คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^
ข้ามฟาก จากมาเก๊า....มาฮ่องกง



 


 


วันนี้เราก็จะออกเดินทางจากมาเก๊า ไปสู่ฮ่องกง   ด้วยเรือเฟอร์รี่กันนะคะ


ตื่นเช้ามา เราก็เก็บของ แพ็คกระเป๋า  เพราะเดี๋ยวพอทานอาหารเช้าเสร็จ  เราจะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาที่ห้องพักอีก


เก็บของเสร็จ  ก็ลงไปกิน Breakfast กันเถอะSmiley


ช่วงนี้เป็นเทศกาล  ทัวร์มาลงกันเยอะเลย









อาหารเช้าโรงแรม ไม่ว่าที่ไหนก็เหมือนกันทั่วโลก   มีขนมปัง ข้าวต้ม โจ๊ก ไข่ดาว ไข่คน......รสชาติก็จะจืดๆหน่อยค่ะ   ยิ่งกาแฟนะยิ่งโคตรจืดเลย  ไร้ซึ่งรสชาติอย่างแรง..... แต่เราก็ต้องทาน  ตุนเอาไว้ก่อน เพราะยังไม่รู้ว่ามื้อหน้าจะได้กินกี่โมง.....

 


หลังจากเช็คเอาท์แล้ว   เราก็ออกจากโรงแรมประมาณแปดโมงเช้า   แล้วก็เดินทางไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่กันเถอะค่ะ








ขึ้นมาบนเรือแล้ว






วิวของมาเก๊ายามเช้า   ยามที่ไร้แสงสี  มาเก๊าก็ดูเงียบสงบดีเหมือนกันนะ






เรือโยกได้ใจดีเหมือนกันค่ะ   แอบรู้สึกมวนๆท้องนิดนึง  แต่ก็ยังพอไหวอยู่ ........เหลือบตาดูคนอื่นๆ ก็ไม่เป็นไรกันนะ   แต่เห็นผู้หญิงที่นั่งด้านหลัง  ท่าทางจะไม่ไหวแล้ว   เมาเรืออย่างหนักเลย ได้ยินเสียงโอ๊กอ๊ากมาเป็นระยะๆ อึ๋ยยย.......Smiley  โชคดีจังที่เราไม่เมาเรือ


เรานั่งเรือประมาณเกือบสองชั่วโมง ก็ถึงชายฝั่งเกาะฮ่องกง   ก่อนจะเข้าฮ่องกง  เราก็ต้องเตรียมพาสปอร์ตกันก่อน  เพราะเหมือนเราเดินทางข้ามประเทศมา....


พอเข้าคิวตรวจคนเข้าเมือง    เค้าก็จะดูพาสปอร์ต   ตรวจคนละไม่นานก็เสร็จ..... แต่มีปัญหาของอาม่า  เพราะอาม่าเป็นคนต่างด้าว  จะมีพาสปอร์ตสองเล่ม  ทีนี้อีคนตรวจก็จะงงแล้ว  ว่าชีจะใช้เล่มไหน


อิชั้นต้องยืนประกบอาม่าตลอด    เพราะต้องคอยตอบคำถามว่า  อาม่ามาจากไหน  จะไปไหน จะอยู่กี่วัน............ท่าทางเค้าจะกลัวอาม่ามาหลบอยู่ประเทศเค้าจริงๆนะ   ถามซักแล้วซักอีก  ไม่เหมือนลูกทัวร์คนอื่นๆ  อิชั้นก็ต้องคอยอธิบายเสียเมื่อย    Smiley 





สรุปว่า กลุ่มเราออกมาช้าสุด เพราะตม.ติดใจอาม่านี่แหล่ะ 55





ตามโปรแกรมทัวร์  อันดับต่อไปเมื่อมาถึงฮ่องกง คือพาเราขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่นองปิง  แต่เนื่องจากปีที่แล้ว พวกเราก็ขึ้นไปครั้งหนึ่ง  หนนี้เราก็เลยไม่อยากขึ้น  แต่ขออยู่ช๊อปปิ้งที่ Habour City Outlet ดีกว่า...มีของให้เราช๊อปเยอะเลยยยSmiley



ก่อนอื่นไปทานข้าวกลางวันกันก่อนนะ  


มื้อนี้เรากินที่ศูนย์อาหารนานาชาติ    มีหลายอย่างจริงๆด้วย เลือกทานกันไม่ถูกเลย


สำหรับเรา.....มาฮ่องกงแล้วก็ต้องนี่เลย....โจ๊กร้อนๆค่ะ  น่าทานมากมาย   เนื้อโจ๊กเนียน ละเอียดเป็นครีมเลย  หอมสุดๆ  ชอบมาก   ชามนี้แบ่งกันทานหลายคน  ใครทานก็ติดใจSmiley








น้องสาวสั่งอาหารเกาหลี   หน้าตาคล้ายมาม่าบ้านเราเลย  แต่ป๊าบอกโจ๊กของอิชั้นอร่อยกว่า  อิอิ









ทานเสร็จ  เราก็ไปช๊อปปิ้งกันเถอะ....Smiley

 


ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าแบรนด์เนม  มากมายหลายร้านเลยค่ะ  แต่ที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มเราก็คือ  Bossini  Giodano และ Esprit  ที่นี่แบบสวยและราคาถูกกว่าเมืองไทยมาก  อิชั้นจูงมือพี่ศักดิ์และน้องชายไปดูเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ ......หนุ่มๆได้มาหลายตัวเหมือนกัน


แต่สำหรับอิชั้น   สิ่งที่เครซี่มากที่สุดดดด   ที่ๆต้องมา  ให้ได้เมื่อมาฮ่องกง  ก็คือร้าน  “Sasa”   แหล่งรวบรวมสินค้า น้ำหอม และเครื่องสำอางค์     คล้ายๆวัตสันในบ้านเรา   แต่อิชั้นว่ามันหลากหลายกว่า   ของเยอะกว่ามากกกก    น่าซื้อน่าช๊อปกว่าวัตสันเยอะเลยSmiley



 


พี่ศักดิ์ก็ตามถ่ายทุกช๊อตของการช๊อปปิ้งจริงๆ   ทำหน้าที่ตากล้องได้ดีมั่กมากSmiley


ร้านนี้ดูดเงินอิชั้นไปได้เยอะเลย   ก็จะได้จำพวก  เครื่องสำอางค์ทั้งหลาย  ที่นี่ Canmake ถูกกว่าเมืองไทยนิดนึงค่ะ    อิชั้นก็ยังสองจิตสองใจอยู่ว่าจะเอาไหม.....แต่แพคแกจมันน่าร๊ากกก อ่า  สุดท้ายก็เลยสอยมาหลายอัน


อ้อ...ลิปไข่ EOS อิชั้นก็เจอที่นี่นะคะ  อันละ 120 บาท  (ซื้อทางเน็ท อันละ 200 กว่าบาท)  อู๊ยย ถูก  เลยสอยมาหลายอันSmiley


แล้วก็ได้น้ำหอมตามออเดอร์ที่มีคนฝากซื้อไว้  อันนี้ถูกกว่าเมืองไทยแน่นอน   แถมถูกกว่าเยอะด้วย







ตอนจ่ายเงินก็ได้ตะกร้าใหญ่ๆเลย   แต่ก็มีความสุขม๊ากกมาก  เวลาซื้อเครื่องสำอางอิชั้นก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ  หุหุ




ช๊อปเสร็จก็ออกมาเดินเล่นหน้าห้างกันหน่อย   มีน้ำพุเต้นรำด้วยนะ











จู่ๆพี่ศักดิ์ก็เกิดไม่สบายอย่างแรงขึ้นมา  เจ็บคอมาก............  จริงๆท่าทางไม่ค่อยดีมาตั้งแต่เมืองไทยแล้ว  อิชั้นเหลือบไปเห็นร้านยาอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้  ก็เลยอาสาไปซื้อยาให้  (ตามหน้าที่ของเภสัชกรและภรรยาที่ดี  อิอิ)  อิชั้นเข้าไปในมุม Pharmacy แล้วก็ถามเค้า   จะซื้อยาจำพวก  Antibiotics   สักหน่อย


ปรากฏว่าเค้าไม่ขายให้ค่า  เพราะต้องใช้ใบสั่งยาอย่างเดียว   (ตาย....ลืมเสียสนิทเลย)   Smiley เราก็เลยตกม้าตายตรงนั้นเลยค่ะ    ลืมนึกไปเลยว่า  ที่เมืองนอกเนี่ย  เค้าไม่จ่ายยาตามใจเรา  ถึงเราจะบอกว่าเราเป็น Pharmacist เค้าก็ไม่จ่ายให้เราอยู่ดี  (เพราะเราไม่ใช่หมอ  ฮือๆ)Smiley


 สรุปว่าพี่ศักดิ์อดยาฆ่าเชื้อค่ะ   ซื้อไม่ได้จริงๆ  ก็เลยพยายามมองหาอะไรที่พอทดแทนได้   เค้าเลยแนะนำสมุนไพรมาให้  ไม่อยากได้เล้ยยย  แต่ก็คงต้องใช่ไปก่อน........ก็พี่ศักดิ์เจ็บคอเยอะนี่ !!




เสร็จแล้ว  เราก็มานั่งรอกรุ๊ปทัวร์   จนได้เวลาแล้ว เค้าก็พาเราเดินทางไปที่พักที่โรงแรม Silka ซึ่งอยู่ฝั่งเกาลูน   พอถึงแล้วเราก็เช็คอิน  เตรียมเก็บของเข้าที่พัก แต่ก่อนเข้าไปก็ถ่ายรูปเล่นกันก่อนนะ












เข้าไปข้างในแล้วก็ต๊กกะใจ   ทำไมห้องนอนมันเล็กขนาดนี้หว่าSmiley










ห้องคับแคบมากค่ะ   ในห้องมีเตียงเดี่ยวสองเตียง  แล้วก็แทบจะไม่มีที่ให้เดินเลย  โต๊ะเครื่องแป้งก็ไม่มีให้....โอย แล้วอิชั้นจะทำสวยยังไงค้าเนี่ยยยยยSmiley




แต่บ่นไปก็เท่านั้น.....ยังไงก็ต้องพัก   แล้วเดี๋ยวโปรแกรมต่อไป  คือเค้าจะพาเราไปจิมซาจุ่ย  เพื่อช๊อปปิ้ง และดูการแสดงแสงสี  “Symphony of life” บริเวณอ่าวฮ่องกง   โดยไกด์จะพาเราไปด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน  และขากลับเราก็จะกลับกันเองด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเหมือนเดิม....


ทั้งนี้ ด้วยการเดินทางที่ไกลโข....และต้องเดินตลอดทาง ทำให้อาม่าหมดสิทธิ์จะร่วมคณะไปกับเรา สรุปว่า อาม่าต้องอยู่เฝ้าห้องจ้า  เราเลยซื้อเสบียงให้อาม่าไว้กินตอนกลางคืน.....



ทั้งนี้ ขอจบหมวดยามเช้าฮ่องกงเท่านี้ก่อน เดี๋ยวตามเรามาเที่ยวย่านจิมซาจุ่ยกันนะคะ

 

 

 




Create Date : 04 มกราคม 2555
Last Update : 12 กันยายน 2556 13:56:21 น. 1 comments
Counter : 1214 Pageviews.

 
ตามมาเที่ยวฮ่องกงด้วยคนค่ะ
โจ๊กร้อนๆ ที่นั่นดูน่าอร่อย ร้าน sasa ก็น่าช้อป ดูของเยอะดีจังค่ะ


โดย: diamondsky วันที่: 4 มกราคม 2555 เวลา:18:09:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.