bloggang.com mainmenu search
   
 
 
 
อ่าน : เสน่ห์ภูกระดึง 1 .... ขึ้นภูกระดึง
 
 
บล๊อกที่แล้วเราพาคุณๆเดินขึ้นภูมาจากที่ทำการอุทยาน อ.ภูกระดึงมานะครับ ซึ่งการขึ้นสู่ภูกระนั้น ณ ปัจจุบันนี้สามารถขึ้นได้ 2 ทางด้วยกัน คือ 1. เส้นทางขึ้นที่อำเภอภูกระดึง: เป็นเส้นทางเก่าแก่และได้รับความนิยมมากที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเขาในเส้นทางนี้ได้ที่อำเภอภูกระดึง ณ ที่ทำการอุทยาน ในเส้นทางขึ้นจะมีบริเวณที่พักและร้านอาหารหลายช่วง มีระยะทาง 5.5 กม.จากที่ทำการถึงหลังแป และจากหลังแปถึงที่พักประมาณ 3.6 กม.   2. เส้นทางขึ้นที่อำเภอน้ำหนาว: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาภูกระดึงได้ที่บ้านฟองใต้อำเภอน้ำหนาว ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขาเส้นทางใหม่ โดยจะขึ้นไปที่ผาหล่มสักโดยตรง มีระยะมีระยะทาง 5.2 กิโลเมตรจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย.5 (หนองผักบุ้ง) ถึงผาหล่มสัก
 
วันนี้เราจะพาเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชมกัน การเดินทางบนภูเราเกือบทั้งวันจะใช้จักรยาน ซึ่งจะช่วยเราย่นระยะทางได้พอควร เนื่องจากเรามีโปรแกรมคราวนี้ 3 วัน 2 คืน (28-30 มค. 2019) วันแรกก็หมดไปกับการเดินทางขึ้นภูมาเกือบทั้งวัน วันนี้เป็นวันที่สองและวันเที่ยวชมธรรมชาติบนภู และวันที่สาว เราก็จะลงเขาครับ .... เพื่อบรรยากาศในการอ่านบล๊อก สามารถกดฟังเพลงด้านล่างได้นะครับ.
 
 
 
 
 
หลังแป...จุดแรกเมื่อขึ้นไปแล้วจะเจอ
 
 
 
แผนที่ทางเดินบนยอดภูกระดึง
 
 
 
 
เส้นทางชมธรรมชาติเราแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ 
 
1. จาก 05.00 - 08.00 น. ตามเจ้าหน้าที่ออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น (เพราะเคยเกิดเหตุที่นักท่องเที่ยวถูกช้างทำร้าย ปัจจุบันการเดินออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นจึงมีเจ้าหน้าที่เป็นคนพาไปครับ) > ลานพระแก้ว > กลับที่พัก
2. จากช่วง 9.00 - 18.00 น. เช่าจักรยานปั่นเที่ยวตามเส้านทางที่กำหนด คือจากที่ทำการ > ไหว้พระพุทธเมตตา > น้ำตกทับใหญ่ > สระอโนดาต > ผาเหยียบเมฆ > ผาแดง > ผาหล่มสัก > ผาแดง > ผานาน้อย > ผาจำศีล > ผาหมากดูก > กลับที่พัก
 
 
เดินทางสู่ที่ทำการวังกวาง 3526 เมตร เป็นทางเดินและเข็นสัมภาระของลูกหาบ
 
 
ในวันแรกที่เราขึ้นสู่ภูที่หลังแป เราสามารถเลือกได้ว่าจะเดินไปที่พักตามทางเดิน หรือ เช่าจักรยานปั่นไป ... สำหรับการเช่าจักรยานเขาจะให้ปั่นไปทางผาหมากดูก เป็นเส้นทางเลียบหน้าผาไป เราสามารถพักถ่ายภาพไปได้เรื่อยๆจนถึงผาหมากดูก ถ้าไม่รีบก็รอดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ก่อนก็ได้ (สำหรับหน้าหนาวเท่านั้น) แล้วค่อยปั่นไปที่พัก รวมระยะทางประมาณ 4.5 กม. ถนนดินแต่ไม่มีทรายมาก ปั่นจักรยานง่ายครับ (เราเช่าปั่นในวันที่มาถึง) .... ส่วนอีกทางคือเดินจากหลังแปไปตามทางเดิม ประมาณ 3.526 กม. ครับ เดินสบายเป็นทางเรียบ (ขากลับเรากลับมาทางนี้)
 
 
ถ้าปั่นจักรยานจากหลังแปผ่านผาหมากดูกไปที่พัก 4.5 กม.
 
 
 
 
 
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
 
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึงในจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงาม ในแต่ละปีจึงมีคนมาเที่ยวเฉลี่ยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวมักมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงจำนวนมาก ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2486 และเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สองถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
 
อุทยานตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.12 ตารางกิโลเมตร (217,575 ไร่) ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึง ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่) มีความสูงอยู่ระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร
 
 
 
เลี้ยวขวาเข้าที่พักที่ผาหมากดูก
 
 
ประวัติภูกระดึง
 
ตามตำนานกล่าวไว้ว่ามีพรานป่าผู้หนึ่งได้พยายามล่ากระทิงซึ่งหลบหนีไปยังยอดเขาลูกหนึ่งในตำบลศรีฐาน (ปัจจุบันอยู่ในอำเภอภูกระดึง) ซึ่งเป็นภูเขาที่ไม่เคยมีใครขึ้นมาก่อน เมื่อนายพรานได้ตามกระทิงขึ้นไปบนยอดเขาแห่งนั้น ก็ได้พบว่าพื้นที่บนภูเขาลูกนั้น เต็มไปด้วยพื้นที่ราบกว้างใหญ่สวยงาม เต็มไปด้วยป่าสน พรรณไม้ และสัตว์ป่านานาชนิด มนุษย์จึงรู้จักภูกระดึงแต่นั้นเป็นต้นมา
 
ภูกระดึงเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ในสมัยสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 มีปรากฏเป็นหลักฐานเมื่อสมุหเทศาภิบาล (พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม) ได้ทำรายงานสภาพภูมิศาสตร์เสนอต่อกระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2486 ทางราชการได้ออกพระราชกฤษฎีกาป่าสงวนแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้เริ่มดำเนินการสำรวจเพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติขึ้นที่ภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นแห่งแรก แต่เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณและเจ้าหน้าที่จึงใด้ดำเนินการไปเพียงเล็กน้อยและหยุดไป
 
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กำหนดป่าในท้องที่จังหวัดต่างๆรวม 14 แห่งเป็นอุทยานแห่งชาติเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้เป็นการถาวรเพื่อประโยชน์ส่วนรวม กรมป่าไม้จึงได้เสนอจัดตั้งป่าภูกระดึงให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามความในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดป่าภูกระดึงในท้องที่ตำบลศรีฐาน กิ่งอำเภอภูกระดึง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 217,581 ไร่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของประเทศ ในวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ดำเนินการเพิกถอนเขตอุทยานแห่งชาติในบริเวณที่กองทัพอากาศขอใช้ประโยชน์ตั้งเป็นสถานีถ่ายทอดโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์ในราชการทหารมีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ทางกรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการขอเพิกถอนพื้นที่ดินดังกล่าวในปี พ.ศ. 2521 ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 217,576.25 ไร่
 
 
 
 
 
 
ฟอกปอด ยอดภูกระดึง .... ป้ายนี้หน้าที่ทำการ อช. ภูกระดึง (ที่พัก)
 
 
พื้นที่เช่ากางเต้นท์
 
 
หลังจากเดินทางถึงหลังแปแล้ว เราเช่าจักรยานคันเล็กคันละ 60 บาท (เส้นทางระยะสั้น หลังแป - สนามหน้าที่พัก) ปั่นเลียบหน้าผาไปทางผาหมากดูกระยะทาง 2500 เมตร ... ด้านบนเป็นป่าดิบบนที่สูง สีเขียวขจี สลับสนสองใบ ลมพัดเย็นสบาย แวะถ่ายภาพที่ผาหมากดูกนิดหนึ่ง ก่อนปั่นกลับที่พัก ระยะทางประมาณ 2000 เมตร ถึงที่ส่งคืนจักรยาน (เป็นของเอกชน) แล้วเดินไปที่ทำการเพื่อยื่นเอกสารเกี่ยวกับการเช่าที่พักมาจากด้านล่าง ซึ่งวันนี้เราได้บ้านพัก April 4 เป็นหลังเหมือนบังกาโล พักได้ 6 คน มีที่นอน ผ้าห่ม และห้องน้ำในตัว แต่ไม่มีน้ำอุ่นครับ เวลาอาบน้ำเย็นยะเยือกเช่นกัน ... ณ ที่ทำการเขามีบริการชาร์ทแบทให้โทรศัพท์ครับ โดยคิดครั้งละ 20 บาท (ที่บ้านพักไม่มีปลั๊กไฟครับ) มีบริการเช่าผ้าห่ม 30 บาท ที่รองนอน 20 บาท และถุงนอน 30 บาท และเต้นท์ 200 บาทต่อคืนครับ สำหรับท่านที่นอนเต้นท์ก็เช่าจากที่ทำการและจุดลงทะเบียนจ่ายเต้นท์ได้นะครับ.
 
 
ลานกางเต้นท์แถวๆร้านอาหาร
 
 
เชค-อิน เรียบร้อยก็เดินเอาของไปเก็บที่บ้านพัก ล้างหน้าล้างตา แล้วเดินออกมารอรับสัมภาระที่ลูกหาบ หาบขึ้นมา ซึ่งวันนี้ถึงช้ากว่าเราเพราะคนเดินทางขึ้นไม่มากนักเพราะเป็นวันจันทร์ อย่าทำหางบัตรหายนะครับ...เอาไปยื่นกับลูกหาบและจ่ายเงิน กก.ละ 30 บาท แล้วนำของกลับไปได้เลย ... ได้สัมภาระแล้วก้จัดการอาบน้ำอาบท่าก่อนไปทานมื้อเย็นแถวๆร้านอาหาร ซึ่งมีมากมายในปัจจุบัน
 
 
 
ยามเย็นบริเวณลานกางเต้นท์
 
 
สำหรับท่านที่นอนเต้นท์ เดี๋ยวนี้ภูกระดึงมีที่อาบน้ำ ห้องน้ำ เยอะมาก แถมมีคนทำความสะอาดตลอด จขบ.เข้าไปเชคดูก็สะอาดดีนะครับ แยกหญิง - ชาย ชัดเจน ... ส่วนท่านใดที่เอาเต้นท์ไปเอง ก็ต้องเช่าที่กางเต้นในบริเวณใต่ต้นไม้ ราคาที่ละ 30 บาท (เขาโรยปูนขาว กำหนดไว้ให้) ... ส่วนเรื่องอาหารการกิน ก็เลือกร้านดูกัน บางร้านก็เขียนราคาไว้ บางร้านก็ไม่มี ราคาโดยประมาณ เช่นข้ากระเพาหมู 60 บาท (ได้เยอะ) น้ำเปล่าขวดละ 30 บาท เป็นต้น ก็โอเคนะครับเมื่อคิดถึงตอนที่ลูกหาบหาบขึ้นมา .... หลังอาหารเดินกลับที่พัก ทางเดินมืดไปนิด ลืมเอาไฟฉายไปด้วย (มีขายด้านบน กระบอดกละ 100 บาท) ไฟฉายหรือไฟฉุกเฉิน จำเป็นมากนะครับ เพราะไฟฟ้าเขาจะเปิด-ปิด 18.00-22.00 น. เท่านั้น 
 
 
 
เช้ามืดที่ผานกแอ่น
 
 
เช้วมืดวันที่ 29 มค. 2019 เราตื่นมารวมพลกันที่หน้าที่ทำการ อช.ภูกระดึง เพื่อรอเจ้าหน้าที่นำไปผานกแอ่นเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องนำทางและเดินคัดท้ายไปด้วยเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะเคยมีนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากการโดนช้างป่าทำร้ายเอา (อันนี้ได้การบอกเล่าจากแม่ค้าที่ร้ายที่ไปทานข้าว) นักท่องเที่ยวจะไม่อนุญาตให้เดินไปผานกแอ่นช่วงเช้ามืดผ่านเส้นทางข้างๆบ้านพักนะครับ เขาจะพาเราไปทางที่จะออกไปหลังแป แล้วแยกออกไปผานกแอ่น ระยะทาง ประมาณ 1600 เมตร ก็ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีครับ ถึงผานกแอ่นก็นั่งรอชมบรรยากาศพระอาทิตย์จะขึ้น ก็ประมาณ 06.43 น. (สำหรับ 29/01/19) ขณะรอท่านจะสั่งกาแฟมาดื่มได้นะครับ มีเจ้าหน้าที่เอามาขาย แก้วละ 25 บาทเอง.
 
 
เช้ามืดที่ผานกแอ่น
 
 
เช้ามืดที่ผานกแอ่น
 
 
เช้ามืดที่ผานกแอ่น
 
 
อาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น
 
 
อาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น
 
 
วิวจากผานกแอ่นยามเช้า
 
 
 
 
 
 
หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ขากลับเจ้าหน้าที่จะพากลับอีกทางหนึ่ง คือเดินกลับไปทางลานพระแก้ว ระยะทาง 500 เมตร จากนั้นก็เดินผ่านป่าสนกลับที่พัก มีถนนให้เดิน (อย่างแตกแถวออกไปป่าให้ไกลมากนะครับ ระวังช้างป่า) จากลานพระแก้ว - ที่พัก 1600 เมตร ผ่านป่าสนสองใบสวยงามตลอดทาง ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย หรือวอร์มอัพในช่วงเช้าก่อนเดินเที่ยวในช่วงสาย รวมระยะทางทั้งหมด 3700 เมตร หรือ 3.7 กม.  เป็นอันว่าเช้านี้จบเส้นทางที่ 1.
 
 
 
ลานพระแก้ว
 
 
 
ป่าสนระหว่างทางเดินกลับ
 
 
ทางเดินกลับที่พัก
 
 
 
 
ต้นสนอายุ 220 ปี
 
 
 
ลานกางเต้นท์ (ของอุทยาน)
 
 
เช่าบิ๊กฟุตปั่น
 
 
หลังอาหารเช้า เรามาเช่าจักรยานสำหรับเที่ยวตามเส้นทางที่สอง (เช่าจักรยานปั่นเที่ยวตามเส้านทางที่กำหนด คือจากที่ทำการ > ไหว้พระพุทธเมตตา > น้ำตกทับใหญ่ > สระอโนดาต > ผาเหยียบเมฆ > ผาแดง > ผาหล่มสัก > ผาแดง > ผานาน้อย > ผาจำศีล > ผาหมากดูก > กลับที่พัก) ... สำหรับการเช่าจักรยาน ก็เลือกเช่าได้หลายแบบ ระยะเวลาก็จาก 8.30 น. - 18.00 หรือหลังอาทิตย์ตกดิน
 
 
- มีแบบคันเล็ก ระยะทางสั้นๆ 
- ล้อใหญ่ เที่ยวได้ทั่วไป ราคา 360 บาท/วัน ... แบบนี้ถ้าเจอทรายก็จะลำบากหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคย
- ล้อบิ๊กฟุต (แบบในภาพ) ราคา 460 บาทต่อวัน ... แบบนี้ปั่นเจอทรายไม่จม ช่วยได้เยอะ ชอบแบบไหนก็เลือกเอาครับ สำหรับเราสองคนเลือกแบบนี้
 
 
พระพุทธเมตตา
 
 
ได้จักรยาน ก็ออกทัวร์เลยครับ วันนี้เรามีเป้าหมายไกลสุดอยู่ที่ผาหล่มสัก ไปและกลับก็ประมาณ 18-19 กม. ล่ะครับ อย่าลืมน้ำหรือของกินเล็กๆน้อยๆนะครับ ... ทานแล้วเอาขยะกลับออกมาด้วย ... แต่ถ้าไม่อยากแบกกหนัก ก้สามารถแวะซื้อได้ตามร้าน (ซุ้ม) ที่ผ่าน ซึ่งมีเกือบทุกผาครับ
 
สถานีแรกคือไหว้พระพุทธเมตตา ระยะทางจากที่ทำการไป 600 เมตร ปั่นสบายครับ จากพระพุทธเมตตา เราปั่นจักรยานไปจอดไว้ทางเข้าน้ำตกถ้ำใหญ่ระยะทาง 400 เมตร (ซึ่งสามารถเดินต่อไปได้ คือน้ำตกเพ็ญพบ อีก ระยะ 900 เมต - โผนพบ อีก 600 เมตร - เพ็ญพบใหม่อีก 600 เมตร ... จะต่อไปน้ำตกวังกวางอีกหก็ได้ แต่ควรใช้อีกเส้นทางจะสะดวกกว่า) เราลงไปแค่น้ำตกทับใหญ่ ซึ่วันนั้นไม่มีน้ำแล้ว แต่ยังเห็นใบเมเปิ้ลเหลือและแดงอยู่อีกต้นหนึ่ง จากนั้นก็กลับขึ้นมาทางเดิมเพื่อปั่นต่อไปสระอโนดาต ระยะ 1700 เมตร จากพระพุทธเมตตา
 
 
ที่น้ำตกทับใหญ่ในวันที่ไม่มีน้ำตก...แต่เหลือใบเมเปิ้ลให้เห็น
 
 
ปั่นผ่านทุ่งหญ้าและป่าเฟิร์นไปสระอโนดาต
 
 
ป่าเฟิร์น 
 
 
ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่
 
 
 
 
ถึงสระอโนดาต
 
 
ถึงสระอโนดาต ถ้าท่านใดเดินเท้าก็จะมีทางเดินไปที่ผาหล่มสักผ่านทางน้ำตกสอเหนือ สอใต้ ระยะทางประมาณ 4 กม. ... ส่วนเรา จักรยานต้องเลี้ยวซ้ายไปที่ผาเหยียบเมฆ (เหมือนจะเป็นทางเปิดใหม่) ผ่านป่าเฟิร์นไป 1800 จากสระอโนดาต มีปั่นขึ้นเนินด้วย บางครั้งเราก็ลงจูงจักรยาล่ะ แต่ป่าเฟิร์นและป่าสนที่ผ่านสวยงามครับ
 
 
เส้นทางจากสระอโนดาต - ผาเหนียบเมฆ ผ่านป่าเฟิร์นและป่าสน
 
 
ขอถ่ายภาพน้องๆทีมใหญ่ที่ปั่นตามมา
 
 
ถึงผาเหยียบเมฆต้องพักเอาแรงหน่อยล่ะ ของกินยอดฮิตคือแตงโมงครับ ชิ้นละ 20 บาท ได้แตงโม 1 ชิ้น พลังกลับมา หลังเก็บภาพได้พอใจแล้ว ก็ปั่นเลียบผาไปต่อที่ผาแดง ระยะ 1907 เมตร จากผาเหยียบเมฆ ... เส้นทางช่วงนี้เลียบผาและขึ้นเนิน บางช่วงปั่นผ่านทราย
 
 
...
 
 
ที่ผาเหยียบเมฆ
 
 
ผ่านผาแดง
 
 
ที่ผาแดงก็มีซุ้มขายของนะครับ ที่หน้าผาอากาศเย็นสบาย ใต้ต้นสนใหญ่ทำให้อยากนอนนพักจังเลย แต่เป้าหมายเราที่ผาหลุ่มสักซึ่งต้องปั่นเลียบผาไปอีก 2417 เมตรครับ
 
 
นั่งพักเหนื่อยหน้าผาแดง
 
 
ระหว่างทางสู่ผาหล่มสัก
 
 
ในที่สุดเราก็ผ่านมาได้ถึงผาหล่มสักประมาณเที่ยงๆ เราพักทานมื้อเที่ยงกันที่นี่ ซึ่งมีร้านหนึ่งเขาให้ชาร์ทแบทโทรศัพท์ฟรีด้วย ดูเหมือนจะชื่อร้านลาบร้อยเอ็ด (ถ้าจำไม่ผิด ร้านที่ 2 จากทางทิศตะวันตก) นั่งทานมื้อเที่ยงเสร็จเราได้เสื่อที่ร้านเขาให้ยืมไปปูนอนเล่นชาร์ทพลังงานให้ตัวเองรับลมที่ใกล้ๆผาหล่มสัก ... ที่ผาหล่มสักนี้นักท่องเที่ยวชองมาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ ซี่งสามารถดูได้ตลอดทั้งปี ... ผาหล่มสัดยังเป็นทางเดินขึ้นเขาอีกเส้นทางหนึ่งด้วย คือ เส้นทางขึ้นที่อำเภอน้ำหนาว: นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาภูกระดึงได้ที่บ้านฟองใต้อำเภอน้ำหนาว ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นเขาเส้นทางใหม่ โดยจะขึ้นไปที่ผาหล่มสักโดยตรง มีระยะมีระยะทาง 5.2 กิโลเมตรจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย.5 (หนองผักบุ้ง) ถึงผาหล่มสัก แต่ระหว่างทางไม่มีร้านค้าเหมือนทาง อ.ภูกระดึงนะครับ
 
 
 
 
 
มุมหาชนผาหล่มสัก
 
 
 
 
 
 
หลังพักเหนื่อย และมีพลังพร้อมที่จะปั่นต่อเราก็ออกจากผาหล่มสักช่วประมาณบ่าย 2 กว่าๆ โดยมีจุดหมายที่ผาหมากดูก เพื่อไปรอชมพระอาทิตย์ตกที่นั่น เส้นทางกลับก็คือ ผาหล่มสัก - ผาแดง (2417 เมตร), ผาแดง - ผาเหยียบเมฆ (1907 เมตร), ผาเหยียบเมฆ - ผานาน้อย (1562 เมตร), ผานาน้อย - ผาจำศีล (550 เมตร), ผาจำศีล - ผาหมากดูก (667 เมตร) ... ทางกลับส่วนใหญ่จะเป็นทางลงเนิน เซพแรงได้เยอะเหมือนกัน แต่บางช่วงก็เจอทรายครับ
 
 
ผานาน้อย
 
 
ผาจำศีล
ที่ผาจำศีลมีลานหินขนาดใหญ่ และด้านหนึ่งมองเห็นผาหมากดูกได้ชัดเจน
 
 
ที่ผาจำศีล
 
 
ถ่ายจากผาจำศีลไปที่ผาหมากดูก
 
 
สนสองใบที่ภูกระดึง
 
 
มาที่ผาหมากดูก...รอชมอาทิตย์ตกดิน
 
 
ช่วงประมาณบ่าย 3 โมงเศษๆนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมาถึงผาหมากดูกกันแล้ว เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกระยะทาง 2000 เมตรจากที่พัก เราทานก๋วยเตี๋ยวที่ซุ้มอิ่มแล้ว ขอยืมเสื่อมาปูนอนพักรอพระอาทิตย์ตกแถวๆหน้าผา
 
 
ที่ผาหมากดูก
 
 
วิวจากผาหมากดูก
 
 
ทางกลับไปหลังแป
 
 
 
 
 
 
 
 
อาทิตย์อัสดงที่ผาหมากดูก 29.01.19
 
 
อาทิตย์ลับเหลี่ยมไม้ที่ผาหมากดูก
 
 
ท้ายสุดของวันเราปั่นกลับที่พัก และทานมื้อเย็น นอนแต่หัวค่ำ เพราะวันนี้ใช้พลังไปเยอะเดินทางกว่า 20 กม. โดยพอสรุปได้ดังนี้ 
 
- เดินจากที่พักไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น - กลับสู่ที่พัก 3.7 กม.
- ปั่นจักรยาน จากที่ทำการไปผาหล่มสัก - และกลับ 18 กม.
 
การเดินทางท่องเที่ยวบนภูกระดึงบนหลังภูของเราก็จบลงด้วยดี ได้หนีฝุ่นละอองในเมืองไปสูดโอโซนบนภูสมกับที่อยากจะไป การใช้ชีวิตบนนั้นแค่สองคืน ซึ่งเหมือนกับการได้อยู่บนโลกอีกโลกหนึ่งครับ
 
 
 
 
Smiley ขอบคุณที่ตามอ่านครับ Smiley
 
 
 
 
ลาด้วยภาพจากลานกางเต้นท์ครับ


 
 
 
 





 
Create Date :11 กุมภาพันธ์ 2562 Last Update :31 มีนาคม 2567 7:54:34 น. Counter : 6228 Pageviews. Comments :15