bloggang.com mainmenu search





(อ่านตอนที่ 5)






ไหว้พระที่พม่าบล๊อกนี้เป็นบล๊อกที่ 6 แล้ว ซึ่งก็เหลือเพียงตอนเดียวเราก็จะจบทริปที่เขียนต่อเนื่องกันมาหลายอาทิตย์แล้ว ซึ่งการนำเสนอนานๆก็เพื่อให้เพื่อนๆนักเดินทางได้เห็นภาพหลายๆแง่หลายๆมุม เมื่อไปเจอสถานที่จริงจะได้เก็บภาพสวยๆที่ จขบ. มองไม่เห็นมาฝากกันครับ

วันนี้จะพาท่านเดินทางในเมืองย่างกุ้งหรือที่ชาวพม่าเรียกว่ายานกูนกัน โดยจะเริ่มต้นกันที่ "วัดบารมี" ที่คนไทยชอบไปกันมาก ในจำนวนนั้นมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของบ้านเราเดินทางไปก้หลายคนโดยมีภาพติดไว้ที่ผนังวัด เราไปชมวัดกันเลยดีกว่าครับ








วัดบารมี จะมีสิ่งสำคัญที่สุดน่าจะเป็นพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า กัสสปะ (ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่สามในกัปป์นี้) 2 เส้น ซึ่งเจ้าอาวาสได้นำมาให้ชมความอัศจรรย์ของพระเกศาธาตุนี้ด้วยพุทธานุภาพทรงขยับไป-มาได้ เช่นกันคนเชื่อก็ทึ่ง คนไม่เชื่อก็บอกอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ ก็พิจารณากันเอาเองครับ







โดยสภาพทั่วไป วัดบารมีเป็นวัดที่สร้างเป็นตึกสูงประมาณ 4 - 5 ชั้น แต่ละชั้นก็จะเก็บสิ่งของที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้ รวมไปถึงรูปภาพพระเกจิอาจารย์จากบ้านเรา เช่นหลวงพ่อโต เป็นต้น

เราไปนมัสการท่านเจ้าอาวาสและทำบุญ ท่านเจ้าอาวาสท่านจะเอาเส้นผมออกมาแสดงให้เห็น (ดังที่เขียนไปแล้วในด้านบน) แล้วเราก็ทำบุญท่านก็จะให้พร สวดเป็นภาษาพม่าแต่จับความได้ว่าคล้ายๆบ้านเรา





ท่านเจ้าอาวาสวัดบารมีและไกด์ชาวพม่าของเรา










ด้านหน้าของวัดบารมี










พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี

สถานที่ต่อมาในวันนั้นคือไปไหว้พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือพระตาหวาน เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและมีความงดงามที่สุดของประเทศพม่า ทั้งพระพักตร์และขนตาที่งดงาม ดวงตาของท่านเป็นแก้ว สั่งผลิตมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ รวมไปถึงพระจีวรที่มีความพริ้วไหวสมจริงและเมื่อเดินมายังปลายสุดพระบาทของพระนอนองค์นี้ ตรงที่พระบาทมีภาพวาดเป็นมิ่งมงคลสูงสุด เพราะประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักร ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาทและล้อมด้วย รูปมงคล 108 ประการ ด้านหน้าวัดก็จะมีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย






พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี



















พระบาทของพระนอนที่พม่าจะวางไม่เสมอกันเหมือนในไทย




พระนอนองค์นี้นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์พม่าจะเห็นว่าตรงบริเวณพระบาทจะมีภาพวาดเป็นมงคลสูงสุดเพราะประกอบไปด้วยลายลักษณ์ธรรมจักร ในส่วนใจกลางของฝ่าพระบาทจะล้อมรอบด้วยรูปมงคล 108 ประการ





ดอกบัวไว้ขายให้นักท่องเที่ยว










เราออกเดินทางต่อไปทางฝั่งแม่น้ำ น่าจะเป็นแม่น้ำย่างกุ้ง ใกล้ๆกับท่าเรือคือที่ตั้งของวัดเจดีย์โบตะตาว ซึ่งที่นี่เป็นที่ๆคนไทยนิยมไปมากที่สุดแห่งหนึ่ง ได้ข่าว่าดาราบางคนจะเดินทางมาที่นี่เป็นผระจำครับ ... วันที่เราเดินทางไปถึงการจราจรติดขัดมาก เพราะผู้คนทั้งชาวพม่าเองและนักท่องเที่ยวชาวไทยมาที่นี่เยอะจริง



เจดีย์โบตะตาว Botahtaung Pagoda

เจดีย์โบตะตาว หรือ เจดีย์โบตะทาวน์ (แล้วแต่คนเรียกกัน) เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของทัวร์ไทยที่เที่ยวพม่าเลยทีเดียว ส่วนเหตุผลว่าทำไมเจดีย์โบตะตาวนี้ถึงเป็นสถานที่ยอดนิยมนั้นก็คือ เพราะเป็นที่ประดิษฐานของเทพทันใจ ที่คนไทยหลายคนนั้นศรัทธาเพื่อ ขอพรความเป็นสิริมงคลนั้นเอง

จขบ. ได้เจอเพื่อนนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่เคยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันเล่าให้ฟังว่า เคยพยามจะขายที่ดินแปลงหนึ่งใน กทม. แต่ขายไม่ได้ซักที พอเดินทางไปเที่ยวพม่าเลยไปขอพรที่เทพทันใจ ( นัตโบโบยี) พอกลับมาถึง กทม. ไม่กี่วัก็ขายที่แปลงนั้นได้และราคาดีด้วย .







เจดีย์โบตะทาวน์ที่กำลังบูรณะ





เจดีย์โบตะตาว (Botahtaung Pagoda) หมายถึง “ทหาร 1,000 นาย” โดยมีความเชื่อเล่ากันมาต่อๆ กันว่าเมื่อประมาณสองพันปีที่แล้ว พระเจ้าโอกะลาปะกษัตริย์มอญ ได้ให้ทหาร 1,000 นาย ตั้งแถวถวายความเคารพพระเกศาธาตุ (สารีริกธาตุ)ที่อันเชิญมาจากอินเดียเพื่อนำไปบรรจุไว้ที่ มหาเจดีย์ชเวดากอง และทรงบรรจุเส้นพระเกศาธาตุไว้ 1 เส้น ในเจดีย์นี้






เข้าไปที่เก็บเส้นพระเกษาของพุทธเจ้า





วันเวลาผ่านไป ได้มีการบูรณะซ่อมแซมเจดีย์ผลจากความเสียกายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปรากฎว่าไปพบของมีค่าหลายอย่างภายในเจดีย์ จึงสร้างโครงสร้างใหม่โดยให้ฐานเจดีย์มีช่องซิกแซกคล้ายเขาวงกต ภายในสีทองอร่ามสวยงาม และนำวัตถุโบราณจัดแสดง อีกทั้งนำพระเกศาธาตุมาบรรจุในมณฑปครอบแก้วใสใจกลางเจดีย์อีกด้วย






พระพุทธรูปทองคำที่ขอคืนมาจากอังกฤษ







วิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ






พระพุทธรูปทองคำ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงาม ตามประวัติว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ ครั้งเมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ พ.ศ. 2428 ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์กัลกัตตาในอินเดีย ทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายพันธมิตรที่ถล่มมพระราชวังมัณฑะเลย์ ต่อมาใน พ.ศ. 2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบิร์ต.











ทางเดินเข้าไปวิหารเทพทันใจ





สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยคงหนีไม่พ้น เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี ซึ่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้านข้างของเจดีย์โบตะทาวนั้นเอง ซึ่งชาวพม่ามีความเชื่อกันว่าไม่ว่าจะสร้างเจดีย์ใดๆ ที่ไหนก็ตาม จักต้องมีเทพคอยคุ้มครองดูแลเจดีย์ และแน่นอน เทพทันใจนี้ เป็นเทพที่คุ้มครองเจดีย์โบตะทาวน์นั้นเอง ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้สมปรารถนารวดเร็วทันใจ สมกับคำ "เทพทันใจ"






เทพทันใจที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในพม่า






วิธีสักการะเทพทันใจ

หากนักท่องเที่ยวต้องการสัการะเทพทันใจ จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการเรื่องของสักการะอยู่ด้านหน้าของวัด ซึ่งจะประกอบไปด้วยมะพร้าว กล้วย ใบชนะ ผ้าคล้องคอ ร่มฉัตรกระดาษ ดอกไม้ ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่นิยมสักการะเทพทันใจ อีกทั้งยังมีเงินเป็นธนบัตรจำนวน 2 ใบ (นิยมม้วนเป็นกรวย) สอดไปในมือของเทพทันใจ และนำมาแตะหน้าผากพร้อมอธิษฐาน เสร็จแล้วจึงดึงนำธนบัตรออกมา 1 ใบ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นคนทำพิธีจะให้ใบชนะแก่เรา และให้เรานำผ้าคล้องคอเทพทันใจ ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ (ว่ากันว่าอธิษฐานได้เพียงข้อเดียวเท่านั้น จึงจะสำฤทธิ์ผล)







นักท่องเที่ยวจะให้นิ้วของเทพทันใจจิ้มที่หน้าผากแล้วขอพร







พระพุทธรูปองค์นี้อยู่ที่วิหารเทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย





เจดีย์โบตะตาว ไม่ได้มีเพียงแต่เทพทันใจ เท่านั้น แต่ยังมี “เทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย” ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์ มีนัตองค์หนึ่งกล่าวไว้ว่า เทพกระซิบเป็นธิดาของพญานาคที่มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เชื่อว่าถ้ากระซิบขออะไรแล้วจะสมหวังอีกด้วย






วิธีการขอพรจะกระซิบที่ข้างหู








ของเซ่นไหว้พวกนี้มีขายที่หน้าวิหาร








ที่ร้านอาหาร Western Park Ruby หน้าท่าเรือ





วันนี้เรามาทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านอาหรจีนชื่อ Western Park Ruby ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่เราไปเที่ยววัดเจดีย์โบตะทาวน์ บนถนนสายใหญ่ที่เรียบไปกับท่าเรืองย่างกุ้ง สถานที่ในร้านดูดีมาก สะอาดและอาหารก็รสชาดใช้ได้เลยทีเดียว เราทานมื้อเที่ยงกันเสร็จก็ออกเดินทางไปเที่ยวตลาดสก๊อต ก่อนที่จะเดินทางไปที่สนามบินเพื่อแพ๊คกระเป๋าอีกครั้งหลังจากที่ช้อบในตลาดนี้มา

ตอนหน้าซึ่งจะเขียนเรื่องกู๊ดมอร์นิ่งเมียนมาร์เป็นตอนสุดท้ายแล้ว เราจะพาท่านไปชมเมืองพม่าและเดินช้อปปิ้งที่ตลาดหยกสก๊อตกันครับ











ลาด้วยภาพกุ้งใหญ่ที่แต่งอย่างสวย...อร่อยด้วย








____________





Create Date :19 มีนาคม 2557 Last Update :10 สิงหาคม 2564 10:27:27 น. Counter : 9514 Pageviews. Comments :15