All Blog
พยายามจะเข้าเขียนบล็อกด้วยแทบเล็ต
ผมใช้ความพยายามมานับเป็นแรมปี ที่จะเข้าเขียนบล็อกด้วยแทบเล็ต ปกติผมจะใช้คอม พีซี เขียน แต่บางครั้งไม่สะดวกที่จะใช้คอม พีซี แต่ถ้าเขียนด้วยแทบเล็ตได้จะสะดวกมาก เพราะสามารถนั่งเขียนที่ไหนก็ได้
ข้อจำกัดของแอพฯบล็อกแกงคือ ไม่มีแอพฯให้โหลดมาใช้ มีแอพฯเฉพาะแอพฯพันทิปเท่านั้น วันนี้ลองค้นหาวิธีการที่จะเข้าใช้อีกครั้ง โดยใช้เว็บเบราเซ่อร์ Opera ช่วย ปรากฏว่าว่าสามารถเข้าเขียนบล็อกได้ แม้จะไม่สะดวกมากนัก
แแต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ขอบคุณความพยายามของตนเองครับ หากมีอะไรคืบหน้าจะมาเรียนให้ทราบอีกครั้ง สวัสดีครับ



Create Date : 06 กันยายน 2566
Last Update : 7 กันยายน 2566 9:05:50 น.
Counter : 285 Pageviews.

0 comment
หากผมเกิดช้ากว่านี้ชีวีผมจะดีขึ้น


ไม่ทราบว่าจะมีใครเคยคิดแบบผมใหมว่า หากผมเกิดมาช้ากว่านี้ชีวิตคงจะดีขึ้นมาก เพราะวันนี้ผมมีอายุย่างขึ้น 77 ปีแล้ว (พ.ศ.2557) เสียดายในชีวิตที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรที่ควรทำหลายอย่าง อาทิ เรียนให้สูงที่สุด(เท่าที่จะสามารถเรียนได้) ทำงานที่ดีที่สุด(เท่าที่จะสามารถทำได้) เป็นต้น

วันนี้ผมศึกษาหาความรู้แบบครูพักลักจำในหลายเรื่อง อาทิ เรื่อง ไอที. มือถือ ฯลฯ แต่ก็รู้ตัวว่ารู้แบบผิวเผินเท่านั้น ไม่ลึกซึ้งพอที่จะคุยกับใครๆแบบมืออาชีพได้ หลายคนที่รู้จักผมก็พูดปลอบใจ(เอาใจ)ผมว่า อายุปูนนี้รู้เท่านี้ก็ดีแล้ว มีคนอายุปูนนี้หรือน้อยกว่านี้อีกมากมาย ที่เขาไม่ค่อยรู้อะไร(ที่ควรรู้)เท่ากับผมเลย

ผมได้ฟังแล้วก็ชื่นใจไปได้สักชั่วครู่ขั่วยาม พอสติสัมปชัญญะกลับมาเหมือนเดิม ก็อดที่จะคิดอีกไม่ได้ว่า เราเกิดมาเร็วไปหรือเปล่า มีอะไรๆที่เราน่าจะได้เรียนรู้และมีประสบการณ์อีกเยอะ แต่จะว่าไปอายุปูนนี้ก็มีโอกาสสัมผัสกับความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองพอสมควรแล้ว เช่น มีโอกาสใช้รถไฟฟ้า บีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน บีอาร์ที ใช้มือถือระบบสมาร์ตโฟน 3 จี. และกำลังจะได้ดูทีวีดิจิตัล เป็นต้น ชีวิตจะต้องการอะไรมากไปกว่านี้

ชีวิตประจำวันของผมในยามนี้ หากไม่มีธุระไปต่างจังหวัด หรือมีภาระกิจต้องทำนอกบ้าน ช่วงครึ่งวันเช้าผมจะอุทิศเวลาให้กับการใช้คอมพิวเตอร์ เช็คเมล ดูเว็บฯต่างๆที่สนใจ โพสต์ข้อความในโซเชียลเน็ตเวิร์ค อาทิ เฟซบุ๊ค ทวีตเตอร์  หรือเขียนบล็อกตามเว็บฯต่างๆ เป็นต้น ช่วงบ่ายก็จะดูข่าวสารบ้านเมืองจากทีวี สลับกับการเล่นแทบเล็ตหรือมือถือ ชีวิตยามเย็นก็จะพักผ่อนตามอัธยาศัย ส่วนใหญ่ก็จะดูข่าวสาร หรือสารคดีจาก ไทยพีบีเอส เข้านอนโดยประมาณเวลา 23.00 น. แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับ ต้องเปิดเพลงเก่าจากมือถือฟังไปเรื่อยๆ หรือฟังวิทยุรายการที่ชื่นชอบ เช่น "เพื่อนรัตติกาล" เวลาประมาณเที่ยงคืนกว่านิดหน่อย จนม่อยหลับไปโดยอัตโนมัติ

แล้วจะตื่นและหลับสลับกันไปประมาณช่วงละชั่วโมงครึ่งหรือสองชั่วโมง อาการแบบนี้คุณหมอประจำตัวบอกว่าเป็นเรื่องปกติของคนแก่ แล้วจะตื่นประมาณตีห้าทุกวัน (ตื่นเวลานี้น่าจะไปออกกำลังกายนะ ก็เพียงแต่คิดเท่านั้น)

ถามว่าชีวิตแบบที่เล่ามานี้น่าเบื่อหน่ายใหม ตอบว่าบางครั้งก็นึกเบื่อเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับชีวิต คิดไปก็เปล่าประโยชน์ ขอเสริมนิดนึงในชีวิตก็มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศหรือต่างจังหวัดทุกปีนะ จะบอกให้







Create Date : 19 มิถุนายน 2557
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2560 8:42:04 น.
Counter : 4970 Pageviews.

1 comment
จะเลือกผู้ว่าฯกทม.คนไหนดี
เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียว การเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.คนใหม่ ก็จะถึงแล้ว (วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 เวลา 09.00-15.00 น.) เชื่อว่าคนกรุงเทพหลายคนคงจะงงและสับสนพอสมควร เพราะไม่สามารถจะตัดสินใจว่าจะเลือกใครดี นอกจากคนที่มีผู้สมัครที่ถูกใจแล้ว หรือเป็นแฟนคลับของใครสักคน
เพราะทุกวันนี้สื่อสาขาต่างๆก็นำเสนอเรื่องราวของผู้สมัครฯหลายคน ทั้งผู้สมัครในนามของพรรคการเมืองใหญ่สองพรรค และผู้สมัครอิสระอีกสองสามคน

ผมเขียนเรื่อง "ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่รู้จักกรุงเทพดีเพียงใด" จำนวน 3 ตอน ลงในเว็บฯ www.thorfun.com  ลองอ่านดูนะครับ
//www.thorfun.com/story/view/UShATK7rWXtDAA9i




Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2556 12:37:47 น.
Counter : 1823 Pageviews.

3 comment
ภาพมายากับการหาเสียงแบบดราม่า
ช่วงสองสามสัปดาห์มานี้ผมอดขำกับลีลาการสร้างภาพในการหาเสียงของผู้สมัครตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ไม่ด้ เห็นข่าวการสร้างภาพเหล่านี้จากทีวีหรือหน้า นสพ.รายวันแล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่า โถ...เพราะความอยากได้คะแนนเสียงจากประชาชน สู้ทนสร้างภาพอะไร(ก็ได้)ที่คิดว่าจะถูกใจชาวประชา กทม.

จากจำนวนผู้(กล้า)สมัครหลายคนนั้น เราจะเห็นที่มาของผู้สมัคร 2 แบบคือ มาจากพรรคการเมือง 2 ท่าน สมัครอิสระหลายท่าน
ผู้สันทัดกรณีการบ้าน(ไม่ใช่)การเมือง วิเคราะห์ว่า ผู้สมัครในนามพรรคจะเหนื่อยในการหาเสียงน้อย เพราะมีคะแนน(จัดตั้ง)ต้นทุนอยู่ในมือจำนวนหนึ่ง เช่น สข.สก.และ สส. แต่ก็มีความแตกต่างกันอีกระดับหนึ่ง ผมจะไม่เอ่ยชื่อว่าพรรคไหนนะ เพราะก็คงจะรู้กันดีแล้ว ว่าพื้นที่ กทม.ไผเป็นไผ...ฮา

ส่วนผู้สมัครอิสระเรื่องเหนื่อยไม่ต้องพูดถึง เหนื่อสาหัสสากรรจ์เชียวละ กทม.มีพื้นที่การปกครองแบ่งออกเป็น 50 เขต ลองหลับตานึกดูว่ามันจะกว้างขวางขนาดไหน และการจะไปหาแนวร่วมในการช่วยหาเสียงทุกเขต เสมือนงมเสียงในมหาสมุทรเชียวละ หลายคนคงจะเห็นด้วย

กลยุทธ์ในการหาเสียงจึงต้องใช้หลายรูปแบบ เช่นสื่อออนไลน์ ประเภทโซเชียลเน็ตเวิร์ค (เฟซบุ๊ค ทวีตเตอร์ ) และนำการหาเสียงประเภทดราม่ามาช่วยคือ การสร้างภาพ(ลักษณ์)ผ่านหน้าจอทีวี ผ่านหน้าหนึ่ง นสพ.รายวัน เป็นต้น

เราท่านจึงได้เห็นการสร้างภาพแบบนี้ ผมจะไม่ระบุว่าเป็นใครนะ เช่น เวลาไปหาเสียงตามตลาดใหญ่ๆ เห็นเด็กเป็นไม่ได้ ต้องเข้าไปอุ้มเสมือนว่ารักเด็กเสียเต็มประดา ผู้ปกครองเด็กก็ยืนดูด้วยความผะอืดผะอมว่ามันเป็นไปได้ไงเนี่ย บางคนก็ถ็ถลาเข้าไปแสดงตัวว่าเป็นคนพวกเดียวกับพ่อค้าแม่ขาย แสดงการหั่นหมู ตักข้าวแกง ตำส้มตำ ฯลฯ อะไรจะขนาดนี้ บางท่านก็โรแมนติกเหลือหลาย เข้าไปในสถานสงเคราห์คนชราบางแค ป้อนข้าวป้อนน้ำคนชรา เสมือนว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรักเสียเหลือเกิน (คัท) ฉากนี้ขอถามว่าปีๆนึ่งเคยโผล่หน้าเข้าไปเยี่ยมคนชราเหล่านี้บ้างใหม?

บางคนเนื่องจากเป็นอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มา ก็จะแสดงดราม่าไม่เนียน เคอะๆเขินๆยังไงไม่รู้ มีอีกรายเป็นผู้สมัครอิสระไม่เคยไปรดน้ำมูก เอ๊ย น้ำมนต์ ที่วัดไหน ไม่ทราบว่าผู้กำกับการแสดงนึกอย่างไร สั่งให้ไปรดน้ำมนต์ที่วัดแห่งหนึ่งในเขตหนองแขม หลังจากรดน้ำมนต์เรียบร้อยแล้ว มีคนไปถามหลวงพ่อที่รดน้ำมนต์ให้ว่า เขาเคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อมาเหรอ หลวงพ่อตอบว่า
"กูเพิ่งเห็นมันวันนี้เอง มันเป็นใครว่ะ...ฮา"


หากผมจะสาธยายการหาเสียงแบบดราม่าต่อไปอีก ก็น่าเบื่อนะครับ
หากจะมีคำถามว่าแล้วจะให้หาเสียงแบบไหนล่ะ ที่คาดว่าจะโดนใจชาวประชากรุงเทพมหานคร และได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำ หากผมเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของผู้สมัครท่านใดท่านหนึ่ง ผมก็มีกลยุทธ์ในการหาเสียงที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เผอิญโชคไม่ดีไม่มีใครมาเชิญผมสักคน...ฮา

การสมัครลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.มีมานานหลายปีแล้ว จากสถิติผู้สมัครอิสระที่ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้น มีเพียงไมี่กี่คน ที่พอจะนึกออกก็คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ พิจิตต รัตตกุล เคยมีใครที่ลงสมัครอิสระวันนี้ไปขอความเห็นจากทั้งสองท่านบ้างใหม?
หลายท่านอาจจะบอกว่า มันล้าสมัยไปแล้วครับ

อย่างไรก็ตาม เราๆท่านๆก็ต้องไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งอยู่ดี ใคร่ขอแนะนำว่าให้ใช้วิจารณญาณให้ดี ใช้หลักกาลามสุร เช่นไม่เชื่อว่าใครจะดีเพราะหาเสียงแบบดราม่า ไม่เชื่อตามที่หัวคะแนนมาแนะนำ ไม่เชื่อตามที่ได้รับแจกโบร์ชัวร์มา ฯลฯ เพราะหากเลือกคนผิด ท่านจะต้องคิดเสียใจไป 4 ปีเชียวนะท่าน...ฮา

ภาพประกอบจาก นสพ.ไทยรัฐ



Create Date : 31 มกราคม 2556
Last Update : 31 มกราคม 2556 12:07:13 น.
Counter : 1685 Pageviews.

0 comment
มาเขียนหนังสือกันเถอะ
ประมาณสองสามสัปดาห์มานี้ อยากจะเขียนอะไรต่อมิอะไรสักชิ้นหนึ่ง แต่สมองหรืออะไรก็ช่างมันช่างไม่ยอมร่วมมือเลย คิดอะไรไม่ได้เลย เรียกตามภาษานักเขียนว่า หาพล็อตเรื่องที่จะเขียนไม่ได้ ดีว่าไม่ได้มีอาชีพเป็นนักเขียนนะ มิเช่นนั้นคงอดตายแน่ เพราะเขียนอะไรไม่ได้

สมัยโบราณเขาเคยค่อนขอดนักเขียนสมัยนั้นว่า เป็นนักประพันธ์ใส้แห้ง หมายความว่าอาชีพนักเขียนนั้น หาเงินลำบาก หาเงินได้น้อย ไม่พอกินไม่พอเลี้ยงครอบครัว ใส้จึงแห้งว่างั้นเถอะ

แต่ผมมีแนวคิดว่านักประพันธ์สมัยก่อนนั้น นักประพันธ์หรือนักเขียนขายเรื่องได้ราคาถูกมาก สำนักพิมพ์มักจะซื้อเรื่องราคาไม่แพง อาจจะเพราะคนไทยไม่ค่อยซื้อหนังสือมาอ่าน พิมพ์แล้วขายหนังสือไม่ได้ สำนักพิมพ์กลัวใส้แห้งจึงซื้อเรื่องจากนักประพันธ์ราคาถูกๆ หรืออีกประเด็นหนึ่งนักประพันธ์ไม่มีพล็อตเรื่องที่จะเขียน จึงไม่มีรายได้ใส้จึงแห้งด้วยประการ ฉะนี้แล

ภาพประกอบที่ผมนำมาแปะไว้ข้างบนนี้ เป็นภาพที่ผมพบในเฟซบุ๊คของใครคนหนึ่ง ขอโทษที่ผมจำรายละเอียดไม่ได้ เพราะตอนนี้ความจำสั้น(เสื่อม?)ลงทุกวัน เนื่องด้วยความเป็นผู้สูงอายุ จำอะไรแบบได้หน้าลืมหลัง นับว่าเป็นอันตรายต่อการเขียนหนังสือเป็นอย่างยิ่ง เพราะจำเรื่องที่จะเขียนไม่ได้ คนโบราณสอนว่า "จดดีกว่าจำ" แต่ผมก็ขี้เกียจจด เพราะอวดดีว่าคงจะจำได้ แต่พอจะเขียนกลับนึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไร มันเป็นซะแบบนี้แหละโยม...ฮา

ข้อความในภาพประกอบข้างบนมีเพียงไม่กี่บันทัด แต่มันโดนใจผม(หรืออีกหลายคน)ว่า
"เราทุกคนต่างมีเรื่องเล่า
เรื่องของตนเอง
คำพูดนั้นเหมือนสายลม
พูดแล้วก็ผ่านลอยไป
หากเขียน ไม่มีวันลบเลือน
รื่องเล่า บ่อ่านก่ะซาง อยากเขียน"
 
วันนี้จึงมีเรื่องเขียนได้ชิ้นหนึ่ง ไม่มีใครอ่านก็ช่าง อยากเขียน....ฮา



Create Date : 27 มกราคม 2556
Last Update : 8 มกราคม 2566 8:55:48 น.
Counter : 2287 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

หนุ่มร้อยปี
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ
ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง