'*^-+...ไม่มีอะไรงดงาม เท่าความสงบสุข...+-^*'
ทันทีที่ฉันก้าวเข้าประตูรั้วของศูนย์การเรียนรู้ฯ เสียงเล็ก ๆ เรียกชื่อฉันดังมาแต่ไกล "ครูปอยยยยย...." เด็กหญิงตัวอวบหน้ากลม ๆ วิ่งถลาเข้ามากอดฉัน หรือเรียกว่ากอดขาฉันจะดีกว่าเพราะว่าส่วนสูงของเธอยังไม่พ้นเอวฉันเลยด้วยซ้ำไป"ว่าไง น้องพิมพ์ ทำงานบ้านเสร็จแล้วเหรอจ้ะ ถึงมาที่นี่ได้" ฉันก้มลงมอง 'น้องพิมพ์' ที่ยังเกาะขาฉันอยู่ แล้วส่งยิ้มให้ น้องพิมพ์อยู่ป. 5 เป็นเด็กที่เรียบร้อยและเป็นที่รักของคุณครูอาสา เธอลงเรียนวิชาดนตรี และเป็นเด็กที่เล่นดนตรีเก่งที่สุด เรียกว่าเป็นเด็กที่มี 'พรสวรรค์' ได้เลย หากเพียงเธอมีโอกาสในชีวิตมากกว่านี้ พรสวรรค์เธอคงได้รับการสนับสนุน"ค่ะ เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวน้องฟ้าก็ตามมา" เธอหมายถึงน้องสาวของเธอที่อยู่บ้านเดียวกัน และต้องช่วยแม่ทำงานบ้านให้เสร็จก่อนจึงจะได้รับอนุญาตให้ออกมาเล่นนอกบ้านได้ "วันนี้ครูปอยมาสอนอะไรคะ สอนดนตรีหรือว่าสอนเต้น" "วันนี้ครูปอยไม่ได้มาสอนอะไรเลยค่ะ" ฉันหยุดและยิ้มให้เธอ เพิ่งจะคลายจากที่เกาะขาฉันไว้และมาจับมือฉันเดิน "แต่ครูปอยมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุด เดี๋ยวจะมีเกมส์ให้เล่นด้วยนะ เล่นไหม มีของรางวัลใหญ่ด้วยล่ะ" "เล่นค่ะเล่น เล่นอะไรคะ?" พอพูดถึงของรางวัล น้ำเสียงเธอดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ ตอบรับการละเล่นของฉันไปเรียบร้อยทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเล่นอะไรกัน"เดี๋ยวไว้ครูปอยบอกทีหลังค่ะ" ฉันยิ้มอย่างมีเลศนัย "ตอนนี้เราไปห้องสมุดกันดีกว่า" ว่าแล้วก็จับมือเธอเดินไปห้องสมุด
ระหว่างจับมือน้องพิมพ์เดินไปห้องสมุด ฉันก็รู้สึกถึงแรงปะทะอีกแรงที่ขาขวาเต็มแรงพร้อมเสียงเล็ก ๆ ดังแสบหู "ครูปอยยยยย สวัสดีค่ะ" 'น้องเนย' ยกมือไหว้ฉันแผล็บ ๆ แล้วก็กอดขาขวาฉันไม่ปล่อย "สวัสดีค่ะน้องเนย" ฉันส่งยิ้มลงไปให้ตาแป๋วแหววและยิ้มกว้างเห็นฟันหน้าหลอสองซี่ "แต่ว่ามาเกาะขาครูปอยแบบนี้ ครูจะเดินยังไงละคะ?" ว่าพลางฉันก็ส่งคิ้วขมวดเป็นเชิงดุหนึ่งที น้องเนยส่งยิ้มเอียงอายและยอมปล่อยขาฉันให้เป็นอิสระแต่โดยดี ฉันให้จับมือข้างที่ว่างอยู่เดินไปห้องสมุดด้วยกันน้องเนยอยู่ป.1 แต่ตัวเล็กมากจนเหมือนอยู่อนุบาล 1 เสียมากกว่า เธอผอมเกร็งและพุงโล แถมยังเพิ่งหายจากเป็นอีสุกอีใส จึงมีแผลสะเก็ดเต็มตัว แต่น้องเนยน่ารักและขี้อ้อน ตอนมาใหม่ ๆ จะเป็นเด็กซนจนต้องดุบ่อย ๆ แต่หลัง ๆ จะเรียบร้อยขึ้น เธอชอบงานประดิษฐ์พวกเย็บปักถักร้อยเป็นพิเศษ มือเล็ก ๆ ที่มีแผลเต็มมือ ยังเคยทำกระเป๋าใส่เศษสตางค์มาอวดฉันอยู่เหยง ๆ "น้องเนยคะ ไม่เอาไม่ไปเกาะครูเขาแบบนั้นสิ" เสียง 'ป้ามะ' หรือ ป้ามยุรี ผู้ดูแลและบรรณารักษ์(จำเป็น)ของศูนย์ฯส่งเสียงมาจากหน้าห้องสมุด "ป้าบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าไปกวนคุณครู" 'ป้ามะ' ใส่แว่นตากรอบหนา และมีผมสีดอกเลา เค้าหน้าและแววตามีความใจดีสม่ำเสมอ แม้แกจะพยายามดุเด็ก ๆ อย่างไร ก็ยังไม่สามารถสลัดคราบความใจดีในน้ำเสียงแกออกไปได้ จึงเป็นที่รักของเด็ก ๆ ในชุมชนที่มาใช้ห้องสมุดเป็นอย่างมาก "ปอย วันนี้มาอ่านหนังสือเหรอคะ" ป้ามะหันมาถามฉัน "เดี๋ยวพี่ไปกินข้าวสักหน่อย ฝากห้องสมุดแป๊บนึงนะ" ฉันตอบรับคำ พลางแอบยิ้มกับสรรพนามที่แกแทนตัวเอง ไม่ว่าเหล่าครูอาสาฯจะเรียกแกว่า 'ป้า' อย่างไร แกก็จะเรียกตัวเองว่า 'พี่' ไม่เปลี่ยนแปลง "พิมพ์ เนย...นั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ นะคะ วันนี้ไม่มีกิจกรรม" ป้ามะว่าพลางหันลงไปสั่งความกับตัวเล็กสองคนที่จับมือฉันคนละข้าง"ไปค่ะ ไปอ่านหนังสือกัน เด็ก ๆ" ฉันพูดกับน้องสองคนและชวนกันเข้าห้องสมุด แต่เพียงแค่เปิดประตูห้องสมุดไปเท่านั้นแหละ ก็มีเสียงเล็ก ๆ แหลม ๆ อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากในห้องสมุด "ครูปอยยยย..." 'น้องนุก' เด็กป.1 อีกคนหนึ่งที่นั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดอยู่แล้ว ลุกขึ้นจากตัวต่อไม้ที่ง่วนทำอยู่วิ่งถลาเข้ามากอดฉันตรงกลางตัว "ครูปอย สวัสดีค่ะ วันนี้หนูจะกอดครูปอยไม่ปล่อยเลย" น้องนุกที่ตัวเล็กพอ ๆ กับน้องเนยยิ้มยิงฟันเต็มปากเงยหน้ามาจ้องหน้าฉัน"ไม่ได้ค่ะ น้องนุก วันนี้ครูปอยมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุด น้องนุกอย่ากวนนะรู้ไหม ไม่งั้นครูปอยจะดุนะ" ฉันทำเสียงดุขึ้นเพราะว่าเจ้าตัวเล็กที่เกาะขาฉันอยู่นั้นเสียงดังเหลือเกิน ซึ่งไม่ว่าดุเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมเลิกราเอาง่าย ๆน้องนุก เด็กตัวเล็กอยู่ป. 1 อีกคน ตัดผมม้าสั้นและซนมากจนเป็นที่กล่าวขานของบรรดาคุณครู ว่าใครจะไปที่ศูนย์ต้องระวังเจ้าจอมแสบคนนี้ให้ดี ๆ เพราะว่าจะรี่เข้ามาเกาะขาและขอให้อุ้มอยู่เสมอ ทั้งที่ตัวก็โตและหนัก แต่ก็ยังมาอ้อนตลอดจนไม่เป็นอันทำการทำงานก็มี น้องนุกยังถือว่าเป็นเด็กเกเรที่ไม่ยอมทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เคยไปลงคอร์สสอนเทควันโด้และฟุตซอล ครูอาสาถามว่า น้องนุกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย น้องนุกบอกว่า "หนูเป็นผู้ชายค่ะ"
"ครูปอยคะ หนูอยากอ่านแฮรี่ พอตเตอร์" น้องพิมพ์พูดกับฉันเบา ๆ ขณะที่เลือกหนังสือกันอยู่ที่ชั้นหนังสือ ซึ่งที่ห้องสมุดไม่มีชื่อหนังสือที่เธอพูด"หืมมม...จริงเหรอคะ ถ้ามี หนูจะอ่านเหรอ?" ฉันมองหน้าเธออย่างแปลกใจว่าอยากอ่านแน่หรือไม่"อ่านสิคะ ถ้ามีหนังสืออีกเยอะ ๆ หนูก็จะอ่านเยอะ ๆ ค่ะ" เธอยิ้มหวานให้ฉันหนึ่งทีและหยิบหนังสือวรรณกรรมเยาวชนแปลเล่มหนึ่งไปนั่งอ่านที่โต๊ะ ฉันลอบยิ้มให้ความน่ารักและใฝ่รู้ของเธอ
รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ::BeCoffee::::nikanda::::กะว่าก๋า::::Paulo::::Artagold::::Little Knight::::ปีศาจความฝัน::::บุยบุย::::Unravel::::inmemoir::::นัทธ์::::tempopo::
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ หวังว่าจะได้ร่วมเดินทาง ในถนนสายมิตรภาพโรยตัวอักษรนี้ด้วยกันนะคะ
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
ได้มาอ่านเรื่องราวดี ๆ ที่ใช้อาการ กอด เป็นการนำเสนอ จากบล็อคนี้ ถือว่าได้ทั้งสาระความบันเทิงและได้ประโยชน์ที่จะช่วยสร้างสรรค์สังคมเป็นอย่างมากเลยครับ
ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องซื้อหนังสือบริจาคเท่าไหร่ครับ เพราะว่าหนังสือที่ผมมีส่วนใหญ่อาจจะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชนครับ
แต่จะบอกว่า หนังสือชุดวรรณกรรมเยาวชน ที่ราชบัณฑิตฯ พิมพ์แจกให้แก่โรงเรียนและหน่วยงานตาง ๆ ฟรีครับ โดยสามารถทำจดหมายอย่างเป็นทางการ (ในนามของห้องสมุดก็ได้) เขียนความประสงค์เพื่อขอรับหนังสือได้เลยครับ ในหนังสือให้เรียน เลขาราชบัณฑิตฯ แล้วไปรับหนังสือได้ที่สำนักงานราชบัณฑิต สนามเสือป่าได้เลยครับ
ส่วนในเรื่องข้างบน ผมคาดว่าครูปอยต้องเป็นสาวขาใหญ่แน่ ๆ เลยครับ เด็ก ๆ เลยชอบวิ่งเข้ามากอด เหมือนเล่นลิงชิงหลักที่จะต้องวิ่งไปหาเสากอดไว้ไงครับ
ระวังนะครับ .... หนังสือลงข่าวว่า ...
"ตำรวจกำลังตามจับพวกขาใหญ่"
ออกจากบ้านระวังตำรวจจับนะครับ
อิอิ