คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^
ไปฮ่องกง & มาเก๊า ครั้งนี้......แฟมิลี่ หรือฮันนีมูนทริป???

ก็เป็นมันทั้งสองแบบสิ....ไม่เห็นจะยากเลยSmiley


ช่วงก่อนคริสมาร์ตที่ผ่านมา  ที่บ้านอิชั้นพากันไปเที่ยวฮ่องกง + มาเก๊า  แบบเดิมที่เคยไปเมื่อปีที่แล้ว  สาเหตุที่หมู่เราชอบเที่ยวฮ่องกงกัน เพราะใช้เวลาเดินทางน้อย...ราคาตั๋วไม่แพง อาหารอร่อย และมีของให้ช๊อปปิ้งกันอื้อซ่า....



แต่คราวนี้ พิเศษตรงที่มีผู้ร่วมทริปเพิ่ม คืออาม่า กะพี่ศักดิ์...สามีที่เพิ่งแต่งงานมาหมาดๆของอิชั้น
ในเมื่อคราวนี้ มีทั้งบ้านเราและคนรักเราไปด้วย....ทริปนี้อิชั้นจึงขอเรียกรวมว่า ฮ่องกง & มาเก๊า....แฟมิลี่ฮันนีมูนทริปก็แล้วกันนะคะ


วันที่ 22  ธค. 54 เวลา 07.30 น.  พวกเราก็เดินทางจากจ.ชลบุรี   ตรงดิ่งไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ   คราวนี้เราไปกันเยอะค่ะ  เลยเช่ารถตู้เพื่อความสะดวก  ป๊าชอบมากกก  เพราะไม่ต้องขับรถเองSmiley


มาถึงสนามบินแล้ว  เราก็ไปโหลดกระเป๋า..หนนี้เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียค่ะ    (ไม่เคยนั่งเลยนะ  นี่หนแรกเลย) 


โหลดกระเป๋าเสร็จ  ก็ได้เวลาอาหารเช้า  หนนี้เรามีอาม่ามาด้วย    ต้องทานข้าวให้ตรงเวลาหน่อย  เพราะอาม่าเป็นเบาหวานค่ะ  ต้องทั้งกินยาและทั้งฉีดอินซูลิน  ตอนนี้ก็ได้มื้ออาหารของอาม่าแล้วด้วย....ว่าแล้วเราก็หาร้านนั่งทานกันหน่อยแล้วกันSmiley


จะบอกว่าแต่ละร้านคนเยอะมาว๊ากกก  เพราะเป็นช่วงเวลาอาหารพอดี  แต่ละร้านจะหาที่ว่างที่พอนั่ง 7 ที่ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย...
แต่พอดี  ร้านบะหมี่เจ้านี้ว่างค่ะ   น่าจะมีที่นั่งพอ...
นาทีนี้ไม่เลือกมากแล้วค่ะ   มีที่ก็เข้าไปเล้ยย   เรื่องรสชาติว่ากันทีหลัง....






เข้าไปก็สั่งอาหาร   ร้านนี้ท่าทางบะหมี่เป็ดย่าง + หมูแดงจะอร่อยนะ  แต่เราอยากกินโจ๊กมากกว่าอ่า  ก็เลยสั่งโจ๊กหมูใส่ไข่เยี่ยวม้า  (ของโปรด) มากิน



รสชาติก็พอใช้ได้นะ  ด้วยความที่เราหิวกันด้วย  เลยซัดกะเสียเรียบ..เฮ้อสบายท้อง  ส่วนคนอื่นก็ทานเป็นข้าวหน้าหมูตุ๋นบ้าง  บะหมี่บ้างตามอัธยาศัย  


เสร็จแล้วก็เรียกเช็คบิล....ไหนดูสิว่าราคาเท่าไหร่
มื้อนี้ปาเข้าไปสองพันกว่าบาทแน่ะ   ราคาสูงหน่อย แต่ก็ต้องทำใจเนอะ Smiley ร้านอาหารในสนามบินก็อย่างนี้แหล่ะ



เสร็จแล้วผ่านด่านผู้โดยสารขาออก   เดินผ่าน Duty free ก็แวะสักหน่อย....(แล้วก็ได้ติดมือมาประเภทน้ำหอมอะไรทำนองนี้  ปาเข้าไปหลายพัน...ขนาดยังไม่ออกจากประเทศเลยนะเนี่ย...)





แล้วเราก็มานั่งรอที่ประตู  จนได้เวลาขึ้นเครื่อง  พอเค้าเรียกให้ขึ้น  พวกเราก็เข้าไปเลยค่า...





อ้อ...ลืมบอกว่า เราไปคราวนี้กับทัวร์ค่า  เค้ามีงบให้ 100 บาทไว้ซื้อของกินในเครื่องบินด้วย  ดูนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้ว  เราก็เลยต้องกินอีกมื้อนึงในเครื่องกันนี่แหล่ะ


อิชั้นเลือกมาม่าคัพ  ราคา 60 บาท ส่วนพี่ศักดิ์หง่ำๆแซนวิส






นั่งไม่นาน  เราก็มาถึงสนามบินมาเก๊าแล้วค่ะ   สนามบินนี้เป็นสนามบินเล็กๆค่ะ  คนเลยไม่เยอะเท่าไหร่...









เมื่อผ่านพิธีการทางสนามบิน  เราก็มาถึงตัวเมืองมาเก๊าแล้ว...เย้  (ขนาดบินไม่นาน ยังใช้เวลาปาเข้าไปตั้งสองมื้อ)




มาเก๊าถือเป็นเขตบริหารพิเศษแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน อยู่ไม่ไกลจากฮ่องกง... ที่นี่จึงมีคนที่แวะมาเที่ยวมากมายอยู่เหมือนกัน



เวลาที่นี่เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมงนะคะ   อย่าลืมตั้งเวลากันใหม่  เดี๋ยวเวลาเค้านัดจะได้มาถูก......


ก่อนอื่นไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมริมทะเลก่อนนะค้า...โดยรูปปั้นเจ้าแม่นี้มีประวัติตามนี้ค่า
V
V






รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมริมทะเล-มาเก๊า (Kun Iam Statue-De Macau)  เป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่รัฐบาลโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับรัฐบาลจีน เขตปกครองพิเศษมาเก๊า เนื่องในโอกาสที่ส่งมอบ มาเก๊าคืนให้กับจีน องค์รูปปั้นเป็นสีทองมีพระพักต์ละม้ายพระแม่มารี   ซึ่งก็แน่นอนเพราะโปตุเกสเป็นประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก  ซึ่งมีความศรัทธาในพระแม่มารีหรือแม่พระซึ่งเป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า 


รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีทองอร่ามประดิษฐานบนดอกบัว ภายในฐานพระรูปจะเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งแสดงถึงประวัติความเป็นมา และวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างซึ่งมี 2 ชั้น ชั้น1 เป็นห้องแสดงประวัติ ห้องสมุดและโสตทัศนศึกษา  ส่วนชั้น 2 เป็นห้องภาวนาและจำหน่ายของที่ระลึก  ตัวรูปปั้นยื่นลงไปในทะเลและมีวิวทิวทัศน์สวยงามมากมีเส้นทางเดินสู่องค์รูปปั้นมีความยาว 60 เมตรน้ำหนักรูปปั้น 60 ตัน ความสูง 20 เมตร  


ด้านหน้าเป็น ถนน ดร.ซุนยัดเซ็น ซึ่งเป็นแหลงธุรกิจของมาเก๊า  นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร ภัตคาร และ ผับ บาร์ ประวัติการก่อสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมนั้นถูกออกแบบโดยศิลปินชาวโปตุเกส Cristina Rocha Leiria เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1997 และสำเร็จในเดือน มี.ค. ค.ศ. 1999 




......................................................................


แต่ !! ปัญหาคือ ช่วงนี้เค้ากำลังบูรณะอยู่  ก็เลยถ่ายมาแล้วไม่เห็นอะไรเท่าไหร่  Smiley แถมเข้าไปใกล้ๆมากก็ไมได้..เราก็เลยตั้งจิตอธิษฐาน ขอไหว้เจ้าแม่จากตรงนี้ก็แล้วกัน....




















ต่อไปก็ไปวัดอาม่ากันค่ะ


ประวัติ....


วัดอาม่า (A-Ma Temple)
 
 วัดอาม่า คือ วัดที่เก่าแก่ที่สุดและเก็บรักษาศิลปะวัตถุเก่าแก่ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลไว้มากมาย เป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่คงอยู่มาได้ยาวนานที่สุดในมาเก๊า







วัดเจ้าแม่อาม่า หรือที่รู้จักกันในนามของ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่บริเวณเขาบาร์รา สร้างขึ้นเพื่อเป็นการถวายสักการะแก่อาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล


โดยมีตำนานเล่าว่ามีหญิงสาวชื่อ 'หลิงม่า' เป็นชาวฟูเจี้ยน ต้องการข้ามฝั่งมายังคาบสมุทรเอ้าเหมิน จึงขอโดยสารมากับเรือประมงลำเล็กๆลำหนึ่ง แต่ระหว่างที่เรือล่องอยู่ก็กลับมีพายุเกิดขึ้นทำให้เรือลำอื่นๆอับปางลง


แต่ด้วยปาฏิหาริย์ก็ทำให้เรือของหลิงม่าเดินทางมาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อก้าวเท้าขึ้นบนฝั่ง เธอก็ลอยขึ้นไปบนฟ้าและหายลับไป ชาวประมงทั้งหลายจึงเชื่อกันว่าเธอเป็นธิดาแห่งท้องทะเล และนับแต่นั้นดินแดนแห่งนี้ก็ได้รับการขนานนามว่า 'อ่าวของอาม่า' อ่านเป็นภาษาจีนว่า 'อามา เกา' และเพี้ยนมาเป็นมาเก๊าในปัจจุบัน


โดยภายในวัดอาม่านั้นในมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงว่า เป็นจุดที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊าอีกด้วย



 บริเวณหน้าวัดมีรูปปั้นสิงโตหินอยู่ 2 ตัว เชื่อกันว่าหากใครได้หมุนลูกแก้ว ที่อยู่ในปากสิงโตไปทางขวา 3 ครั้ง พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน แล้วจะสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา




......................................................................



มาถึงวัดแล้วก็ไปหมุนลูกแก้วกันหน่อย  อธิษฐาน.....ขอให้สมหวังนะคะ 
ทริปนี้ถูกใจอาม่ากะแม่จริงๆ  ได้ทำบุญไหว้พระถึงถิ่นเลย...


























ออกมาหน้าวัดแล้ว บรรยากาศดีมากเลย อากาศเย็นสบาย แต่ไม่ถึงกับหนาวมาก
......เรามาถ่ายรูปเล่นกันหน่อยนะ
















แล้วก็แวะไปชมขนมและหมูแผ่นที่ร้านของฝากกันหน่อยจ้า..(หนักไปทางชิม ยังไม่ซื้ออ่ะ ขี้เกียจแบก...)







จากนั้น เราก็ไปเยี่ยมชมซากโบสถ์เซนต์ปอลกันนะคะ....




ประวัติค่า
V
V


ซากโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊า มีประวัติความเป็นมายาวนานและมีเรื่องราวเกี่ยวข้องที่น่าสนใจดังนี้







โบสถ์เซนต์ปอลถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1602 แล้วเสร็จในปีค.ศ. 1637 ออกแบบโดยพระนิกายเยซูอิตชาวอิตาเลียนโดยความช่วยเหลือของคริสเตียนชาวญี่ปุ่น  เป็นโบสถ์คาทอลิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวลานั้น ตั้งอยู่ติดกับวิทยาลัยเยซูอิตแห่งเซนต์ปอล (The Jesuit College of St. Paul’s) ซึ่งเป็นสถานศึกษาแห่งแรกของชาวตะวันตกในแดนตะวันออกไกลซึ่งมิชชันนารีผู้เผยแพร่ศาสนาใช้เป็นที่เรียนภาษาจีนที่มาเก๊าก่อนที่จะเดินทางเข้าแผ่นดินใหญ่



วิทยาลัยแห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นค่ายทหารหลังจากที่มีการขับไล่บรรดาพระนิกายเยซูอิตออกไป  ต่อมาในปีค.ศ. 1835 เกิดไฟใหม้เริ่มต้นจากในห้องครัว ไฟลุกลามรุนแรงทำลายวิทยาลัยและตัวอาคารโบสถ์พังทลายจนหมด คงเหลือไว้แต่เพียงด้านหน้าของตึกที่มีรายละเอียดของสถาปัตยกรรม (Façade) ส่วนของบันไดทางขึ้น และบางส่วนของกำแพง


ทุกอย่างถูกทิ้งไว้หลังเกิดไฟไหม้ใหญ๋ในครั้งนั้น จนถึงปี ค.ศ. 1991 จึงได้มีการบูรณะซ่อมแซม มีการจัดสร้างบริเวณด้านหลังของซากประตูโบสถ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาซึ่งรวบรวมภาพเขียนและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาต่างๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม




......................................................................


จะบอกว่า คนเยอะมากก เพราะที่นี่ถือเป็นไฮไลท์ของมาเก๊าเลย
หาวิวที่ไม่มีคนยากมากกก พยายามที่สุดแล้วก็ได้แค่นี้แหล่ะ






























แล้วเราก็แวะไปทานทาร์ตไข่ของขึ้นชื่อของมาเก๊าหน่อยนะคะ  ทาร์ตไข่ที่นี่อร่อยมากกกอ่ะ  เราชอบนะ มันจะเกรียมๆนิดๆ  ส่วนครีมคัสตาร์ดจะหวานน้อยกว่า KFC จะออกมันๆมากกว่า  แต่ไม่เลี่ยนนะ....ชอบอ่ะ อร่อยมากกก Smiley







เดินเล่นย่านการค้าแป๊บนึง ก็เจอป้ายโฆษณาเบอร์เกอร์ร้านนึง  เห็นแล้วต๊กใจ...ทำไมหน้าเหมือนอาม่าอิชั้นจังเลยหว่า


V
V




นี่ไง...เหมือนไม๊ค่ะ ก็เลยถ่ายรูปเก็บไว้...เดี๋ยวไปอำอาม่าดีกว่า อิอิSmiley







วิ่งกลับมาหาอาม่า แล้วถาม "อาม่าไปกินอะไรมา เนี่ยทัวร์เค้าถ่ายรูปไว้แล้ว ตาหล๊ก ตลก  กินอร่อยใหญ่เลยนะ" (เอารูปในกล้องให้อาม่าดู)


อาม่า : มองรูปแล้วงงเต็ก  "กินอะไร  อั๊วกินอะไร...ม่ายเห็นรู้เรื่อง"
อิชั้น  :  ก็นี่ไง  อ้าปากกินคำใหญ่  แถมมองกล้องด้วย...ทำไมกินอะไรไม่เรียบร้อยเล้ย"  (คริคริ)Smiley
อาม่า : "เอ...แล้วอั๊วไปกินอะไรตอนไหนหว่า ทำไมอั๊วจำไม่ได้..อั๊วม่ายล่ายกินขนมปังนา"  
อิชั้น :  (ยังอำไม่เลิกรา) "ลื้อจำไม่ได้หรือเหรอ...ว่ากินตอนไหน"
อาม่า : "อั๊วจำม่ายล่ายอ่า  เอ..ไปกินตอนไหนหว่า เดี๋ยวความจำไม่ค่อยดี ขี้หลงขี้ลืมแล้ว..."
อิชั้น  :  (ปิดปากหัวเราะแล้วจากไป)  ทิ้งให้อาม่างงเป็นไก่ตาแตก 

ยังไม่เฉลยหรอก  ปล่อยให้แกคิดต่อไปเรื่อยๆ  ว่าไปกินขนมปังตอนไหน หุหุ  (ถ้าแกล้งคนแก่แล้วบาปกรรม  อิชั้นต้องตกนรกแน่ๆวันนี้)




เสร็จแล้ว ทางทัวร์ก็พาไปกินข้าวเย็นกัน  ร้านอาหารเป็นร้านขายอาหารกวางตุ้ง  รสชาติธรรมดาๆ คล้ายๆกับอาหารบ้านเราค่ะ  แต่เราก็ต้องกินกันไว้ก่อน...เดี๋ยวจะหิวเอา 

แถมวันนี้เราต้องกินกันเร็วด้วยค่ะ  กินกัน 5 โมงเย็น เพราะทัวร์เค้าจองได้แค่เวลานี้เวลาเดียว  (คนมาเที่ยวเยอะค่ะ  ร้านอาหารเต็ม...)  ไม่งั้นเราต้องไปกินกันตั้งสองทุ่มกว่าแน่ะ  ก็เลยต้องซื้อมาม่าตุนไว้เล็กน้อย...เผื่อจะหิวตอนดึกๆ






ระหว่างมื้ออาหาร....พี่ศักดิ์เกิดอยากจะเอาใจอาม่าขึ้นมา  ถามอิชั้นว่า "น้ำ" ภาษาจีนเรียกว่าอะไร
อิชั้น : "จุ้ย" (น้ำ)
พี่ศักดิ์ : ยื่นขวดน้ำให้ "อาม่า เอาจิ้ว (เหล้า) ไหม" (พูดผิดยังไม่รู้ตัว)
อาม่า  : โอ้ย...อั๊วไม่เอาเหล้าหรอก  ไม่กินๆๆ
พี่ศักดิ์ : ?????

 




ทานเสร็จแล้ว เราก็เช็คอินเข้าโรงแรมค่ะ  โรงแรมวันนี้ ชื่อ "Pousada Marina Infante Hotel"  อยู่ไม่ไกลจากที่ท่องเที่ยวสุดท้ายในคืนนี้คือ  เดอะ เวเนเชี่ยน



และสำหรับที่มาของเดอะ เวเนเชี่ยน  มีดังนี้....




เดอะ เวเนเชี่ยน  มาเก๊า
ผู้ออกแบบได้ออกแบบและตกแต่ให้มีลักษณะของการจำลองเอาสถานที่ที่มีชื่อเสียงทั้งหมดของเกาะเวนิสมาไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นจัตุรัส San Marco สะพาน Rialto พระราชวัง Dodge สะพานแห่งลมหายใจ ฯลฯ มาใช้ตกแต่งรูปด้านภายนอกที่มองเห็นได้แต่ไกล ดูยิ่งใหญ่ตระหง่านตา ราวกับได้ไปล่องเรืออยู่ที่ด้านหน้าของเกาะเวนิสจริง ๆ



ส่วนภายในนั้นก็นำเอาศิลปะในรูปแบบของเวเนเชี่ยนมาใช้ตกแต่งทุกรายละเอียดภายใน ไม่ว่าจะเป็นห้องโถงของโรงแรม ทางเดินในศูนย์การค้าที่มีลำคลองที่คดเคี้ยวไปตามทางเดิน มีสะพานโค้งทอดข้ามคลองเช่นเดียวกับในเกาะเวนิส



......................................................................


มาดูของจริงกันเถอะค่ะ....ท้องฟ้าที่บอกเนี่ย สวยมว๊ากกก  ดูแทบไม่ออกว่าเป็นท้องฟ้าที่จำลองขึ้นมา เนียนสุดๆSmiley










ความใฝ่ฝันในใจ คืออยากเป็นนางแบบ Victoria Secret มากมาย (มีมิแรนด้า เคอร์ เป็น Idol ^^ ) แม้ว่าหุ่น+หน้าจะไม่ให้ แต่ด้วยใจรัก วันนี้ขอโพสต์ท่าเป็นนางฟ้า Victoria บนรันเวย์หน่อยนะค้า...




สถาปัตยกรรมที่นี่ทำมาคล้ายๆกับที่เวนิช อิตาลี  เราชอบค่ะ..โรแมนติกดีแท้...เดินชมวิวกับครอบครัวไป เดินจูงมือพี่ศักดิ์ไป....รู้สึกมีความสุขมากเลยค่ะSmiley








ด้วยบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก....มันก็คล้ายๆกับเรามาฮันนีมูนกันเนอะ แต่เป็นการฮันนีมูนที่แฝงด้วยความอบอุ่นมากมาย ก็เรามีพ่อแม่กับน้องเดินเคียงกันอยู่ข้างๆนี่เอง สวรรค์ถ้ามีจริง......ก็คงไม่ต่างจากนี้ไปเท่าไหร่แล้วละค่ะ เป็นโมเมนต์ที่มีความสุขมากมาย...





มาถึงที่นี่แล้วไม่ล่องเรือ ก็เหมือนมาไม่ถึงใช่ไหมค่ะ ว่าแล้วเราลงเรือกันเถอะ













คนพายเรือให้เรา อารมณ์ดีมากมาย ใส่ชุดฟอร์มสวยเสียด้วย พอพายไปถึงจุดนึง พี่แกก็ปล่อยเรือลอยไปตามน้ำ แล้วร้องเพลงโอเปร่าให้พวกเราฟังเฉยเลย.....ที่สำคัญ ร้องเพราะมว๊ากกกก เล่นเอาคนแถวนั้นมายืนดู และถ่ายรูปกันใหญ่ (ถ่ายคนร้องนะ ไม่ใช่พวกอิชั้น)

แต่เราก็ชอบนะ ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนเราล่องเรือที่เวนิชจริงๆ บิวท์อารมณ์ให้มากมาย ^_^




เราเดินเที่ยวกันจนถึงสามทุ่มกว่า  ก็ได้เวลาเดินกลับโรงแรมที่เราพักแล้ว  ขากลับผ่าน Galaxy ซึ่งเป็นคาสิโนอีกแหล่ง..........ใหญ่มากกกก  แสงสีเนี่ยสวยงามมากมาย.....  Smiley









วันนี้เราถึงที่พักเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง  แล้วก็เตรียมเข้านอน เพราะวันนี้ลุยมาเยอะ...ชักเหนื่อยเหมือนกัน  เลยขอชาร์ตพลังเอาไว้เที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้ละกัน



สำหรับวันนี้ Good night ก่อนนะคะ...



บ๊ายบายค่า




































Create Date : 26 ธันวาคม 2554
Last Update : 12 กันยายน 2556 13:56:37 น. 3 comments
Counter : 3486 Pageviews.

 
ขอตามไปเที่ยวด้วยคนน่ะค่ะ พี่เคยไปหมาเก๊าและฮ่องกงเมือตอนสาวๆ ค่ะ สิบกว่าปีแล้ว พอน้องพาไปเที่ยวทำให้พี่นึกถึงความหลังมากๆ พี่ก็ไปกับทัวร์ค่ะ แต่ไปกับเพื่อนๆ ที่ทำงาน พี่ชอบฮ่องกงเหมือนน้องเลยเดินทางใช้เวลาไม่นาน อากาศดีด้วยน่ะค่ะ ชอบคนแต่งตัวกันสวย

ภาพโษณาเหมือนอาม่าจริงๆ ด้วยค่ะ ขำที่น้องไปอำแก ดูเธอแข็งแรงมากๆ เลยน่ะค่ะ

พี่ชอบกระโปรงชุดที่น้องใส่กับเลคกิ้ง สวยดีค่ะ น้องเป็นนางแบบวิตอเรียซีเคร็ดได้สบายค่ะ ถ้าน้องมาอเมริกาต้องชอบแน่ๆ เลยเพราะที่นี่วิตอเรียซีเคร็ดเยอะมากๆ พี่เวลาไปห้างฯ ก็ชอบไปเดินดู

สามีน้องดูท่าทางมีความสุขมากๆ เลยน่ะค่ะ ขำตอนที่จะเอาใส่อาม่าอีกค่ะ

สำหรับภาษาจีน ตอนสมัยอยู่ไทยพี่ก็พูดพอได้แต่เป็นใต้จิ๋ว มาอเมริกาเค้าพูดแมนดารินเราฟังไม่ออกเอาเลย บางทีลูกค้ามาที่ห้างฯที่พี่ำทงานก็ส่งภาษาจีนหรืออวดว่าตัวเองพูดภาษาจีนใส่พี่ พี่ฟังไม่ออกจริงๆ พี่ก็ต้องบอกไปว่าขอโทษน่ะค่ะ ดิฉันไม่ใช่คนจึน

ปีใหม่ปีนี้ขอให้น้องและสามีมีความสุขมากๆ น่ะค่ะ มีสุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดสมปรารถนา

ปล น้องสาวน้องน่ารัก สดใสมากๆ เลยค่ะ


โดย: สวยตลอดกาล วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:7:40:08 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่
ขอให้ในทุกๆวันเป็นวันที่ดีดีนะคะ
ว่าแต่ทริปนี้ ขวัญว่าน่าจะชื่อ สุขสุดๆทริป นะคะ
เพราะ ทั้งคุณพี่และคุณสามี น่ารักมากๆเลนะคะ
และแถมครอบครัวคุณพี่ก้อน่ารักอีกต่างหาก
อย่างนี้สิค่ะ สุขสุดๆๆ
ว่าแต่นางแบบคนนี้กะนายแบบ ถ่ายรูปกันได้น่าอิจฉานะคะ
เมื่อไหร่น้อ ไอ้ขวัญจะมีแบบนี้บ้าง อิอิ


โดย: kwan_3023 วันที่: 3 มกราคม 2555 เวลา:7:52:26 น.  

 
น่าไป ๆ ตกลงทั้งสองอย่างแหล่ะ honey moon with family trip ka..


โดย: mariabamboo วันที่: 4 มกราคม 2555 เวลา:19:57:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.