Thailand Comic Con เป็นกิจกรรมสำหรับคนรักการ์ตูน-เกม ที่จัดขึ้นที่สยามพารากอนในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค. ซึ่งก็คือศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่เพิ่งจะผ่านมานี้เองครับ ผมไม่ได้ตามข่าวการ์ตูนเลย มารู้เอาจากน้องเมื่อวันเสาร์นี้เอง ว่าแล้วก็ไปจอยซะหน่อยครับ อยากไปดูม็อบแถวๆนั้นด้วย (ผมชอบตามถ่ายรูปม็อบทุกสี แต่ไม่เคยเข้าร่วมม็อบนะแจร๊ะ) งานนี้จัดโดย Milk Studio, กันตนา, และกรมการท่องเที่ยวครับ

กว่าจะเอารถเข้าศูนย์เช็คสภาพเสร็จก็ล่อไปค่อนบ่าย ไปถึงโซนสยามประมาณ 4 โมงเย็นครับ เขากำลังเซ็ตเวทีมวยปล้ำอยู่เลย งานนี้เขาเชิญนักมวยปล้ำญี่ปุ่นจากค่าย NJPW มาโชว์ตัวด้วยครับ แต่ผมไม่รู้จักสักคน กว่าจะปล้ำก็ช่วงค่ำเลยไม่ได้ดูอ่ะ


หน้างานมีคนแต่งชุดการ์ตูนต้อนรับแขก ทั้ง ดร.สลัมป์ ซูเปอร์แมนบ๊วยเค็ม และอื่นๆอีกมากมาย ค่าเข้าคนละ 60 บาท แต่ถ้าแต่งคอสเพลย์เข้าฟรีครับ ถือว่าช่วยคนจัดงานแต่งตัวให้คนเข้างานคนอื่นดูด้วย (ผมยอมจ่าย 60 บาทครับ )


งานนี้คนแน่นแบบสุดๆ หามุมถ่ายภาพสวยๆยากสักหน่อย แม้คุณจะยกกล้องถ่ายแค่ 2-3 วินาที แต่โอตาคุความเร็วสูงก็จะพากันวิ่งตัดหน้ากล้องคุณอย่างเหนือชั้น ตากล้องก็มาก ถ่ายเจาะฟิกเกอร์มันแทบทุกตัวทุกมุม (เกะกะครับ) ทำไมไม่ซื้อกลับบ้านไปเลยฟะ? มีโอตาคุโปรโตไทป์ตัวอ้วนๆ ใส่แว่นหนาๆ สิวเยอะๆ ถือกล้องใหญ่ๆ ก็เยอะนะครับ เยอะกว่าในงานสัปดาห์หนังสืออีก เหมือนหลุดมาจากอากิฮาบาระเลย แต่ของสวยๆงามๆก็มีชดเชยกัน พวกเด็กๆที่พ่อแม่พาแต่งตัวน่ารักเข้าไปก็เยอะ เพราะงานนี้มีประกวดคอสเพลย์เด็กด้วย


พริตตี้งานนี้คอสตูมอลังการไม่แพ้งานอื่นแน่นอน เพราะเป็นงานประชันการแต่งตัวโดยเฉพาะเลยนี่นะ


ส่วนคอสเพลย์จากทางบ้านส่วนใหญ่จะเป็นคอสสาวสวยหนุ่มหล่อที่ใส่วิกสีๆทรงผมแหลมไปแหลมมา หรือไม่ก็ชุดโกธิครุ่มร่ามๆ ผมชอบอย่างสามรูปด้านล่างนี้มากกว่าครับ (ซ้าย) ได้ข่าวว่าเป็นยามเฝ้างานระดับไฮคลาส ...ไม่แน่ใจว่ามาจากเรื่องอะไร แต่เกราะและอาวุธตั้งใจทำดี (กลาง) Red Harrington และ Tonto จากภาพยนตร์เรื่อง The Lone Ranger เจ๋งทั้งชุดและแคสติ้งครับ หน้ามาเป๊ะแบบในหนังเลย โดยเฉพาะ Tonto พี่แกทำสีหน้านิ่งตลอดถอดอารมณ์มาจากจอห์นนี่เด็ปในเรื่องเต็มที่ (ขวา) สุดยอดต้องยกให้คนนี้เลยครับ มาคนเดียว โชว์คนเดียว น้องแกแต่งเป็นอเลนร่างไททัน เดินล่ำอยู่กลางงาน


มีร้านขายของเล่นมาเปิดบู้ทในงานหลายร้าน อย่างกับยกสะพานเหล็กมาเลย นอกจากฟิกเกอร์แล้วยังมีของที่ระลึกจากการ์ตูนต่างๆอย่างเสื้อยืด เข็มกลัด สมุด แฟ้ม พวงกุญแจ ฯลฯ มีทั้งการ์ตูนญี่ปุ่น ฝรั่ง ไทย มีฟิกนักบาส-นักฟุตบอลด้วย มีทั้งของแท้และกระทั่งของจีนแดงก็เอามาขายในงานอย่างครบครัน แต่ฟิกเกอร์ในภาพนี้ของแท้ทั้งหมดนะครับ


อันนี้สายดอล เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึงครับ เจ้าของบล็อกไม่มีปัญญาซื้อแน่นอน


โมเดลเซย่าขนาดเท่าตัวจริง


เหล่าเซนต์แบบ SD จ้า ไอ้ที่ล้มคะมำข้างหลังอยู่ตัวเดียวก็ไม่ใช่ใครอื่น ชิริวนั่นเอง ความกระจอกของแกแพร่จากโล่ลามไปถึงโมเดลแล้วรึนี่?!


ซูเปอร์ฮีโร่ของอเมริกันก็มากันครบ ทั้งมาร์เวล DC และอื่นๆ


ไอ้มดแดงก็มี



กันดั้มก็มา งานนี้คอกันพลาไม่น่าพลาด


บู้ทการ์ตูนก็มากันทั้งสยาม, บงกช, เซนชู, รักพิมพ์, ฯลฯ ครับ แต่การ์ตูนน้อยกว่างานสัปดาห์หนังสือเยอะ ส่วนใหญ่เอาของโละแพ็คมาขายมากกว่า ที่น่าสนใจที่สุดก็ต้องบู้ทวิบูลย์กิจครับ เป็นอีกหนึ่ง สนพ. ที่สนับสนุนการ์ตูนไทยอย่างจริงจังและยาวนาน จนไทคอมิค (นิตยสารการ์ตูนไทยในเครือวิบูลย์กิจ) เป็นนิตยสารการ์ตูนไทยที่อยู่มานานที่สุดและเป็นแหล่งรวมมือเขียนการ์ตูนเก่งๆมากมาย  ภาพนี้คือคุณยุทธภูมิผู้เขียนเรื่องถนนพระอาทิตย์ การ์ตูนไทยเรื่องแรกๆที่ผมอ่านแล้วประทับใจงานภาพแบบสุดๆ ปัจจุบันเขียนเรื่องหนีตายนรก 3/1 ถึงยุคนี้การ์ตูนไทยสายนิเทศน์จะเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ผมว่าคนที่ตั้งใจลุยทางวิบากด้วยการ์ตูนสายมังกะนี่น่ายกย่องนะครับ กว่าจะทุ่มพลังวาดได้สักช่องพวกสายนิเทศน์ก็วาดจบไปเป็นหน้าๆแล้ว


มีโต๊ะให้นักเขียนไทคอมิควาดภาพตัวเราเป็นการ์ตูนด้วย ภาพละ 100.- ถ้าวาดภาพเหมือนภาพละ 500.-


อีกฟากของโต๊ะให้คนมาทดลองเล่น PS4 ด้วย Virtual Reality Headset ผมว่าแถวๆนี้ต้องมีทีมงานจากนิตยสารเมก้า (MXG เป็นนิตยสารเกมในเครือวิบูลย์กิจ) อยู่หลายคนแหละ เสียดายที่ไม่รู้จักหน้าตาตัวจริงๆ ทั้งที่อ่านเมก้ามาตั้งแต่ยุคหน้าปกเป็นหนุมาน


บู้ทเกมอื่นๆก็มีอีกเยอะนะครับ มีทีมพัฒนาเกมจากญี่ปุ่นบินมาด้วย แต่หลังๆผมไม่ได้ติดตามวงการเกมเลย เลิกเล่นไปตั้งแต่ยุค PS3-XBOX360-Wii

คนดังจากแวดวงบันเทิงอื่นๆนอกจากการ์ตูน-เกม อย่างพวกไอดอลญี่ปุ่นหรือคนในฮอลลี่วู้ดก็มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง (อนิจจา... ส่วนใหญ่เจ้าของบล็อกไม่รู้จักเบย) คนนี้ Tim Coleman จาก EPYX ครับ ทำเอฟเฟกต์ให้หนังฮอลลีวู้ดมานักต่อนัก


บู้ทนี้โชว์เทคโนโลยีพิมพ์เรซิ่นสามมิติของ i3Dbot เอาไฟล์ส่งไปให้เขาพิมพ์ออกมาเป็นโมเดลได้เลยครับ ตัวเครื่องซื้อไปพิมพ์เองที่บ้านก็หลักหลายหมื่นอยู่ เรซิ่นสีอีกม้วนละพัน แต่ถ้าจ้างเขาพิมพ์ก็ยิ่งแพงบรรลัย น้องผมเล่าว่าที่เคยเห็นรับจ้างพิมพ์โมเดลทั้งหลายค่าเปิดไฟล์ขั้นต่ำก็ 5000.- ค่าขึ้นรูปก็จ่ายเพิ่มแล้วแต่ขนาดและรูปร่างโมเดลอีก ไว้เทคโนโลยีนี้ mature สักหน่อยราคาคงต่ำลงมาอีกเยอะ


โชคดีตอนผมไปถึงงานก็เลทไปสี่โมงกว่าแล้ว บนเวทีมีการประกวดการแสดงพอดี ส่วนใหญ่จะใส่ชุดน่ารักขึ้นมาเต้นโชว์ แต่ทีมนี้เจ๋งเหมือนกันครับ แสดงตอนไคจูทำลายเมือง



คอมเมนเตเตอร์มาจากผู้ทรงภูมิด้านการ์ตูนที่มีชื่อเสียง ที่ผมจำได้แม่นๆก็พี่ granun แฟนพันธุ์แท้การ์ตูนคลาสสิคนี่ละครับ (คนใส่หมวก) ใครเล่นพันทิปก็คงเจอพี่เขาบ่อยๆ


สรุปความเสียหายวันนี้... ไม่เสียสักบาทครับ (ค่าบัตรน้องจ่าย หุยฮาๆ~ ) ไม่ได้ซื้อไรเลย นอกจากหนังสือการ์ตูนแล้วของเกี่ยวกับการ์ตูนอย่างอื่นนานๆจะซื้อที วันนี้เข้ามาชมบรรยากาศอย่างเดียวก็ฟินแล้วครับ

นับว่าเป็นอีกงานที่คุ้มค่าที่ได้เข้ามาดูครับ งานนี้จัดอย่างอลังการทุ่มงบกว่า 60 ล้าน แต่ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นทีเดียว แสดงให้เห็นว่าแฟนๆป็อบคัลเจอร์สายการ์ตูนในประเทศไทยเองก็มีไม่น้อยนะเออ ถึงตอนนี้ในงานยังมีเด็กๆเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมเชื่อว่าถ้าเลี้ยงกระแสให้วัฒนธรรมการ์ตูนหยั่งรากในประเทศไทยอย่างมั่นคงกว่านี้ งาน comic con จะเป็นเหมือนกับงานการ์ตูนใหญ่ๆของต่างประเทศที่ดึงดูดคนได้ทุกเพศทุกวัยครับ

และจากการผลักดันส่งเสริมอย่างยาวนาน ตอนนี้การ์ตูนไทยก็เริ่มจับจองพื้นที่สื่อได้มากกว่าแต่ก่อนเยอะนะครับ (หมายถึงด้านดี ไม่นับข่าวฆาตกรรมเพราะติดการ์ตูน/เกมห่าเหวไรพวกนั้นนะ) อย่างวันนี้ขากลับเดินผ่านสยามก็เห็นโฆษณา 4G ของ DTAC ใช้ตัวการ์ตูนมะม่วงจังของคุณตั้มเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย