อุ้มหมีเล่าให้เพื่อนฟัง ... ต่างกันยังไง Le Cordon Bleu VS OHAP
.. วันนี้มามีสาระนิดนึงค่ะ อุ้มหมีมักจะมีเพื่อนๆ และน้องๆ แวะเวียนมาถามเรื่องการเรียนอยู่บ่อยๆ เรื่องอยากไปเรียนทำอาหาร หรือขนม ใจจริงๆเคยอยากลองเขียน E-book ขำๆซักเรื่อง ไว้ให้เพื่อนๆน้องๆ อ่านเป็นความรู้(มีไหมหว่า) ว่าได้อะไร เสียอะไร จากสองสถาบันนี้(ถ้าชีวิตนี้โชคดีได้ไป >> CIA Culinary Institute of America จะกลับมาเขียนใหม่ิีอีกรอบแล้วกัน)
.. ก่อนอื่นค่ะ เรามาค้นมาความเ้ป็น "เรา" กันซะก่อน ... อยากทำเพราะอะไร ติ๊กต่อกๆๆๆๆๆ ใครตอบตัวเองได้ดังนี้
ก ชอบกิน ข รักที่จะทำ เป็นชีวิตจิตใจ อันนี้พิสูจน์ตัวเองได้จากว่าเป็นคนหมกมุ่นในการทำขนมรึเปล่า ค อยากทำกินเองให้เป็น ง มีแรงบันดาลใจจากคนที่เรารัก ไม่ว่าจะแควน พ่อ แม่ จ อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ฉ อยากออกไปแสวงโชคต่างแดนโดยมีความรู้ติดตัวไปเอาตัวรอด ช ไม่รู้จะทำอะไร ซ ไม่ถูกเลยซักข้อ ฌ และถูกหมดทุกข้อ
ุถ้าตอบ ก กับ ข - หากว่าค้นพบตัวเองแล้วว่าชอบทางนี้จริงจัง มุ่งมั่นเหลือเกิน ให้เลือก Plan A
ถ้าตอบ ค ไปจนถึง จ - แนวว่าเป็นความคิดแบบ commercial ให้เลือก Plan B
ถ้าตอบ ฉ - เป็นการมองอนาคตในต่างแดนที่ไม่อยากไปเป็นเด็กเสริฟ หรือ ล้างจาน ให้เลืิอก Plan C
ถ้าตอบ 3 ข้อสุดท้ายละก็ กลับไปนอนก่ายหน้าผากคิดกันใหม่ค่ะ
Plan A
OHAP :The Oriental Hotel Apprenticeship Program
หลักสูตร 1 ปี เรียน 6 วันต่อสัปดาห์ 3 shift อันได้แต่ 8.00-16.00, 14.00-22.00, และ 22.00-06.00น. ป่วย กิจ ได้ไม่เกิน 11 วัน
ประกอบด้วยหลักสูตร - อาหารนานาชาติ - อาหารไทย - เบเกอร์รี่ - การจัดการห้องอาหาร(นัยว่าเสริฟ และ บาร์) - แม่บ้าน เห็นว่าเดี๋ยวนี้มีซักรีดเพิ่มด้วยอีกอัน และ 6 เดือนสำหรับจะเป็น Front
การเรียนที่นี่เป็นแบบไหน ... ตอบจากประสบการณ์ซึ่้งแต่ละรุ่นคงไม่เหมือนกัน มีเรียนทฤษฏีจำพวกภาษาอังกฤษ ความรู้เรื่องไฮยีน และอีกหลายวิชา และลงมื่อปฏิบัติ ในส่วนของเบเกอร์รี่จะแบ่งเป็นห้องช็อกโกแล็ต,ห้องไอศครีม, ส่วนคุกกี้,ส่วนเค้ก,ส่วนจัดเตรียมขนมเพื่อขึ้นบุฟเฟต์เช้า,ส่วนจัดเตรียมขนมเพื่อa la cart บ่าย,ส่วนจัดเตรียมใขนมเพื่อจัดเลี้ยงและบุฟเฟต์บ่าย,ส่วนจัดเตรียมขนมเพื่อส่งshop และส่วนของการทำขนมปัง โดยคนสอนจะเป็นพี่ๆที่ทำงานอยู่ในโรงแรมนั่นเอง เรียนแบบบุฟเฟต์ คือใครตวงมากได้มาก นี่คือชีวิตจริงในการทำงาน คุณจะเรียนรู้ที่จะทำงานเป็นteam work, การตรงต่อเวลา, การใช้ชีวิตแบบพนักงานในองค์กร,การได้ฝึกฝนทุกวันๆจะทำให้คุณมีความชำนาญ อย่าลืมว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว แน่นอนการทำอะไรซ้ำๆซากๆมันคงทำให้คุณเบื่อหน่าย แต่นั่นแหละคุณกำลังมองข้ามผลกำไรของตัวเอง! และถ้านี่คือสิ่งที่คุณมองหา เชิญที่นี่ค่ะ >> OHAP
แต่ถ้าคุณมองหาการเรียนแบบมีอาจารย์สอนเป็นเรื่องเป็นราว แต่ไม่มีความชำนาญเพราะคุณจะได้เรียนทุกอย่าง อย่างละ 1 ครั้ง (ยกเว้นlessonไหนที่มีบ่อยๆ่เช่นช็อกโกแล็ต)เราคือนักเรียนเต็มตัว ถ้าไม่ฝึกฝนที่บ้าน คุณจะขาดความชำนาญ ระยะเวลาเพียงแค่ 9เดือน มันไม่ทำให้คุณเป็นสุดยอดนักทำขนมได้ถ้าขาดความขยัน สิ่งที่คุณจะได้รับคือเทคนิค ที่นี่ค่ะ Le Cordon Bleu ... ความเป็น worldwide ของโรงเรียนอาจทำให้คุณดูโก้เก๋ในสังคม แต่คุณก็จะเป็นแค่คนทำขนมเป็น ไม่ใช่คนทำขนมเก่ง!! เก่งในความหมายอุ้มหมีคืออะไร คนทำขนมเก่งของอุ้มหมีหมายถึง คนที่สามารถหยิบจับอะไรก็ออกมากินได้ หน้าสวย เปรียบกับผู้หญิงคงจะได้กับ เสื้อ ผ้า หน้า ผม ต้องเนียน เป็นคนครีเอท แน่นอนสิ่งที่คุณได้จากที่นี่คือความภูมิใจในใบประกาศนียบัตรอันหรูหราไฮโซ แต่คุณอย่าลืมบางคนไม่ต้องเรียนเค้าก็ทำขนมได้ดีกว่าคนเรียนมาซะอีก .. จ่ายแพงกว่าทำไม?!?!? >> Le Cordon Bleu, Australia
ปอลอ .. ถึงบุคคลที่ต้องการจะไปยัง Australia เรามีทางเลือกให้คุณอีก 1ทาง นั่นคือ TAFE ....มันคืออะไร? คงคล้ายๆกับโรงเรียนสอนวิชาชีพบ้านเรา ข้อได้เปรียบของคนที่เรียนที่นี่คือ Australia ยอมรับคนเหล่านี้มากกว่าพวกเหยียบขี้ไก่้ไม่ฝ่ออย่างLCB (เค้่าว่างั้น) เพราะมันเป็นโรงเรียนที่รัฐบาลของเค้าให้การยอมรับนะจ๊ะ แต่ข้อด้อยของที่นี่ เท่าที่มองๆเห็น คงจะเป็นเรื่องของการลงมือปฏิบัติในชั้นเรียนค่ะ LCB จะเป็นการเรียนการสอนแบบคุณทำของคุณ ไม่เกี่ยวกับเพื่อนๆ แต่TAFE จะเป็นแบบที่คุณต้องช่่วยกันทำค่ะ .. TAFE มีมากมายหลายสาขาที่ตั้ง และหลายแขนงวิชาให้เรียน อุ้มหมียังแอบสนใจอยู่หลายหลักสูตรเหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาสได้เรียน >> TAFE
Plan B
เหล่านักทำขนมที่ต้องการหาอาชีพใหม่ อาชีพเสริม อาชีพหลัก เสริมแล้วกลายเป็นหลัก ...โดยที่ไม่อยากลงทุนแพงมากไป และลงทุนเวลานานไป อุ้มหมีมีตัวอย่างจากเพื่อนและร้านขนมร้านนึงที่เรียน UFM มาค่ะ ร้านเค้าขายดิบขายดี ไม่รู้เพราะมีใบประกาศแปะข้างฝารึเปล่า จริงๆแล้วหลักทำขนมมันมีอยู่2 อย่างง่ายๆเลยค่ะ 1 คือรู้ว่าทำยังไง คือทำให้เป็น และ 2 คือฝึกฝน ไฝ่รู้ พอรู้แล้วว่าทำยังไง อะไรที่เรียกว่าตะล่อม เครื่องมืออะไรใช้ยังไง อย่างอื่นก็ชิลๆแล้วค่ะ สูตรขนมโดยมากก็คล้ายๆกัน วิธีทำเดิมๆ ใครไม่เชื่อลองดูคุกกี้สิ ของง่ายๆที่เพียงแค่ตีเนยกับน้ำตาล ใส่ไข่ หรือ ของเหลว ใส่แป้ง ใส่ออพชั่น เหมือนกันหมด ผิดที่แป้งมาก น้ำตาลน้อย ผงฟูมาก ไข่น้อย ไข่มาก ใส่นม ใส่ครีม หรืออะไรอีกจิปาถะมันก็ต่างสูตรต่างหน้าตากันแล้วค่ะ เมื่อทำเป็น...อะร๊ายยยก็ไม่ยาก ฉะนั้นลงทุนน้อย เพราะเก็บทุนไว้ทำอย่างอื่น เรียนที่นี่ก็ไม่เสียหลายนะคะ >> UFM
Plan C
สำหรับคนที่ต้องการมีวิชาติดตัวเพื่อไปต่อสู้ต่างแดนต้องการหลักสูตรแบบรวดเร็ว ถ้าจะเน้นพวกอาหารไทยดูที่นี่ค่ะ >> OPTC ตัวอย่างมีเช่นกันค่ะ เพื่อที่เรียนป.โทด้วยกัน เค้าไปฝึกงานต่างประเทศ ก่อนไปคุณเพื่อนก็ไปเรียนOPTC นี่แหละค่ะ ได้งานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ กอรปกับดวงเฮง นอกจากได้งานแล้ว พี่คนไทยคนนึงที่ทำตำแหน่งประมาณว่าดูแล breakfast ทั้งหมดของโรงแรมนี้จะลาออกพอดี เค้าก็เลยให้เพื่อนสาวของอุ้มหมีดำรงตำแหน่งแทน ถึงแม้ว่าจะไม่ related กันเท่้าไหร่แต่การมีดีกรีจากที่ดีๆซักใบมันก็เป็นใบผ่านทางเหมือนกันนะคะ
อะ มาถึงจุด climax ของเรื่อง ตารางการเปรียบเทีนบดีเสียระหว่าง OHAP VS LCB
VS
ความคิดเห็นและจากประสบการณ์ส่วนบุคคล | Le Cordon Bleu, Sydney | The Oriental Hotel Apprenticeship Program (OHAP) | อัตราค่าเล่าเรียนโดยประมาณ ไม่รวมค่าที่อยู่-กินและเดินทาง | 900,000 บาท | 60,000 บาท | การเป็นที่ยอมรับของธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ | มาก | มากๆ | ความชำนาญและประสบการณ์การทำงานที่ได้รับ | น้อย | มากๆ | ความเป็นสากล และที่ยอมรับของสังคม | มากๆ | มาก | เทคนิคและความเข้าใจลึกซึ้งในศาสตร์ด้วยบุลลากรผู้สอน | มากๆ | ปานกลาง |
กระจ่าง เข้าใจตัวเองบ้างรึยังคะว่าจะเสียมรัพย์ไปไหนดี ยังไงก็แล้วแต่นี่ก็เป็นความเห็นส่วนบุคคลนะคะ ส่วนใครที่มีประสบการณ์อื่นๆ ไว้แวะมาแชร์ให้เพื่อนๆน้องๆ ที่เค้ากำลังหาข้อมูล และสนใจก็ดีค่ะ
Create Date : 25 กรกฎาคม 2552 | | |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 18:08:09 น. |
Counter : 12539 Pageviews. |
| |
|
|
|