bloggang.com mainmenu search


เรื่องราวคราวนี้หันมาดูการ์ตูนมืดมนกันบ้าง (แล้วบล็อกนี้มันเคยมีการ์ตูนสว่างๆด้วยเรอะ?) มาจะขอกล่าวถึงผลงานของ อ.โออิวะ ผู้หยิบเอานิยาย Welcome to the N.H.K. ของทัตสึฮิโกะ ทาคิโมโตะ อดีตฮิคกี้ตัวจริงผู้เขียนเรื่องราวกึ่งประสบการณ์จริงของตนเอง มาสรรค์สร้างเป็นมังกะแนว dark comedy (แปลเป็นไทยว่าตลกร้าย อ่านแล้วขำทั้งน้ำตา กร๊ากกก! ทำไมเรื่องนี้มันบัดซบแบบนี้ Smiley) ผสมผสานเรื่องราวความรักของตัวเอกนิโหน่ย




Welcome to the N.H.K. ลักลอบเข้าเมืองไทยครั้งแรกโดยค่าย Ant (ที่ตอนนี้ขึ้นมาดูแสงอาทิตย์ ณ โลกเบื้องบนในชื่ออื่นแล้ว) โดยให้ชื่อไทยว่า "นังหนูตัวร้ายกับนายโหลยโท่ย" ฟังอย่างกับเลิฟคอเมดี้เกาหลี ใครซื้อมาเพราะคาดหวังจะอ่านเรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กสงสัยอ่านไปแค่สองตอนต้องปาทิ้ง หลังจากออกมาได้ 6 เล่มก็ต้องแน่นิ่งไปเพราะ SIC นำเข้าอย่างถูกกฎหมายแล้ว (จริงๆเขาไลเซนต์เข้าตั้งแต่ตอน Ant ออกเล่ม 4 แล้วนะเพ่นา) แต่ฝีมือคุณอาสุคนแปลของ Ant คนนี้เชื่อขนมกินได้ - -b ซื้อมันทั้งสองชุดก็ไม่เสียหายครับ (แต่ป่านนี้ของ Ant น่าจะโดนเก็บหมดแล้ว)

SIC เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง และออก Welcome to the N.H.K. ในชื่อ "สมาคมคนหนีโลก" มาครบทั้ง 8 เล่มแล้ว หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไปครับ ข้อดีของชุด SIC ก็เรื่องการคงภาพตามต้นฉบับไร้การตัดทอนบดบังตามมาตรฐานค่ายนี้ เสียตรงที่เล่ม 6 ไม่ยอมแถมเกมโป๊แบบของญี่ปุ่น



เรื่องนี้เกี่ยวกับชีวิตแสนบัดซบของเหล่าตัวละครหลัก ทั้งที่อยู่ในสังคมอันอุดม แต่พวกเขาก็จะพาตัวเองกลับเข้าไปหาปัญหาต่างๆนานาไม่รู้จบ หลายคนอ่านไปเรื่อยๆอาจสงสัยว่าไอ้พวกนี้มันเป็นห่าอะไรของมันฟระ?! ...พวกมันเป็นคนโรคจิตครับ เรื่องนี้เป็นการ์ตูนที่ใช้คนโรคจิตดำเนินเรื่องอยู่แล้ว เหล่าตัวละครมีปัญหาได้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ บ้างก็ช่วยส่งเสริมเกื้อกูลกัน บ้างก็พากันลงเหว (?) นี่แหละทำให้ Welcome to the N.H.K. เป็นการ์ตูนที่เดินเรื่องได้สนุกน่าลุ้นน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งแบบไม่จำเป็นต้องอาศัยอภินิหาร

เรื่องราวและปัญหาเกิดขึ้นรอบตัว ซาโต้ ทัตสึชิโระ ตัวเอกของเรื่องผู้เป็นฮิคิโคโมริ (หนีสังคม) หรือที่เรียกสั้นๆว่าฮิคกี้ (อย่าเอาไปตีกับโอตาคุนะจ๊ะ ไม่เกี่ยวกันเลย) เรื่องราวเริ่มขึ้นตอนที่ นากาฮาระ มิซากิ นางเอกผู้ชั่วช้าที่สุดในประวัติศาสตร์การ์ตูนบนดินผู้นี้ได้มาพบกับซาโต้ และบอกกับซาโต้ว่าเธอจะช่วยบำบัดให้เขาเลิกจากการเป็นคนเก็บตัวเอง

ฟังดูเหมือนเป็นโอกาสดีที่พระเอกจะได้พ้นสภาพน่าทุเรศของตัวเองไปซะที แต่แน่ละ ใครจะไปยอมรับง่ายๆว่าตัวเองมีปัญหา หลังปฏิเสธมิซากิไปซาโต้ก็พยายามหาอะไรให้ตัวเองทำ จนมาเจอ ยามาซากิ คาโอรุ รุ่นน้องสมัยม.ปลาย รายนี้ก็ล้มเหลวจากการใช้ชีวิตในสังคมจนหนีความจริงและกลายเป็นโอตาคุตัวพ่อ แต่เขาก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่อย่างหนึ่งคือการเป็นครีเอเตอร์ (ฟังดูดีสุดๆเลยใช่ไหมล่ะ) ซึ่งสิ่งที่โอตาคุผู้นี้จะชวนซาโต้มาทำด้วยนั่นก็คือเกมโป๊ (อ้าวเฮ้ย) แถมเป็นเกมโป๊โลลิค่อนด้วย... พอเข้ามาในวังวนฮิคกี้โลลิเอโรเกะโอตะ (อะไรมันจะตกต่ำขนาดนี้ฟะเนี่ย... อ๋อ ยังครับ นี่เพิ่งเริ่มเล่มแรกครับ) ถึงปากจะบอกว่าไอ้พวกโลลิคอนมันไม่ใช่มนุษย์! แต่ซาโต้ก็เริ่มหลงใหลไปกับสเน่ห์ของภาพโป๊เด็กประถมจนถอนตัวไม่ขึ้น

ซาโต้ได้พบกับรุ่นพี่ คาชิว่า ฮิโตมิ หญิงที่เขาหลงรักมาตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ รุ่นพี่ก็รู้ว่าซาโต้เป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว ซาโต้อยากกลับมาเจอกับรุ่นพี่อีกครั้งตอนที่เขาได้กลับสู่สังคมเป็นคนปกติ เมื่อสำนึกถึงความตกต่ำของตัวเองแล้ว ซาโต้ก็ยอมเข้าคอร์สบำบัดของมิซากิ โดยหารู้ไม่ว่ามันจะพาชีวิตของเขาให้ตกต่ำเลยคำว่าตกต่ำลงไปอีก...


Welcome to the N.H.K.

N.H.K. (Nihon Housou Kyoukai) คือสมาคมกระจายเสียงแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอุดมไปด้วยอนิเมมากมาย ซึ่งซาโต้ประชดว่านี่มันองค์กรชั่วร้ายที่คอยปลูกฝังความเป็นโอตาคุให้ผู้คน ชัดๆ จริงๆแล้วมันคือ Nihon Hikikomori Kyoukai (สมาคมฮิกกี้แห่งประเทศญี่ปุ่น) ต่างหาก!!

"ฉันมันไอ้ขี้แพ้ โลกทั้งโลกเกลียดฉัน ฉันมันไม่มีอะไรดี ฉันมันน่าสมเพช… แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของฉัน! ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะความชั่วร้ายอะไรบางอย่างที่คอยซุ่มอยู่เบื้องหลังนี่แหละ!"

ซาโต้ตัวเอกของเรื่องเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยมีเพื่อน เขาไม่ชอบออกไปสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอื่นเท่าไหร่ และอาการก็หนักเข้าเรื่อยๆจนรู้สึกหวาดกลัวการพบปะ รู้สึกราวกับคนรอบข้างพากันรังเกียจตัวเขาอยู่ตลอดเวลาจนอยากจะหลบหน้าไปให้ไกลๆ ซาโต้ออกจากมหาวิทยาลัยตอนเรียนอยู่ชั้นปีสาม มาหมกตัวอยู่ในอพาร์ทเมนท์ที่แม่เขาเช่าไว้เป็นเวลา 4 ปีเต็ม ซึ่งก็นับเป็นประสบการณ์ตรงของคุณทาคิโมโตะ ผู้เขียนนิยาย Welcome to the N.H.K. ต้นฉบับของการ์ตูนเรื่องนี้ ทาคิโมโตะดรอปจาก Tokyo’s Senshu University ตอนอยู่ปีสอง หมกตัวอยู่ในห้องและเขียนไลท์โนเวลออกมาสามเรื่อง คือ Negative Happy Chainsaw Edge, Welcome to the NHK! และ The Chojin Project ซึ่ง Welcome to the N.H.K. นี้เป็นผลงานที่เขาได้ถ่ายทอดความรู้สึกอันย่ำแย่ในโลกไร้ทางออกของฮิคิโคโมริผ่านตัวอักษร

อ.โยชิโตชิ อาเบะ เป็นคนวาดปกของนิยายทั้งสามเรื่อง และนี่ทำให้ผมสนใจผลงานที่ชื่อ Welcome to the N.H.K. นี้ขึ้นไปอีก ก็ อ.อาเบะ เจ้าของผลงาน Serial Experiments Lain ไซไฟเรื่องโปรดของผมเป็นคนวาดปกทั้งทีนี่นา Smiley




(ภาพซ้าย) คุณทาคิโมโตะ เจ้าของผลงาน Welcome to the N.H.K. (ภาพขวา) ภาพปกนิยาย Welcome to the N.H.K. หลอกหลอนสไตล์ อ.อาเบะ

ตอนที่สร้างอิมเมจของซาโต้ตัวเอกของเรื่องนี้นั้น คุณทาคิโมโตะตั้งใจจะสร้างตัวเอกที่มีสองลักษณะที่ขัดแย้งกันในตัวเองสุดๆ นั่นคือต้องมีความเป็นพระเอกที่จะดึงอารมณ์ร่วมของผู้อ่านไปด้วยกัน และต้องเป็นคนไม่ได้เรื่อง (อ้าวเอ๊ะ) แล้วฉากถ่ายรูปเด็กประถมพร้อมร้องไห้กับความน่าสมเพชของตัวเองนั่นละที่เป็น ฉากที่สร้างอิมเมจของซาโต้ให้ชัดเจนขึ้นมาได้ จากนั้นคุณทาคิโมโตะก็ได้จับเอาความเป็นพระเอกจิตตกเป็นแกนเรื่อง สร้างอิมเมจของตัวละครหลักอีกสองตัวอย่างมิซากิและยามาซากิ แล้วสร้างเรื่องให้มีลำดับการเดินเรื่องที่ชัดเจนขึ้นมาจนกระทั่งจบเรื่อง




"เป็นไงล่ะ ตัวฉันในตอนนี้มันน่าทุเรศมากเลยใช่ไหมล่ะ? ทั้งที่แต่ก่อนฉันเคยฝันว่าจะเป็นครูนะ ฉันอยากทำตัวเองให้เป็นประโยชน์กับสังคมและใช้ชีวิตอย่างใสสะอาด ไม่ใช่ตัวฉันที่โสโครกแบบนี้" อ่านตอนนี้แล้วจะเศร้าก็เศร้า จะสมเพชก็สมเพช ทั้งที่เคยมีความฝันถึงอนาคตที่สดใส แต่ความผิดปกติที่เกิดกับจิตใจเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้มันจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่หักเหชีวิตเราให้ดำดิ่งลงไปรวดเร็วจนคาดไม่ถึงเชียวละ ไอ้ความผิดปกติบางอย่างเนี่ย ไม่เป็นกับตัวก็ไม่เข้าใจหรอกเนอะ

นึกถึงโดราเอม่อนตอนกำปั้นสปาต้ากับคฑาเลย โนบิตะอยากให้โดราเอม่อนเลิกกลัวหนูเพราะไม่เห็นว่าหนูจี๊ดๆมันน่ากลัวตรงไหน แถมจับกรอกม่อนยากำปั้นสปาต้าที่ทำให้กลัวหนูมากขึ้นไปอีกสามเท่าอีก ม่อนเลยเอาเอาคฑาแตะสลับตัวให้ตะมาลองกลัวหนูดูซะมั่ง ผลคือโนบิตะหลอนหนูจนช็อคไปเลย บางอย่างต้องมาเป็นดูถึงจะรู้ซึ้งจริงๆ คุณทาคิโมโตะที่เป็นฮิคกี้ตัวจริงเสียงจริงจึงถ่ายทอดความบัดซบของชีวิตแบบนี้ได้เยี่ยมยอดนัก


ไดโจบุได๋ แต่ไม่เป็นไรหรอก มีมิซากินางฟ้าผู้ที่พร้อมจะช่วยเหลือซาโต้อยู่ตรงนี้ทั้งคน




...มันใช่แบบนั้นจริงๆเรอะ?...


ปัญหาของมิซากิ

พูดถึงพระเอกที่เป็นฮิคกี้ชีวิตแหลกเหลวไปแล้วคราวนี้มาถึงตัว "นางเอก" ของเรื่องนี้บ้าง มิซากิเรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่โรคจิตยิ่งกว่าซาโต้หรือยามาซากิ และน่าจะเป็นคนที่มีปัญหาหนักที่สุดในเรื่องนี้ด้วยซ้ำ

แรกเริ่มนั้นมิซากิแนะนำให้ซาโต้เข้าร่วมโครงการบำบัดโรคฮิคิโคโมริ ซึ่งก็ฟังดูเป็นทางออกที่ดี แต่หลังผ่านการบำบัดแบบมั่วๆซั่วๆไปหลายเดือนก็ไม่มีวี่แววว่าจะช่วยให้ซาโต้หายจากอาการเก็บตัวซักเท่าไหร่ แถมมิซากินับวันก็ยิ่งแสดงอาการแปลกๆออกมาเรื่อยๆ หลายครั้งดูเหมือนเธอจะต้องการซาโต้มากกว่าที่ซาโต้ต้องการเธอซะอีก เช่นพอรู้ว่าซาโต้ชอบตัวละครโมเอะก็ไปติดหางแมวหูแมวมาร้องเมี้ยว พอรู้ว่าซาโต้ชอบสาวน้อยอ่อนแอก็ไปเอาผ้าพันแผลมาพันแล้วบอกว่า "ชั้นก็อ่อนแอนะเนี่ย" (ซึ่งแน่นอนว่าซาโต้มองด้วยความสมเพช – ชี้หัวแล้วถามว่าข้างในเนี้ยคงกลวงโบ๊ะเลยใช่มะ?) บางทีก็ถึงขนาดกุเรื่องชีวิตโหดร้ายในวัยเด็กของตัวเอง (ทั้งที่ไม่เคยมีอะไร) แถมยังทำรอยที่แขนให้ดูเหมือนพยายามฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจอีก




ปัญหาของมิซากิคือ Borderline personality disorder (BPD) หรืออาการบุคลิกภาพแปรปรวนขั้นรุนแรง คนพวกนี้ต้องการความสนใจเกินจำเป็น เข้าสังคมลำบาก มักมีอาการซึมเศร้าและทำร้ายตัวเอง มิซากิต้องการให้คนอื่นมาให้ความสำคัญ และซาโต้ที่ดูเป็นคนเหลวแหลกห่วยแตกสุดๆตั้งแต่แว่บแรกที่เห็นนี่หละ เหยื่อชั้นดีที่จะทำให้โปรเจ็คนางฟ้าของเธอเป็นรูปธรรมขึ้นมา ว่าแล้วมิซากิก็เริ่มหว่านล้อมซาโต้ให้เข้ารับการบำบัดจากเธอ ทำตัวเป็นผู้โปรดสัตว์มาช่วยเหลือฮิคกี้จากขุมนรกอันมืดมิด ทั้งหมดนี้เพื่อให้ซาโต้เห็นความสำคัญของเธอโดยไม่คิดจะปล่อยให้พระเอกน่าสมเพชของเราได้เงยหน้าอ้าปากในสังคมจริงๆอย่างที่ตอแหลไว้หรอก ทั้งรุ่นพี่คาชิวะหรือพ่อแม่ที่จะเป็นแรงผลักดันให้ซาโต้พยายามทำตัวให้ดีขึ้น เพื่อให้คนที่เขารักมีความสุขน่ะ... มิซากิจะขัดขวางให้ถึงที่สุด เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะยังคงเอื้อมมือจากสรวงสวรรค์ลงมายังซาโต้หนอนขยะคนนี้

"มิซากิจังคือนางฟ้าของฉัน…"

"ซาโต้คุงเป็นหนอนขยะของฉัน…"

"ฉันไม่ปล่อยให้หนีไปไหนเด็ดขาด!"

(นี่แหละความสัมพันธ์ของพระเอกxนางเอกที่บิดเบี้ยวที่สุดในโลก 2D)

แต่ถึงจะไม่มีมิซากิก็ใช่ว่าปัญหาของซาโต้จะหมดไป ทั้งการพยายามหาเงินมาใช้หนี้ค่าห้อง ค่าโรงพยาบาล ขอให้ที่บ้านส่งเงินให้ ถูกหลอกเข้าร่วมธุรกิจ MLM จนหมดตัว รุ่นพี่สุดที่รักก็ไปแต่งงานกับชายหนุ่มสุดเพอร์เฟ็คต์ ฯลฯ ก็แทบทำให้ซาโต้ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ก็จะเป็นยามาซากิ (ที่ต้องการสร้างเกมโป๊ร่วมกัน) และมิซากิ (ที่อยากได้ซาโต้ไว้เหยียบย่ำ) ที่ช่วยค้ำจุนให้พระเอกของเราประคองชีวิตน่าสมเพชลุ่มๆดอนๆมาตลอด จะเรียกว่าต่างก็เป็นคนที่ต่างฝ่ายไม่สามารถขาดได้ก็ได้ (แต่ในทางแปลกๆนะ)




มิซากิเข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนไม่ได้เลยออกมากลางคัน หลายครั้งที่พยายามกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ (หลายครั้งพอๆกับที่ซาโต้พยายามแก้โรคฮิคกี้ให้หาย) ก็จะล้มเหลวตลอด ทั้งที่เพื่อนๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ทุกครั้งที่มิซากิคิดว่าตัวเองด้อยกว่าหรือไม่เจ๋งเท่าคนอื่น มันก็ทำให้เธอสู้หน้าใครไม่ได้ และหนีออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีก พอความสัมพันธ์กับเพื่อนๆเริ่มจะดีขึ้น มิซากิก็จบความสัมพันธ์นั้นลงด้วยเหตุผลที่ว่า "จากประสบการณ์ของฉัน พอพ้นช่วงที่ดีที่สุดไปแล้วทุกอย่างจะดิ่งลง เพราะงั้นฉันก็เลยฉวยลาออกจากโรงเรียนซะเลย" (เอวัง)

เป้าหมายของมิซากิคืออะไรกันแน่?

ถ้าปล่อยให้ความผิดปกตินี้ควบคุมชีวิตไปเรื่อยๆมิซากิคงพังไม่ผิดกับซาโต้ แต่เธอก็มีวิธีการสุดยอดที่จะหนีจากสภาพย่ำแย่ของตัวเองนี้อยู่แล้ว นั่นคือขั้นตอนสุดท้ายของโปรเจ็คต์นางฟ้า...

ซาโต้และมิซากิเริ่มหาอะไรทำจนเข้าสังคมได้เกือบเหมือนคนปกติ ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งสองคนต้องออกจากอพาร์ทเมนท์ที่เคยมีความหลังร่วมกันมากมาย ในช่วงหลังความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นจนความรักเริ่มผลิบาน ซาโต้เสนอขอแต่งงาน แต่เรื่องนี้มันไม่ลงเอยแฮปปี้เอนดิ้งง่ายๆหรอก ....มิซากิเขวี้ยงแหวนหมั้นทิ้งไปหน้าตาเฉย ซึ่งอีกหลายเดือนต่อมาซาโต้ก็ได้มาพบมิซากิที่เก็บตัวอยู่ในห้องใต้หลังคาของอพาร์ทเมนท์ที่กำลังจะถูกทุบทิ้ง แล้วเขาก็เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำแบบนั้น

เป้าหมายของโปรเจ็คต์ก็คือการทิ้งความสุข

"ถ้าพระเจ้าเป็นผู้สร้างสรรค์ทุกสิ่งขึ้นมามันก็เป็นความผิดของพระเจ้านั่นละ ที่ต่อให้ฉันจะโหยหาความรักสักเพียงไหนก็ไม่มีวันถูกรัก ที่ทุกคนรังเกียจฉันมันก็เป็นความผิดพระเจ้าอีกนั่นแหละ หากวันไหนฉันได้ความสุขมาครบครองแล้วละก็ ฉันจะทิ้งความสุขนั้นไปซะเอง ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นมันก็เหงาใช่ไหมล่ะ? มันคงเจ็บปวดใจมากๆเลยใช่ไหมล่ะ? แล้วถ้าฉันทนต่อความเจ็บปวดนั้นได้ ก็คงไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว ฉันน่ะอยากเป็นคนเข้มแข็ง ไม่พ่ายแพ้แม้แต่ต่อพระเจ้า ฉันอยากเป็นคนที่ต่อให้เหงาสักแค่ไหนก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวได้"

ซึ่งนั่นจะเป็นการบำบัด BPD ขั้นเด็ดขาด แต่เธอก็ไม่สามารถทิ้งความสุขนั้นได้ลง มิซากิลงทุนถึงขนาดไปตามเก็บแหวนที่ตัวเองเขวี้ยงไปกลับมา โปรเจ็คต์ล้มเหลวไปแล้ว ทั้งสองคนคงโกหกใส่กันนับครั้งไม่ถ้วนจนไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีมันคือความรักจริงหรือเปล่า แต่ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไป "ฉันไม่อยากไปไหนอีกแล้ว ขอบคุณมากนะที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด"

ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยวแต่เหนียวแน่นอย่างน่าประหลาดจริงๆ ...





เรื่องของซาโต้กับรุ่นพี่คาชิว่า

"คนที่สอนให้เรารู้จักความสุขและทุกข์ของความรัก และยังเป็นคนสอนให้รู้จักความอ่อนแอของตัวเราเอง รุ่นพี่คาชิว่า... ตอนนี้เธอไปยังที่ๆเราเอื้อมไม่ถึงแล้ว ถึงมันจะทำให้เจ็บปวด แต่นั่นแหละที่ทำให้เราเข้าใจว่าโลกนี้ยังมีสิ่งสำคัญที่ไม่อาจประเมินค่าได้อยู่"

ความสัมพันธ์ของเจ้าซาโต้ที่ดูดีหน่อยเห็นจะเป็นความผูกพันกับ คาชิว่า ฮิโตมิ รุ่นพี่สาวสวยที่นิสัยออกจะแปลกนิดๆ เธอเป็นไม่กี่คนที่เข้าหาซาโต้เด็กที่ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวที่โรงเรียนบ่อยๆ ฮิโตมิเป็นคนคิดมากจนถูกแฟนเก่าทิ้ง ซาโต้ก็เข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้ แต่สิ่งที่ทั้งสองมีเหมือนกันก็คือต่างเห็นใจและต้องการให้อีกฝ่ายมีความสุข ฮิโตมิไม่อยากให้ซาโต้ต้องอยู่คนเดียว และซาโต้ก็อยากจะปกป้องผู้หญิงจิตใจอ่อนแอคนนี้ หลังซาโต้เผ่นออกจากมหาวิทยาลัยมาเส้นทางของทั้งสองคนก็ไม่ได้สวยงามอะไร ซาโต้เก็บตัวเป็นฮิคกี้มาสี่ปี ส่วนฮิโตมิจบมาทำงานให้บริการมวลชน แต่ความเครียดจากการทำงานทำให้ต้องพึ่งยาแล้วก็กลายเป็นสาวขี้ยาไปเรียบร้อย




เจ้าซาโต้จับพลัดจับผลูเข้าร่วมออฟมีตติ้งฆ่าตัวตายโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่อง แต่ซาโต้ก็สามารถกล่อมให้ทุกคนเลิกคิดที่จะตายได้สำเร็จ ยกเว้นกรณีของฮิโตมิที่คิดว่าไม่มีใครเห็นความสำคัญของตัวเธอ ตอนนี้ซาโต้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองขึ้นมาทันที สาเหตุที่เขาต้องการช่วยเธอคนนี้เพราะเขารักเธอไงล่ะ! และในเวลาเดียวกับที่ซาโต้สารภาพรักนั้น.... คุณโจงาซากิก็โทรมาขอฮิโตมิแต่งงานพอดี (เวรกรรม) คราวนี้ทุกคนในมีตต้องช่วยกันห้ามไม่ให้ซาโต้ฆ่าตัวตาย (ฮา) แล้วก็รู้ว่าปัญหาของซาโต้คนที่คอยให้กำลังใจคนอื่นเมื่อตะกี้น่ะ มันหนักหนากว่าปัญหาของพวกอยากตายทุกคนรวมกันซะอีก

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ฮิโตมิรู้สึกผิดที่ทอดทิ้งซาโต้ไปออกเรือน และเวลาอยู่กับซาโต้ ฮิโตมิจะเป็นตัวของตัวเองมากกว่า เธอรู้ดีว่าตัวเองก็มีความรู้สึกดีให้รุ่นน้องคนนี้ไม่น้อย จนออกข้อเสนอแปลกๆว่า "เรามาเป็นชู้กันดีมั้ย" แต่ซาโต้เห็นว่ารุ่นพี่ที่เขารักตอนนี้มีความสุขแล้ว จึงเสียสละยอมเดินจากมาแต่โดยดี "ขอให้มีความสุขกับคุณโจงาซากินะครับ" ตอนนี้ซาโต้แมนมาก แต่เอาจริงๆพอเห็นรุ่นพี่เดินกับคนอื่นทีไรก็ยังหักใจไม่ลงอยู่ดีนั่นแหละ

ทั้งช่วงเวลาที่ทั้งสองนั่งคุยเรื่องแปลกๆในห้องชมรม ทั้งคืนเทศกาลรอบกองไฟที่โรงเรียน รวมถึงวันที่ฮิโตมิพาซาโต้ขึ้นไปดูพระอาทิตย์อัศดงบนดาดฟ้า ล้วนเป็นความทรงจำล้ำค่าของพวกเขา ซาโต้รู้ดีว่าถ้าเขาไม่ลืมเรื่องของรุ่นพี่คาชิว่า ชีวิตของพวกเขาคงไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ แต่เขาจะเป็นอิสระจากความทรงจำที่แสนงดงามเหล่านั้นได้เมื่อไหร่กันนะ? ทางด้านฮิโตมิหลังแต่งงานก็ไม่ได้มีความสุขเท่าไหร่ แม้คุณโจงาซากิจะแสนดีขนาดไหนแต่เขาก็ไม่ใช่คนที่เธอรักแล้วชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลวก็ทำให้ฮิโตมิได้มีโอกาสมาพบกับซาโต้อีกครั้ง

ทั้งสองพักอยู่ด้วยกันช่วงเวลาหนึ่ง ฮิโตมิพยายามบำบัดเพิ่มพลังใจให้ซาโต้หายจากอาการหนีโลก เธอต้องการช่วยซาโต้รุ่นน้องที่น่าสงสารคนนี้จากใจจริง ในขณะเดียวกันก็อยากให้ซาโต้ช่วยทำให้เธอเข้มแข็งขึ้น เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับไปมีปัญหาที่เกิดจากความฟุ้งซ่านของตัวเองอีก ทั้งสองคนรู้ดีว่าหากอีกฝ่ายเข้มแข็งขึ้นเมื่อใด พวกเขาก็จะต้องสูญเสียความอบอุ่นนี้ไป แต่ถ้าไม่ร่วมมือช่วยกันแล้ว พวกเขาก็ไม่มีวันเติบโตขึ้น




สุดท้ายฮิโตมิก็กลับไปกับสามี และซาโต้ก็กลับมายังอพาร์ทเมนต์เดิม ถึงการทอดทิ้งช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดไปมันจะทำใจลำบาก แต่บางครั้งคนเราก็ต้องทำเพื่อก้าวต่อไปเหมือนกัน ...


ความแตกต่างระหว่างฉบับการ์ตูนและนิยาย

- ในฉบับนิยายรุ่นพี่คาชิว่าเป็นตัวละครที่แทบไมมีบทเลย เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของซาโต้กับฮิโตมิถูกขยายขึ้นมาในฉบับการ์ตูน และทำเอาหลายคนรวมทั้งผมลุ้นให้เจ้าซาโต้เป็นชู้เมียคนอื่นไปซะเลย (คงดีกว่าตกอยู่ในวังวนนางมารมิซากิอะนะ)
- สาวขายตรงโคบายาชิ และพี่ชายฮิคกี้ ไม่ปรากฏตัวในนิยาย
- นานาโกะแฟนสาวทอมบอยของยามาซากิไม่ปรากฏตัวในนิยาย แต่มีการพูดถึงนิดหน่อย
- ในนิยายไม่มีตอนที่ซาโต้ไปเรียนสร้างการ์ตูน, ซาโต้ไปอากิบะ, มิซากิปลอมเป็นแฟนตอนที่แม่ซาโต้มาเยี่ยม, ซาโต้ติดเกมออนไลน์, ธุรกิจขายตรง, ชมรมฆ่าตัวตาย, มิซากิเจอซาโต้อยู่กับฮิโตมิ รวมทั้งตอนจบที่แตกต่างกันด้วย

ซึ่งข้อแตกต่างที่เพิ่มเข้ามาก็สนับสนุนเนื้อเรื่องให้สนุกมากขึ้นไปอีก นอกจากตอนจบแล้วดูท่าทางคุณทาคิโมโตะที่ดูแลเนื้อเรื่องในส่วนของการ์ตูนด้วยตัวเองก็พอใจกับการดำเนินเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้ ที่ดูจะสมบูรณ์กว่าฉบับนิยายด้วยซ้ำ


ตอนจบในฉบับนิยาย

ซาโต้เดินทางไปยังบ้านเกิดของมิซากิหลังรู้ว่าเธอกำลังจะฆ่าตัวตาย เมื่อได้พบกับมิซากิ ซาโต้ได้บอกกับเธอถึงการมีอยู่ของ NHK องค์กรชั่วร้ายที่จะทำลายชีวิตของคนหนุ่มสาว ซึ่งสำหรับซาโต้มันคือ Nihon Hikikomori Kyoukai (สมาคมฮิกกี้แห่งประเทศญี่ปุ่น) แต่มิซากิบอกว่ามันคือ Nihon Hikan Kyoukai (สมาคมมองโลกในแง่ร้ายแห่งประเทศญี่ปุ่น) และซาโต้ก็ได้เรียนรู้จากเกมของยามาซากิว่าวิธีการจัดการ NHK เพียงหนทางเดียวก็คือ Special Attack ด้วยการสละชีวิตตัวเองเพื่อกำจัดบอสผู้ชั่วร้ายนี้ (ไอ้บ้า) ว่าแล้วเขาก็กระโดดลงเหวซะงั้น แต่ดันไปติดตาข่ายที่เขาขึงไว้กันคนตกลงมา ในเมื่อตายไม่สำเร็จมิซากิก็พาซาโต้กลับมาที่บ้านเกิดของเธอ ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่

มิซากินิยามคำว่า NHK ของเธอใหม่ เธอบอกกับซาโต้ว่ามันคือ Nihon Hostage-exchange Kyoukai สมาคมซึ่งสมาชิกจะต้องผูกชีวิตไว้ด้วยกัน หากมีคนหนึ่งตาย คนอื่นจะต้องตายตามไปด้วย ถ้าอยากให้คนอื่นรอด ตัวเองก็ต้องพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไป สมาคม NHK นี้มีมิซากิเป็นประธาน และซาโต้เป็นสมาชิกคนแรก หลังซาโต้ลงชื่อเข้าร่วมสมาคมแล้วมิซากิก็บอกกับเขาว่า "ยินดีต้อนรับเข้าสู่ N.H.K. นะ"


เรื่องของเหล่าคนโรคจิตที่ชวนให้คนดูทั้งรู้สึกสมเพชและอยากเอาใจช่วยให้พวก เขาได้พบกับความสุขเสียทีก็จบลงอย่างสมบูรณ์ไปแล้วทั้งนิยาย, อนิเม และมังกะ มีอีกหลายๆประเด็นที่น่าพูดถึง เช่นโลก 2D ของยามาซากิ, เรื่องของโคบายาชิและพี่ชาย รวมทั้งครอบครัวที่แสนดีของซาโต้ แต่ผมขี้เกียจเขียน (อ้าวเลว) ใครสนใจติดตามเรื่องราวของพวกเขาก็หาฉบับการ์ตูนอ่านได้ตามแผงหนังสือชั้นนำ หรือใครที่มีอยู่แล้วว่างๆลองหยิบมาอ่านๆดูอีกรอบ มีเรื่องอะไรจะคุยก็แวะเวียนเข้ามาบล็อกนี้ได้นะครับ Smiley


WELCOME TO THE NHK!

Create Date :17 กุมภาพันธ์ 2554 Last Update :7 สิงหาคม 2560 22:30:38 น. Counter : Pageviews. Comments :31