All Blog
เมื่อครูตีไม่ได้ ฉันเลยทำแบบนี้ ตอน แม่เจ้าเด็กน้อยเรียกแม่ว่า...
 หลังจาก 2-3 อาทิตย์ที่ เราต้องผจญกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของลูกศิษย์ตัวน้อย วันนี้เราก็ไปสอนตามปกติ

แต่ที่แปลกคือ  เด็กน้อยนั้นกำลังงอนพ่อกับแม่ และ นั่งเล่นอยู่แอบร้องไห้อยู่ใต้โต๊ะ กว่าจะกล่อมกันไปเรียน ต้องใช้เวลากันนิดหน่อย แต่ก็งอแงตามประสาเด็กๆๆ

เราสั่่งเกตุเห็น เด็กน้อยยังมีความโกธร และ โมโหอยู่ จึงพยายามหลอกล่อ ด้วยการเล่าเรื่องด้วยภาพ เป็นภาษาอังกฤษ เด็กน้อยให้ความสนใจ แต่ ปากก็ตะโกนเป็นระยะ  ว่า ฉันไม่ชอบ ฉันไม่ชอบ  แต่ตามองที่เรื่องราวที่เราเล่าให้ฟังเสมอๆๆ จากนั้นเราเอาหมึกให้เขียนตามตัวอักษร เจ้าเด็กน้อยก็วาดรูปตามในภาพ  ปากก็บอกว่่า ไม่อยากทำ แต่มือก็วาดไป  คงเพราะ อารมณ์ยังไม่ดี

ผ่านไปครบชั่วโมง เด็กน้่อยไม่มีพฤติกรรม ก้าวร้าว แบบบ้าคลั่ง เหมือนที่เคย แต่มีพฤติกรรมที่ไม่่ค่อยดีอยู่บ้าง เช่น อยากจะทำลายข้าวของ พอเราแย่งมาเก็บ ก็ไม่กรีดร้องเหมือนเคย  หรือ การทำร้ายคนอื่น  เด็กน้อยระวังตัวมากขึ้น  แต่ยังพูดจาเอาแต่ใจตามประสาเด็กโดนตามใจจนเคยชิน

หลังจากคลาสจบ  เราเลยคุณกับแม่ของเด็กว่า  เราควรจะยกเลิกหรือพักการสอนไปก่อนไหมสักระยะหนึ่งก่อน  เพราะ เด็กไม่ค่อยสนใจ และ พักหลังๆๆ เขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในทางอารมณ์ที่ควบคุมยาก  เด็กอาจจะอยาก พักหรือเล่นมากกว่าเรียน เพราะยังเล็กอยู่

แม่ของเด็กท่าทางตกใจ  นางพยายาม พูดกับเราว่า  เธออย่าเข้าใจผิดนะ ที่ลูกฉันเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเธอเลย  ที่บ้านเขาก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน  2-3 อาทิตย์ เป็นช่วงเวลาที่แย่สำหรับมากเหมือนกัน ลูกฉันมีพฤติกรรมแย่ๆๆมาก  ฉันไปคุยกับครูของเขา  เขาก็ว่า มันเป็นปกติของเด็กวัยนี้ เป็นกันยกชั้นเลย  เราก็ได้แต่ฟัง แต่แอบตกใจนิดหน่อยที่ครูบอกว่าแบบนี้ เพราะที่เห็นกันอยู่สำหรับลูกเธอนั้นมันไม่ธรรมดา  มันเข้าข่ายเด็กก้าวร้าวและมีปัญหาทางอารมณ์ 
คุณแม่ได้เล่าให้เราฟังว่า  ก่อนที่เราจะมาที่บ้านเธอวันนี้  เธอขับรถไปรับลูกที่ โรงเรียนเหมือนที่ผ่านมา  เด็กน้อยถามว่า  แม่มีของขวัญมาให้หรือเปล่า  เธอก็แปลกใจ และ ตอบลูกไปว่า ไม่มีของขวัญอะไรให้  เด็กก็เริ่มโมโห ร้องโวยวายและ ถีบที่นั่งคนขับที่เธอนั่งอยู๋  เธอร้องบอกลูกชายให้หยุดเด็กก็หัดไปขูดกระจกระจกรถ โดยใช้เล็บขูด และ พยายามปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยออก  คือมีพฤติกรรมโมโหที่เกิดกว่าจะควบคุมได้ เธอเลยร้องเสียงดังใส่ลูก  แล้วลูกชายตัวน้อยก็ว่า เธอ  PUTA ซึ่งเป็นภาษาสเปน แปลว่า  bitch  เป็นภาษาไทยก็ โสเภณีอะไรประมาณนี้ค่ะ

เธอตกใจมาก  ทั้งโมโห ทั้งเสียใจ และ ผิดหวัง ที่ลูกพูดคำนี้ออกมา  เด็ก 3 ขวบ มีพฤติกรรมแบบนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆๆ ถูกตามใจทุกอย่าง และ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากเพื่อนๆๆ มีแต่พฤติกรรมที่ไม่ดีเลย เธอบอก

เราเคยคุยกันว่า ขอพักคลาส ชัวคราวก่อนนะ เพื่อให้เด็กได้ปรับระดับอารมณ์และ พฤติกรรมด้วย หลังวันหยุดยาวค่อยมาดูกันอีกที ถ้ายังต้องการครูอยู่ก็ให้โทรหาฉัน  เราบอกเธอ

เราเองก็อยากจะช่วยเธอปรับพฤติกรรมลูกเธอนะ แต่ก็ไม่อยากสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้เด็กด้วย เพราะบางที พ่อแม่ก็บังคับให้เรียนเหมือนเขาโตแล้ว อีกอย่าง เด็กก็มีพฤติกรรมที่แย่มากๆๆ เรายอมรับว่าได้รับผลกระทบทางจิตใจเหมือนกัน  เวลาเด็กพูดไม่ดีใส่เรา  มันแบบเครียดลึกๆๆ 
เผื่อเป็นผลดีกับทุกฝ่าย  ขอยกเลิกชัวคราว

ชีวิตครูกะเหรี่ยงต่างแดน  สอนเด็ก ก้าวร้าวใครว่าง่าย
..



Create Date : 03 มีนาคม 2559
Last Update : 3 มีนาคม 2559 5:09:20 น.
Counter : 1102 Pageviews.

2 comment
เมื่อครูตีไม่ได้ ฉันเลยทำแบบนี้ ตอน แม่ชาวสเปนเลี้ยงลูก
 หลังจากที่เราได้เล่าเรื่องราวการเป็นครูสอนเด็กนักเรียนตัวน้อยแล้ว  วันจันทร์ที่ผ่านมา 21/2/16 แม่ของเด็กขอให้เรามาเลทนิดหนึ่ง เพราะเขาติดธุระ

พอไปถึงบ้านเขา เด็กท่าทางงอแง เพราะอยากออกไปข้างนอกกับพ่อ แต่แม่บังคับให้มาเรียน  เราสอนคงเริ่มเรียนและสอนตามปกติ พาเด็กคุย ระบายสี และ นับเลขไปเรื่อยๆๆ เด็กก็เล่นไปตามประสา ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง  ดี้อบางซนบ้างตามประสาเด็ก  สักพัก เด็กตัวน้อยบอกเรา เป็นภาษาสเปนว่า  sing sing..  คือ มันหมายความว่า  ฉันอยากฉี่ เราเลยพาไปห้องน้ำ แม่เด็กได้ยินเลยเข้ามาช่วย เพราะ เขาไม่ยากให้ลูกเข้าห้องน้ำคนเดียว และเจ้าหนูน้อยนั้นก็ไม่ยอมให้เราดู

หลังจากเด็กน้อยทำธุระเสร๋จ แม่เขายังอยู๋ในห้องเรียน เด็กน้อย เอาตะกร้ามีล้อที่แม่เอาไว้ใส่หนังสือมาเล่น โดยการลงไปนั่งในตะกร้า และ ขยับตัวไปมา  แม่เขาเลยตะโกนห้ามเสียงดัง ว่าไม่ให้เล่น ให้เรียนหนังสือ จากนั้น เด็กก็ไปคว้าถึงใส่ม้วนกระดาษ มาสวมลงบนหัวของเด็กอีก  แม่ก็ร้องห้ามอีก และเอาถังไปเก็บบนชั้น  ขณะที่แม่กำลังเยี้อมตัววางถังนั้น  เด็กน้อยวิ่งไป ทุบ ที่สะโพกของแม่ ด้วยอารมณ์โกธรแค้น และโมโหมากๆๆ จนแม่ของเราหันมาบอกว่าเราว่า  ฉันเจ็บมากเลย ทำไมลูกฉันเป็นแบบนี้  แล้วเธอก็หันไปดุลูก และบอกให้ลูกกล่าวขอโทษ เด็กน้อยนั้นก็ไม่ยอม แถมตะโกนบอกว่า ไม่... ฉันไม่ทำ   พร้อมทั้งเต๊ะ เก้าอี้ตัวเล็กๆๆ ใส่แม่อีก   แม่โมโห เลยลากลูกออกจากห้องและโยนลูกเข้าไปห้องข้างๆๆ ที่ไม่มีคน แถมไม่เปิดไฟ  เธอหันมาคุยกับเรา เราก็พยายามปลอบเธอ เธอบอกว่า ฉันพยายามแล้วนะ แต่ลูกฉันไม่ดีขึ้นเลย ฉันไม่รู้ว่าทำไม ลูกฉันถึงมีอารมณ์รุนแรงแบบนี้  สักพักเด็กร้องไห้และได้ยินเสียงเรียกหาแม่ เธอเลยไปเปิดประตูและ ปลอบลูกอีกครั้ง  พลางสอนลูกไป เด็กน้อยก็ร้องไห้สะอีกสะอื้น


จากเหตุการณ์ที่เห็น  ฝรั่งเลี้ยงลูกแบบไม่ค่อยโอ๋ แต่จะสปอยส์ลูกด้วยสิ่งของ เด็กเลยคิดว่าต้องได้ทุกอย่างที่อยากได้  แม่เด็กก็มีบุคลิกที่รุนแรงเหมือนกันทำให้ลูกเลียนแบบ

ส่วนตัวเด็กน้อย ... เราประหลาดใจมากๆๆ ที่เด็กเล็กขนาดนั้น โมโหมากมาย เข้าไปทุบตีแม่ และ เต๊ะ ทำลายข้าวของอีก  เป็นเด็กที่มีความก้าวร้าวมากๆๆ ถ้าไม่รีบจัดการ โตมาจะยิ่งแย่


.. เดี๋ยวมาต่อ ตอน เราโดนต่อย..



Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2559 3:04:25 น.
Counter : 1030 Pageviews.

3 comment
เป็นครูสอนเด็กน้อย มันไม่ง่ายแฮ่ะ
 หลังจากที่รับจ๊อบสอนเด็ก เมื่อ กย. ปีที่แล้ว  งานยากกว่าที่คิดแฮ่ะ...

ตอนแรกมิโอกาสได้สอนภาษาให้กับผู้ใหญ่ชาวสเปน แต่มีคุณแม่ท่านหนึ่งติดต่อเข้ามาให้สอนภาษาให้ลูกเธอหน่อย  เป็นเด็กชายตัวน้อยอายุไม่เกิน 6 ขวบ...  เราก็เอาวะ ดีสะอีกได้ประสบการณ์สอนเด็กเล็กด้วยจะได้มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก

เราไปสัมภาษณ์ที่บ้านของเธอ และเจอลูกชายเธอด้วย  เราเห็นครั้งแรก คิดว่าน้องเขาเป็นเด็กอารมณ์ดี ไม่กลัวคน และไม่ขี้อาย  เป็นเด็กดูสนุกสนาน  อายุ 3 ขวบครี่ง

เราตกลงสอน วันละ 1 ชั่วโมง 2 วันต่อสัปดาห์  แรกๆๆนี่แทบจะแตกต่างจากวันแรกที่เจอมาก  ไม่เอาใครเลย ไม่ยอมเรียน งอแง และร้องโวยวาย

หลายๆๆครั้งที่เราสังเกตุ ดูเหมือนน้องเขามีอารมณ์รุนแรง ชอบเล่นอะไรเสียงดัง ไม่ระวัง เหมือนเด็กสมาธิสั้น  แต่เราก็แอบคิดว่าอาจจะเป็นเพราะน้องเขาเป็นลูกคนเดียว และ รู้ว่าทุกอย่างต้องได้ดั่งใจ ก็ไม่ได้คิดอะไร

หลังๆๆเริ่่ม สังเกต เห็นหลายอย่าง เช่น  อะไรที่เป็นของเด็กผู้หญิงจะไม่เอาเลย ออกแนวไม่ชอบ  อย่างเช่น ถ้าเปิดการ์ตูนแล้วมีเด็กผู้หญิงเต้น เขาจะปิดเลย   / บอกแต่ว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ / ไม่ชอบการออกคำสั่ง / ชอบตะโกนใส่คนอื่น / และมีอารมณ์โกธรอยู่ตลอดเวลา / เวลาเราพยายามสอนหรือพาทำงานเด็กจะรู้ว่านี่คือการทำงานนะ  เขาจะแสดงออกว่า ไม่ทำ เหนื่อย หรือ ทำช้าๆๆ

อะไรหลายๆอย่างพอเข้าใจได้ว่าเป็นเด็ก เพราะเพิ่งจะ  3 ขวบกว่าๆๆ เอง แต่อารมณ์โมโห โกธร ตลอดเวลานี้น่าตกใจมากเลย  เพราะมีครั้งหนึ่ง  เราทำตัวเป็นครู แล้วออกคำสั่งเหมือนครู ทำท่าสอนเหมือนครู  เราก็บอกว่าโอเดคุณครูอ่านอะไรให้ฟังหน่อย  ฮีวิ่งมาตีเรา แบบเหมือนไม่พอใจที่นักเรียนพูด ..  เราคิดว่าเด็กคงได้รับการกดดันอะไรมาจาก รร แน่ๆๆ

ตอนแรกนึกว่าจะได้สอนแต่ภาษา ตอนนี้กลายเป็นว่า ต้องพยายามปรับทัศนคติเด็ก ต้องหาวิธีมาคุย มาเล่น หาคำพูดมาคุยกับพ่อแม่เด็ก เพื่อไม่ให้เขาเข้าใจไปใหญ่  บางที พ่อแม่ก็กดดันน้องเขาเกิดไป เพราะว่า เด็กเองก็ต้องเรียนภาษาจีนด้วย... 

เด็กรับได้ทุกอย่างเหมือนฟองน้ำ แต่เราก็อย่าหยัดให้เขาเกินไป ปล่อยให้เขาได้กลายเป็นเด็กบ้าง ได้เรียนรู้ผิดถูกบ้าง  ผ่อนคลายบ้างก็ดี  เพราะน้องเขาไม่ค่อยมีมุมเหมือนเด็กเลย นอกจากเวลา งอแง และ  เอาแต่ใจ


สอนเด็กไม่ง่าย ตอนนี้เหมือนจะเป็นมากกว่าครูอีก

สู้กันต่อไป ..
เล่นกับพี่หมาแก้เครียดดีกว่า ..






Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2559 3:10:28 น.
Counter : 1227 Pageviews.

4 comment
คำถามอะไรที่เราไม่ควรถาม เมื่อรู้จักกันครั้งแรก...
สวัสดีปีใหม่ค่ะ  2016/2559
บลอกนี้เป็นบลอกแรกเลยที่เขียน หลังจากเริ่มปี พ.ศ.ใหม่
วันนี้อยากจะเขียนเรีองเกี่ยวกับ คำถามอะไรที่เราไม่ควรถาม เมื่อรู้จักกันครั้งแรก...
เรื่องมันมีอยู่ว่า ลูกศิษย์ชาวสเปนที่เรียนภาษาไทยด้วย  แนะนำคนไทยที่ เขาเพิ่งไปรู้จักให้ แต่ฮีมาขออนุญาตก่อนว่า จะให้เบอร์เขาใหม่  แต่ฮีเขียนมาขออนุญาตพร้อมอวยพรปีใหม่ด้วย  ผ่านไป 3 วัน เข้าวันที่ 4 ฮีก็ยังไม่ได้ คำตอบจากเรา และเราก็ไม่ได้เปิดอ่านข้อความของฮีเลย  ฮีร้อนรนปนกระวนกระวาย เพราะอยากคุยกับเราและอยากเล่าเรื่องที่ไปพบคนไทยให้ฟังด้วย
เมื่อเห็นเราไม่ได้อ่านข้อความเลย  ฮีก็พยายามติดต่อเราในหลายๆๆช่องทางที่ทำได้ จนในที่สุดฮีส่งไลน์ไปหาคนใกล้ชิดเรา  ถามเขาว่า ติดต่อเราได้หรือเปล่า เพราะ ฮีติดต่อเราไม่ได้เลย ส่งข้อความไปหาก็ไม่ตอบ ไม่อ่าน   เราก็งง เพราะ ไม่มีแจ้งเตือนจาก วอทแอฟเลย เราเองก็เป็นคนไม่ติดแชทเลยไม่ค่อยได้เชค  ปรากฎพอเปิด วอทแอพ ข้อความมาเพียบเลย เพื่อนๆ ที่อวยพรปีใหม่..

เมื่อฮีขออนุญาตเราแล้ว ลูกศิษย์ก็เอาเบอร์ของเราให้ น้องคนไทยคนนั้นไป และเราก็ได้คุยกัน เราดีใจมากที่รู้ว่ามีคนไทยมาอยู่เมืองใกล้ๆๆ   เพราะแถวๆๆที่เราอยู่หาคนไทยได้ยากมาก เมื่อคุยกันเรียบร้อย ก็นัดเจอกัน 

หลังจากเจอกันคุยกันแล้ว  ทำให้เราสงสัยว่า  มีคำถามอะไรบ้างที่เราไม่ควรถามคนที่เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก  ลึกๆๆแล้ว เราสัมผัสถึงความอึดอัดในการสนทนากับน้องเขา  เพราะเขาถามเราในคำถามที่ ถ้าเป็นมารยาทแล้ว มันไม่ควรจะถามเลย  อย่างเช่น จบที่ไหน  อะไร อยู่เมืองไทยทำอะไรมาก่อน  ทำไมบริษัทนี้หนูไม่รู้จัก  คือ แบบ พี่ไม่ได้มาสัมภาษณ์งานนะน้อง ทำไมน้องต้่องถามคำถามแบบนี้ด้วย พอพี่ถามกลับน้องกลับอึกอักที่จะตอบ  ..  แล้วมีบทสนาหนึ่งที่ทำให้เรารู้ว่า คนที่สนทนากับเรา เขามีความรู้ ความคิด ยังไง ระดับไหน ก็คือ 

น้อง .. พี่เพิ่งมาอยู่ต่างประเทศครั้งแรกหรือเปล่าค่ะ
พี่...   ถ้าจะนับว่ามาอยู่ก็ใช่คะ  ที่นี่ที่แรก ..  คิดในใจ  จริงๆๆ แล้วเคยอยู่และฝึกงานหลายที่นะ แต่เอาแค่นี้พอ

น้อง ถามต่อ .. แล้วพี่เคยมาเที่ยวต่างประเทศไหมคะ
พี่..  ทำหน้า งง  ทำไมถามเยอะจังวุ้ย ...   อ๋อเคยจ้า  ก็ไปมา 2-3 ที .. จริงๆๆ เยอะกว่านั้นแต่ไม่อยากบอก

น้องถามต่อ..  ประเทศไหนบ้างพี่ มียุโรป ไหมค่ะ
พี่..คิดในใจ น้องเขาอยากรู้ลึกจังวุ้ย ....   คะ ก็มีทั้งฝรั่งเศล ทั้งโซนออสเตรเลีย ก็เคยไปคะ

น้องโพล่งมาทันที...  งั้นพี่ก็ต้องเคยมีแฟนฝรั่งนะสิคะถึงได้ไปต่างประเทศ
พี่... คิดในใจ  น้องเอ๋ย โลกช่างแคบจริงๆๆ    ... ไม่จำเป็นต้องมีแฟนฝรั่งเราก็ไปเที่ยวได้คะ ไปกับเพื่อน ไปกับทัวร์ ก็ได้  สนุกดีออก
...

นี่คือบทสนทนาหนึ่งเท่านั้น...   เรากลับมาทบทวนว่า เป็นเพราะเราควรถามคำถามแบบไหนเมื่อเราเจอกันครั้งแรก    แฟนบอกว่า ถ้าเป็นคนสเปน คำถามอะไรแบบนี้ถามกันได้ ถ้าหากคนถามอาจจะอยากรู้ แต่ถ้าเราถามกลับไปต้องตอบในลักษณะเดียวกัน คือ จริงใจ เปิดเผย แต่ สำหรับน้องวันนั้นแล้วเขาก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน เพราะ เวลาถามกลับไป คู่สนทนา ไม่บอกอะไรชัดเจนเลย แต่แค่อยากแสดงว่าตัวเองมีดีกว่าใคร

 .. ไม่จำเป็นต้องอวดตัวข่มใคร  แค่เอาชนะใจตัวเองให้ได้เป็นพอ  สำหรับเรา...

แฟนแอบแซว ว่า  ฉันคิดว่าเขาคงนึกว่าเธอ อายุรุ่นเดียวกับเขาแน่ๆเลย  เขาเลยไม่ค่อยเกรงใจ... 

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ อิอิ ไปเที่ยวตลาดนัดดีกว่า  ตามมาชมกันได้เลยจ้า






Create Date : 07 มกราคม 2559
Last Update : 7 มกราคม 2559 4:07:12 น.
Counter : 1046 Pageviews.

0 comment
เรื่องของเจ้าเลโอ ตอน ส้ม ควรเอาให้สุนัขกินไหม
 สวัสดีคะเพือนๆๆ วันนี้จะมาเล่าเรื่องของเจ้าเลโอ พี่หมาพันธ๋ผสมที่อยู่กับครอบครัวของเรามานานมากแล้วค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า  ที่บ้านของเรา มีพี่หมา อยู่ 1 ตัว ชื่อว่า เจ้าเลโอ  อยู่กับครอบครัวมานานแล้วค่ะ เกือบ 8 ปีแล้ว แต่อายุจริงๆๆ ของเจ้าเลโอ ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ น่าจะประมาณ 10 ปีได้แล้วค่ะ

แล้วเราสังเกตเห็นว่า เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ที่บ้านจะมีองุ่นขาวแบบที่เขาทำไวน์เยอะมาก เราก็ชอบกินเพราะ รสจะออกหวานๆๆ เปรี้ยวๆๆ องุ่นที่บ้านไม่มีสารเคมีนะคะ เพราะเป็นเครือเก่าแก่ ปลูกในบ้าน  
เข้าเรื่องคะ  เวลาเรากินองุ่น เราจะสังเกตเห็นเจ้าเลโอ มองเหมือนยากกิน เขาจะเลียปาก เราเลยลองเอา องุ่นให้เขากิน ปรากฎว่า เจ้าเลโอกินเกลี้ยงเลยค่ะ
และจะเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง  ไม่ใช่แต่องุ่นนะคะ  มีทั้งแอปเปิ้ลเขียว  และ ล่าสุด ส้มแมนดาริน ลูกเล็กๆๆ อะคะ  เท่าที่สังเกต เจ้าเลโอจะชอบกินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอมหวานค่ะ   อย่างองุ่นแดง เขาจะไม่กินเลยคะ เคยเอาให้กิน เขาบ้วนทิ้ง

เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วเขาป่วย ท้องไม่ดี เราเลยเป็นกังวลว่า มันจะเป็นผลมาจากที่เราเอาผลไม้ให้กินหรือเปล่า  แอบเป็นกังวลใจมากค่ะ
เพื่อนๆท่านไหนมีความรู้หรือประสบการณ์เรื่องนี้ รบกวนชี้แนะ และ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ  ว่าผลไม้ดีต่อท้องของพี่หมาไหม

** มีคลิปประกอบค่ะ **


มีเพื่อนๆๆ หลายท่านให้ข้อมูลมาเกี่ยวกับอาหารที่ไม่ควรให้สุนัขกิน เราขอเอามาแชร์นะคะ เห็นว่าข้อมูลน่าสนใจคะ

อาหารต้องห้ามของสุนัข

1.กระดูกไก่ ปลา
หาก ไม่จำเป็นคุณไม่ควรให้กระดูกไก่ ปลา ให้เจ้าสุนัขของคุณกินโดยเด็ดขาด เพราะ กระดูก

ไก่ ก้างปลา อาจแตกหักระหว่างที่สุนัขขบเคี้ยวสร้างมุมแหลม และความแหลมนี่เองอาจทิ่ม

แทงทำอันตรายสุนัขของคุณได้ ผู้เลี้ยงหลายคนให้เหตุผลในการให้อาหารเหล่านี้แก่สุนัขว่า

ต้องการให้แคลเซียมแก่สุนัข ซึ่งความจริงแล้วผู้เลี้ยงสามารถให้เม็ดแคลเซียม หรือนมอุ่นๆแก่

สุนัขแทนได้

ทั้งนี้หมายรวมถึงอาหารที่มีลักษณะเป็นของมีคมขนาดเล็กอื่นๆ เช่น ส่วนหางของกุ้ง

2.หัวหอมและกระเทียม
ไม่ควรให้สุนัขรับประทานในปริมาณมาก เพราะหัวหอมและกระเทียม มีส่วนประกอบของ

กำมะถันอยู่มาก เพราะฉะนั้นไม่เหมาะแก่การผสมในอาหารให้กับเจ้าตูบ เนื่องจากว่า สาร

กำมะถันนี้จะทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของเจ้าสุนัข จะทำให้โรคโลหิตจาง และโรคเลือดไหล

ไม่หยุดได้

3.ช็อคโกแล็ต
สา เหตุเพราะช็อคโกแล็ตมีส่วนประกอบของสารชนิดหนึ่งชื ่อว่า theobromine ซึ่งเป็นกลุ่ม

เดียวกับ สารพวก caffeine(ซึ่งมีในพวกกาแฟ โกโก้) สาร theobromine นี้เมื่ออยู่ในร่างกาย

มันจะมีฤทธิ์หลายอย่าง แต่ที่เห็นเด่นๆชัด คือ จะกรตุ้นให้มีการหลั่งสารที่เรียกกันว่า

adrenaline ซึ่งสารตัวนี้จะมีผลทำให้หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก ถ้ากินมากๆอาจถึงขั้นเป็น

พิษได้จะทำให้เกิด อาการ อาเจียน ท้องเสีย หายใจถี่ ฉี่บ่อย กระวนกระวาย และในที่สุดก็ถึง

ตายได้ มีรายงานในสุนัขบอกว่า ในสุนัขที่น้ำหนักไม่เกิน 5 กก. กินเข้าไปแค่ 400 มก. ก็

สามารถแสดงความเป็นพิษได้ การที่สุนัขค่อนข้างจะไวต่อความเป็นพิษของ theobromine

นั้นเป็นเพราะว่าร่างกายของมันไม่สามารถที่จะกำจัด theobromine ออกจากร่างกายได้รวดเร็ว

เหมือนกับสัตว์ชนิดอื่น ตามปกติช็อคโกแลตที่ขายในท้องตลาด ถ้าเป็นแบบหวานจะมี

theobromine อยู่ประมาณ 1.5 มก ต่อ ซีซี แต่ถ้าเป็นแบบไม่หวานจะมีประมาณ 13 มก. ต่อ

ซีซี

4.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทำให้เกิดอาการมึนเมา รวมทั้งอาจเกิดอาการที่ได้รับสารพิษมากเกินไปจนอาจตา ยได้

5.อาหารสำหรับทารกสำเร็จรูป
มักมีส่วนผสมของหัวหอมที่เป็นพิษกับสุนัข ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะขาดสารอาหารได้หากให้

ในปริมา ณมาก

6.อาหารแมว
ส่วนใหญ่มักมีโปรตีนและไขมันมากเกินความต้องการสำหรั บสุนัข

7.น้ำมันสกัดจากผลไม้ชนิดส้ม
เป็นสาเหตุให้อาเจียนได้

8.องุ่นและลูกเกด มี สารพิษที่ทำให้เกิดผลเสียกับไต อาจจะทำให้อาเจียน ปวดท้อง ซึ่งบ่อย

ครั้งที่เจ้าของไม่รู้ เห็นหมานอนซึมๆ ก็อาจจะนึกว่าง่วง หรือเวลาหมาอาเจียนข้างนอกก็ไม่เห็น

9.วิตามินของคนที่มีธาตุเหล็ก
ทำลายเนื้อเยื่อของระบบย่อยอาหาร และเป็นพิษต่ออวัยวะภายใน โดยเฉพาะตับและไต

10.กินตับในปริมาณมาก
ทำให้เกิดอาการวิตามิน A เป็นพิษ ส่งผลกับกล้ามเนื้อและกระดูก

11.ถั่วแมคคาเดเมีย
มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหาร, ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ

12.นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย ชีส
ระบบ ย่อยอาหารของสุนัขและแมวส่วนใหญ่จะไม่มีเอนไซม์ท ี่ใช้ย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม จึง

เป็นสาเหตุให้ท้องเสีย ควรใช้นมสำหรับสัตว์ที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตสแทน

13.อาหารที่เก่า/ขึ้นรา หรือขยะ
มีสารพิษที่เป็นสาเหตุให้อาเจียนและท้องเสีย

14.เห็ด
เห็ดบางชนิดเป็นพิษ ซึ่งส่งผลต่ออวัยวะภายใน และอาจทำให้ช๊อคหรือตายได้

15.ลูกพลับ
เมล็ดของลูกพลับจะเข้าไปกีดขวางในลำไส้ได้ ซึ่งอาจทำให้ลำไส้อักเสบ

16.เมล็ดของลูกพีช หรือลูกพลัม
หากกลืนเข้าไปจะขวางระบบย่อยอาหาร

17.มันฝรั่ง/มะเขือเทศ
มี Oxalates ซึ่งจะส่งผลกับระบบย่อยอาหาร, ระบบประสาท และระบบขับถ่าย

18.ไข่ดิบ
มีเอนไซม์ที่เรียกว่า Avidin ที่ลดการซึมซับของ Biotin(วิตามิน B ชนิดหนึ่ง) ซึ่งจะส่งผลเสีย

ต่อสภาพขนและผิวหนัง

19.ปลาดิบ
อาจทำให้เกิดการขาด Thiamine(วิตามิน B ชนิดหนึ่ง) ส่งผลให้ไม่อยากอาหาร ชัก หรืออาจ

ตายได้

20.เกลือ
หากกินในปริมาณมาก(หรือสะสมในปริมาณมากในร่างกาย) อาจส่งผลเสียต่อไต

21.ของหวาน
ส่งผลให้สุนัขอ้วนเกินไป มีปัญหาในช่องปาก และเป็นเบาหวานได้

22.น้ำมันสกัดจากผลไม้ชนิดส้ม - ทำให้เกิดการอาเจียน…

23.บลอคโคลี่ – ทำให้เกิดแก๊สในท้องจำนวนมาก

24.ลูกจันทน์ - จะเกิดอาการใจสั่น หรืออาจเกิดอาการลมชักอย่างปัจจุบันทันด่วน และตาย

25.เชอร์รี่ - มีผลต่อระบบทางเดินหายใจเพิ่มอัตราในการเต้นของหัวใจให้ถี่และเร็วยิ่งขึ้นจนถึง

ขั้นปากบวม และช็อคได้

เผื่อเป็นประโยชน์กับทุกๆๆคนที่รักสุนัขคะ

ขอบคุณที่ติดตามคะ





Create Date : 03 มกราคม 2559
Last Update : 6 มกราคม 2559 20:53:44 น.
Counter : 1148 Pageviews.

4 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

Makaveli_J
Location :
  Spain

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



ปรึกษาเรื่องวีซ่าสเปน ฟรีคะ
แวะมาทักทายกันได้นะคะ คนไกลบ้านอยากมีเพื่อนคะ
http://mellamotai.blogspot.com.es




New Comments