Bloggang.com : divini : มาเลเซีย ไม่ไปไม่รู้ ตอนที่ ๑ KL

มาเลเซีย ไม่ไปไม่รู้ ตอนที่ ๑ KL

จะว่าไปมาเลเซียไม่เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่อยากไป เชื่อว่าหลายคนที่วางแผนไปเที่ยวต่างประเทศก็อยากไปประเทศที่แตกต่างจากบ้านเราหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ร้อนเหมือนอย่างบ้านเรา ด้วยเหตุนี้จึงมองข้ามมาเลเซียเสมอ ๆ แต่เนื่องจากคุณชายมีเหตุต้องไปขอวีซ่า (เข้าเมืองไทย) ที่ KL (กัวลาลัมเปอร์) อยู่ ๒-๓ ครั้ง และชมนักชมหนาว่าเป็นเมืองที่น่าสนใจ พอสบโอกาสเลยจัดทริปไปเที่ยวซะเลย

ทริปนี้ไปกัน ๔ คืน ๕ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๓ - ๑๗ ม.ค. ไปไฟลท์แรก กลับไฟลท์สุดท้าย เลยมีเวลาเหลือเฟือทีเดียว นั่งแอร์เอเชียไป ได้โปรไม่ถูกเท่าไหร่ แต่ก็นะเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว

สำหรับแอร์เอเชีย จะบินลงจอดที่สนามบินโลว์โคส LCCT น่าจะเรียกว่าเป็น Air Asia Terminal ได้เลย การเดินทางจาก LCCT เข้าตัวเมืองนั้น ไม่สะดวกสบายเหมือนอย่างสนามบิน KLIA ซึ่งเป็นสนามบินหลักที่มีรถไฟวิ่งตรงจากสนามบินเข้าตัวเมือง ออฟชั่นที่ถูกที่สุดในการเข้าตัวเมืองก็คือการนั่งรถบัส ซึ่งมีให้เลือกหลายบริษัท Air Asia เองก็มีบริการ Sky Bus ราคา ๙ ริงกิต ของบริษัทอื่น ๆ ก็ราคา ๘ บ้าง ๙ ริงกิตบ้าง ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมง ไปยัง KL Sentral ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของ KL น่าจะเปรียบได้กับหัวลำโพงของกรุงเทพเรา

จากที่นั่น เราตัดสินใจนั่งแท๊กซี่ไปโรงแรม ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับ Twin Tower แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองหลวงแห่งนี้ การเรียกแท๊กซี่จาก KL Sentral นั้น เราต้องไปซื้อคูปอง โดยบอกสถานที่ที่ต้องการไป เค้าจะบอกราคามาเลยว่าเป็นเท่าไหร่ ไม่ได้ดูตามมิเตอร์ เหมือนกับการเรียกลูมูซีนจากสนามบินที่บ้านเรา ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะรถติดเหลือเกิน นั่งรถไฟฟ้าเอาเร็วกว่าเยอะเลย

ครั้งนี้พักโรงแรมหรูหราหน่อย เพราะโรงแรมที่นี่ไม่แพงนัก โรงแรมระดับเดียวกันนี้ในบ้านเราแพงกว่าเยอะเลย เราพักที่ Traders Hotel เป็นเวลา ๒ คืน ทำเลดีมาก แล้วยังมี shuttle รับส่งจาก Twin Tower อีกด้วย ไว้จะทำรีวิวให้ดูในหมวด Hotel Review นะค่ะ เรามาเช็คอินกันราว ๆ เที่ยง เก็บกระเป๋าปุ๊ป ก็ลุยกันเลยคะ

อันดับแรกกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราแวะไปทานอาหารที่ Food Court ในห้างภายในตึก Twin Tower ที่อยู่ชั้น ๒ มีให้เลือกมากมายทีเดียวทั้งอาหารฝรั่ง จีน มาเลย์ อินเดีย ราคาแพงกว่า Food Court บ้านเรา แต่อาหารคุณภาพดีกว่า ปริมาณมากกว่า อาหารกับเครื่องดื่มสำหรับ ๑ คน ไม่เกิน ๑๐๐ บาทคะ

อิ่มท้องแล้วก็ไปลุยไชน่าทาวน์เลย แต่ปรากฎว่าค่อนข้างหน้าผิดหวัง เพราะไม่มีอะไรน่าสนใจนัก เดินไปดูวัดฮินดูก็ปรากฎว่าด้านนอกปิดซ่อมแซม ถ่ายรูปไม่ได้อีก...เซ็ง

จากนั้นก็ไป Central Market กันต่อ อันนี้ค่อยยังชั่ว มีของน่าดูเยอะพอใช้ เป็นอาคาร ๒ ชั้น ที่รวมอันสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก และเสื้อผ้ามากมาย น่าจะคล้าย ๆ กันสวนลุมไนท์บาซาร์ติดแอร์

ใกล้ ๆ กับไชน่าทาวน์ (เลยไป ๑ สถานี) มีมัสยิด Jamek เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง แต่เข้าไม่ได้คะ ผู้หญิงต้องแต่งตัวถูกต้อง มีผ้าคลุมศรีษะด้ว

เข้าไม่ได้เลยต้องถ่ายรูปจากข้างนอกเอา

จบจากนี้ไปต่อกันที่ KL Tower อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของที่นี่ เป็นหอสูงตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมือง ปรากฎว่าคุณชายซึ่งเคยมาที่นี่แล้ว และเราก็หวังว่าจะเป็นไกด์ที่ดี ดันพาเราขึ้นทาวเวอร์โดยทางอ้อม ทางดี ๆ ที่คนอื่นเค้าไปกัน ก็คือทางที่รถขึ้นได้ แต่ปรากฎว่าคุณชายพาขึ้นอีกทาง เป็นทางสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลัง โดยเค้าทำเส้นทางเดินขึ้นเอาไว้ข้างหลัง คุณชายบอกว่า It's a nice walk! ร้อนจะตาย เหนื่อยก็เหนื่อย พาเดินขึ้นท่ำไม (วะ) ตอนนั้นทั้งเหนื่อยทั้งโมโห ค่าขึ้นไปชมวิวข้างบนแพงเหมือนกัน น่าประมาณ ๓๘ ริงกิต ขึ้นไปแล้วก็จะได้เห็นวิวแบบนี้คะ

จาก KL Tower สามารถเดินไปที่ Twin Tower ได้เลยคะ ไม่ไกลนัก จากที่นั่นก็นั่งรถ shuttle ของโรงแรมกลับไปเอาแรงซะหน่อย ตอนเย็นเรากลับมาทานอาหารเย็นกันที่ Food Court เหมือนเคย เพราะอาหารน่าทานเยอะมาก ตอนเย็นวิวของ Twin Tower สวยมากคะ ด้านหลังจะติดกับสวนสาธารณะ ทำได้ดีทีเดียว คนไปถ่ายรูปกันเยอะเลย

ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้นะค่ะ

วันรุ่งขึ้นเราไปปุตราจายา ศูนย์ราชการของมาเลเซียเค้า แล้วติดตามกันนะค่ะ

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553

Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2553 23:19:15 น.

0 comments

Counter : 1484 Pageviews.