bloggang.com mainmenu search
ตอนนี้ตั้งเป้าหมายว่าปีนึงอัพบล็อกการ์ตูนเจ๋งๆสัก 2-3 อัน และอันนึงจะต้องเกี่ยวข้องกับธีมบล็อกที่ใช้ในปีนั้นๆ
แหงนขึ้นไปดูหัวบล็อกปีนี้ผมใช้ภาพอิลลัสต์ที่มีคนนำผลงานของปรมาจารย์การ์ตูนญี่ปุ่น อ.เทะสึกะ โอซามุ มาวาดใหม่ให้เป็นลายเส้นการ์ตูนปัจจุบัน ทำฟีเจอร์คล้ายๆเกมไฟติ้งโดยใช้ตัวละครจากการ์ตูนหลายสิบเรื่อง (จากที่ อ.เขียนไว้หลายร้อยเรื่อง) และให้ชื่อเกม (ปลอมๆ) นี้ว่า "Symphony of the Blood"




Symphony of the Blood เป็นผลงานของ เค สุวาเบะ (Kei Suwabe) นักวาดโดจินมือฉมังที่มีผลงานมากมาย ตามที่แสดงบนเว็บส่วนตัวแห่งนี้ครับ //keisuwabe.shikisokuzekuu.net/

อ.เทะสึกะ โอซามุ เป็นผู้ถูกขนานนามว่าเทพเจ้าแห่งมังกะ ผู้เปิดยุคการ์ตูนญี่ปุ่นให้กลายเป็นการ์ตูนกระแสหลักของโลก และมีผลงานมังกะทั้งสิ้นกว่า 700 เรื่อง
บล็อกนี้คงไม่ขอพูดถึงเนื้อหาของเกม Symphony of the Blood (เพราะมันไม่มีจริงน่ะสิ!) แต่จะขอแนะนำตัวละครของ อ.เทะสึกะ หลากหลายซีรี่ยส์ ผ่านภาพอิลลัสต์ยุคใหม่ดีกว่าครับ แฟนเมืองไทยคงเคยผ่านหูผ่านตากับผลงานดังๆอย่าง แบล็คแจ็ค, วิหคเพลิง, เจ้าหนูปรมาณู, สามตาปาฏิหารย์, และอีกหลายเรื่องที่วิบูลย์กิจนำมาจัดทำเป็นภาษาไทย แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ แต่มันดาร์คเกินจนไม่น่าเอามาพิมพ์ขาย อย่าง อายาโกะ, คิริฮิโตะ, อะลาบาสต้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเขียนต้นยุค 70s ซึ่งเป็นช่วงที่ผลงานปรมาจารย์มังกะคนนี้อ่านแล้วปวดตับที่สุด หรือเรื่องที่หมิ่นเหม่ต่อเสียงวิพากษ์วิจารย์ เช่นบุดดา ซึ่งเขียนถึงพุทธประวัติโดยตรง และบางเรื่องก็ห่วยจนไม่น่าเอามาพิมพ์ก็มี ซึ่งหากใครสนใจอ่านผลงานเหล่านี้แต่อ่านญี่ปุ่นไม่ออกก็มีสำนักพิมพ์ Vertical นำงานของ อ.เทะสึกะมาพิมพ์ฉบับภาษาอังกฤษหลายเรื่องครับ ลองหาดูตามคิโนะคุนิยะได้

บล็อกนี้ขอเรียงตัวละครตามลำดับเรื่องที่ตัวละครนั้นๆปรากฏตัวนะครับ ขอเริ่มจากซีรี่ยส์ที่มีการพิมพ์เป็นภาษาไทยซึ่งเราๆคุ้นเคยกันก่อน ในวงเล็บคือชื่อฉบับภาษาอังกฤษ


Astro Boy (1952 - 1968) 18 เล่มจบ


อะตอม (Atom) จากเรื่องเจ้าหนูปรมาณู (Astro Boy)
ผลงานสร้างชื่อของ อ.เทะสึกะ ตั้งแต่ยุค 50s สมัยสงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งสงบใหม่ๆ เรื่องราวของหุ่นยนต์ที่มีพละกำลังมหาศาลที่สร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเหล่าร้าย ดราม่าตรงที่หุ่นตัวนี้ ดอกเตอร์เท็นมะผู้สร้าง สร้างขึ้นมาทดแทนลูกชายที่เสียชีวีตไป แต่ทำยังไงหุ่นยนต์ก็ไม่มีทางเหมือนมนุษย์เลยทอดทิ้งอะตอมไป ก่อนจะได้ดอกเตอร์โอจาโนมิซุ นำมาเลี้ยงดูต่อมา
การ์ตูนเรื่องนี้เป็นต้นกำเนิดของโชเน็นแอ็คชั่นหลายๆเรื่อง และโด่งดังเป็นพลุแตกหลังได้เป็นอนิเมชันซีรี่ยส์ยุคแรกๆที่ได้รับความนิยมของญี่ปุ่นด้วย อ.นาโอกิ นำตอนหนึ่งของเจ้าหนูปรมาณูไปรีไรท์ ให้ชื่อเรื่องว่า PLUTO ถือเป็นการตีความใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาผลงานรีไรท์ของเทะสึกะด้วย
ถ้าจับมาทำเป็นเกมไฟติ้งจริงๆตัวละครอื่นๆคงไม่ค่อยพอมือ เพราะน้องอะตอมแกมีพลังถึงหนึ่งแสนแรงม้า หลังจากแพ้พลูโตก็ถูกปรับให้มีพลังเพิ่มเป็นหนึ่งล้านแรงม้า


Black Jack (1973 - 1983) 22 เล่มจบ


แบล็คแจ็ค (Black Jack) จากเรื่อง แบล็คแจ็ค หมอปีศาจ (Black Jack)
หมอแบล็คแจ็ค หมอเถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตและเก็บค่ารักษาราคาแพงหลักล้านเยน แต่ฝีมือการรักษาที่หาคนเทียบได้ยากทำให้มีลูกค้าหลากหลายกรณีกรูกันเข้ามาหาบ้าง แบล็คแจ็คไปเจอคนป่วยโดยบังเอิญบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการที่หมอทั่วไปแทบหมดหวัง แต่ก็มักไม่เหนือบ่ากว่าแรงของหมอปีศาจคนนี้เท่าไหร่ แบล็คแจ็คเคยรักษามาหมดทั้งคน สัตว์ มนุษย์โบราณ วิญญาณ หรือแม้แต่มนุษย์ต่างดาว น่าจะเป็นรองเพียงหวังต้าเล้งของโรงเรียนลูกผู้ชายเพราะรายนั้นชุบชีวิตคนได้ด้วย
อ.เทะสึกะ จบแพทย์และมีประสบการณ์ประทับใจคุณหมอที่เคยช่วยไว้ตอนเด็กๆ เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนผลงานที่กลายเป็นมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ขึ้นมา แม้การ์ตูนเรื่องนี้จะเขียนขึ้นหลัง อ.เทะสึกะ เพิ่งข้ามพ้นดาร์คโหมดมาไม่นาน แต่แบล็คแจ็คก็เป็นตัวละครที่มีชีวิตรันทด เพราะตอนเด็กเขาถูกระเบิดเป็นชิ้นๆพร้อมแม่ หมอฮอนมะได้ช่วยชีวิตแบล็คแจ็คที่เป็นเหมือนเศษของเล่นพังๆจนค่อยๆกลับมาเป็นเหมือนคนปกติท่ามกลางความช่วยเหลือของหมอฮอนมะแพทย์เถื่อน, เพื่อนที่สละผิวหนังให้, พยาบาลที่คอยดูแล ทำให้แบล็คแจ็คใช้ชีวิตเพื่อตอบแทนคนเหล่านี้ ถึงภายนอกจะดูหน้าเลือด แต่ถ้าเขาถูกใจใครก็แทบจะรักษาให้ฟรีๆเลยทีเดียว
ด้านต่อสู้ แบล็คแจ็คมีมีดหมอเป็นอาวุธลับและล่วงรู้กลไกต่างๆของร่างกายมนุษย์เป็นอย่างดี มีฝีมือชกต่อยระดับที่ลุยกับแก๊งค์อันธพาลได้ และที่สำคัญที่ทำให้รอดมาจนป่านนี้ก็ความอึดนี่แหละ การ์ตูนเรื่องนี้ชนะรางวัลโคดันฉะครั้งที่ 1 ด้วยนะ


พิโนโกะ (Pinoco) จากเรื่อง แบล็คแจ็ค หมอปีศาจ (Black Jack)
ลูกมือของแบล็คแจ็ค (แต่เจ้าตัวออกปากว่าเป็นภรรยา) เกิดมาเป็นซีสต์งอกอยู่ในร่างของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แต่แบล็คแจ็คผ่าตัดออกมาและเลี้ยงดูเป็นเหมือนลูกสาว เนื่องจากประกอบขึ้นมาด้วยอวัยวะเทียมเป็นส่วนใหญ่ เขาจึงให้ชื่อเธอว่าพิโนโกะคล้ายพิน็อคคิโอ้ ถึงจะตัวกระเปี๊ยกเป็นเด็กเล็ก แต่ถ้าถือว่าพิโนโกะเกิดมาพร้อมกับหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของร่างก็ต้องนับว่าพิโนโกะอายุ 18 แล้ว
คำพูดติดปาก - "แอคโซนบริเค" เป็นคำที่พิโนโกะคิดขึ้นมาเอง ไม่มีความหมายอะไร


คิริโกะ (Kiriko) จากเรื่อง แบล็คแจ็ค หมอปีศาจ (Black Jack)
"หมอแห่งความตาย" คู่แข่งของแบล็คแจ็ค เป็นหมอที่รับจ้างฆ่าผู้ป่วยโดยไม่ทรมานเพื่อให้พ้นทุกข์ หลังเห็นความตายในสงครามมามากคิริโกะคิดว่าการช่วยให้ผู้ป่วยพ้นทุกข์เป็นสิ่งที่เขาควรทำ ซึ่งนั่นขัดกับอุดมคติของแบล็คแจ็คที่เชื่อว่าหมอต้องพยายามช่วยคนป่วยอย่างสุดความสามารถ ถึงจะเป็นตัวร้ายแต่คิริโกะไม่ได้ชั่วร้ายอะไร และหลายๆตอนก็ร่วมมือกับแบล็คแจ็คช่วยหาทางรักษาโรคด้วย


บิวะมารุ (Biwamaru) จากเรื่อง แบล็คแจ็ค หมอปีศาจ (Black Jack) และ โดโรโระ ดาบล่าพญามาร (Dororo)
ยังไม่ปรากฏตัวบ่อยพอที่จะจับเข้า star system ของ อ.เทะสึกะได้ แต่บิวะมารุก็เป็นตัวละครสำคัญที่ปรากฏตัวทั้งในเรื่องแบล็คแจ็คและโดโรโระ โดยในเรื่องแบล็คแจ็คเขารับบทเป็นหมอฝังเข็มตาบอดพเนจร และการใช้เข็มของเขาสามารถรักษาได้ทุกโรค (จนกระทั่งมาเจอผู้ป่วยที่มีอาการกลัวเข็ม แบล็คแจ็คจึงเข้าวินไปในที่สุด)
ถ้าจับลงเกมไฟติ้งก็ดูเหมาะสมดี บิวะมารุมาดให้แบบพ่อเฒ่าแสนเก๋าในสังเวียน หน้าตาเหมือนโวโร่จากสตรีทไฟเตอร์ 3 เลย


Phoenix (1967 - 1988) 16 เล่มจบ


กาโอ (Gao) จากเรื่อง ฮิโนโทริ วิหคเพลิง (Phoenix)
กาโอ ตัวละครหลักจากฮิโนโทริ ภาคโฮโอ เคยเป็นโจรในยุคนาราซึ่งผันตัวมาเป็นช่างแกะสลักพระพุทธรูปซึ่งเข้าถึงศิลปะและธรรมชาติ ทางเดินของเขาจะสวนทางกับตัวละครหลักอีกคนในภาคเดียวกันคืออากาเนะมารุ ชายผู้มั่นคงในศาสนา แต่ตอนหลังถูกอวิชชาครอบงำจนกลายเป็นพวกบ้าวัตถุและต้องพบจุดจบที่น่าสมเพช
ด้วยจมูกอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้เราเชื่อมโยงเขากับตัวละครที่เป็นลูกหลานได้ไม่ยาก ซึ่งกาโอเป็นบรรพบุรุษของ ดร.ซารุตะในเรื่องเดียวกันนี้เอง


โรบีต้า (Robita) จากเรื่อง ฮิโนโทริ วิหคเพลิง (Phoenix)
โรบีต้า หุ่นยนต์จากฮิโนโทริ ภาคคืนชีพ เรื่องเกิดจากชายชื่อเลออนประสบอุบัติเหตุและถูกใส่สมองเทียมทำให้เขาเห็นคนเหมือนก้อนดิน แต่กลับมองหุ่นยนต์สวยสุดๆ เลออนตกหลุมรักจิฮิโระหุ่นรุ่นเก่า เขายินยอมถ่ายความทรงจำลงไปในร่างจิฮิโระแต่หน่วยความจำไม่พอ เลยต้องย้ายไปร่างใหม่เป็นหุ่นยนต์ตัวใหญ่ที่ชื่อโรบีต้า หลังจากนั้นโรบีต้าก็ผลิตเป็นแมสโปรดัคต์
หุ่นรุ่นนี้ยังผลิตและใช้งานไปอีกหลายร้อยปี โดยพวกมันยังมีความทรงจำสมัยเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่ และเชื่อว่าตัวเองเป็นมนุษย์


ฮาริมะ (Harima) จากเรื่อง ฮิโนโทริ วิหคเพลิง (Phoenix)
ฮาริมะ ตัวละครหลักจากฮิโนโทริ ภาคพระอาทิตย์ เป็นทหารหนุ่มชาวเกาหลี (ตอนนั้นคืออาณาจักรแพ็คเจ) ที่ถูกทหารจีนจับตัวและถูกถลกหนังแล้วสวมหนังหัวหมาป่าจนรวมเป็นเหมือนศีรษะของตัวเองจริงๆ เขากลับไปยามาโตะพันธมิตรของแพ็คเจและรวบรวมกำลังคนและภูติที่เป็นที่นับถือของชาวยามาโตะมายาวนาน เพื่อตั้งรับการมาของเทพเจ้าจากศาสนาใหม่ (ซึ่งก็คือพุทธ!) ภาคนี้เป็นฮิโนโทริที่ต่อสู้กันแบบมาร์เวล จบเรื่องด้วยการขึ้นครองราชย์ของโออามะและสถาปนาประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่นับถือพระอาทิตย์เป็นเทพเจ้าสูงสุด
ตอนนี้ถือว่าปิดฉากผลงานที่เขียนมาอย่างยาวนานได้ลงตัว แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ อ.เทะสึกะตั้งใจ เพราะ อ.ร่างภาคสุดท้ายเอาไว้ ชื่อภาค "โลกมนุษย์" ซึ่งไทม์ไลน์ของภาคอดีตและภาคอนาคตน่าจะมาชนกันที่ปัจจุบันพอดี แต่ยังไม่ได้เขียน อ.เทะสึกะก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเสียก่อน


Dororo (1967 - 1968) 4 เล่มจบ


เฮียคิมารุ (Hyakkimaru) จากเรื่อง โดโรโระ ดาบล่าพญามาร (Dororo)
ถึงชื่อเรื่องจะเป็นโดโดโระ แต่ตัวเอกของเรื่องก็น่าจะเป็นเฮียคิมารุนี่แหละ (เหมือนเรื่องโคโคที่ตัวเอกคือจอห์นบาธ) พ่อของเฮียคิมารุถวายอวัยวะลูกชายให้ปีศาจทั้ง 48 ตน เพื่อแลกกับความรุ่งโรจน์ของตนเอง แล้วจับลอยไปตามแม่น้ำ จนหมอฮอนมะมาพบเด็กทารกที่ไร้อวัยวะคนนี้เข้า และสร้างอวัยวะเทียมให้เขา
เฮียคิมารุมีพลังที่เรียกภูติผีปีศาจมาหาตนเองทำให้เขาถูกขับไล่จากหมู่บ้าน เขาตัดสินใจออกเดินทางกำจัดปีศาจทั้ง 48 ตัว เพื่อเอาอวัยวะคืนมา (แต่กำจัดไปได้ 6-7 ตัวเรื่องก็จบเสียก่อน) นับเป็นการ์ตูนยุคเก่าที่สนุกอีกเรื่อง และพวกปีศาจต่างๆออกแบบและใช้บทบรรยายได้ตื่นตาน่าขนลุก ถ้าได้มือมังกะยุคใหม่มารีไรท์กันอีกรอบน่าจะสนุกสุดๆ เอ้า นักวาดการ์ตูนทั้งหลาย อย่ามัวแต่แย่งกันเขียนแบล็คแจ็คกันอยู่เลย มาเขียนโดโรโระมั่งซิ!
นอกจากฝีมือดาบที่ฝึกฝนมาอย่างดีแล้วเฮียคิมารุยังมีอาวุธลับเช่นฉีดกรดออกจากร่องขาหรืออาวุธขว้างต่างๆ ด้วยรูปลักษณ์สุดเซอร์แบบซามุไรสปิริตทำให้เป็นอีกตัวละครที่เหมาะแก่การจับเข้าเกมไฟติ้งเป็นอย่างมาก
ส่วนโดโรโระคือเด็กขโมยที่เขาไปพบกลางทางเพราะตั้งใจมาขโมยดาบ ถึงจะเปิดเผยตอนหลังว่าเป็นเด็กผู้หญิงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกโมเอะขึ้นมาแต่อย่างใด ตอนอ่านผมลุ้นให้มันตายกลางเรื่อง แต่ไม่สำเร็จ


ชิรานุอิ (Shiranui) จากเรื่อง โดโรโระ ดาบล่าพญามาร (Dororo)
เด็กผู้ควบคุมฉลามซึ่งเป็นหนึ่งใน 48 ปีศาจที่เฮียคิมารุต้องจัดการ


The Three-Eyed One (1974 - 1978) 13 เล่มจบ


ชาราคุ (Sharaku) จากเรื่อง 3 ตา ปาฏิหารย์ (The Three-Eyed One)
เด็กหนุ่มเผ่าสามตาผู้เหลือรอด ยามปกติเขาจะเอาพลาสเตอร์ปิดตาที่สามที่หน้าผาก มีบุคลิกอ่อนแอ ขี้แพ้แบบสุดๆ แต่เมื่อเอาพลาสเตอร์ออกเห็นตาที่สามเขาจะกลายเป็นเกรียนเทพ ซึ่งไม่ว่าบุคลิกไหนก็น่ารำคาญทั้งนั้น การ์ตูนเรื่องนี้ส่วนใหญ่เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับการไขปริศนาอารยธรรมโบราณต่างๆ
ด้วยสายเลือดของเผ่าสามตาที่เคยปกครองโลกด้วยโทคโนโลยีสูงล้ำ ทำให้ชาราคุโหมดสามตามีสติปัญญาแก้ปัญหาระดับอัจฉริยะ ประดิษฐ์ของต่างๆได้ดังใจคิดเหมือนเออิชิรวมร่างกับเท็นไซแมน ใช้พลังจิตได้ แถมยังเกรียนสุดๆอีกต่างหาก


Princess Knight (1953 - 1956) 2 เล่มจบ


แซฟไฟร์ (Sapphire) จากเรื่อง ริบบ้อน จ้าวอัศวิน (Princess Knight)
แซฟไฟร์เป็นหญิงที่ถูกเลี้ยงมาแบบผู้ชายเพื่อให้สืบทอดบัลลังก์ของพ่อ ไม่ให้ตกไปอยู่ในมืออำมาตย์ชั่ว เนื้อเรื่องมีกลิ่นเทพนิยายอยู่ และโด่งดังในหมู่เด็กผู้หญิงสมัยก่อนเป็นอย่างมาก เห็นได้ว่า อ.เทะสึกะก็เขียนแนวโชโจรุ่งเหมือนกันนะ


Triton of the Sea (1969 - 1971) 4 เล่มจบ


ไตรตัน (Triton) จากเรื่อง ไตรตัน ลูกทะเล (Triton of the Sea)
ผู้เหลือรอดคนสุดท้ายของเผ่าไตรตันที่รอดจากการโจมตีของพวกโปเซดอน และใช้ชีวิตวัยเด็กในสังคมมนุษย์ หลังรู้ชาติกำเนิดตัวเองก็กลับลงสู่ทะเลพร้อมเพื่อนโลมาเพื่อกำจัดบุตรของโปเซดอนทั้ง 33 คน เป็นการแก้แค้นกันไปมาของสองเผ่า โปเซดอนเรื่องนี้หน้าตาเหมือนวัวอ้วนๆ แถมสืบทอดชื่อโปเซดอนกันมาหลายรุ่นด้วยนะ
สำหรับเรื่องนี้เพิ่งพิมพ์ฉบับภาษาไทยครบชุดไปไม่นาน หาตามร้านหนังสือชั้นนำไม่ยากครับ


Don Dracula (1979) 3 เล่มจบ


แดรคคูล่า (Dracula) จากเรื่อง แดร็คคูล่าต๊อง (Don Dracula)
การ์ตูนเบาสมองกับเรื่องราวของดอนแดร็คคูล่าและช็อคโกล่า ลูกสาวผีดูดเลือด ที่ต้องมาใช้ชีวิตในญี่ปุ่น หลบหนีการตามล่าของแวนเฮลซิ่งซึ่งเป็นริดสีดวง คุณสมบัติทางกายของตัวเอกเรื่องนี้เหมือนแดร็คคูล่าในตำนานทุกประการ โดนแสงจนกลายเป็นฝุ่นก็บ่อยครั้ง แต่แก้ง่ายๆด้วยการเอาเครื่องดูดฝุ่นดูดมารวมในโลงสักพักก็ฟื้นกลับมาใหม่


Midnight (1986 - 1987) 6 เล่มจบ


มิดไนท์ (Midnight) จากเรื่อง Midnight
ความรู้สึกแรกหลังได้อ่านเรื่องนี้คือนี่มันแบล็คแจ็คเวอร์ชั่นคนขับแท็กซี่ชัดๆ มิดไนท์ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ แต่สามารถพาแขกไปส่งถึงที่หมายได้แม้จะเป็นหนทางวิบากขนาดไหน เขามีรถดัดแปลงที่คุณสมบัติไม่แพ้แบทโมบิลของแบทแมน สามารถแปลงร่างวิ่งสะเทินบกสะเทินน้ำ แถมควบคุมระยะไกลได้ด้วย ในการ์ตูนเรื่องนี้มีแบล็คแจ็คเข้ามาแจมด้วยตอนนึง งานภาพของเรื่องนี้เข้าใกล้การ์ตูนยุคใหม่ เพราะเป็นเรื่องท้ายๆที่ อ.เทะสึกะเขียนก่อนเสียชีวิตในปี 1989


Ambassador Magma (1965 - 1967) 3 เล่มจบ


แม็กม่า (Magma) จากเรื่อง หุ่นอภินิหาร แม็กม่า (Ambassador Magma)
ยักษ์สีทองที่พ่อมดใต้พิภพสร้างขึ้นมาเพื่อหยุดยั้งโกอา ตัวโกงจากอวกาศไม่ให้ยึดครองโลก การ์ตูนเรื่องนี้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนต์ซีรี่ยส์คนแสดงยุคเดียวกับอุลตร้าแมนด้วยนะ


โกอา (Goa) จากเรื่อง หุ่นอภินิหาร แม็กม่า (Ambassador Magma)
ตัวโกงจากอวกาศที่ต้องการยึดครองโลก (เป็นพล็อตที่เข้าใจง่ายดีสินะ)


The Amazing 3 (1965 - 1966) 3 เล่มจบ


W3 จากเรื่อง W3 (The Amazing 3)
สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่ถูกสภาอวกาศส่งมาเป็นตัวแทนจับตาดูโลกมนุษย์ว่าพวกมนุษย์สมควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่ ทั้งสามปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตของโลก คือ กระต่าย เป็ด ม้า เพื่อจับตาดูมนุษย์ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็สรุปว่ามนุษย์นั้นน่าอนุรักษ์ไว้เพราะมีจุดดีอยู่ (กูนึกแล้ว!) สำหรับผม W3 เป็นผลงานที่ไม่มีอะไรน่าประทับใจ


Unico (1976 - 1979) 2 เล่มจบ


ยูนิโก้ (Unico) จากเรื่อง Unico
การ์ตูนแนวตาหวานอีกเรื่องของ อ.เทะสึกะ ตัวเอกคือยูนิโก้ ลูกม้ายูนิคอร์นที่ถูกพระเจ้าไล่ล่าแต่มีสายลมตะวันตกคอยปกป้อง เมื่อพระเจ้าตามหาตัวยูนิโก้จนพบ สายลมก็จะพัดยูนิโก้ไปที่อื่นและลบความทรงจำทั้งหมดไป ทำให้ยูนิโก้ได้เดินทางไปสร้างเรื่องราวในที่ใหม่ๆมากมาย


Kimba the White Lion (1950 - 1954) 4 เล่มจบ


เลโอ (Leo) จากเรื่อง สิงห์น้อยเจ้าป่า (Kimba the White Lion)
เลโอเป็นสิงโตเผือกที่เกิดบนเรือที่ขนแม่ของเขาไปให้คณะละครสัตว์ แม่ของเขามักเล่าถึงเกียรติภูมิของปัญจาพ่อของเลโอซึ่งเป็นเจ้าป่าที่สง่างามแล้วก็ตั้งใจเลี้ยงให้เลโอเติบโตแข็งแกร่งเหมือนพ่อ แต่เรือดันล่ม เลโอรอดมาได้คนเดียวและเข้ามาในเมืองเรียนรู้สังคมมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็สามารถพูดคุยกับสัตว์ต่างๆได้ด้วย
ชื่อภาษาอังกฤษของเลโอคือคิมบ้า (Kimba) สำหรับชื่อเรื่องนั้นมีเรียกกันหลากหลายตามผู้พิมพ์ทั้ง Kimba the White Lion / Jungle Emperor / Leo การ์ตูนเรื่องนี้เป็นผลงานในยุคแรกของ อ.เทะสึกะ และเป็นแรงบันดาลใจของไลอ้อนคิงที่โด่งดังของดิสนียส์ด้วย


Vampire (1966 - 1969) 4 เล่มจบ


ทอปเป (Toppei) จากเรื่อง Vampires
แวมไพร์ในเรื่องนี้คือเหล่ามนุษย์ก่อนวิวัฒนาการมีกฎหมายและวัฒนธรรม ต้องออกล่าเหยื่อตามแต่ใจอยาก พวกมันมีรูปร่างกึ่งสัตว์ป่าและล่ามนุษย์เป็นอาหาร ทอปเปคือแวมไพร์ที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าได้ เขาออกจากหมู่บ้านแวมไพร์เข้ามาอยู่ในสังคมมนุษย์ โดยสมัครเป็นลูกมือนักเขียนการ์ตูนที่ชื่อ เทะสึกะ โอซามุ ด้วย แต่เขาก็ต้องคอยระวังมนุษย์ที่คอยตรวจสอบหาตัวตนที่แท้จริงของเขา




หมดไปครึ่งหนึ่งสำหรับตัวละครที่นักอ่านชาวไทยรู้จักกันดี ที่จริงยังมีอีกหลายเรื่อง เช่นตำนานหงอคงผจญภัย ที่มีพิมพ์ในประเทศไทย แต่ เค สุวาเบะไม่ได้เอาไปวาด ก็ขอข้ามไปเลยแล้วกันครับ

อีกครึ่งหนึ่งขอยกยอดไปอัพหนหน้า (ซึ่งฤกษ์อัพบล็อกอยู่ราวๆปลายเดือน ก.พ. แล้วแต่ความขยันของเจ้าของบล็อก o () o) จะแนะนำตัวละครจากซีรี่ยส์ที่พวกเราไม่ค่อยรู้จักกันบ้างครับ
Create Date :14 กุมภาพันธ์ 2555 Last Update :7 สิงหาคม 2560 22:23:23 น. Counter : Pageviews. Comments :35