bloggang.com mainmenu search


บล็อกนี้เป็นบล็อกสุดท้ายของเรื่องอายาโกะแล้วครับ หลังหมดบล็อกนี้เดี๋ยวจะเปลี่ยนธีมบล็อกเอาเฮดเดอร์รูปการ์ตูน อ.เทะสึกะลงแล้วเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นซะที
สามารถอ่านสองตอนที่ผ่านมาได้ตามลิงค์ด้านล่างเลยจ้า

Ayako (1/3) - ญี่ปุ่นหลังสงครามโลก
Ayako (2/3) - ในห้องใต้ดิน

จากตอนที่สองเรื่องราวได้ดำเนินผ่านไปหลายปี หน้าตัวละครก็เปลี่ยนไปทุกคน เพื่อไม่ให้งง ขอสรุปความสัมพันธ์และสถานะสมาชิกหลักบ้านเท็นเงดังภาพครับ



บล็อกสุดท้ายนี้ว่าด้วยเรื่องการออกสู่โลกภายนอกและการล้างแค้นของอายาโกะ (แล้วจะจบสวยรื้อ..) เชิญชมกันได้เลยครับผม

สู่แสงสว่าง

หลังขึ้นครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลคนใหม่แล้ว อิจิโร่ก็หาเมียใหม่ (ซึ่งในเรื่องไม่ได้โผล่มาให้เห็นเพราะจืดจางมากๆ) ส่วนชิโร่ก็ยังคงเป็นคนเดียวที่เอาอาหารมาให้อายาโกะผ่านทางช่องหลังคาและได้เห็นการเติบโตของอายาโกะเรื่อยมา

วันที่ 17 มิ.ย. 1971 รัฐบาลต้องการเวนคืนพื้นที่ส่วนหนึ่งของพื้นที่ๆเท็นเงมีอยู่เพื่อตัดถนน แต่มันดันเป็นที่ๆอิจิโร่ฝังร่างของซูเอะไว้ เขาจึงไม่ยอมขายไม่ว่าจะได้ราคามากขนาดไหน เจ้าหน้าที่จึงต้องเปลี่ยนใจปรับเส้นทางถนนผ่านห้องเก็บของที่ขังอายาโกะไว้ใต้ดินแทน หนนี้แม้อิจิโร่จะต่อต้านขนาดไหนก็ไม่สามารถฝืนคำสั่งรัฐบาลได้

เมื่อรู้ว่าไม่สามารถขัดขืนรัฐบาลได้ ชิโร่ก็ย้ายเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด รวมทั้งตัวอายาโกะใส่หีบก่อนรัฐบาลจะนำรถเครนมารื้อห้องเก็บของไปในวันที่ 4 ก.พ. 1972


เพราะได้พบแต่ชิโร่มาหลายสิบปี ทำให้อายาโกะหวาดกลัวทุกคนยกเว้นชิโร่ แม้แต่แม่อิบะก็ไม่สามารถเข้าใกล้อายาโกะได้ แม่ได้เอาสมุดบัญชีของอายาโกะส่งให้ชิโร่ เงินในบัญชีเป็นเงินที่ส่งมาให้อายาโกะเรื่อยๆตั้งแต่เธอลงไปอยู่ในห้องใต้ดิน ซึ่งทั้งแม่และชิโร่ก็รู้ว่านี่คือเงินที่จิโร่ส่งมาให้ และยอดรวมทั้งหมดในตอนนี้สูงถึง 50 ล้านเยนแล้ว



วันต่อมาอายาโกะได้หนีออกจากหีบพร้อมสวมกิโมโนของซูเอะออกไป หมอยามาซากิกลับมาเยี่ยมเพราะห่วงเรื่องอายาโกะแต่ก็พบข้าวของๆซูเอะในหีบทั้งสมุดบัญชี กระเป๋าสตางค์ เครื่องประดับ ฯลฯ ทำให้ทุกคนรู้ว่าอิจิโร่โกหกเรื่องที่ซูเอะออกจากบ้านไป แท้จริงแล้วเธอคงถูกอิจิโร่ฆ่าไปแล้ว

ส่วนอายาโกะนั้นเป้าหมายการเดินทางของเธอไม่ใช่อื่นใดนอกจากการมาหาผู้ที่ส่งเงินมาให้เธอตลอด 23 ปีที่ผ่านมา อายาโกะมาหาพี่จิโร่ซึ่งตอนนี้เป็นคนใหญ่คนโตของบริษัท T.K.Enterprise ร่วมกับคินโจโดยใช้ที่อยู่บนซองจดหมายแปะกล่องพัสดุที่บรรจุตัวเองให้ไปรษณีย์ส่งมา แต่ตัวอายาโกะเองนั้นจำพี่ชายคนนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้จิโร่ใช้ชื่อปลอมว่าโทมิโอะ ยูเทนจิ



จิโร่สั่งคนใช้ให้ดูแลเธอ แต่ห้ามมองเธอ ห้ามพูดกับเธอ เขาจะเป็นคนเดียวที่ติดต่อเธอได้ จิโร่รู้เรื่องของทหารที่ไปอยู่ป่าต้องตัดขาดโลกภายนอกไป 27 ปี เขาจึงรู้ดีว่าสภาพจิตใจของอายาโกะตอนนี้เป็นเช่นไร เมื่อนึกสงสารน้องสาวของตัวเองเขาก็เผลอร้องไห้ออกมาให้พวกคนใช้เห็นเป็นครั้งแรก

สารวัตรเกตะยังคงให้ความสนใจคดีของจิโร่อยู่ แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่จิโร่ เท็นเง แต่เกตะก็ยังตามไม่ลดละ เพราะนั่นคือคำขอสุดท้ายของทานุมะอาจารย์ของเขาที่สั่งเสียให้เกตะจับกุมจิโร่ให้ได้ ก่อนทานุมะจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไป

ทางด้านชิโร่ออกเดินทางมาตามหาอายาโกะถึงสำนักงาน T.K.Enterprise ในกินซ่า แต่ลูกน้องของจิโร่ไม่ยอมให้เขาเข้าพบ ชิโร่จึงไปหานาโอโกะแทน แม้ตอนนี้เธอจะแต่งงานมีสามีและมีความเป็นอยู่ที่ดีแล้ว แต่เธอก็ยังลืมทาดาชิ เอโนะ คนรักเก่าไม่ลง และสาบานว่าจะต้องล้างแค้นคนที่ฆ่าทาดาชิให้ได้

ทางด้านอายาโกะแอบออกมาจากบ้านของจิโร่ เธอได้ออกมาโลกภายนอกที่ไม่ได้เห็นมานาน เมื่อเห็นเด็กๆเล่นโดดหนังยางกัน อายาโกะก็จำได้ว่าเธอเคยเล่นสนุกแบบนี้กับโอเรียวมาก่อน


ที่สวนสาธารณะแห่งนี้ อายาโกะได้มาพบกับฮานาโอะลูกชายของสารวัตรเกตะ ตอนนี้เขาเติบโตเป็นหนุ่มหล่อและทำงานทนาย แล้วเธอก็เล่าเรื่องชีวิตใต้ดิน 23 ปีให้ฮานาโอะฟัง


แต่อายาโกะไม่ได้มีความคิดอยากแก้แค้นครอบครัวของเธอสักนิด เธอเพียงไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตแบบไหนต่อไป ตอนนี้เธอ 27 แล้ว พอไปเล่นโดดหนังยางก็มีคนมาหัวเราะเยาะ แล้วผู้ใหญ่ควรจะทำอะไรกันแน่? เธอเข้าใจว่าการกอดจูบแบบที่ทำกับพี่ชิโร่จะช่วยทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งฮานาโอะก็รู้ว่าเรื่องแบบบนั้นมันไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามอายาโกะได้...


เมื่อจิโร่กลับมาถึงบ้าน อายาโกะได้เข้ามาคลอเคลียและบอกรักเขา เธอบอกว่ารักพี่ชิโร่และมีอะไรกันแล้วด้วย ทำให้จิโร่รู้ว่าเธอเข้าใจคำว่ารักบิดเบี้ยวไปแบบสุดกู่แล้ว


อายาโกะถูกไล่ตะเพิดก็หนีไปหลบในกล่องโดยไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิด จิโร่รู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้เป็นความผิดของเขา "ช่างน่าสงสารยิ่งนัก และเป็นเพราะเราเธอถึงเป็นแบบนั้น เพราะงั้นเราไม่มีสิทธิ์จะไปตวาดเธอ เพื่อชดเชยความผิดอย่างน้อยเราก็ต้องแก้ไขจิตใจที่บิดเบี้ยวนี้ใหม่ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเป็นปี เป็นสิบปี หรือต้องใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตพี่ก็จะอยู่เคียงข้างเธอ เพื่อช่วยรักษาเธอให้หาย อายาโกะ!"

ช่วงเวลาแห่งการเยียวยา

จิโร่พาอายาโกะนั่งรถออกไปผ่านบ้านเมืองของโตเกียวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยตึกสูงเสียดฟ้า ผู้คนคับคั่งถึง 10 ล้านบน แถมมีอากาศเป็นพิษ เขาอยากให้อายาโกะอยู่อย่างมีอิสระที่โยโดยามะบ้านเกิดมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้อายาโกะก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจิโร่เป็นใคร

จิโร่ให้จิตแพทย์พยายามสะกดจิตให้อายาโกะย้อนระลึกถึงวัยเด็ก และพยายามทำให้เชื่อว่าตัวเธอไม่ได้ถูกเลี้ยงมาในห้องใต้ดิน แต่ไม่ได้ผล

จิโร่พยายามทำหลายวิธี พาอายาโกะไปหลายที่ แต่ก็ไม่สามารถเยียวยาอาการหวาดกลัวผู้คนของเธอได้ อายาโกะใช้ชีวิตได้เพียงในห้องแคบๆอันมืดมิดซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง


(โทมิโอะ ยูเทนจิ คือชื่อปลอมที่จิโร่ใช้มาตลอดครับ)

อายาโกะได้มาพบกับฮานาโอะอีกครั้งโดยบังเอิญ เขากลับเป็นคนเดียวที่เธอสามารถพูดคุยด้วยได้อย่างปกติ และฮานาโอะก็หลงรักอายาโกะ แม้จะไม่แน่ใจว่าเขาหลงรักเพียงเพราะสงสารผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือเขารักอายาโกะจริงๆ เขาบอกกับจิโร่ว่าไม่ควรกักตัวอายาโกะไว้กับแก๊งค์มาเฟียแบบนี้ และเชื่อมั่นว่าเขาสามารถทำให้อายาโกะมีความสุขได้

เมื่ออายาโกะเองก็ยินดีกับข้อเสนอของฮานาโอะ จิโร่จึงยอมให้เธอไปอยู่กับเขาหนึ่งปี โดยจิโร่จะขอเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง และเขาขอสิทธิ์ที่จะแวะไปหาเมื่อไหร่ก็ได้


ทั้งสองคนมาอยู่ที่บ้านที่จิโร่เตรียมไว้ให้ อายาโกะไม่ต้องคอยหลบซ่อนอยู่ในลังไม้อีกต่อไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ต้องการออกไปข้างนอกและได้แต่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เธอพอใจแค่ได้อยู่กับฮานาโอะที่ตนเองรัก

วันหนึ่งลูกน้องของจิโร่ได้บุกเข้ามาข่มขืนอายาโกะขณะที่ฮานาโอะออกไปข้างนอก เคราะห์ดีที่สารวัตรเกตะคนพ่อผ่านมาช่วยไว้ทัน ตั้งแต่นั้นมาอายาโกะก็กลับไปซ่อนตัวในกล่องเหมือนเดิม

สารวัตรเกตะขอให้อายาโกะช่วยเป็นพยานในคดีเมื่อ 23 ปีก่อน ที่พี่ชายของเธอร่วมก่อคดีฆาตกรรม และเมื่อคดีนี้สิ้นสุด อาจารย์ของเขาจะได้ตายตาหลับเสียที แต่ฮานาโอะไม่อยากให้พ่อรื้อฟื้นอดีตขึ้นมาตอนนี้ เพราะยี่สิบปีที่ผ่านมานั้นเธอเหมือนท่องอยู่ในดินแดนแห่งความตาย เขาขอเวลาฟื้นฟูอายาโกะให้กลับเป็นคนปกติก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องคดี

จิโร่ที่ผ่านมาอาสาพาสารวัตรเกตะมาส่ง แต่รถของพวกเขาก็ถูกแก๊งค์คู่อริยิงถล่ม สารวัตรเกตะโชคดีบาดเจ็บแค่แขน แต่จิโร่ถูกกระสุนไป 12 นัด อาการสาหัส

ฮานาโอะพาอายาโกะมาเยี่ยมอาการจิโร่ ตอนนี้เธอจำพี่จิโร่ได้แล้ว เสียงน้องสาวเรียกชื่อตัวเองอีกครั้งได้เป็นแรงใจช่วยให้เขาฮึดก้าวข้ามความตายมาได้ ส่วนแก๊งค์ของจิโร่ได้เริ่มเปิดฉากปะทะกับแก๊งค์คู่อริอย่างรุนแรง





ตรงนี้อิงข่าวจากหน้าประวัติศาสตร์จริงครับ ช่วงเดือน มี.ค. 1972 แก๊งค์ยากุซ่าในฮิโรชิม่าได้เข้าห้ำหั่นกันและมีคนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลงเสียชีวิตไปมากมาย เรียกว่าคดีกลุ่มยามามุระ นับว่าอายาโกะที่เขียนตอนนี้แทบจะเอาเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดมาเขียนได้สดๆเลย (ตอนนี้เขียนในปี 1973) มีหนังที่สร้างจากเรื่องจริงนี้ชื่อ The Yakuza Papers: Battles Without Honor & Humanity หรือที่หลายๆคนเรียกว่า "Japanese Godfather" ด้วย เรื่องนี้โด่งดังเป็นพลุแตก ตั้งแต่ปี 1973-1976 ก็ออกมา 7 ภาคแล้วครับ

จากการสอบสวนสุดท้ายก็รู้ว่าลูกน้องของจิโร่เป็นคนยิงใส่รถของจิโร่เอง ซึ่งเขาได้เขียนที่อยู่ของผู้บงการไว้ก่อนแขวนคอตาย พอตำรวจตามไปยังที่อยู่ที่เขียนไว้ก็พบศพของชายคนหนึ่ง จากการชันสูตรพบว่าเสียชีวิตมาสองสัปดาห์แล้ว นั่นคือสามวันก่อนจิโร่ถูกยิง เกตะเอาภาพถ่ายของชายคนนี้ให้จิโร่ดูเขาก็จำได้ว่าชายคนนี้คือคาโต้ คนที่สั่งให้เขาทิ้งศพของเอโนะลงบนรางรถไฟเมื่อ 23 ปีก่อน!! ...ซึ่งแน่นอนว่าจิโร่ที่ปฏิเสธข้อกล่าวหามาตลอดไม่ยอมบอกอะไรกับเกตะทั้งนั้น

เมื่อออกจากโรงพยาบาลมาได้ จิโร่ก็บริจาค 10 ล้านเยนให้พรรคการเมืองของยานากิดะ และเข้าพบหัวหน้าพรรคซึ่งได้รับเลื่อนตำแหน่งหลังชิโมคาวะเสียชีวิต จากนั้นก็ขู่แบ็คเมล์จนเขายอมคายความจริงว่านายพลวิลลาบี้ ผู้อำนวยการสูงสุดของ GHQ อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้และก่อวินาศกรรมโดยไม่ฟังคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐ และหนึ่งในคนญี่ปุ่นที่ทำงานเรื่องนี้โดยตรงคือคินโจคนสนิทของจิโร่นั่นเอง!!

ในที่สุดจิโร่ก็รู้แจ้งถึงสาเหตุที่ทำให้ชีวิตเขาทุลักทุเลมาตลอด 20 กว่าปี คินโจสร้างคดีโยโดยามะ ปฏิบัติภารกิจฆ่าชิโมคาวะ แล้วพยายามฆ่าปิดปากทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดีชิโมคาวะ เขาเอาไซยาไนด์ให้คาโต้กินเพื่อให้ดูเหมือนฆ่าตัวตาย และฆ่าคนอื่นๆไปอีกนับสิบคน แต่ฆ่าจิโร่ไม่สำเร็จ แม้ตอนแรกสุดที่เจอกันคินโจจะจ้างให้จิโร่วางระเบิดคลับของพวกทหารสหรัฐเพื่อแสดงตนว่าเป็นคอมมิวนิสต์ แต่จากการอยู่ด้วยกันมายี่สิบกว่าปี คินโจไม่ได้แสดงความเป็นคอมมิวนิสต์ออกมาสักนิด

เมื่อความแตกแล้วคินโจก็รีบหนีจิโร่ลงไปบนถนนจนถูกรถชนตาย จิตใจของจิโร่เต็มไปด้วยความสับสนว่าเขาควรจะแค้นใจที่ถูกเพื่อนหักหลังหรือเสียใจที่เสียเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตเพียงคนเดียวไปแล้วดี

นับว่าคดีชิโมคาวะที่เป็นปมลากยาวมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ตอนนี้คลี่คลายไปเกือบหมดแล้วนะครับ จากนี้ไปก็เหลือแค่เรื่องการใช้ชีวิตของอายาโกะ และปลายทางของแต่ละคน...









แล้วประกาศจับยูเทนจิก็แพร่ออกไป นอกจากคดีฆ่าคินโจแล้วเขายังพัวพันกับคดีที่โยโดยามะเมื่อ 23 ปีก่อน นาโอโกะรู้เรื่องที่พี่ชายถูกประกาศจับก็ตกใจมาก

ตอนนี้โยโดยามะบ้านเกิดของอายาโกะกลายเป็นเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน และคดีเมื่อ 23 ปีก่อนก็เกือบจะถูกกลบฝังไว้ในประวัติศาสตร์แล้ว จิโร่กลับมายังบ้านเกิดของเขาเพื่อสะสางบางสิ่งบางอย่าง แต่พอเห็นแม่เขาก็ไม่กล้าสู้หน้าแล้วหนีไป ชิโร่บอกกับอิจิโร่ว่าจิโร่กลับมาบ้าน ตัวอิจิโร่นั้นไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับจิโร่และอายาโกะอีกแล้ว แต่หมอยามาซากิแนะนำว่าจิโร่มีเงินมากมาย ให้อิจิโร่คอยช่วยเหลือเขา จะได้ฟื้นฟูฐานะของตระกูลกลับมา ยามาซากิยังแนะนำให้ใช้เหมืองถ่านหินของตระกูลเป็นที่ซ่อนตัวของจิโร่ด้วย

ท่ามกลางความมืดมิด

วันที่ 19 มิ.ย. 1972 ขณะที่นาโอโกะมาไหว้หลุมศพของทาดาชิ เอโนะ คนรักเก่าที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ 23 ปีก่อนนั้น จิโร่ได้เข้ามาหานาโอโกะและสารภาพว่าเขาคือคนที่วางศพของทาดาชิให้รถไฟทับเอง เขาบอกว่าก่อนหน้านั้นทาดาชิก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว และคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ต่างถูกองค์กรเบื้องหลังลบหายไปทีละคนๆ เขาจะไปอเมริกาเพื่อสืบหาต้นตอของเรื่องที่แท้จริง และนั่นคือภารกิจสุดท้ายที่จิโร่จำเป็นต้องทำให้ลุล่วง แต่จิโร่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้น เมื่อนาโอโกะแทงเข้าที่ซอกคอของจิโร่เพื่อล้างแค้นให้ทาดาชิ


ตอนนี้นาโอโกะได้ระบายความโกรธเกลียดที่เธอสะสมมากว่า 20 ปีไปแล้ว เธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าจิโร่อยู่แล้ว เมื่อตั้งสติได้เธอก็เรียกหมอยามาซากิมาช่วยรักษาพี่ชาย ทั้งนาโอโกะ, อิจิโร่ และหมอยามาซากิขึ้นรถไปหาจิโร่ ส่วนชิโร่แวะซื้อของที่หมอยามาซากิบอกก่อนขับรถตามมาทีหลัง เขาได้พบกับอายาโกะซึ่งมากับฮานาโอะโดยบังเอิญ




ทั้งหมดเดินทางมายังเหมืองถ่านหินที่ซ่อนตัวของจิโร่ (ฮานาโอะถูกปิดตาเพื่อไม่ให้จำที่ซ่อนตัวได้)


ฮานาโอะขอให้จิโร่เข้ามอบตัว แต่หมอยามาซากิไม่ยอมให้ตำรวจเข้ามายุ่งกับคนไข้ของเขา (พยายามเอาใจจิโร่เพราะหวังเงิน) เมื่ออยู่กันพร้อมหน้าชิโร่ก็ได้โอกาสเปิดโปงความชั่วของตระกูลเท็นเงให้รู้กันทั่วไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คนในตระกูลกักขังและแจ้งตายอายาโกะไปแล้ว เรื่องที่จิโร่ฆ่าโอเรียว หรือแม้แต่เรื่องที่อิจิโร่ฆ่าซูเอะ ซึ่งชิโร่รู้เรื่องนี้เพราะสังเกตเห็นอิจิโร่ไปป้วนเปี้ยนอยู่ที่ๆหนึ่งบ่อยๆ เลยลองขุดดูก็พบกระดูกในห่อผ้าของซูเอะ เขาจึงนำกระดูกเธอไปฝังบนภูเขา

นาโอโกะโมโหมากที่คนในบ้านเป็นฆาตกรฆ่ากันไปตายกันมาก่อเรื่องชั่วๆกันเต็มไปหมด แต่ชิโร่บอกว่าตัวนาโอโกะเองก็ไม่ได้พยายามช่วยเหลืออายาโกะอย่างจริงจังเลย เพราะงั้นเธอก็ต้องมารับกรรมของตระกูลด้วยกัน (อ้าวซวยไป) ทุกคนที่นี่สมควรต้องกราบขอขมาอายาโกะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น และชิโร่ก็ยอมรับด้วยว่าเขาซั่มกับน้องตัวเองทุกวันๆมาหลายปี (แถมยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจจนฮานาโอะตกกะใจ) Smiley

เมื่อทุกคนขอขมาอายาโกะแล้ว หน้าที่ของชิโร่ในฐานะถังขยะที่คอยรองรับแต่เรื่องเน่าๆของตระกูลก็จะจบลงเสียที แต่อิจิโร่ยืนกรานไม่ขอโทษ และอายาโกะเป็นแค่ผลผลิตของการที่พ่อไปซั่มกับอดีตเมียของเขา เธอไม่สมควรเกิดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว




ชิโร่ระเบิดหินให้ถล่มลงมาปิดทางเข้าเพื่อลงโทษทุกคนที่นี่ ฮานาโอะเป็นคนนอกที่ต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ แต่ก็ถือว่าเขาดื้อที่จะตามชิโร่มาเอง หินถล่มทับร่างชิโร่จนขยับตัวไม่ได้ แต่เขาก็ได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย นั่นคือ "การล้างแค้นให้อายาโกะ" ไปแล้ว


ทุกคนต่างพากันสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะอิจิโร่ที่โวยวายมากกว่าคนอื่น ตอนนี้ในถ้ำมืดไปหมด พวกเขาต้องกังวลว่าอากาศจะหมดลงเมื่อไหร่ พวกเขาจะกินอะไร จะมีคนมาช่วยไหม แต่ความหวังที่จะรอดออกไปนั้นก็เลือนรางเพราะที่แห่งนี้ห่างไกลชุมชนมากๆ และหินก็แข็งเกินกว่าจะขุดออกไปได้ด้วย บางจุดที่ร่วนซุยเมื่อขุดไปได้ไม่นานก็ถล่มลงมาอีก แม้จะมีช่องอากาศเล็กๆให้พวกเขาไม่ขาดอากาศตาย แต่ก็ไม่กล้าขุดช่องนั้น เพราะกลัวช่องอากาศจะปิด

ขณะที่ทุกคนกำลังหวาดกลัวและสิ้นหวัง มีเพียงอายาโกะที่สงบใจอยู่ได้

เธอมองไปรอบๆแล้วหัวเราะออกมา เพราะที่นี่ช่างให้ความรู้สึกที่เธอคุ้นเคยเหมือนห้องที่เธออยู่มา 23 ปี

"โลกอันมืดมิดนี่แหละ คือที่ของฉัน"










ทางการได้ออกตามหาอิจิโร่, ชิโร่, อายาโกะ และฮานาโอะที่หายตัวไปโดยไม่มีเบาะแสว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหน

กาลเวลาผ่านไป หนึ่งสัปดาห์ก็แล้ว...

สิบวันก็แล้ว...

สองสัปดาห์ก็แล้ว...

การค้นหาวันแล้ววันเล่า แทบจะดูเหมือนความพยายามที่สูญเปล่า จนในที่สุดทีมสำรวจก็มาพบถ้ำที่พวกเขาถูกฝังอยู่

คนอื่นๆเสียชีวิตไปหมดแล้ว มีเพียงอายาโกะที่ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแบบนี้มานาน เธออยู่ด้วยความหวังมาตลอดว่าหากอดทนผ่านช่วงเวลาแห่งความเลวร้ายไปได้ เธอจะมีโอกาสได้ส่งยิ้มให้กับแสงสว่างที่เห็นอยู่เบื้องหน้า และนั่นเป็นสาเหตุให้เธอยังคงมีชีวิตอยู่เรื่อยมา...



สารวัตรเกตะนำอัฐิลูกชายกลับโตเกียวบ้านเกิดของเขา ในขณะที่อายาโกะได้ออกจากบ้านอีกครั้ง แต่คุณแม่ (อิบะ เท็นเง) ก็ปล่อยให้เธอได้ทำตามที่เธอต้องการ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา อายาโกะมีแต่ความทรงจำที่เลวร้ายกับบ้านหลังนี้ แม้คนอื่นๆจะจากไปหมดแล้ว แต่ตราบใดที่อิบะยังอยู่ ตระกูลเท็นเงก็ยังคงอยู่ต่อไป

ในปี 1973 มีการออกเอกสารเผยแพร่ว่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่จบลงด้วยการเสียชีวิตของคินโจนั้นเกี่ยวข้องกับองค์กรข้ามชาติ และได้ถูกนำขึ้นเป็นประเด็นใหญ่ของสังคม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้รับเรื่องไปสืบคดีต่อไป ตามที่จิโร่ปรารถนา

ส่วนเรื่องของอายาโกะหลังจากนั้นไม่มีใครทราบอีกเลย...

อวสาน

(เนื่องจากลิงค์ภาพ photobucket พัง จึงขอยกเม้นท์ที่เพิ่มเติมเนื้อหาไว้ด้านล่างขึ้นมาแปะบนนี้ครับ)

วันนี้มาพูดคุยท้ายเรื่อง ขอเล่าเสริมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เห็นว่าน่าสนใจเพื่อเก็บประเด็นต่างๆเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการกระทำของตัวละครขยายความจากที่อ่านในบล็อกครับ



เทะสึกะ โอซามุ ผู้เขียนเรื่องอายาโกะ


สำหรับเรื่องอายาโกะนี้นับเป็นการ์ตูนที่มืดมนที่สุดเรื่องหนึ่งที่ อ.เทะสึกะ เทพเจ้าแห่งวงการการ์ตูนญี่ปุ่นเขียนขึ้นมา แม้จะไม่มีสิ่งมหัศจรรย์หรือเหตุการณ์ระดับโลกที่เป็นตัวชูโรงของเรื่องเหมือนกับเรื่องอื่นๆ แต่ความเฉียบคมในการดำเนินเรื่องและงานภาพที่ยอดเยี่ยมล้ำยุคสมัย (ย้ำอีกทีว่าเรื่องนี้เขียนในปี 1972-1973) ก็ทำให้อายาโกะได้รับเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ดีมาก สำหรับเว็บวิจารณ์หนังสือการ์ตูนที่ให้นักอ่านทั่วไปเข้ามาเรตคะแนนให้นั้น คะแนนเสียงจะค่อนข้างแตก คือมีทั้งคนที่ให้คะแนนสูงมากเพราะชอบเนื้อเรื่อง และคนที่ให้คะแนนต่ำมากเพราะขยะแขยงการกระทำของตัวละครและไม่คาดคิดว่าการ์ตูนของ อ.เทะสึกะซึ่งพวกเขาเข้าใจว่ามีแต่สไตล์แบบดิสนีย์ จะออกมาแรงขนาดนี้ ...ซึ่งอันที่จริงเห็นปกหน้า (สาวเปลือย) ปกหลัง (คนแขวนคอ) และเรต (16+) ก็ควรจะรู้ตั้งแต่หยิบขึ้นมาแล้วว่านี่ไม่ใช่การ์ตูนแนวเดียวกับที่ อ.เทะสึกะเขียนในช่วง 50s-60s แต่เป็นการ์ตูนไซเน็น (การ์ตูนผู้ใหญ่) ที่เนื้อหาหนัก ควรเก็บไว้ให้พ้นมือเด็ก แต่อายาโกะก็ไม่ใช่การ์ตูนที่ตะบี้ตะบันเข้าดาร์คไซด์อย่างเดียวนะครับ นอกจากจะฉายภาพประวัติศาสตร์อย่างละเอียดอ่อนแล้วเรื่องนี้ยังมีประเด็นการกระทำของตัวละครต่างๆที่น่าสนใจอีกมาก



ปกอายาโกะฉบับภาษาฝรั่งเศส


ตัวอายาโกะเป็นเด็กที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่ต้องเผชิญชะตารับกรรมของตระกูลที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ การถูกเลี้ยงดูในห้องที่มืดมิดมาตลอด 23 ปี ทำให้การเรียนรู้ของอายาโกะถูกจำกัดอยู่เฉพาะสิ่งที่ซูเอะและชิโร่เป็นคนสอนไว้ แม้จะอ่านออกเขียนได้ แต่อายาโกะขาดปฏิสัมพันธ์และไม่เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติต่อผู้อื่นหลายอย่าง ตอนที่เธอได้เล่นสนุกกับพวกเด็กๆในสวนสาธารณะนั้น อายาโกะแจกเงินให้เด็กเป็นฟ่อนๆจนพวกคุณแม่ตกใจ

โดยเฉพาะเรื่องความรักนั้น อายาโกะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปมาก เธอเข้าใจว่าเมื่อชายหญิงคู่หนึ่งชอบพอกันแล้วจะต้องแสดงออกถึงความรักด้วยการมีสัมพันธ์กัน ตอนที่อายาโกะได้ซั่มกับชิโร่ครั้งแรกนั้นเธอขอร้องจนชิโร่ต้องยอมมีอะไรด้วย และพบว่าตัวเธอก็มีความสุข พี่ชิโร่ก็มีความสุข และตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนได้ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า มีอิสระจากห้องใต้ดินนั้น หลังจากได้ออกมาโลกภายนอก เมื่ออายาโกะรู้สึกรักชอบใครก็หาทางจะติงนังกับเขาไปหมด ดังที่มนต์สิทธิ์เคยสอนไว้ว่า "รักจริงจริงให้ติงนัง ติงนังถี่ๆ"



นอกจากชิโร่แล้ว เหยื่อคนอื่นๆของอายาโกะก็เช่นฮานาโอะและจิโร่ แต่จิโร่เข้มแข็งพอที่จะข่มความอยากของตัวเอง แล้วพาอายาโกะไปบำบัดซะเลย

ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของอายาโกะหลังตอนจบจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หลังจากคำพูดสุดท้ายของชิโร่นั้นอายาโกะได้เปลี่ยนความกลัวให้เป็นพวกเดียวกับเธอได้แล้ว บางครั้งแม้จะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ทัศนคติและประสบการณ์ที่แต่ละคนมีต่อสิ่งนั้น จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าพวกเขาจะรับรู้มันในรูปแบบไหน อายาโกะเคยหวาดกลัวความมืด แต่เธอยอมรับและทำความคุ้นเคยกับมัน จนความมืดทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว ถ้ำอันมืดมิดก็เป็นเหมือนกับห้องใต้ดินที่เธออาศัยอยู่มาทั้งชีวิต ในขณะที่คนอื่นๆต่างพากันหวาดกลัวเมื่อต้องพบกับสภาพเดียวกับที่อายาโกะอยู่นี้

สำหรับอายาโกะนั้นซูเอะเป็นความทรงจำที่อบอุ่น เมื่อกลับมาอยู่ในห้องมืดทึบเหมือนที่เคยอยู่ในอดีต เธอก็ร้องเพลงของซูเอะเพราะคิดถึงวัยเด็กที่ซูเอะแม่แท้ๆของเธอคนนี้ร้องกล่อมให้เธอนอน ในทางกลับกันเพลงเดียวกันนี้ก็ได้หลอกหลอนอิจิโร่ที่ถูกซูเอะตามหลอกหลอนมาตลอด เพราะสำนึกผิดที่ฆ่าเธอไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ชิโร่เป็นผู้เดียวที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องและช่วยเหลืออายาโกะมาตลอด เขากล้าลุกขึ้นประท้วงคนทั้งครอบครัวที่จะขังอายาโกะไว้ใต้ดิน กล้าให้ปากคำตำรวจให้จับพี่ชายตัวเอง จนถึงขนาดถูกพี่ๆเล็งเล่นงาน แต่สุดท้ายความพยายามทั้งหมดก็ไม่สัมฤทธิ์ผล จนชิโร่รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ที่เขาจะทำแบบนี้อีกต่อไปแล้ว อีกทั้งชิโร่นั้นรู้ดีว่าการซั่มน้องตัวเองมันผิดมาก แต่เขาเห็นว่าเป็นทางเดียวที่ช่วยให้อายาโกะมีความสุขได้เลยจำต้องรับบทไอ้ซั่มน้องสาวมาตลอด และตราบาปนี้ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ดีพอที่จะทำตัวเป็นผู้ผดุงคุณธรรมไปตัดสินความผิดของพวกพี่ๆคนอื่นเลย แม้จะรู้เรื่องที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด รู้ว่าใครก่อคดีอะไรบ้าง แต่ชิโร่ก็ได้แต่เก็บไว้กับตัวตลอดมา จนในที่สุดก็ระเบิดออกมาและแก้แค้นให้อายาโกะด้วยการฝังพวกเท็นเงทั้งตระกูลลงในเหมือง พร้อมกับปิดฉากชีวิตตนเองไปด้วย



(และชิโร่ก็ทำแบบนั้นจริงๆ พูดจริงทำจริงครับ เลือกตั้งครั้งหน้าโปรดเลือกชิโร่เข้าสภา)

ซูเอะเป็นหญิงญี่ปุ่นยุคเก่าที่เป็นช้างเท้าหลังทำตามคำสั่งของสามี แสดงให้เห็นสถานะของสตรีในอดีตที่ถูกฝ่ายชายกดขี่มาตลอด เหมือนสตรีในสังคมยุคโบราณหลายแห่งที่ไม่สามารถอยู่ในสังคมได้หากไม่มีสามีคอยดูแล นอกจากถูกซาคุเอม่อนซั่มไปหลายยกแล้ว ตัวอิจิโร่เองก็ไมได้ปฏิบัติกับซูเอะดีนัก จนซูเอะบอกกับอายาโกะว่า "เขาทำเอาพี่อยากตายไปหลายรอบ" ซูเอะเคยผูกคอตายหนหนึ่งแต่ก็ได้นาโอโกะช่วยไว้ก่อน



หลังซาคุเอม่อนยกสมบัติให้ เป็นโอกาสที่ซูเอะจะได้ก้าวเดินด้วยตนเอง และออกจากชีวิตแย่ๆแบบนี้ไปเริ่มต้นใหม่กับอายาโกะลูกของตนเอง แต่ก็ถูกอิจิโร่ฆ่าตายเสียก่อน

นาโอโกะจะผิดกับซูเอะ คือเป็นหญิงหัวก้าวหน้าที่กล้าลุกขึ้นต่อสู้ นาโอโกะเข้ามามีบทบาทในวงการเมืองเพราะไปหลงรักกับทาดาชิ เอโนะ แกนนำฝ่ายซ้ายของพื้นที่โยโดยามะ และถูกชวนมาเป็นฝ่ายซ้ายด้วยกัน นาโอโกะมีบทบาทเกี่ยวข้องกับอายาโกะค่อนข้างน้อยเพราะถูกพ่อไล่ออกจากบ้านไปหลังรู้ว่าไปสนับสนุนคอมมิวนิสต์ แม้จะดูใจดี เป็นมิตร และอยู่ข้างความถูกต้องมาตลอด แต่นาโอโกะก็ไม่ได้ส่งผลผลักดันให้มีการช่วยเหลืออายาโกะอย่างจริงจังเลย อันที่จริงนาโอโกะก็แต่งงานกับแฟนใหม่มีความสุขไปแล้ว แต่ก็ต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุสลดท้ายเรื่องเพราะยังลืมความแค้นเรื่องทาดาชิไม่ลงและเข้าแทงจิโร่จนบาดเจ็บ

จิโร่นับเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญรองจากอายาโกะ และเป็นคนที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น จิโร่อยู่กับสงครามมานานทำให้มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตฆ่าคนทิ้งได้ง่ายๆ แต่เนื้อแท้นั้นจิโร่เป็นคนดีคนหนึ่งที่ถูกสภาพแวดล้อมบังคับให้เขาต้องทำในสิ่งที่ผิด


แม้จะมีภาพลักษณ์แสนชั่ว แต่จิโร่รู้สึกผิดกับอายาโกะและตั้งใจช่วยเหลืออายาโกะจากใจจริง เขาส่งเงินมาให้หลายสิบปีจนรวมได้ถึง 50 ล้านเยน และตั้งใจพาอายาโกะไปบำบัดให้หายจากการเก็บตัว โดยไม่สนเสียงคนรอบข้างที่นินทาเจ้านายว่ารสนิยมแปลก ที่ไปคบกับผู้หญิงประหลาด (คนอื่นไม่รู้ว่าเป็นน้องสาว และจิโร่ก็ปกปิดภูมิหลังของตนเอง)
จิโร่เองก็หลงรักอายาโกะเช่นเดียวกับชิโร่ แต่เขารู้ว่าการซั่มน้องมันไม่ถูกไม่ควร และเชื่อว่าฮานาโอะจะทำให้อายาโกะมีความสุขได้ สุดท้ายก็ตัดใจยอมยกอายาโกะให้ฮานาโอะไป



ในเรื่องยังมีหลายตอนเล่าถึงธุรกิจมืดและความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมาเฟียที่จิโร่เป็นหัวหน้าอยู่กับมาเฟียกลุ่มอื่นๆ ซึ่งมีเนื้อหารายละเอียดมาก และไม่เกี่ยวกับประเด็นหลักของเรื่องโดยตรง ตอนสรุปเรื่องผมจึงข้ามไปซะส่วนมาก มีหลายตอนที่จิโร่ต้องรับบทหนัก ทั้งฆ่าและเกือบถูกฆ่า หลังรอดตายกลับจากสงครามแล้ว เขายังต้องทำงานให้กองทหารสหรัฐก่อคดีฆาตกรรม ฆ่าโอเรียว ถูกชักจูงไปร่วมมือกับคินโจ ฆ่าสาวสปาย ฆ่าคู่อริ ฆ่าลูกน้อง โดนยิงถล่มรถ สืบหาต้นตอผู้บงการ ฆ่าคินโจ โดนมีดแทงคอ โดนขังในถ้ำ ฆ่ายามาซากิ ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ถูกใช้งานหนักที่สุดในเรื่องนี้แล้วครับ



จิโร่รู้ตัวว่าทำเรื่องเลวร้ายมามาก เขาตั้งใจกลับมาบ้านเพื่อสารภาพกับนาโอโกะว่าเขาเป็นผู้มีส่วนร่วมกับคดีฆ่าทาดาชิ แต่ตอนนี้เขาต้องการสืบหาต้นตอว่าใครบ้างที่เป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังคินโจจริงๆ แต่ก็ถูกนาโอโกะแทงจนบาดเจ็บ แถมโดนขังจนตายในถ้ำ หมดโอกาสทำในสิ่งที่เขาเห็นว่าถูกต้องไปซะก่อน

อิจิโร่มีกิเลสตัวใหญ่ที่สุดคือความโลภ เขาต้องการครอบครองตระกูลเท็นเงต่อไปโดยไม่สนใจวิธีการ เขายอมยกเมียตัวเองให้พ่อซั่มเช้าเย็นเพื่อแลกกับที่ดินของตระกูล ช่วยปกปิดความผิดของจิโร่ เป็นต้นคิดให้ขังอายาโกะไว้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตระกูล และเมื่อมีอำนาจมากขึ้นก็สั่งไล่คนงานออกโดยไม่ขอความเห็นชอบจากพ่อ แต่อิจิโร่ไม่ได้ฆ่าคนง่ายๆแบบไม่รู้สึกอะไรอย่างจิโร่ เขาเคยพลั้งมือฆ่าซูเอะไป และนั่นก็กลายเป็นความทรงจำที่หลอกหลอนตัวเขาไปตลอดชีวิต หลังจากฆ่าซูเอะไปแล้วอิจิโร่ก็ไม่เป็นอันทำอะไร และนำพาตระกูลตกต่ำลงไปทุกขณะ ถึงขนาดหมอยามาซากิต้องหาทางเอาเงินจากจิโร่ที่ทำธุรกิจจนร่ำรวย



ตอนจบที่เขาถูกขังอยู่ในถ้ำนั้น นอกจากต้องเข้ามารู้สึกแบบเดียวกับอายาโกะที่ตัวเองเอาไปขังแล้ว บทเพลงของซูเอะยังตามหลอกหลอนจนทำให้เขาต้องเสียสติไป เรียกว่ากรรมตามสนองอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยทีเดียว

สารวัตรเกตะ เป็นตัวละครเดียวที่มาจากระบบ star system (เอาตัวละครเดียวไปแสดงในหลายๆเรื่องที่ อ.เทะสึกะเขียน) เขาเป็นศิษย์ของสารวัตรทานุมะ ตำรวจสืบสวนที่เก่งกาจ ทานุมะล้มเหลวในการจับกุมจิโร่จากคดีที่โยโดยามะในปี 1949 จึงฝากฝังให้เกตะจับตัวจิโร่ให้ได้เป็นคำขอสุดท้ายก่อนเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไป ด้วยคำสั่งเสียนี้ทำให้เกตะยังคงตามล่าจิโร่แม้คดีจะเก่าเก็บจนหมดอายุความไปแล้วก็ตาม



ฮานาโอะเป็นลูกชายของสารวัตรเกตะ เป็นเด็กตัวน้อยที่ตามพ่อมาทำงานให้เห็นบ่อยๆตอนต้นเรื่อง (อายุมากกว่าอายาโกะ 3 ปี) 20 กว่าปีผ่านไปเขาเติบโตเป็นเด็กหนุ่มรูปหล่อ ทำงานทนายและมีจิตใจรักความถูกต้องที่สืบมาจากพ่อของเขา เขาได้พบและพูดคุยกับอายาโกะที่สวนสาธารณะ ฮานาโอะเข้าใจความรู้สึกของอายาโกะเป็นอย่างดี และรู้วิธีเข้าหาคนจิตใจบกพร่องอย่างอายาโกะ ทำให้เธอไม่รู้สึกกลัวเขาเหมือนคนอื่นๆ และทั้งสองก็เริ่มชอบพอกันในเวลาอันสั้น

แม่ของฮานาโอะเคยเป็นนักโทษคดีหมิ่นองค์จักรพรรดิ หลังเธออกจากคุกทานุมะก็แนะนำเธอให้เกตะรู้จัก แล้วทั้งสองก็แต่งงานกัน ฮานาโอะถามว่าพ่อแต่งงานเพราะสงสารแม่หรือเป็นเพราะรัก และไม่แน่ใจว่าที่เขารักอายาโกะเป็นไปเพราะความสงสารหรือเปล่า แต่พ่อก็ตอบว่าหลังจากอยู่ด้วยกันมันก็ไม่สำคัญแล้วหละ นั่นทำให้ฮานาโอะมั่นใจที่จะใช้ชีวิตกับอายาโกะ และช่วยเหลือเธอจากความเลวร้ายของตระกูล แต่เมื่อได้พบกับจิโร่ก็รู้ว่าชายหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่เป็นพี่ชายของเธอคนนี้เป็นคนดีกว่าที่เขาวาดภาพไว้มาก

ตอนที่อยู่กับฮานาโอะ อาการหวาดกลัวสังคมของอายาโกะมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริงพวกเขาสามารถไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ด้วยกันสองคน และแกล้งปล่อยตัวให้จิโร่ออกไปสืบหาองค์กรอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังคดีชิโมคาวะก็ย่อมได้ แต่เลือดรักความถูกต้องของฮานาโอะทำให้เขาไม่ยอมให้จิโร่หนีไป และพาอายาโกะมาถึงโยโดยามะเพื่อกล่อมให้จิโร่เข้ามอบตัว จนต้องประสบเหตุที่เป็นโศกนาฏกรรมไปพร้อมๆกับพวกเท็นเงคนอื่นๆด้วย

นับว่าน่าเสียดายที่ชีวิตของฮานาโอะจบลงไม่สวย แต่ถ้าแต่งงานกันคงต้องใช้ชื่อ อายาโกะ เกตะ ฟังดูน่าเกลียดพิลึก

โอเรียวตัวละครที่มีบทบาทมากในช่วงแรกเพราะอยู่กับอายาโกะตลอดเวลา เป็นตัวละครที่สร้างสีสันและความรู้สึกแปลกใหม่ได้เป็นอย่างดี เธอเป็นคนปัญญาอ่อน ในบล็อกแรกผมใช้คำว่าสติไม่ดี แต่ไม่ใช่ว่าบ้านะครับ โอเรียวเป็นคนปัญญาอ่อนคือเรียนรู้ช้า สติปัญญาไม่ดี คนทั่วไปเข้าใจว่าเธอเป็นลูกสาวของโกสุเกะชาวนาที่ทำงานให้บ้านเท็นเงมานาน แต่ที่จริงแล้วเธอเป็นลูกที่เกิดจากการที่ซาคุเอม่อนไปซั่มเมียของโกสุเกะต่างหาก ...และนั่นเป็นสาเหตุให้ซาคุเอม่อนอารมณ์ไม่ดีทุกครั้งที่เห็นโอเรียว เช่นเดียวกับที่อิจิโร่อารมณ์เสียเมื่อเห็นหน้าอายาโกะ โอเรียวเป็นตัวละครน่าสงสารที่ถูกจิโร่ฉวยโอกาสจากความปัญญาอ่อนเอาเปรียบโยนความผิดให้แบบไม่สามารถแก้ตัวให้ตัวเองได้ ไหนจะต้องรับบทโดนตบตีตลอดทั้งเรื่อง แต่นับว่าเธอยังโชคดีที่ถูกกดน้ำตายไปตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่ต้องทนทุกข์อยู่ 20 กว่าปีแบบอายาโกะ

โอเรียวร้องเพลงพื้นบ้านเขตอาโอโมริให้อายาโกะฟังบ่อยๆ และเป็นเพื่อนเล่นเพียงคนเดียวของอายาโกะ แต่จู่ๆโอเรียวก็ออกไปจากชีวิตและอายาโกะถูกจับมาขังไว้ในห้องใต้ดิน ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในวันเดียว กว่าเธอจะรู้ความจริงว่าโอเรียวถูกจิโร่ฆ่าตายก็อีก 23 ปีให้หลัง




ซาคุเอม่อนผู้นำตระกูลเท็นเง เป็นเฒ่าตัญหาจัด ไล่ฟันผู้หญิงไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ลูกสะใภ้หรือเมียคนงาน พอเห็นผู้หญิงคนไหนสวยๆก็จะแนะนำให้เป็นเมียลูกเพราะตัวเองก็หวังผลพลอยได้อยู่ โชคดีที่จิโร่ไม่ยอมแต่งงานตามใบสั่งพ่อเหมือนอิจิโร่ เพราะเขาไม่ได้สนใจทรัพย์สินของตระกูลอยู่แล้ว หลังจิโร่หนีคดีแถมนาโอโกะก็ถูกไล่ออกจากบ้าน ทำให้คนในบ้านลดลงเรื่อยๆ อำนาจต่อรองของซาคุเอม่อนก็ลดน้อยลง เพราะไม่เหลือคนที่จะแบ่งมรดกกับอิจิโร่เท่าไหร่แล้ว สิ่งดีของซาคุเอม่อนคือรักอายาโกะลูกสาวแท้ๆของตนเองด้วยใจจริง แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เพราะช่วงหลังอิจิโร่ใหญ่กว่า หลังซาคุเอม่อนล้มป่วยเป็นอัมพาตกลางเรื่อง ความหวังที่จะช่วยอายาโกะก็เลือนรางลงไปด้วย และสุดท้ายมรดกที่เขาทิ้งไว้ให้ซูเอะให้ดำเนินชีวิตกับลูกสาวต่อไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรทั้งซูเอะและอายาโกะได้

คนสุดท้ายที่แม้บทบาทจะน้อยแต่จะลืมเสียมิได้คืออิบะ แม่ของพวกจิโร่ อิบะเหมือนกับซูเอะคือเป็นหญิงยุคเก่าที่ก้มหน้ายอมรับการกระทำของสามีทุกอย่าง หรือกระทั่งซาคุเอม่อนมีเซ็กซ์กับหญิงอื่นไปทั่วก็ไม่มีปากมีเสียงจะต่อว่า อิบะไม่ต้องการจุดเปลี่ยนของชีวิตแต่จะอดทน เพราะเธอใช้ชีวิตอยู่กับสังคมแบบเดิมมานานมากและคงใช้ชีวิตที่ต้องอดทนอยู่แบบนี้ต่อไป ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่ภาพของอิบะกลับไม่ให้ความรู้สึกของผู้หญิงอ่อนแอที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง แต่กลับเป็นหญิงเข้มแข็งที่มั่นคงกับสถานะของตนเองโดยไม่หวั่นไหวมาทั้งชีวิต ตัวอิบะนั้นสะท้อนภาพคุณแม่ของทุกคนที่เฝ้ารอคอยลูกๆอยู่ที่บ้านตลอดมา ยินดีกับความสำเร็จของลูก เสียใจกับการทำผิดของลูก ทุกคนต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้คุณแม่ที่รักเราต้องเสียใจ จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าแม้พวกเท็นเงแต่ละคนจะมีปมต่างๆแตกต่างกันออกไปแต่ทุกคนล้วนเกรงใจแม่ วันที่จิโร่กลับมาบ้านนั้น เขาไม่กล้าสู้หน้าแม่แล้ววิ่งหนีไป แต่แม้เห็นแค่หลังแว้บเดียวอิบะก็จำได้ทันทีว่านั่นคือลูกชายของเธอ

สุดท้ายอิบะ เท็นเง ยังคงเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในบ้านอันว่างเปล่า เราไม่อาจทราบได้ว่าอนาคตของอายาโกะจะเป็นอย่างไร ภรรยาคนใหม่ของอิจิโร่ยังอยู่บ้านนี้หรือไม่ หรืออาจมีใครไปมีลูกที่อื่นไว้อีก แต่ตราบเท่าที่อิบะยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ยังคงรอพวกลูกๆอยู่ที่บ้านหลังนี้อย่างแน่นอน



ภาษาที่พวกเท็นเงใช้นั้นเป็นภาษาถิ่น แสดงถึงความเป็นคนโยโดยามะ (ฉบับภาษาอังกฤษแปลเป็นภาษาของรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐ) แต่ตอนแปลไทยถ้าผมใช้ภาษาใต้ โทนเรื่องคงเปลี่ยนจากเครียดเป็นตลก หรือไม่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง เลยขอใช้ภาษาพูดแบบปกตินะครับ


แบ็คกราวด์ของเรื่องนี้พูดถึงญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลก ในที่นี้คือสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งสิ้นสุดลงในปี 1945 (เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 1949) ญี่ปุ่นนั้นถูกสหรัฐเข้าควบคุมตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลก จนถึงปี 1952 โดยประเทศพันธมิตรพยายามทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศประชาธิปไตย กระจายอำนาจออกจากส่วนกลาง ลดกำลังทางทหาร และก่อตั้งเป็นกองกำลังป้องกันตนเอง สภาพจักรวรรดิของญี่ปุ่นก็ถูกทำให้กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่อยู่ใต้ระบอบประชาธิปไตย บทบาทของทหารและองค์จักรพรรดิลดลง ตึกรามบ้านช่องเติบโตขึ้นมาก ในการ์ตูนหลายเรื่องเราได้เห็นช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังแพ้สงคราม เอาที่ใกล้ตัวหน่อยก็พ่อของโนบิตะนั่นละครับ แต่หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นไปญี่ปุ่นได้ราวกับฟื้นขึ้นมากลายเป็นอีกประเทศหนึ่ง



ชนบทของญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก


ตัว อ.เทะสึกะเองก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาด้วยสายตาของตนเอง วัยเด็กอาจารย์ก็เหมือนกับเด็กญี่ปุ่นคนอื่นๆ ซึ่งถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร เขาอ่อนแอกว่าคนอื่นๆ และเกลียดสงครามมากๆถึงขนาดหนีค่ายกลับมาบ้าน แต่คุณแม่ก็บอกให้อดทนอีกนิดแล้วช่วงเวลาเลวร้ายจะผ่านพ้นไป ตอนอยู่ค่ายเขาเคยติดเชื้อจนเกือบต้องตัดแขนทิ้ง แต่คุณหมอก็ช่วยรักษาจนหายขาด ทำให้ อ.เทะสึกะสำนึกในบุญคุณหมอท่านนั้นและตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบแพทย์มา ถึงอย่างไรเขาก็ทิ้งการ์ตูนที่รักที่สุดมาตลอดชีวิตไม่ลง สุดท้ายก็เขียนการ์ตูนเป็นอาชีพหลักมาหลายสิบปี และ อ.เทะสึกะได้ถ่ายทอดประสบการณ์หมอลงในผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่อง "แบล็คแจ็ค" ซึ่งตัวเอกของเรื่องก็ได้รับการรักษาจากหมอคนหนึ่งจนรอดจากความตายมาได้ และก้าวเดินในเส้นทางของหมอ เช่นเดียวกับตัว อ.เทะสึกะ

เรื่องราวของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกที่อาจารย์ใช้ชีวิตมานั้นได้ถูกถ่ายทอดอย่างละเอียดในเรื่องอายาโกะ ทั้งสภาพบ้านเรือนตั้งแต่ยุคที่ อ.เทะสึกะ ยังเด็ก ความเป็นอยู่ของผู้คน สถานการณ์การเมืองต่างๆ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ข่าวดังในยุคนั้น การปฏิรูปการถือครองที่ดิน และอื่นๆ ที่นำพาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ญี่ปุ่น จากประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบสองพันปี ถูกเปลี่ยนกลายเป็นอีกประเทศหนึ่งภายในช่วงเวลาไม่กี่สิบปี โดยเฉพาะยิ่งจากสายตาของอายาโกะ ช่วงเวลาที่เธอถูกกักขังตัดขาดจากโลกภายนอกนั้น เป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนแปลงไป โลกที่เธอได้ออกมาเห็นอีกครั้งจึงราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง เหมือนกับ อ.เทะสึกะได้หลับตาลงนึกถึงอดีตในยุค 40s แล้วลืมตากลับมามองยุค 70s ซึ่งเป็นช่วงเวลาปัจจุบันที่กำลังเขียนเรื่องนี้อยู่ แม้จะแตกต่างและยากที่จะทำความคุ้นเคย แต่ก็สดใสและอบอุ่นมากขึ้น ที่สำคัญคือมันเป็นโลกที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยตั้งแต่นี้ไป

"โลกมันเปลี่ยนไปมาก พวกเราเองก็แก่มากแล้ว" เป็นประโยคที่อิบะคุยกับสารวัตรเกตะตอนจบเรื่อง แสดงให้เห็นถึงสายตาของคนที่เห็นโลกมาตั้งแต่ก่อนสงครามจนถึงสิ้นสุดสงคราม และรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

คราบเลือดและซากปรักหักพังของสงครามได้ถูกล้างให้เลือนไปจากประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับอดีตที่อายาโกะต้องก้าวข้ามไป ความขัดแย้งของโลกภายนอกที่ดำเนินมาเรื่อยหลังสงครามก็เหมือนกับบรรยากาศแห่งความตายอันน่าขนลุกที่อายาโกะต้องทนอยู่กับมันตลอด 23 ปี ถ้าอดทนผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้ก็จะพบกับแสงสว่างที่รออยู่ปลายทาง ญี่ปุ่นที่ก้าวสู่ยุค 70s ซึ่งความบาดหมางคลี่คลายลงไปและผู้คนกลับมาดำเนินชีวิตในสังคมที่สงบสุขนั้น ก็เป็นเช่นเดียวกับอายาโกะที่ก้าวออกจากห้องที่มืดมิดและความเลวร้ายของครอบครัวไปสู่อิสระภาพ





ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาเป็นเวลายาวนาน (2 เดือน)
ขอขอบคุณ อ.เทะสึกะ ที่เขียนการ์ตูนเรื่องเยี่ยมนี้ให้พวกเราอ่าน
ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ Vertical ที่นำเรื่องนี้มาตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ผมได้มีโอกาสอ่านการ์ตูนเรื่องเยี่ยมนี้อีกครั้ง หลังจากเขียนไปแล้วถึง 40 ปี
และหาก VBK หรือสำนักพิมพ์ใดๆในประเทศไทย จะนำการ์ตูนเรื่องอายาโกะ รวมทั้งผลงานชิ้นเยี่ยมอื่นๆของ อ.เทะสึกะ ที่ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ในประเทศไทย มาพิมพ์ให้นักอ่านชาวไทยได้อ่านกันถ้วนหน้าก็จะขอขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ


แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ข้อมูลอายาโกะในเว็บ Tezuka in English //tezukainenglish.com/bm/series/series_a/series-ayako/index.shtml เพจอายาโกะในวิกิพีเดียภาษาอิตาลี //it.wikipedia.org/wiki/Ayako ญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง //factsanddetails.com/japan.php?itemid=526&catid=16&subcatid=110 คดีชิโมยามะ //en.wikipedia.org/wiki/Shimoyama_incident สงครามเกาหลี //en.wikipedia.org/wiki/Korean_War
Create Date :18 มกราคม 2556 Last Update :7 สิงหาคม 2560 21:47:27 น. Counter : 18561 Pageviews. Comments :77