bloggang.com mainmenu search
รีวิวการ์ตูนที่อ่านในช่วง พ.ค.-มิ.ย. 57 ครับ หลังจากเริ่มอ่านเรื่องใหม่ไปหลายเรื่องตอนต้นปี ช่วงนี้ชะลอการเปิดไลน์ใหม่เพิ่มครับ ตู้หนังสือใกล้เต็มอีกรอบแล้ว


SPOILER ALERT: บล็อกนี้เป็นบล็อกคุยเรื่องการ์ตูนสำหรับคนที่อ่านมาแล้ว มีสปอยล์นะครับ




ฝ่าวิกฤติ แม่มดวิปลาส เล่ม 1-2 การ์ตูนแนวไล่ฆ่าตัวละครซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ครับ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับสาวน้อยเวทมนต์ที่ลงมาไล่ฆ่าพวกมนุษย์อย่างน่าสยดสยอง โดยแต่ละตัวจะมีความสามารถแตกต่างกันออกไป ผมชอบการออกแบบสาวน้อยเวทมนต์ของเรื่องนี้ที่ทำให้รู้สึกขนลุกได้จริงๆ เหมือนภาพวาดไม่สมจริงของเด็กๆ ที่ดันกลายเป็นของจริงขึ้นมาจนดูน่าสยดสยอง จากที่คุ้นเคยกับสาวน้อยเวทมนต์มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งมาตั้งแต่ยุคเซลเลอร์มูน (ทีแรกจะยกตัวอย่างแม่มดน้อยแซลลี่กับอัคโกะจัง แต่กลัวคนอ่านรู้ว่าผมแก่ครับ) มาเจอการ์ตูนซาดิสม์แบบนี้ทำเอาแหยงสาวน้อยเวทมนต์ไปเลย สำหรับการ์ตูนแนวนี้ไม่ต้องไปผูกพันหรืออินกับตัวละครไหนมากนักนะครับ นอกจากพระเอก-นางเอกแล้วที่เหลือโดนคนเขียนฆ่าทิ้งดื้อๆแหงแก๋อยู่แล้ว (ส่วนใครจะเป็นนางเอกลุ้นกันไปก่อนครับ) สำหรับรักพิมพ์ก็เซ็นเซอร์ได้ตามมาตรฐานคนไทย คือฉากโหด ดึงหัวขาด ไส้ทะลัก ฉีกร่าง โดนเผาเป็นตอตะโก หรือระเบิดร่างกระจายยังไงก็ได้เห็นกันเต็มๆ แต่หัวนมต้องปกปิดให้มิดชิด เพราะกระทบต่อความมั่นคงของชาติเป็นอย่างมาก (กุเบื่อเซ็นเซอร์ไทยสไตล์จังครับ)

Shaman King Zero เล่ม 1 ชาแมนคิงจบไปแบบปาหมอนจนเป็นตำนาน แต่ก็มีกระแสต่อเนื่องจนเขียนต่อให้สมบูรณ์ สร้างภาคต่อและภาคยิบย่อยออกมาได้มากมายเลยครับ สำหรับภาคซีโร่นี้เป็นเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครหลักแต่ละตัว (ยกเว้นโชโคเลิฟที่ความนิยมต่ำสุด) เป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนเขียนสร้างปมตัวละครไว้มากมาย และก็มีเนื้อเรื่องรองรับเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้เรียบเรียงออกมาในเนื้อเรื่องหลัก เพื่อความครบถ้วนของชาแมนคิงถ้าเอา remix track, mappa douji, relax มารวมเล่มด้วยก็แจ่มเลย แต่เบื้องหลังของแต่ละคนก็ไม่ได้ซึ้งมากมายนักหรอกครับ โดยเฉพาะโฮโรโฮโรที่ปูไว้ว่าซึ้งขนาดทำโอปาโจน้ำตาตก แต่พอเฉลยออกมากลับน่าผิดหวังมาก ส่วนเนื้อเรื่องของโยและฮาโอส่วนที่น่าสนใจจริงๆนั้นเปิดเผยไว้ในเล่มอื่นๆไปมากมายแล้ว

Shaman King Flowers เล่ม 1-2 ภาคต่อของชาแมนคิงเป็นเรื่องของ generation ลูกๆพวกโย (แร่ดมีลูกกันตั้งแต่อายุ 16) มีตัวละครใหม่เข้ามามาก แต่ความน่าสนใจก็ยังคงอยู่ที่ตัวละครเก่าๆอย่างทามะโอะ ฮาโอ แอนนา โย ฯลฯ มากกว่า ผมไม่ชอบลายเส้นช่วงหลังๆของ อ.ทาเคอิเลย ตัวละครมันดูแหลมไปแหลมมา แขนขาก็เก้งก้างจนตัวละครที่เคยออกแบบได้ยอดเยี่ยมดูเหมือน Nightmare Before Christmas ผมไม่ชอบพวกเด็กๆรุ่นนี้ที่มีพลังสูงตั้งแต่เกิด แถมมีวิญญาณดังๆที่พ่อแม่เคยใช้เลยออกทำตัวเกรียนเบ่งไปทั่ว ถึงจะเบากว่าตอน one shot ในเล่ม Mentallite เยอะแล้วก็เถอะ แม้แต่ทามะโอะก็กลายเป็นพวกเอาพลังเข้าข่มคนอื่นไปเรียบร้อย ภาคนี้คนเขียนก็ยังคงติดนิสัยเดินเรื่องแปลกๆแล้วเอาตัวละครมาเบรคเนื้อเรื่องตัวเอง ราวกับมันช่างนอนเซนส์สุดตีนเหมือนเดิม (งั้นก็อย่าเขียนเรื่องแบบนั้นตั้งแต่แรกสิฟะ!)

ULTIMO เล่ม 8อ.ทาเคอิผลงานเยอะจริงๆ สำหรับสงครามระหว่างความดีและความชั่วได้มาถึงเล่ม 8 แล้ว ช่วงนี้เหล่าการากุริเปลี่ยนเจ้าของกันแทบยกแผง ไอ้เจ้าของชุดเก่าผมยังจำหน้ามันไม่ค่อยได้เลย

ผ่าพิภพไททัน ภาครุ่งอรุณของรีไว เล่ม 1 ภาคเสริมสำหรับเหล่าแม่ยกรีไวโดยเฉพาะ เนื้อเรื่องเป็นเหตุการณ์ก่อนภาคหลัก ก็ทำให้พวกเราพอเดากันได้ว่าตัวละครที่ไม่โผล่มาในภาคหลักนั้นไปอยู่ที่ไหนกันหมด ภาคนี้คนวาดคือ อ.ฮิคารุ สุรุกะ วาดสวยเกินไป และไททันไม่ขมูขีพอ สูญเสียจุดขายนะครับ

เกมเทวดา เล่ม 2 ยังคงเอาไอเดียการละเล่นของเด็กๆมาครีเอตเกมสุดโหดฆ่าตัวละครทิ้งอย่างต่อเนื่อง รู้สึกว่าเล่มนี้จะมีตัวละครที่ได้รับขนานนามว่าบุตรของพระเจ้าอยู่คนนึงนะครับ เปิดตัวมาอย่างเทพ แต่โดนฆ่าตายตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเกม เสียเวลาอ่านบทบรรยายความเทพของมันโคตรๆ และผมก็ลืมชื่อมันไปแล้วด้วย

เกมเทวดา โครงการ 2 เล่ม 2 เกมเริ่มแตกต่างจากโครงการแรกไปแล้ว อันนี้เป็นเกมที่คัดมาทดสอบพวกเด็กที่ไม่ได้ไปโรงเรียน (ภาคแรกทดสอบเด็กที่โรงเรียน) ผมว่าเกมโครงการแรกยากกว่าเยอะเลย

ยูเมเนส เล่ม 8 หายไปนานจนลืมเลยครับเรื่องนี้ ต้องกลับไปขุดเล่มเก่าๆมารื้อฟื้นความจำ เล่มนี้เปิดหลายศึกเลย ทั้งมาเซโดเนียรบกับเอเธนส์, ซิเธีย ไปจนถึงชนเผ่าแถวๆนั้น

อินเดกซ์ เล่ม 10 อันที่จริงอินเดกซ์มีโลกที่มีรายละเอียดเยอะนะครับ แต่อ่านเล่มนี้จบผมจำได้แค่ว่าคันซากิ คาโอริ เซ็กซี่มาก

ICHIGO 100% เล่ม 2 พอย้อนกลับมาอ่านช่วงแรกๆแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้ช่วงแรกๆไม่ค่อยสนุกเลย เจ้ามานากะก็ออกจะดูน่ารำคาญด้วยซ้ำไป ความรักก็ดาษๆ เหมือนการ์ตูนเรื่องอื่นที่คบคนนึงแต่จริงๆแล้วชอบอีกคนนึง แต่พอเข้าช่วงกลางเรื่องที่มานากะได้รู้จักกับตัวจริงของนิชิโนะมากขึ้น บวกกับการเพิ่มรสชาติของเนื้อเรื่องด้วยสาวคนอื่นๆ โดยเฉพาะซัตสึกิ ก็ทำให้เรื่องนี้เป็นสุดยอดการ์ตูนโรแมนติกครับ ดังนั้นใครที่ยังไม่เคยอ่านและคิดว่าเรื่องนี้ไม่สนุกเอาซะเลยก็ขอให้อ่านต่อไปเถอะครับ



โทริโกะ เล่ม 21-23 โทริโกะออกถี่มากครับช่วงนี้ อาหารมื้อก่อนยังไม่ทันย่อยเลย หลังจากเรียนรู้มารยาทอาหารแล้ว โทริโกะและเหล่าเพื่อนๆที่ต่างก็ไปอัพเกรดฝีมือกันมาแล้วก็กลับมาพบกันด้วยภารกิจกำจัดจตุอสูรที่ระดับความยากพุ่งทะลุไป 300 กว่าๆ เรียกว่าทุบหม้อข้าวข้ามขั้นกันแบบสุดๆไปเลย แต่การ์ตูนก็ยังเขียนให้เชื่อว่ามันเก่งกาจตามนั้นได้จริงๆนะครับ หวังว่าท้ายเรื่องระดับความยากคงไม่ทะลุไปเป็นล้านแต่ดันดูปวกเปียกกว่าตัวแรกๆเพราะคุมเกจพลังไม่อยู่แบบดราก้อนบอลนะ

กินทามะ เล่ม 45 ผมชอบตอนสั้นมากกว่า แต่ตอนยาวก็ได้เห็นอะไรเด็ดๆ เช่นการปรากฏตัวของทากาสุงิ (สงสัยจะค่าตัวแพง ไม่ยอมมาเล่นตอนสั้น) ที่น่าผิดหวังคือเล่มนี้ไม่ได้เห็นท่านโชกุนแก้ผ้า

GANTZ เล่ม 37 (เล่มจบ) ในที่สุดกันซึก็มาถึงตอนอวสานเสียที จากการ์ตูนที่เคยมีกระแสดีที่สุดในพันทิป มีกระทั่งกระทู้ติดตามแสกนเฉพาะกิจที่รวมตัวแฟนๆเรื่องนี้ แต่ช่วงหลังฟอร์มก็หลุดไป ยิ่งตั้งแต่เริ่มภารกิจสุดท้าย ที่ผิดจากศึกอื่นทั้งตัวเอเลี่ยนที่ดูเหมือนมนุษย์ และฉากที่เน้นช่วยมนุษย์ที่เข้ามามีเอี่ยวมากกว่าบู๊กันตรงๆ แต่มันกลับทำให้ภารกิจนี้น่าเบื่อแบบทวีคูณ สุดท้ายเรกะ เคย์ตัวก้อป และคิชิโมโตะตัวก้อป ก็ไปเกิดใหม่แบบไม่ต้องลุ้นแล้วนะครับ ส่วนบอสเอวากุนด์ที่เก่งขนาดทีมสหรัฐอาวุธครบมือไปรุมยังสู้ไม่ได้ อยู่ๆคุโรโนะก็พุ่งชนชนะเฉยเลย

Sket Dance เล่ม 27 เป็นที่น่าเสียดายที่บราของโคมะจังที่หน้าปกถูกเปลี่ยนทรงโดยทีม NED คนดี แต่ซึบากิร่างเด็กน่าฮักมากมายhtmlentities(' >')3<<br />
เต็มพิกัดอัดกระจุย เล่ม 3 sunset rose หนนี้เน้นการผจญภัยหาสมบัติแบบหนังผจญภัยยุคเก่าเลยครับ มีเผ่าพันธุ์นกออกมาด้วย อารมณ์ของเรื่องเลยผิดจากสองเล่มแรกไปเยอะ จุดแข็งของ อ.โยเนฮาร่า คือนิสัยห่ามๆของตัวละครหลักนะครับ ผมชอบตอนที่โจรสลัดมาแชลเลนจ์กันมากกว่า

นารุโตะ เล่ม 68 เป็นศึกที่ยาวมากครับ และได้ข่าวว่ากระทั่งในจัมป์ตอนนี้ศึกนี้ก็ยังไม่จบเลย มีเปลี่ยนบอส ขุดพลังลับโน้นลับนี้ออกมาเรื่อยๆ ยืดเรื่องได้แบบน่าอนาถโคตรๆ

One Piece เล่ม 70 จบภาคพังค์ฮาซาร์ดซะที ไม่ว่าภาคไหนก็ต้องปิดฉากด้วยการที่ศัตรูทำให้ลูฟี่โกรธมากๆแล้วโดนอัดหนักๆให้สะใจคนอ่านนะครับ ตอนนี้ฟลามิงโก้ก็เปิดเผยความชั่วร้ายออกมาเต็มที่แล้ว (เข้าคิวรอโดนลูฟี่อัดได้เลยครับ)

โยทสึบะ เล่ม 12 สงสัยมานานแล้วว่าวันฮาโลวีนถ้าเราตอบเด็กว่าขอ trick ไม่อยาก treat เด็กจะทำยังไงนะ?

ศึกตำนานอัศวิน เล่ม 4 การต่อสู้ของเหล่าอัศวินแห่งบาปและอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่เก่งเวอร์แบบได้ใจคนอ่านดำเนินมาถึงเล่ม 4 แล้ว เปิดเผยอีกว่าพวกตัวเอกยังไม่มีศาสตราเทพของตัวเองด้วยซ้ำไปนะ จริงๆต้องเก่งกว่านี้ (เอาเหอะ) แต่พอรู้ว่าพวกอัศวินศักดิ์สิทธิ์ปั๊มเลเวลกันได้ง่ายๆก็ลดความตระการตาลงไปพอสมควร

รีไววัล ย้อนอดีตไขปริศนา เล่ม 1 การ์ตูนเรื่องล่าสุดจาก อ.ซันเบะ เค ที่ผมชื่นชอบผลงานแกมาตั้งแต่นานาโกะ... (ไม่สิ เราไม่อ่านการ์ตูนโป๊...) ตั้งแต่เกาะมรณะและเรือนรก หนนี้ก็ยังคงเล่นกับความคิดของตัวละครอย่างหนักหน่วง และหนักหน่วงกว่าครั้งที่ผ่านๆมา รีไววัลเกี่ยวข้องกับนักเขียนการ์ตูนที่สัมผัสได้ถึงเหตุการณ์ร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นล่วงหน้า โดยเขาจะมองเห็นภาพคล้ายๆเดจาวูก่อนเกิดเหตุการณ์ และความสามารถนี้จะนำไปสู่การแก้ไขเรื่องร้ายที่มาถึงตัวอย่างไม่คาดคิด รวมทั้งการไขปมปริศนาในครั้งอดีตด้วย เรื่องนี้แทบไม่มีบทแอ๊คชั่นผิดจากสองเรื่องก่อน แต่เน้นการอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอก เหมือนฟังเจ้าเคียวน์บ่นงึมงัมทั้งเรื่องเลย ทำเอาผมที่ไม่ชอบอ่านตัวหนังสือเยอะๆ ลายตาไปด้วย



All You Need Is Kill เล่ม 1 เดิมเป็นนิยายมาก่อน ผลงานวาด illust ประกอบภาคนิยายโดย อ.โยชิโตชิ อาเบะ ส่วนฉบับหนังสือการ์ตูนวาดโดย อ.ทาเคชิ โอบาตะ พระเจ้า!! นี่มันรวมพระเจ้าของงานภาพการ์ตูนชัดๆ!! แต่คนแต่งเรื่องนี่ผมกลับไม่รู้จักสักคน (แป่ว) เนื้อเรื่องเกี่ยวกับกองกำลังต่อสู้กับมิมิคที่รุกรานโลก พระเอกมีความสามารถย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นวันทุกครั้งที่ตาย โดย exp ไม่โดนเซ็ตเหลือ 0 ทำให้เขาสามารถเดินเก็บเวลรอบดันเจี้ยนแรกได้เรื่อยๆ (รู้สึก อ.อาเบะจะชอบงานไซไฟที่เล่นกับไทม์ลูปแบบนี้ซะจริง) ฉบับหนังสือการ์ตูนสั้นๆสองเล่มจบครับ เรื่องนี้โด่งดังจนเอาไปทำฉบับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดด้วยนะ โดยเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Edge of Tomorrow เพิ่งเข้าโรงไม่นานนี้เอง

เมไจ เล่ม 17 เริ่มเปิดฉากสงครามใหญ่แล้ว เรื่องนี้อ่านแล้วยิ่งรู้สึกเหมือนเล่นซุยโคเด็นเลยครับ ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเองแล้วก็ต้องมาลุ้นว่าใครจะซื้อใจตัวเอกได้ก่อนกัน นั่นคือเป็นฝ่ายที่คนเขียนเรื่องเห็นว่าถูกต้อง

รากหญ้าบรรดาศักดิ์ เล่ม 2 หลังจากรับรู้วิบากกรรมเศรษฐกิจที่ครอบครัวโคมาบะต้องเชิญใน silver spoon แล้ว มาอ่านรากหญ้าฯ หนนี้ก็ได้รับรู้ความยากลำบากของการเกิดเป็นวัวฟาร์ม ด้วยกระบวนการเลี้ยงบางอย่าง เช่นการตัดเขาวัว, ผสมเทียมวัว, ทำหมันวัว ฯลฯ ทำให้สงสารน้องวัวมากขึ้นด้วย แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่พวกมันอร่อย ชอบตอนที่สมมุติให้ญี่ปุ่นเป็นส่วนหนึ่งของโซเวียตแล้วคนเขียนโดนปูตินขยำหัว 555 ส่วนวิธีการต่อนิ้วของป๊ะป๋าโหดมาก = =

เฮตาเลีย เล่ม 5 ชอบหนังผีของชาติต่างๆ ถ้าผีไทยก็ต้องผีจ๊ะเอ๋นะเออ เพิ่งรู้ว่าอเมริกาสมัยก่อนรบได้กากขนาดนี้เลย จะมีเฮตาเลียตอนที่เขียนให้อเมริกาเก่งๆบ้างไหมเนี่ย?

คนเก่งทะลุโลก เล่ม 6-7 อ่านมาเจ็ดเล่มยังไม่เห็นสนุกเลยครับ รออ่านฮันเตอร์เล่มต่อไปแล้วเนี่ย ในพันทิปสปอยล์กันน้ำลายไหล

บันทึกประจำวันของฮาจูเน มิกุ ล๋อยป่ะล่ะ! เล่ม 1 แถม CD มีภาพและเพลงน่ารักๆแถมให้ด้วย แต่ผมเอาไปทิ้งไหนแล้วไม่รู้ ตัวการ์ตูนวิวัฒนาการมาจากคลิปมิกุสะบัดหอมเพลง Ievan Polkka นั่นแหละ คนวาดก็คือ Otomania และ Tamago คนที่ทำคลิปยอดฮิตนั่นเอง ออกแบบตัวละคร vocaloid เวอร์ชั่นล๋อยน่ารักดี แต่มันเป็นการ์ตูน 4koma ที่น่าเบื่อครับ นอกจากไม่ตลกแล้วยังฝืดด้วย



ชั่วโมงนี้มีรั่ว เล่ม 14 การ์ตูนทุกเรื่องยังทำหน้าที่สร้างความฮาของมันได้ดีในมาตรฐานของตัวเองครับ เรื่องไหนฮาก็ฮาอยู่อย่างนั้น เรื่องไหนห่วยก็ห่วยไม่้เปลี่ยนแปลง

Horror Hours เล่ม 16 รวมการ์ตูนสยองขวัญสัญชาติไทยมาถึงเล่ม 16 แล้ว มั่นคงจริงๆครับ หวังว่าไอเดียนักเขียนทั้งหลายจะไม่หมดก๊อกไปซะก่อน เล่มนี้ชอบงานคุณธนาดลที่สุดครับ ส่วนของคุณอเนกผิดฟอร์มอะไรล่ะเนี่ย การ์ตูนสยองขวัญหนนี้ห่วยโคตรๆ เนื้อเรื่องมีแค่เด็กที่อยู่ๆก็เที่ยวดึงหัวคนนั้นคนนี้ พอคุณพ่อมาเห็นเข้าเลยบอกว่า "ขอตัวก่อนละ" เด็กเลยลากตัวที่ไม่มีหัวมาให้ (นั่น! ปิดด้วยมุกแป้กอีก!) ท้ายเล่มมีการ์ตูนสั้นของคุณ Becassine ผู้มากฝีมือที่เรารู้จักกันดีจาก Error Hour หนนี้มีเขียนการ์ตูนผีก็ยังคงฮาแบบน่าจับไปอยู่ใน Error Hour มากกว่า



Doraemon - The Complete Works of Fujiko.F.Fujio - (Taiwan Edition) เล่ม 1 โดราเอม่อนจาก complete set ซึ่งเป็นฉบับที่รวบรวมตอนทั้งหมด ย้ำว่า "ทั้งหมด" ของโดราเอม่อนนะครับ สำหรับพวกเราชาวไทยคุ้นเคยกับชุด 45 เล่ม ซึ่งมีจำนวนตอน 823 ตอนที่ อ.ฟูจิโมโตะเป็นผู้คัดมารวมเล่ม เมื่อรวมกับตอนยาว, ตอนจากเล่ม Doaraemon Plus, color และ color special จะมีตอนที่พิมพ์ฉบับภาษาไทยแล้วทั้งสิ้น 1,087 ตอนแต่จำนวนตอนทั้งหมดจริงๆนั้นมี 1,345 ตอน! ยังมีตอนอื่นๆที่ไม่มีฉบับลิขสิทธิ์ภาษาไทยให้อ่านอีกมากมาย ซึ่งหลายๆตอนก็ได้อ่านมานานมากแล้วในสมัยไร้ลิขสิทธิ์ที่โดราเอม่อนเข้ามาในประเทศไทยยุคแรกๆ ก็ต้องรอกันต่อไปว่าจะมีคนนำลิขสิทธิ์ชุดนี้เข้ามาพิมพ์เป็นภาษาไทยเมื่อไหร่ ฉบับที่ผมมีเป็นเวอร์ชั่นไต้หวันครับ อยากทำ scanlation ลงเว็บเหมือนกัน แต่ก็ต้องมีคนใจดีช่วยแปลภาษาจีนให้ด้วย

ภาพนี้เป็นตัวอย่างของตอนที่น่าสนใจและไม่มีในรวมเล่มลิขสิทธิ์ภาษาไทย ไล่จากภาพบนลงล่างครับ



(จากฉบับนักเรียน ป. 3 เดือน 2 ปี 1970) เป็นตอนที่สองหลังจากโดราเอม่อนแนะนำตัวไปแล้ว โนบิตะกลัวไจแอนเลยไม่กล้าทำอะไรไจโกะมาตลอด แต่ตอนนี้โนบิตะถูกไจโกะก่อกวนจนทนไม่ไหวท้าไจแอนท์ชก ถึงจะแพ้แต่ก็ได้ใจไจโกะเพราะไม่เคยมีเด็กคนไหนกล้าสู้กับพี่ของตัวเองมาก่อน ทำเอาโดราเอม่อนสับสนไปเลยว่าอนาคตของโนบิตะจะออกมาเป็นแบบไหน (จากฉบับนักเรียน ป.4 เดือน 3 ปี 1971) เป็นตอนจบครั้งแรกตั้งแต่ตีพิมพ์โดราเอม่อนมา มีนักท่องเที่ยวจากอนาคตมาวุ่นวายโลกอดีตมาก แถมมีอาชญากรกาลเวลาหนีมาโลกอดีตด้วย โชคดีที่ตำรวจกาลเวลาตามมาจัดการได้ก่อน เซวาชิมาแจ้งว่ารัฐบาลของศตวรรษที่ 22 ออกกฎห้ามเดินทางข้ามเวลาแล้ว ทำให้โดราเอม่อนต้องลาโนบิตะกลับโลกอนาคตไปอย่างไม่เต็มใจ (จากฉบับนักเรียน ป.4 เดือน 9 ปี 1971) มีจิ้งหรีดเข้าไปในเครื่องทำเอาโดราเอม่อนรวน บ้าร้องเพลง ใช้ของวิเศษบังคับให้เพื่อนมาฟังคอนเสิร์ตตัวเอง แถมเสียงยังห่วยกว่าไจแอนซะอีก ม่อนเวอร์ชั่นโหดไม่ฟังใครแถมอัดกระทั่งไจแอนหมอบได้ สุดท้ายเลยต้องตามเซวาชิมาปราบ (จากฉบับนักเรียน ป.4 เดือน 3 ปี 1972) เป็นตอนจบครั้งที่สอง เซวาชิกลัวว่าการพึ่งพาโดราเอม่อนจะทำให้โนบิตะทำอะไรเองไม่เป็น จึงขอให้โดราเอม่อนเฮี้ยบกับโนบิตะมากขึ้น แต่สุดท้ายม่อนก็ทำใจโหดกับโนบิตะไม่ลง เซวาชิเลยขอให้แกล้งทำเป็นเครื่องยนต์ขัดข้อง โนบิตะเต็มใจให้ส่งโดราเอม่อนกลับไปซ่อมที่โลกอนาคต แต่โดราเอม่อนไม่อยากหลอกโนบิตะจึงสารภาพความจริง พอรู้แบบนั้นแล้วโนบิตะก็สัญญาว่าจะเข้มแข็งขึ้นและพยายามทำทุกอย่างด้วยตนเอง หลังจากนั้นโดราเอม่อนก็เดินทางกลับโลกอนาคตโดยคอยเอาใจช่วยโนบิตะอยู่ห่างๆ
สำหรับชุดนี้จะเปลี่ยนแปลงปีจากตอนต่างๆให้เหตุการณ์ในเรื่องดำเนินในปี 1972 โดยให้เหตุผลว่าเป็นปีที่ผู้เขียนกำหนดให้โนบิตะอยู่ ป.4 เป็นครั้งแรก ซึ่งผมไม่คิดว่าการยึดปี 1972 ตลอดกาลจะตรงตามเจตนารมณ์ของ อ.ฟูจิโมโตะสักเท่าไหร่ (ตอนที่เขียนช่วงท้ายๆซูเนโอะมีแฟมิคอมเล่นแล้ว ...ปี 1972 นะครับ แหม่...)


Create Date :06 กรกฎาคม 2557 Last Update :6 กรกฎาคม 2557 9:28:31 น. Counter : 3891 Pageviews. Comments :38