|
Hiking @ Mt. Rigi, Switzerland (Oct 2010)
สวิสเซอร์แลนด์เที่ยวนี้เป็นทริปที่ 2 ของปี ครั้งนี้อยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ อากาศช่วง 3-4 วันแรก ยังรู้สึกเหมือนซัมเมอร์อยู่เลย แต่อากาศเปลี่ยนแปลงเร็วมาก อุณหภูมิลดลงมาเหลือ 8-12 องศาภายใน 1 สัปดาห์
มาเที่ยวนี้คุณสามีลางานไม่ได้ เราเลยไม่ได้ไปไหน แต่ก็ไม่ได้ปล่อยเวลาไปเปล่า ๆ โดยไปเล่นโยคะและพิลาทิสทุกวันจันทร์-ศุกร์ พอคุณสามีออกจากบ้าน เราก็เตรียมตัวออกมาเล่นโยคะ เล่นวันละ 2 รอบ มาเสร็จราว ๆ บ่ายโมง ฆ่าเวลาไปได้พอสมควร แถมกลับมาน้ำหนักลดไปอีก 1 กก. 
มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ทริป hiking นี้เป็นการออกไปเที่ยวเพียงครั้งเดียวของเรา เนื่องจากเราก็ไปเที่ยวกันมาหลายเมืองแล้ว เลยอยากไปเที่ยวธรรมชาติบ้าง เลยเลือกไป Mt. Rigi กัน ภูเขาแห่งนี้ไม่ได้สูงมากนัก ราว ๆ 1800 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สำหรับที่นี่มีทางขึ้นทางลง 2 ทาง คือจาก Art-Goldau ขึ้น Cog Rail หรือจาก Vitznau เมืองริมทะเลสาบลูเซินน์ ตรงนี้จะมีเคเบิลคาร์
เราเลือกที่จะขึ้น Cog Rail จาก Art-Goldau วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ คนเยอะทีเดียว อากาศภาคพื้นค่อนข้างเย็น และมีหมอกเยอะ แต่พอนั่งรถไฟผ่านทะลุหมอกขึ้นไป ท้องฟ้าใสแจ๋วอย่างที่เห็นในรูปเลยคะ
ครั้งนี้เราวางแผนกันว่าพอขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว เราจะเดินลงกัน ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. ที่สวิสเซอร์แลนด์ ผู้คนนิยม outdoor activity กันมาก แม้แต่ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ๆ ก็มา hiking กันแล้ว ที่ประทับใจก็เห็นจะเป็นครอบครัวนึง อันนี้เค้าเดินขึ้นกันด้วย มีพ่อ-แม่ และลูก 4 คน โดยคนโตสุดน่าจะอายุไม่เกิน 5 ขวบ เด็ก 2 คน เดินกันเอง คุณพ่ออุ้มลูกใส่หลัง 1 คน และอุ้มไว้ข้างหน้าอีก 1 คน ส่วนคุณแม่เดินตัวปลิว แต่ก็คงเหนื่อยกันพอสมควร นับถือจริง ๆ
เราขึ้นไปถึงยอดเขากันประมาณเที่ยง ก็ปิคนิคกันบนนั้น ที่เห็นในรูปข้างบน เป็นทะเลหมอก พอทานอะไรเสร็จก็ออกเดินลงกันเลยคะ เส้นทางช่วงแรก ๆ นี่สบาย เป็นทางเดินดี ๆ กว้าง ๆ มีทั้งคนเดินขึ้นเดินลง ส่วนใหญ่จะเดินขึ้นกัน อย่าคิดว่าเค้าจะเดินกันมาตั้งแต่ข้างล่างนะคะ ส่วนใหญ่จะขึ้นรถไฟมาครึ่งทาง ค่อนทาง แล้วลงเดินกัน แต่เราไม่ฟิตพอจะเดินขึ้น ขอเดินลงดีกว่า
เราเดินกันสบาย ๆ ถ่ายรูป ชมวิวไปเรื่อย ๆ จุดหมายของเราคือเมือง Weggis มีป้ายบอกทางเป็นระยะ ๆ
เดินมาได้สัก 1/3 ของเส้นทาง ก็จะเริ่มเป็นการเดินป่าแบบจริง ๆ จัง ๆ ช่วงที่เดินในป่า อยู่ในระดับความสูงของหมอกพอดี หมอกหนามาก ๆ ขนาดว่ามองข้างหน้าได้ไม่เกิน 10-15 เมตร น่ากลัวเหมือนกัน เพราะแทบไม่เจอเพื่อนร่วมทางคนอื่นเลย ได้สวนกับกลุ่มคนที่เดินขึ้น 2 กลุ่มเท่านั้น
ระหว่างทางเดินหลงไปพักนึง น่ากล้วทีเดียว แทบจะเดินลงเหวไป เพราะมองอะไรข้างหน้าไม่ค่อยเห็น โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณ ยังแอบคิดอยู่เลยว่าถ้าต้องมี rescuer มาช่วย แล้วออกเป็นข่าวไป คงน่าอายมากแน่ ๆ แต่อย่างไรก็ตามเราก็สามารถหาทางกลับมา on track ได้
เดินลงเขานี้แม้จะไม่เหนื่อย แต่ก็ปวดเท้าเหมือนกัน แม้จะใส่ hiking shoes แล้ว แต่ตอนเดินลงนิ้วเท้ามันจะทิ่มไปข้างหน้าไปชนกับรองเท้า ทำให้ค่อนข้างเจ็บ
หลังจากเดินมาได้ราว ๆ 4 ชั่วโมง ก็ใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง รูปข้างบนจะเห็นทะเลสาปลูเซินน์
ในรูปเป็นท่าเรือที่เมือง Weggis เรามาขึ้นเรือที่นี่ไปลูเซินน์ จากลูเซินน์เราต่อรถไฟกลับบ้านกัน เหนื่อยมาก ๆ ปวดน่องไปหมด แต่ก็สนุกสนานและเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ถ้ามีโอกาสก็คงจะไปทริปแบบนี้อีกเรื่อย ๆ
ป.ล. รูปทั้งหมดถ่ายโดยมือถือ เพราะลืมเอาที่ชาร์จแบตกล้องไป 
| Create Date : 30 พฤศจิกายน 2553 |
|
15 comments |
| Last Update : 30 พฤศจิกายน 2553 15:57:50 น. |
| Counter : 6925 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
2 in 1 เลยค่ะ