่ไปอยู่มาเหี่ยว



เอื้องคำผักปราบ ซื้อมา 3 ต้น ตายทุกต้น Confrim




"ผมเจ็บมาเยอออะ......." ขอใช้วลีทองของสมจิตร จงจอหอ
ท่านจะได้ไม่เจ็บเหมือนผม ผมลองแล้ว ปล่อยให้กล้วยไม้ป่าอยู่ในป่า
เถอะครับ เรารู้เราไม่ซื้อคนก็เอามาขายน้อยลง มาซื้อไม้ที่ปรับปรุงพันธุ์แล้ว ดอกสวย เลี้ยงง่ายสบายใจ กันเถอะครับ

ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงกล้วยไม้




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2552    
Last Update : 13 ธันวาคม 2552 13:34:12 น.
Counter : 6944 Pageviews.  

การย้ายกระถางและตัดแบ่งกอ เพื่อการขยายพันธุ์กล้วยไม้

กล้วยไม้ที่ซื้อมามักจะเป็นกระถางเล็กๆเมื่อออกดอกแล้ว มักจะไม่ออกดอก เนื่องจากวัสดุปลูกเสื่อมสภาพ จำนวนต้นมากเกินไป ปุ๋ยไม่เพียงพอ
การย้ายกระถางและเปลี่ยนวัสดุปลูก จำเป็นเมื่อเลี้ยงมานานเกิน 3 ปี โดย
เฉพาะ กล้วยไม้ที่ใช้วัสดุปลูก
Jumbo Plup กระถางนี้หลังจากออกดอกต้นโตยื่นออกนอกกระถาง ถึงเวลาเปลี่ยนบ้านใหม่



วัสดุ ใช้ถ่านรองพื้นกระถาง และใช้กาบมะพร้าวสับ แช่นำสัก 2 คืน กาบมะพร้าวหาซื้อที่ร้านต้นไม้ถุงละ 10 บาท

border=0>


รดนำในกระถางให้ชุ่ม ใช้มือบีบรอบกระถางเพื่อให้รากที่เกาะกระถางหลุด



จะได้แบบนี้



อัดด้วยกาบมะพร้าวสับ



เรียบร้อยแล้วสำหรับการย้ายกระถางใหม่



สำหรับการแบ่งกอผมสาธิตกับ ซิมบิเดียม Golden elf กระถางนี้ซื้อมา
250 บาท ผมดูแล้วว่าสามารถแบ่งได้ 3 กอ จึงกัดฟันหิ้วมา



เอาวัสดุปลูกออกจากราก แล้วจัดการแบ่งกอ จะใช้มือแยก หรือใช้มีดตัดแยกก็ได้



รอยตัดแยกเราจะทาปุนแดงที่ใช้กินกับหมาก หรือเบตาดีนยาใส่แผลทากันเชื้อรา หรือเชื้อโรคกันเน่าทิ้งว้ให้แห้ง 15 นาที




จากนั้นจึงรองพื้นกระถางด้วยถ่านละเอียด จัดรากให้ดี อัดกาบมะพร้าวสับเป็นอันเสร็จ




ต่อไปเป็น ว่านเพรชหึง หรือหางช้าง กล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลำยาวได้ถึง 3 เมตร เป็นการย้ายมาจากระถาง 4 นิ้ว



เอาออกจากกระถาง 4 นิ้ว




ใช้กระถางขนาดใหญ่ขนาด 12-15 นิ้ว รองพื้นกระถางด้วยถ่าน และกาบมะพร้าว



จากนั้นปลูกลงกระถาง อีก 3 ปี ก้ต้องเปลี่ยนเป็นท่อปูนแทนกระถางเพราะมันจะตกกอและลำต้นใหญ่มากครับ



ผมขอสรุปว่ากล้วยไม้ถ้าราคาแพงให้เน้นซื้อกอใหญ่เพราะสามารถแบ่งเพิ่มปริมาณราคาต่อต้นจะลดลง ถ้าไม่เอาไปขาย ก็เอาไปฝากในโอกาสสำคัญต่างๆ ผู้รับจะประทับใจ ผู้ให้ก้ลงทุนไม่มาก


ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงกล้วยไม้ครับ




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2552    
Last Update : 20 ธันวาคม 2552 0:31:54 น.
Counter : 12058 Pageviews.  

กล้วยไม้สามัญประจำบ้าน ตอนที่ 5 สกุลแคททียา

ลูกผสม มาเก๊า*เย็น 24 กะรัต ชื่อเท่ห์ ดอกสวย



ลูกผสม Yen elegance สีสวยดอกใหญ่




ลูกผสม Lc Lisa Ann *Blc ซุนเยี่ย



C. อัลมัคคี สีสดอีกสักดอกชอบครับ



ลูกผสม ประทุมกรีน*พอท 4 เอ็น



แคททียา ฉงกู่สวอน





แคททียา White Dimond รางวันที่ 1





แคททียา Anna




แคททียา จิ๋นซ์ลาจน์



แคททียา วอชิงตันโพสต์* เจียหลิน



แคททียา เพรชราชสีมา ต้นเก่งของชาวกล้วยไม้โคราช



แคททียา โคราชซันเซต *ยุพินซันเซต



แคททียา เจียหลิน ดอกใหญ่เท่าฝ่ามือ ดอกข้ม



แคททียา Blc King of Taiwan ดอกใหญ่ที่สุดในงาน และได้รางวัลที่ 1




แคททียา Blc King of Taiwan อีกรูป




แคททียา พิงค์ไดมอนด์




 

Create Date : 11 ธันวาคม 2552    
Last Update : 11 ธันวาคม 2552 23:39:31 น.
Counter : 2984 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

แจ้ห่ม47
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 109 คน [?]




ที่อยู่หลัก ลพบุรี ลำปาง และ ปทุมธานี
ที่อยู่ที่อื่นๆ ตามเขตการขายที่ดูแล ภาคตะวันตก ภาคใต้และ ภาคอิสานตอนบน (ทัวร์นกขมิ้นทุกเดือน เนื่องจากดูแลฝ่ายขายครับ ไม่ได้หนีหนี้ 555)
ภาพทุกภาพไม่สงวนลิขสิทธิ์ ถ้านำไปเผยแพร่เพื่อ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยไม่ผิดกฏหมายหรือศีลธรรม เพื่อนๆสามารถนำไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาติ ไม่หวงครับ ขอกันกินมากกว่านั้นแต่ขอให้อ้างอิงแหล่งที่มาของรูปด้วยครับ ขออภัยหากตอบท่านช้า หรือเข้าไปเม้นต์ท่านช้า ผมใช้เนตผ่านมือถือครับช้ามากๆขออภัย และ หากผิดพลั้งไป ต้องขออภัยเพราะความรู้ต่ำ
New Comments
Friends' blogs
[Add แจ้ห่ม47's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.