คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^
ทริปไปเที่ยวฮ่องกงวันแรก : The way to Hong Kong








วันที่ 15-18 ธันวาคม นี้เป็นฤกษ์งามยามดี ที่อิชั้นและครอบครัวได้ไปเที่ยวฮ่องกงด้วยกัน
ทริปนี้เราซื้อ package ตั๋วเครื่องบินกับที่พัก
และมีทัวร์พาเที่ยวหนึ่งวัน อาหารมื้อเดียว
ใช่ค่ะ ฟังมิผิด ทัวร์เลี้ยงอาหารแค่มื้อเดียว ที่เหลือเราหากินเอง
แต่ก็เป็นที่ถูกใจป๊ะป๋าเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากป๊าตั้งใจจะหากินอาหารฮ่องกงอร่อยๆอยู่แล้ว
ทริปนี้เราจึงมีรายการกินๆๆนอกจากรายการเที่ยว + ช๊อปปิ้ง

แต่พอใกล้ถึงวันเดินทาง 15 ธันวาคม ปรากฏว่าคุณน้องชายติดโอนที่ดินกับลูกค้า
จะไหว้วานใครไปแทนก็ไม่ได้ ต้องไปเองสถานเดียว
เราจึงจำใจต้องขอเลื่อนไฟล์ไปหนึ่งวัน เพราะมันจำเป็นจริงๆนี่นา
สรุปว่าเราต้องเสียเงินเพิ่มคนละหนึ่งพันบาทค่าที่ไปดีเลย์ไฟล์เค้า
แต่ว่ากลับเวลาเดิม วันเดิมเป๊ะ...
จริงๆแบบนี้เราขาดทุนไปหนึ่งวันนะเนี่ย อดเที่ยวหนึ่งวัน...เศร้าเลย

แต่เอาเถอะ...ยังไงก็ได้ไปเที่ยวแล้ว




เดินทางไปสุวรรณภูมิ
เหมือนทางหลวงชนบทจริงๆนะเง้อ...





มาถึงสนามบินแล้ว เข้าไปเช็คอินก่อนนะจ๊ะ



อ้อ..ไปเสียค่าปรับด้วยคนละพัน ห้าคนก็รวมห้าพันบาท....


โหลดกระเป๋าแล้วก็ไปตรวจผู้โดยสารขาออก


โอ...กว่าจะเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางสนามบิน เล่นเอาเสียเหนื่อย
ที่ลำบากกว่าทุกครั้งคือหนนี้เราไปกันเอง ทัวร์ไม่ได้มาส่ง
(มีคนมารับที่ฮ่องกง)
ก็เลยต้องเดินเอกสารเองอะไรเองให้เรียบร้อย เพราะไม่มีคนมาดูแลให้
แต่ก็โอเค....ไม่ลำบากอะไรมาก ชิลๆจ้า



เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นในดิวตี้ฟรีทั้งหลายแหล่กันเถอะ









คุณน้องสาวสอยช๊อกโกแลตโกดิว่ามาสามกล่อง
เหลือบไปเห็นราคาจะเป็นลม ช๊อกโกแลตอะไรวะกล่องเป็นพัน
แหม...หล่อนยังไม่ทันออกจากประเทศก็ช๊อปแหลกแล้วนะ

เราไปนั่งพักที่ห้องรับรองของ King Power ค่ะ ทัวร์ให้บัตรฟรีมาห้าใบ
ปกติที่เล้าจ์นี้จะมีอาหารว่างรับรอง เป็นสแน็คเล็กๆน้อยๆ นะคะ
ทุกทีก็มี่ของกินเหลือเฟือ อาหารอร่อยใช้ได้
แต่วันนี้มันเป็นเพราะทัวร์จะออกหรือไงก็ไม่ทราบได้ คนเยอะมากกก
อาหารก็น้อยนิดกระจิดร่อย...เหลือแค่เค๊กกะทาร์ตมะนาวไม่กี่ชิ้น และก็แคร๊กเกอร์ กินไม่อิ่มเลย....
จะซื้อกินในนี้ก็แพงเหลือเกิน (มะพร้าวน้ำหอมลูกละร้อยอ่ะค่ะ)
เลยทนแขวนท้องรอไปกินบนเครื่องดีกว่า

เดินทางไป gate ที่ต้องขึ้นเครื่อง

นั่งรอเครื่องบินกันค่ะ








เย้...เครื่องบินของเรามาแล้ว






ทริปนี้เราใช้บริการสายการบิน Emirate ค่ะ
ป๊าชอบมาก บอกว่าถูกกว่าการบินไทยแถมที่นั่งก็กว้างกว่าด้วย (เอ๊...ยังไงวะ ทั้งถูกกว่าทั้งใหญ่กว่า)
แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริงนะ เพราะเราเคยนั่งของการบินไทย ที่นั่งแคบมากกกก
แต่นี่ดีมากเลย ที่นั่งกว้างขวางใหญ่โต ขนาดป๊าป๋าตัวใหญ่ๆขายังไม่ชิดเบาะหน้าเลย




มีจอทีวีหน้าเรา ไว้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเฟซบุ๊ค เอ๊ย...ม่ายช่าย
แฮ่ะๆ หน้าจอนี้เป็นทัชสกรีนนะคะ ไฮเทคมากมาย
หนังก็ใหม่ใช้ได้เลย เราเลือกดู Splice ค่ะ ไม่ได้ดูในโรง
ส่วนคนอื่นดูอวตารบ้าง แวมไพร์บ้าง สนุกสนานกันใหญ่





วิวบนเครื่องบิน









สักพักก็เสริฟอาหารค่ะ มีให้เลือกสองอย่าง ปลากับเนื้อลูกแกะ
เราเลือกเนื้อลูกแกะค่ะ ส่วนน้องสาวเลือกปลา เอามาแบ่งกันชิม




ทานได้สักพัก ดูหนังอีกสักหน่อย เครื่องก็ลงจอดค่ะ
ตอนจอดมีเสียวนิดๆ เครื่องจอดแรงไปหน่อย
คือแบบว่าเป็นคนที่เสียวตอนเครื่องบิน take-off กับ landing อยู่แล้ว
เพราะได้ยินมาว่าอีเครื่องเนี้ยมันจะมีปัญหาก็สองช่วงนี้แหล่ะ
แบบว่าลุ้นมาก เวลามันโครกเครกก็เลยเสียวเป็นธรรมดา
แต่สรุปว่าก็ลงจอดได้โดยสวัสดิภาพค่ะ เย้...











รอรถไฟในสนามบิน


แล้วตอนนี้เราก็ถึงแผ่นดินฮ่องกงแล้วค่ะ
ออกมาจากสนามบินก็เจออากาศที่หนาวเย็นมากๆๆๆๆๆ
แบบว่าอิชั้นตัวสั่งหงึกๆๆๆด้วยความหนาวเลยค่ะ
ก็จะไม่หนาวสั่นได้ยังไง อยู่เมืองไทยอุณหภูมิเกือบสามสิบ
มาเจอสิบองศาที่ฮ่องกงเข้าไป แทบจะขาดใจตาย....
ตายยยย ตายแน่ๆ



ฮ่องกงไม่ใช่ประเทศนะคะ เป็นแค่จังหวัดหนึ่งของประเทศจีน ขณะนี้เป็นเขตปกครองพิเศษ ก็คล้ายๆกับพัทยาของเรา
แต่เศรษฐกิจที่บูมไม่เคยตกก็เป็นจุดแข็งมากๆของเกาะเล็กๆแห่งนี้
ที่ฮ่องกงแยกได้เป็นสี่เมือง ที่เด่นๆก็คือ ฝั่งฮ่องกงและฝั่งเกาลูน
บริเวณที่เราพักคือฝั่งเกาลูน เป็นย่านช๊อปปิ้ง ย่านที่พัก
ส่วนฝั่งฮ่องกงจะเป็นย่านสำนักงาน ตึกสูงอยู่ที่นี่มากมาย
คนฮ่องกงส่วนใหญ่จะพักที่ฝั่งเกาลูนและเดินทางไปทำงานที่ฝั่งฮ่องกงในตอนเช้า และกลับฝั่งเกาลูนในช่วงเลิกงาน
เพราะระบบบริการขนส่งมวลชนที่ดีมากๆๆๆๆ ของที่นี่ สะดวกสุดๆ

เราพักกันที่โรงแรม Prudential อยู่ฝั่งเกาลูน บนถนนนาธาน (เอ๊ะ ถนนอะไร คุ้นๆ)



เคยเสริชเจอในเน็ท เค้าว่าโรงแรมนี้เล็กมาก อยู่บนสถานีรถไฟฟ้า Jordan ข้อดีคือการเดินทางสะดวกสบาย ส่วนข้อเสียคือ โรงแรมเล็กมาก แท็กซี่ไม่รู้จัก หาไม่ค่อยเจอ (เมื่อตอนอิชั้นไปเที่ยว พบว่าอย่าว่าแต่จะหาเลย รับมันยังไม่รับเลยค่ะ โบกมือไล่แล้วขับรถหนีเราเฉยเลย)
แถมมีคนคอมเมนต์ว่า บันไดเลื่อนแคบมากกกก ยังไม่เคยเห็นว่าเป็นยังไง
แต่คาดว่าจะได้เห็นวันนี้แหล่ะคะ....

อิชั้นได้เห็นแล้ว บันไดเลื่อนมันแคบสมคำเล่าลือจริงๆ
ขึ้นได้ทีละคนอ่ะ อย่างนี้ยกกระเป๋าขึ้นไปไม่ได้แน่ๆ

สักพักก็มี Bell boy มายกกระเป๋าให้เราคะ
เพราะเราก็ไม่รู้จะยกกระเป๋าขึ้นไปบนบันไดเลื่อนที่แคบขนาดนี้ได้ยังไง
รอดตัวไป เฮ้อ...


เช็คอินเข้าโรงแรมเราก็สำรวจห้องพักหน่อย
อืมมม ห้องพักก็ใช้ได้นะ แม้ว่าจะเล็กนิดนึง
ยิ่งห้องเรานอนสามคน ต้องเสริมเตียงอีกเตียงนึง แคบเข้าไปอีกหน่อย
ห้องน้ำก็พอไหว แต่แอบเก่านิดนึง










ก่อนจะหามื้อดึกกิน (ไม่ดึกได้ไง สามทุ่มแล้ว) ก่อนไปก็เปลี่ยนชุดใหม่ที่จะใส่วันพรุ่งนี้ เพราะชุดวันนี้บางเกินไปเอาไม่อยู่แล้ว
แต่ก่อนเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ขอโพสชุดของวันนี้ก่อนนิดนึง
(ใส่จนจะถอดแล้ว ยังไม่ได้รีวิวเลย)

ชุดแซคกระโปรงลายเสือราคา 300 บาท ที่มาบุญครอง
เสื้อแจ็คแก็ตสก๊อยมาก ของ Zein ราคา 800 บาท
กางเกงเลคกิ้งสีดำของน้องสาว ซื้อจากแพลตตินัม
ผ้าพันคอลายหัวกะโหลก จากโลตัส 69 บาท (ถูกมากกก)









เราออกมานอกโรงแรม หาอะไรกินกัน
พอดีเห็นร้านอาหารจีนเล็กๆร้านนึง หน้าตาพอใช้ได้ ประกอบกับคณะเราก็หิวกันมากมาย เลยเข้าไปใช้บริการสักหน่อย







เหนื่อยใจ..กว่าจะสั่งอาหารได้ เมนูมีแต่ภาษาจีน อ่านไม่ออก
ต้องเรียกเด็กเสริฟมาถาม คนแรกก็ดันสปีคอิงลิชไม่ได้ คุยไม่รู้เรื่องพักใหญ่ต้องตามคนที่สองมา
คนที่สองพอฟังรู้เรื่อง เลยได้สั่งอาหารสักที
เฮ้อ....หิวก็หิว เกือบอดตายแล้วไหมล่ะชั้น




อาหารจานแรกคือ ปีกไก่ต้มซีอิ้ว รสชาติหวานๆดี เนื้อเปื่อยๆหน่อย อร่อยดีนะ

ต่อมาเป็นผัดเปรี้ยวหวานราดหมี่กรอบ รู้สึกว่าฮ่องกงนิยมทานหมี่กรอบแบบนี้กันมากเลยอ่ะ เป็นแบบกระทะร้อน ร้อนฉ่ามาทีเดียว

แล้วตามมาด้วยบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ลูกใหญ่มากกก น่าทานมาก รสชาติดีทีเดียว เส้นบะหมี่เหนียว ส่วนเกี๊ยวก็ลูกใหญ่ อร่อยด้วย ป๊าติดใจถึงขั้นขอสั่งเกี๊ยวต่างหากเบิ้ล

สุดท้ายคือข้าวต้มซีฟู๊ด ไม่รู้เรียกอย่างนี้หรือปล่าว แต่มันน่าจะเข้าข่ายประมาณนี้อ่ะ
ชามนี้อร่อยดี แปลกดีด้วย ใส่มะเขือเทศลูกโตๆด้วย รสชาติเปรี้ยวๆหวาน ชามนี้บ้านเราชอบมาก ถึงขั้นเบิ้ลอีกแล้ว

ถึงจุดนี้เด็กเสริฟเริ่มมองหน้ากันแล้วอ่ะ ทานเก่งจริงโต๊ะนี้....


เฮ้อ...สบายท้องจัง
เดินเล่นต่ออีกระยะ หาซื้อหมวกกะถุงมือเพิ่ม เพราะไม่ได้เตรียมมาเยอะ
(ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้) เสร็จแล้วคุณน้องสาวก็อยากได้รองเท้าบูทยาวสักคู่ เพราะที่เตรียมมามันบางไปหน่อย...หนาวขา


V
V
V
V
V


เดินไปเดินมา ป๊าเกิดอยากลองซาลาเปาร้านนี้เข้า
(เมื่อกี๊ยังไม่อิ่มเหรอค่ะ คุณป๊าขา กินไปยังไม่ถึงชั่วโมงเลย)
เอาวะ เพื่อป๊า ชิมก็ชิม
เราก็เลยยกโขยงเข้าไปในร้านกัน




สั่งพวกซาลาเปา ฮะเก๋า ติ่มซำมาทานกันคะ
ก๋วยเตี๋ยวหลอดที่นี่แปลกดีนะ เนื้อมันนุ่มๆไม่เหนียวเหมือนบ้านเรา
แต่ซาลาเปาลูกหญ่ายมากกก ไส้เยอะดี
สรุปว่าร้านนี้ก็ทานได้เรื่อยๆค่ะ









กินเสร็จก็กลับโรงแรม
อ้อ...จะเห็นว่าไม่บ่นว่าหนาวแล้วในขากลับ
เพราะอิชั้นได้ของดีคะ กล่าวคือที่นี่มีซองกำมะถันขาย เป็นแผ่นแปะ
เวลาที่ฉีกซองออกมา แผ่นนี้มันจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ
เอาไว้แปะตามตัวจะทำให้ร่างกายอบอุ่นค่ะ
ราคาก็ไม่แพงมาก ประมาณสิบกว่าบาทได้
อิชั้นเจอที่เซเว่นเลยรีบซื้อมาแพ็คใหญ่ แปะกันตรงนั้นเลยทีเดียวเชียว





ราคานี้เพื่อความอุ่นสบาย อิชั้นว่าถูกมากๆๆๆแปะๆเข้าไปเถอะ
เลยแปะไปสองแผ่นตรงพุง อุ๊น อุ่นคร่า
ว่าแต่ถ่ายรูปมา ว่าแล้วมันคุ้นๆ เหมือนอะไร
เหมือนผ้าอนามัยนี่เอง.....กร๊ากก


แล้ววันนี้เราก็เข้านอนพักผ่อนกันค่ะ
เหนื่อยมามากพอแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปไหว้พระกับขึ้นกระเช้าไฟฟ้าที่นองปิงกัน

คืนนี้ บ๊ายบายค่ะ








Create Date : 20 ธันวาคม 2553
Last Update : 12 กันยายน 2556 13:54:54 น. 1 comments
Counter : 1341 Pageviews.

 
อยากลองไปบ้างจัง


โดย: pjyamap วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:23:34:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.