Group Blog All Blog
|
จะเรียกว่าความผิดหวังได้ไหม ฉันไม่ใช่คนที่แสนดี
วันนี้ไปหาหมอตามที่นัด ทำอุลตร้าซาวน์ ตรวจเชคทุกอย่างปกติดี แต่ผลที่ออกมาบางอย่างกับทำให้เราผิดหวัง บอกไม่ถูก มันสับสนหลายอย่าง สิ่งที่หวังไว้ได้พังทลายหมด ไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำอะไรเลย แม้แต่จะยืนสู้ต่อไป เหมือนอย่างที่เป็นมา รู้ว่ามันยากแต่ไม่มีแรงใจสู้ต่อไปเลย พูดกับใครเขาคงหาว่าเราบ้า แต่มันดิ่งลงเหวจริงๆๆ บอกไม่ถูก วันนี้เป็นอีกวันที่ผิดหวังรุนแรง กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง ถอนหายใจหลายเฮือก
สองเดือนที่ผ่่านมา มีโอากาสกลับไทยไปพักร้อน ช่วงน่าร้อน กลับไทยไปคราวนี้มีความรู้สึกแปลกๆๆ หลายอย่าง กรุงเทพ วุ่นวายมาก คนเยอะ รถเยอะ นักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะมาก ข้าวของ และอาหารแพงมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ยิ่งเป็นอาหารข้างทางนะ ยิ่งแพงจนไม่กล้ากิน กล้วยน้ำหว้า หวีละ 90-100 บาท ข้าวมันไก่ข้างทาง จานละ 60 บาท ข้าวราดแกง 2 อย่าง วิญญาณผัก 60 บาท แพงจริงๆๆ เราจึงอาศัยกินข้าวตามฟู้ดคอรส ของห้างแทน ไม่ร้อน และราคารับได้ อย่าง terminnal 21 ถ้าเป็นห้างอื่นก็แพงระห่ำ เมืองท่องเที่ยวต่างๆในไทย อ่านในรีวิว พอไปเจอจริงๆๆ มักจะเจออะไรที่ไม่เหมือนรีวิวเลย แถมโดยฟันราคากันวุ่นวาย ทั้งที่เราเป็นคนไทย ทำให้ความประทับใจ ความคิดถึงบ้าน กลายเป็นความผิดหวังกลายๆๆ แต่ยังมีน้ำใจอยู่ในหมู่คนไทยเสมอ ยังมีคนลุกให้คนท้องนั่งเสมอ อันนี้เราซึ่งใจมากๆๆ คนไทยกับฝรั่ง ยังมีเรื่องที่ต้องปรับความเข้าใจกันเยอะ มันเป็นธรรมดาแหละที่หลายๆๆคนจะคิดว่าฝรั่งนั้นรวย หรือมีตังค์ แต่จริงๆๆ แล้ว เขากับเราก็เหมือนกัน พอมีแฟนฝรั่งกับกลายเป็นว่า เรารวยไปโดยปริยายในสายตาชาวบ้าน จากน้ำใจที่เคยช่วยเหลือกัน กับกลายเป็นว่า ต้องจ้างไปทุกอย่าง เพราะสามีเธอรวย เราไม่เคยพูดหรืออวดตัวเลยว่า รวย เราก็ใช้ชีวิตปกติ กินข้าวแกง ไม่แต่งตัว อยู่อย่างพอเพียง แถมฝรั่งกับเหล้ามักเป็นของคู่กัน แฟนเราไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่ก็มีใครหลายคนที่ไม่เคยคุยกันเลย ชาติหนึ่งไม่เคยมาบ้านเลย พอเรากลับบ้านแล้วมาขอเงินซื้อเหล้า เอาง่ายๆนะ คิดว่าคนเขาจะให้เหรอ ทุกคนต้องทำงานกันทั้งนั้น กว่าจะได้เงินมาใช้จ่าย บางคนก็ว่าขี้เหนียว ไม่เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำ ขอโทษเถอะ ทำไมฉันต้องเลี้ยง คุณเป็นใครกัน เพื่อนคนในหมู่บ้าน ซึ่งไม่เคยช่วยเหลืออันใดครอบครัวฉันเลย รอแต่รับการช้่วยเหลือจากคนอื่นเท่านั้น แล้วแต่ใครจะว่าเถอะ นานาจิตตัง ตอนนี้กลับมาสเปนแล้ว ความคิดเก่าๆๆมันก็ย้อนกับมาอีก ฉันจะมีงานทำอีกไหม ใครจะจ้างฉัน ปีนี้จะเป็นไงบ้าง ชีวิตจะเป็นยังไง ไม่อยากไปเรียนภาษาแล้ว เบื่อวิธีการสอนของครู ฉันจะทำอะไรกับชีวิต ตอนนี้ก็ท้องเริ่มแก่แล้วไปไหนมาไหนลำบาก คิดไปหลายเรื่อง ก็พลาดจิตตกในบ้างที สามีก็ดูแลดีนะ มีเพียงแต่ตัวเราเท่านั้นที่กดดันตัวเอง อย่างประสบความสำเรจ อยากเป็นที่ยอมรับ อยากทำงานที่ดี สู้กันต่อไป เริ่มจากปัดฝุ่นเรียนภาษาสเปนใหม่ละกัน เบื่อหน่าย แต่ก็ต้องเรียน เมื่อฉันต้องไปเจาะเลือด .. แล้วคุณจะรู้ว่าพยาบาลไทย คือนางฟ้าชัดๆๆ
สวัสดีค่ะทางบ้าน วันนี้มีเรื่องมาเล่า เป็นประสบการณ์การเจาเลือด ตรวจน้ำตาลในเลือดของคุณแม่ตั้งครรภ์ ซี่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรก โดนสูบเลือดไป 8 หลอด เล่นเอาแขนเขียวซ้ำ ปวดระบมไป 2 อาทิตย์ โดยการตรวจครั้งนั้น เป็นการตรวจคัดกรอง ดาวน์ชินโดรม และ อื่นๆๆ ตามที่หมอบอก ผลปรากฎว่า ทุกอย่างเป็นปกติ เจ้าตัวน้อยของแม่ เป็นปกติ มีก็เพียงแต่ค่าน้ำตาลในเลือดเท่านั้นที่สูงเกินลิมืตนิดหน่อย หมอนัดให้มาตรวจเลือดอีกครั้ง ครั้งนี่จะยาวหน่อย เกือบ 4 ชั่วโมง เราก็เตรียมพร้อมมานิดหน่อยโดยการงด อาหารที่มีน้ำตาล คาร์โบไฮเดรต และ พยายามทานผักผลไม้เยอะๆๆ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยได้มากน้อยเท่าไหร่ เมื่อนัดมาถึง เรากับสามีไปที่ รพ.แล้วรอคิวเรียกชื่อ เมื่อหมอเรียกชื่อแล้ว เขาก็เจาะเลือดก่อนให้กินกลูโคส 100 กรัม ก่อน จากนั้นให้เรากินกลูโคส แล้วอีก 1 ชม. มาเจาะเลือดอีกที ต้องบอกว่าพยาบาลคนแรกที่เจาะ วัยเกือบจะเป็นคุณยาย ท่าทางมีประสบการณ์มาก และมือนิ่มมาก เจาะไม่เจ็บเลย แป๋บเดียวก็ได้เหลือด 1 หลอดแล้ว เรานั่งรอ พอครบ 1 ชม. เราก็เข้าไปเจาเหลือดอีก คุณยายพยาบาลเห็นเรา แกจำได้เลยเรียก หลานพยาบาลมาช่วยเจาะให้เราเพราะว่าแกติดเจาะคนไข้รายอื่นอยู่ หลานพยาบาลคนนี้ท่าทางเป็นเด็กจบใหม่ คลำๆๆ หาเส้นเลือดที่ข้อพับแขนของเรา สักพักก็จิ้มเข็มลงไป ไม่เจ็บมากแต่มือยังไม่นิ่มเท่าคุณยายนัก เสร็จไปอีกหนึ่ง เขาบอกว่าให้นั่งรอแล้ว ครบ 1 ชม . ให้มาเจาะอีก .. เราก็นั่งรอ เล่นโทรศัพย์ไปเรื่อยๆๆ พอถึงคิวเจาะ ชม. ต่อไป เหลียวหาใครก็ไม่มีเลย มีเพียงแต่พยาบาลป้าที่นั่งเจาะเลือดคนอื่นอยู่ก่อนแล้ว พอคนไข้รายนั้นไป เราเลยเดินไปถาม เสียอารมณ์นิดหน่อยกับการทำงานของที่นี่ แต่ก็ยังดีที่ยังเหลือ พยาบาลป้า ที่เราเรียกว่า พยาบาลป้า เพราะว่า แกวัยป้า อายุน่าจะเกือบๆๆ 50 แล้ว แต่ขอบอกว่า นางทำงานแย่มาก นางเจาะเลือดเราไม่ออก เจาะไปหลายที่มากเลือดเราก็ไม่ออก แถมเจาะเจ็บและลึกมากๆๆ แต่ก็เลือดไม่ออก มาโทษเราอีกว่าไม่มีเลือด เราเลยชักสีหน้า โดนเจาะฟรีๆๆหลายที ไม่ได้เลือดไปเลย นางเลยเรียกพยาบาลหลานมาช่วยเจาะ ปรากฎ หลานเจาะเลือดออก ได้ไป 1 หลอด แต่เจ็บตัวฟรี ๆๆ 4-5 ที ผ่านไปอย่างทุกลักทุเล และเจ็บมากๆๆ นึกถึงพยาบาลไทยเลย นางมือนิ่มกว่ามาก ทั้งมีการเชํด แอลกอฮอล์ก่อนเจาะด้วย แต่ที่นี่ไม่มีเลย เจาะกันสดๆๆ เรานั่งรออีก 1 หลอดสุดท้าย ตอนนี้ อารมณ์คุกรุ่นมากๆๆ เพราะไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า ทั้งหิว และมาโดนพยาบาลป้าเจาะแขนฟรีๆ แบบนี้ เจ็บก็เจ็บ ทำอะไรก็ไม่ได้ ได้แต่ภาวนาว่าเข็มต่อไปอย่าได้เจอนางเลย แต่ โชคร้ายครับท่าน พอถึงชม. ไปเจอหมอเหลือแต่ พยาบาลป้าเท่านั้นที่เข้าเวรอยู่ เราเลยจำต้องได้เจาะกับนางอีก ทำใจดีสู้เสือว่าเอาวะ นางคงจะเจาได้ แต่พอเจาะเข้าจริง ๆๆ ซ้ำแบบเดิม นางเจาะเลือดเราไม่ออก แถมมีการควนเข็มไปรอบๆๆ แขนเราด้วยเราเจ๋บมากเลยแทบจะร้องไห้แถมโมโหด้วยเลยชักมือออก นางก็ตกใจ เพราะมันเจ็บมากๆๆ นางเล่นเจาะเข้าลึกแล้วควนเข็ม ที่นี่นางเปลี่ยนที่ แขนขวาบางซ้ายบ้าง เลือดก็ไม่ออก แถม ยังมาเจาเส้นเลือดที่หลังมืออีก เลือดก็ยังไม่ออก อันหลังนี้เจ็บสุด ทั้งแสบทั้งปวดเลย ตอนนี้ก็ยังเขียวอยู่ นางเลยไปเรียกพยาบาลยายมาเจาะ เราค่อยใจชื้นหน่อย พยาบาลยายคลำๆหาเส้นเลือดแล้วเจาะ ปรากฎว่าได้เลือด เราโล่งออกเลย ผ่านไปแล้วเข็มสุดท้าย ขอให้ผ่านทั้งหมดที่เถอะ เข็ดมากเลย ยายพยาบาลป้าผู้ทำให้เรามีรอยพรุนเต็มแขน เจอแบบนี้เข้าไปพยาบาลไทยกลายเป็นนางฟ้าไปเลยละ... แบบนี้มันเข้าข่าย อยากเป็นส่วนหนี่งของครอบครัวเราไหมอะ
แบบนี้มันเข้าข่าย อยากเป็นส่วนหนี่งของครอบครัวเราไหมอะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า เรามีเพื่อนอยู่คนหนี่ง จะเรียกว่าสนิทมากก็ไม่ได้ คือเป็นเพื่อนร่วมชั้น ที่เรียนภาษาสเปนด้วยกัน รู้จักันมา 2 ปีกว่าๆๆ แต่ไม่ได้ไปมาหาสู่กันมากนัก เพื่อนคนนี้เป็นชาว บราซิล เป็นบราซิล พื้นเมืองนะคะ หน้าตาผิวพรรณ ออกไปทางเข้ม ไม่ได้ขาว และมีพฤติกรรมที่ออกไปทาง ชายรักชาย แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาในการเป็นเพื่อน เขาก็โอเคกับเรา เกริ่นกล่าวเรื่องราวเมื่อครั้งเรียนภาษาด้วยกันใหม่ๆ นั้น เราไม่ชอบ เพื่อนคนนี้เท่าไหร่ เพราะเขามักจะหัวเราะเราเวลาที่เราอ่านภาษาสเปน หรือพูดภาษาสเปน เราพยายามอดกลั้น หลายครั้งมากจนเราทนไม่ไหว ได้มีการออกมวยไทยเบาๆๆ จนเจ้าตัวคงรู้ตัว เลยหยุดพฤติกรรมนั้นไปเลย ในการเป็นเพื่อนกันนั้น เขาก็ไม่ได้อะไรกลับเรามาก หลังจากที่เรียนจบปีนั้น เราก็แยกย้ายกันไปตามวิธีทางของใครมัน มีส่งข้อความอวยพรตามโอกาสต่างๆๆบ้าง เมื่อ ตค ปีที่แล้ว เรายังว่างงานอยู่เลยนัดเจอกับเพื่อนๆๆ เก่าๆ ที่เรียนด้วยกัน และมีเพื่อนคนนี้รวมอยู่ด้วย เราพาแฟนไปด้วย เนื่องจากว่าบ้านอยู่ไกลเมือง เผื่อกลับดึกแฟนจะได้ขับรถได้ เพื่อนคนนี้ดูจะสนใจแฟนของเรามากเป็นพิเศษ มาขอถ่ายรูปมาพูดมาคุย อะไรมาก แฟนเราก็เป็นคนอัธยาศัยดี เขาคุยก็คุย เพื่อนคนนี้ ชอบถ่ายรูปมาก มาก ถึงมากที่สุด แล้วชอบทำตัวแบบ รวยเว่อๆๆตามประสาคนชอบอวด เพื่อนชาวบราซิลว่าอยู่ยุโรปอะไร ประมาณนี้ ทุกวันต้องมีภาพ นั่งจิปกาแฟ ในคาร์เฟ่ บาร์ หรือ แต่งตัวแบรนด์เนม อะไรต่อมิอะไร อันนั้นมันเป็นสิทธิของเขาเราไม่ว่าอะไร แต่ที่เราไม่ชอบคือ เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆๆ แล้วไม่อยู่กับเพื่อนสนใจแต่โทรศัพท์ ถ่ายรูป อัพลงโชเชี่ยล และ แชท ตลอดเวลา และที่สำคัญชอบถ่ายรูปของเราและแฟน แล้วส่งไปให้เพื่อนของเขาดู เพื่อ.. แม้กระทั่งในเฟชบุต นางก็ กอปรูปเราและส่งไปให้เพื่อนๆของเขาดู เราถามว่าทำไมถึงโชว์รูปเรา นางก็ตอบตามประสา แบบไม่ได้คิด ก็เธอมีรูปสวยเยอะๆ แล้วแฟนเธอก็หล่อดี ฉันเลยส่งไปให้เพื่อนที่บราซิลดู คือ เราไม่พอใจมาก และ เราไม่ชอบ ปกติ ในเฟสบุต หรือ โซเซียลเนตเวริค เราจะไม่โพสรูปแฟน เพราะ เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้ เราก็เข้าใจ แต่นี้ นางคนนี้ ถ่ายแล้วโพสต? แล้วส่งต่ออีก เราบอกเขาไปว่าไม่ชอบ อย่าทำอีกนะ ไม่งั้นฉันไม่ถ่ายรูปกับเธออีก แล้วเราก็ทำจริงๆๆ เราไม่ถ่ายรูปกับเขา แต่ไปกินอะไรด้วยกันถ้านัดกัน แต่ไม่ถ่ายรูป ออกทะเลไปไกล เข้าเรื่องเลย หลังๆๆมานี่ หลายเดือนแล้ว ที่ เพื่อนคนนี้ เพียรพยายาม ส่งข้อความหา นัดพวกเรา ฉันกับแฟน ออกไปไหนมาไหน ไปกินไปเที่ยว อยู่บ่อยๆๆ แรกๆๆ เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเพื่อนคงอยากเจอ แต่ เราไปไม่ได้ เพราะ ทุกอาทิตย์แฟนจะกลับบ้านพ่อแม่ ซึ่งอยู่ไกลออกไป หลายร้อยโล จะเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง เกือบทุกเสาร์ อาทิตย์ ไม่ว่าจะฝนตก หรือ หนาวเหน็บแค่ไหน นางก็จะชวน ออกไปดื่ม หรือ วันพิเศษอะไร เช่น วาเลนไทน์ หรือ อะไรต่างๆๆ เราเริ่ม หงุดหงิด พอเห็นข้อความแล้วไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะ เหมือนชีวิต ไม่เป็นอิสระ เหมือนมีใครคนหนึ่งคอยจับจ้องอยู่ จากที่เคยรู้สีกไม่ดีที่ต้องปฏิเสธคำชวน เพราะเราไปไม่ได้จริงๆ กลับกลายเป็นว่า มันจะมากไปแล้วนะ เหมือนชีวิตโดนคุกคาม ปล่อยตูมีเวลากับครอบครัวตรูบ้าง ไม่ต้องตามขนาดนั้นก็ได้ มีอยู่วันหนึ่ง เรากับแฟน ไม่ได้กลับบ้านพ่อแม่ เลยพากันไปกินข้าวข้างนอกบ้าน มาอีกแล้วครับ ข้อความมันมาอีกแล้ว เพื่อน นี่เธอ เธออยู่ไหนเหรอ เธอกับบ้านพ่อแม่แฟนหรือเปล่า เรา เปล่า พวกฉันอยู่ที่นี่ เมือง เอ... เพื่อน ว้ายยยยยยยย ทำไมเธอไม่ชวนฉันไปด้วย เธอนี่แย่มากเลยนะ ฉันก็อยากไปกับพวกเธอด้วย เรา อื้ง คุณมึงเป็นใครคะ ... มาว่าฉันแบบนี้ ฉันก็อยากอยู่กับแฟนฉันบ้างสิ คิดในใจนะคะ แต่โมโหมาก.... รำคาญ และ ปรีด อะไรของมันวะ มันจ้องชีวิตตูทุกอาทิตย์นี่น่าแบบนี้ เมิงงจะอะไรหนักหนากับตรู เมิงก็รู้ว่ากูไม่เข้าใจภาษาสเปนสำเนียงบราซิลของเมิง ทุกครั้งที่ไปเมิงก็คุยแต่กับแฟนตรู แล้วนี่จะมาตามหึงหวงอะไรเขา ..... อยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตูหรือไง ... เป็นอย่างนี่มาทุกอาทิตย์ เราได้แต่อ่าน แต่ไม่อยากตอบ และไม่ตอบเลย และ อาทิตย์นึกว่าจะรอด เพื่อนคนนั้นก็ยังส่งมาอีก ... เฮ้ย.. ชีวิตส่วนตัวของฉัน บักบอป.. เมื่อครูตีไม่ได้ ฉันเลยทำแบบนี้ ตอน เด็กก็คือเด็ก
เมื่่อหลายอาทิตย์ก่อน แม่ของเด็กน้อยขอให้เรามาช้าจากเดิมนางขอเล่นเวลาไปอีกครี่งชั่วโมง เพราะนางและสามีจะไปฝึกพิลาทีส ปกตินางกับสามีไปฝึกทุกวันพุธ 18.30 แต่วันนั้นครูขอเล่นไป 19.00 นางเลยให้เราไปอยู่ในเวลานั้น เพื่อดูแลและสอนลูกนางด้วย
เมื่อเราไปถึงบ้าน เด็กมีอาการงอแง อยากไปกับพ่อแม่ด้วย ไม่อยากเรียนภาษาอังกฤษ คืออารมณ์แบบรู๋ว่าพ่อแม่จะออกไปไหน และอยากไปด้วย แต่เรากับแม่เด็กก็หลอกล่อจนเด็กยอม ไม่ร้องตาม พ่อกับแม่ คลาสวันนี้เรานึกว่าจะง่าย เพราะเด็กไม่มีความกดดันจากพ่อแม่ แต่มันไม่ใช่นะสิ เราพาเด็กอ่านหนังสือ ระบายสิและ ให้เขาเล่นของเล่นตามจินตนาการของเขา มีดื้อบ้าง เสียงดังบ้าง แต่ก็โอเค เด็กถามหาพ่อแม่ เป็นครั้งคราว เราก็บอกว่า พ่อแม่ไปออกกำลังกาย ที่ตึกข้างๆๆ เดี๋ยวมา เด็กน้อยก็เริ่มงอแง อยากไปด้วย อยากไปด้วย ทำไมพ่อแม่ไม่พาฉันไปด้วย เราก็บอกว่า เธอโตแล้วต้องเรียนหนังสือ พ่อแม่ไปแป๊บเดี๋ยว ก็มา แต่เด็กถามเราหลายครั้งแสดงว่า เขารู้สึกว่าโดนทิ้ง ใกล้ๆๆจะท้ายคลาส เราเลยเปิดวิดิโอ กระต่ายกับเต่าที่เขาชอบดู และก็จะมีเพลงสำหรับเด็ก 2-3 เพลง เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที หลังนิทานจบ เราเลยบอกเด็กน้อยว่า เราต้องเก็บของแล้วนะ หลังจากนั้น เราก็จะ Finish class แต่เด็กน้อยไม่พอใจ เพราะอยากดูวิดิโอต่ เรายอมให้ดูจนเพลงนั้นจบ และบอกว่า พอแล้ว เพลงจบแล้วจ้า มาเก็บของกัน เราเปิดวิดีโอผ่านทางโทรศัพท์มือถือของเรา แล้วเด็กขอเอาไปถือดูเราเลยยอมเพราะเห็นว่าวันนี้ เด็กเศร้าๆๆ ปรากฎว่าเราคิดผิด เพราะหลังจากที่เราขอเอาโทรศัพท์คืน เด็กไม่พอใจ เพราะอยากดูวิดิโอต่อ เด็กน้อยวิ่งมาหวังจะตีเรา จังหวะที่เรากำลังปิดวิดิโอไม่ทันระวัง เลยโดยตีที่ปลายคางไปนิดหน่อย แต่ เราตกใจมากที่เด็กน้อยมีพฤติกรรมก้าวร้าวขนาดนี้ คือ เด็กเขาหวังจะต่อย แต่เขาตัวเล็กกว่า เขาคว้าคอเสื้อของเรา ลงไปด้วย เราเลยจับมือเขาออกจะบอกให้เขาขอโทษ เด็กไม่ขอโทษแถมกรีดร้องใส่เราอีก เราพยายามระงับความโกธร และ พยายามสอนเขาว่า ทำแบบนี้มันไม่ดี มันแย่มาก ไม่เป็นเด็กดีเลย ทำร้ายคนอื่น แล้วต้องขอโทษ เด็กยิ่งกรีดร้องใส่ เราโมโหมากแต่พยายามกลั้นไว้ และออกจากห้องไป ปิดประตู เด็กอยู่ในห้องเรียนคนเดียว ตอนแรกกะจะออกมาสงบอารมณ์นอกห้อง ปรากฎ เด็กน้อย เริ่มร้องไห้หนัก คงรู้ตัวว่าทำผิดและหวาดกลัวอะไรสักอย่าง คือปกติ เวลาเขาทำตัวไม่ดี แม่จะขังไว้ในห้อง แต่นี่ เราเดินออกจากห้่อง ถึงอารมณ์จะต่างกัน แต่ก็เหมือนเขาถูกขังในห้องคนเดียว เราเลยเปิดประตูเข้าไปดู เด็กร้องให้หนักมาก น้ำหู น้ำตา เปียกไปหมด เราทั้งโมโหและสงสาร ไหนละ เด็กบ้า คนที่จะต่อยฉันเมื่อกี้ไปไหนละ เด็กบ้าที่กรีดร้องใส่ฉันเมื่อกี้ไปไหนละ เรายังหวาดๆๆกับความก้าวร้าวของเด็กอยู่ แต่ก็คว้าตัวเด็กน้อยมากอด และปลอบใจ ว่า อย่าร้องนะ ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กดี เธอแค่โมโห และเธอต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมมันด้วย ไม่มีใครชอบให้คนอื่นทำร้าย เธอก็เหมือนกันใช่ไหม เด็กน้อยทั้งพยักหน้า และร้องไห้สะอึกสะอื้น ๆๆ เราเลยปลอบต่อ ลูบหลังไปพลาง จริงๆๆก็กลัวเด็กจะทำร้ายอีกนะ เพราะเราเดาใจเขาไม่ถูก แต่เด็กน้อยยอมให้เรากอดและ ฟังที่เราพูด หลังเด็กสงบลง เด็กก็ร้องหาแม่อีก เราเลยบอกว่า อีก 10 นาทีแม่ก็จะมาแล้ว เรามาเก็บของกันเถอะ แม่มาแล้วจะได้ดีใจ เดี๋ยวฉันจะช่วย เด็กเลยหยุดร้องและเปลียนท่าที มาเก็บของและ เล่นไปด้วย เมือแม่เขามา เราเลยเล่าให้ฟังว่า เด็กน้อยต่อยฉันนะ ฉันเลยเดินออกจากห้องไป เขาเลยร้องไห้ แต่ฉันก็พยายามปลอบและ เขายอมให้ฉันกอด เธอตกใจมาก หันไปบอกสามีว่า ลูกชายทำร้ายฉัน และหันมาขอโทษฉันแทนลูก เธอคงรู้พฤติกรรมลูกเธอดี และเธอหันไปบอกลูกชายให้มากอดเรา เพื่อสมานรอยร้าว ลูกน้อยทำตามอย่างว่าง่าย คงเป็นเพราะเด็กเองก็รู้ว่าผิด แต่ไม่รู้ทำไม ไม่ยอมพูดขอโทษ เราเห็นหลายครั้งแล้ว ขนาดกับแม่เขาก็ไม่ยอมพูด เราเลยแอบถามว่า ที่โรงเรียนเขามีปัญหาไหม แม่เด็กยอมรับว่า เขาทำร้ายเด็กคนอื่นด้วย เขาต้องไปพบครูหลายครั้งและต้องไปปรึกษากับหมอเด็กด้วย แถมนางบอกว่า นี่ถ้าเจอจำเป็นต้องตีหรือกำราบลูกฉันเธอทำได้นะ ฉันอนุญาติ ลูกฉันมีพฤติกรรมแย่ลงทุกวัน คงเพราะฉันให้เขาเรียนภาษาจีน เพราะในชั้นนั้นมีเด็กที่โตกว่าเขา และเป็นเด็กแบบนี้ ลูกฉันเลยเลียนแบบ ฉันกลุ้มใจมากๆๆ ฉันขอโทษเธอจริงๆๆนะ หลังจากฉันจะกลับแม่เด็กถามเด็กว่า เธอรักครูของเธอไหม เด็กตอบว่า รักมากครับ ถ้างั้นเธอก็อย่าทำตัวไม่ดีอีกนะ เด็กพยักหน้า เราหอมแก้มลา และกลับบ้านไป ในใจยอมรับว่า หวาดกลัวกับพฤติกรรมของเด็กมากๆๆ ไม่คิดว่าเด็กน้อยไร้เดียงสา จะมีพฤติกรรมรุนแรงได้ขนาดนี้ แต่ก็แอบดีใจกับตัวเองที่ ห้ามใจตัวเองได้ ถึงโกธรแต่ก็ห้ามใจได้ และ เปลี่ยนวิตกฤตให้เป็นโอกาสได้ เรานึกถึงคำพูดที่คนชอบพูดกันว่า ลูกคุณไม่ได้น่ารักกับทุกคน จริงๆๆมันตรงมาก เด็กก็เด็ก แต่เราก็ต้องอบรมสั่งสอนเขาให้เป็นคนดี ยิ่งเด็กในยุคใหม่ ไม่ว่าที่ไหนก็คล้ายๆ กัน คือ โตมาแบบมีวัตถุสิ่งของรอบตัว บางทีผู้ใหญ่เองที่ทำลายความไร้เดียงสาของเขา โดย วัตถุ สิ่งของ และ ความต้องการของผู้ใหญ่ เป็นครูกระเหรี่ยงไม่ง่ายเลย แต่ก็ต้องเรียนรู้กันไป วันนี้อาจจะยาก วันข้างหน้าเราจะแกร่ง |
Makaveli_J
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?] ปรึกษาเรื่องวีซ่าสเปน ฟรีคะ แวะมาทักทายกันได้นะคะ คนไกลบ้านอยากมีเพื่อนคะ http://mellamotai.blogspot.com.es
Friends Blog
|