จัดอันดับตามใจชอบครั้งนี้ว่าด้วยของวิเศษของโดราเอม่อนที่ทุกท่านคุ้นเคยกันดีครับ

ของวิเศษ - อุปกรณ์จากโลกอนาคตที่โดราเอม่อนควักออกจากกระเป๋าหน้าท้องในแต่ละตอน เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ

ถึงจะเป็นการ์ตูนไร้พิษภัยที่อ่านได้ทุกเพศทุกวัย ให้ข้อคิดและความรู้ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับว่าของวิเศษบางอย่างนั้น "ร้ายกาจ" อันที่จริงในกระเป๋าโดราเอม่อนนั้นมีทั้งป้อมปืนใหญ่ไร้เทียมทาน กองทหารคุ้มกัน ปืนทำลายรถถัง หรือกระทั่งนิวเคลียร์ทำลายโลก แต่หนนี้เราจะไม่พูดถึงอาวุธเอาฮาพวกนั้นครับ ของวิเศษที่ว่าร้ายกาจนี่คือมันสามารถส่งผลลัพธ์ที่น่าสะพรึงกลัวได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นของวิเศษที่มีอานุภาพแบบอาวุธสงครามเลย หากมันไปอยู่ในมือของยางามิ ไลท์ ไม่ใช่โนบิตะ โลกของการ์ตูนเรื่องนี้คงถึงกาลอวสานภายใน 1 ตอน

วันนี้ผมขอเสนอ 6 อันดับของวิเศษที่โหดสัสที่สุดของโดราเอม่อน โดยไม่สนใจเจตนารมณ์ของผู้แต่งครับ เอ้า ตามมาเลยพวกเรา~

เย้~~



อันดับ 6 หัวกอร์กอน



ดัดแปลงมาจากตำนานกอร์กอนที่สามารถสาปสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นหินได้ ของวิเศษชิ้นนี้สามารถปล่อยแสงใส่สิ่งมีชีวิตให้แข็งเป็นหินเฉพาะส่วน หากดึงหัวงูด้านบน ของที่กลายเป็นหินจะกลับสู่สภาพเดิม โดราเอม่อนใช้ของวิเศษนี้ทำให้ขาของโนบิตะกลายเป็นหิน เพื่อจะได้ไม่เมื่อยตอนถูกทำโทษยืนหน้าชั้น (ขี่ช้างจับตั๊กแตนมากๆครับม่อนครับ) แต่เกิดความผิดพลาดโนบิตะทำหัวกอร์กอนตกลงไปในป่า ทำให้สิ่งมีชีวิตแถวๆนั้นกลายเป็นหินไปหมด ครูของโนบิตะกับโดราเอม่อนก็ถูกมันเล่นงานด้วย จนโนบิตะกับไจแอนท์และซูเนโอะต้องช่วยกันตั้งทีมล่าหัวกอร์กอน แล้วก็โชคดีที่ไจแอนท์โดนแสงทำให้เป็นหิน ตกลงมาทับกอร์กอนน็อคพอดี


ถึงโดราเอม่อนจะเอ่ยปากคอนเฟิร์มว่านี่คือของวิเศษที่น่ากลัวที่สุด แต่เชื่อผมเถอะ ว่าในกระเป๋ามันมีอะไรที่น่ากลัวกว่านี้เยอะ...


อันดับ 5 ยาเพิ่มจำนวน



เปิดตอนนี้อย่างปัญญาอ่อนด้วยปัญหาโลกแตกของโนบิตะ "ฉันมีขนมอยู่หนึ่งชิ้น แต่ถ้ากินเข้าไปแล้วมันจะหมด ถ้ามันอร่อยก็คงน่าเสียดายที่กินหมดไปแล้ว แต่ถ้าไม่กินก็คงไม่รู้ว่ามันอร่อยหรือไม่อร่อย" (ลึกล้ำดั่งปรัชญาเซน ..ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ พี่ก๋าเอาไปเขียนบล็อกได้นะ อิอิ)

โดราเอม่อนทีวีไดเร็ควันนี้จึงขอเสนอ "ยาเพิ่มจำนวน" ที่สามารถเพิ่มจำนวนสิ่งของที่หยดยาลงไปเป็นทวีคูณทุกๆ 5 นาที นั่นคือจากขนมหนึ่งชิ้นจะกลายเป็นสองชิ้น และถ้ารออีก 5 นาทีก็จะเพิ่มจากสองเป็นสี่ชิ้น... ฟังดูไม่มีอะไรน่ากลัวใช่ไหมครับ? ท่านกำลังดูถูกเลขยกกำลังมากเกินไป ครั้งนี้โนบิตะย่ามใจว่าจะรอให้ขนมเพิ่มเยอะๆแล้วค่อยกินจนขนมเพิ่มเป็น 8 ชิ้น แต่เขากินไม่หมด ขนมที่เหลือยังคงเพิ่มมาเรื่อยๆ เรียกเพื่อนมากินก็แล้วอะไรก็แล้วก็ยังไม่หมด จนโนบิตะต้องแอบเอาขนมที่เหลือไปทิ้งแล้วไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น

...แต่ขนมก็ยังเพิ่มไปไม่หยุดยั้ง หลังโดราเอม่อนคำนวณให้ฟังว่าแค่ 2 ชม. ก็มีขนมเพิ่มเป็น 19,709,200 ชิ้น แล้วถ้าทิ้งข้ามวัน ขนมจะท่วมโลก! โนบิตะก็รับสารภาพพร้อมชี้จุดเกิดเหตุที่เขาทิ้งขนมไป มีขนมแตกจำนวนเพิ่มจนท่วมสนามหน้าบ้านเต็มไปหมด สุดท้ายโดราเอม่อนก็ต้องหอบเอาขนมไปทิ้งในอวกาศ


โชคดีที่แก้ไขสถานการณ์ได้ทัน ขนมของโนบิตะเกือบทำลายโลกแล้วนะครับ แหม่ (ตอนนี้ขนมนับล้านๆๆๆๆๆๆชิ้นคงล่องลอยอยู่นอกอวกาศจนเกิดเป็นแบล็คโฮลอีกลูกนึงไปแล้ว)

ถ้าหยดลงบนของที่กินไม่ได้จะเป็นไงนะ?


อันดับ 4 กล้องปีศาจ



ของวิเศษเพื่อการล้างแค้นโดยเฉพาะนั้นก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น ผ้าพยาบาท, มือปืนหยอดเหรียญ, หมัดเอาคืนสามเท่า (เฮ้ๆ แกเป็นหุ่นยนต์เลี้ยงเด็กจริงเรอะม่อน?) แต่ที่น่ากลัวที่สุดในกองนั้นคือกล้องปีศาจ ที่เมื่อถ่ายรูปใคร จะผลิตตุ๊กตาของคนนั้นออกมา เมื่อตุ๊กตาได้รับบาดเจ็บ เจ้าตัวก็จะเจ็บไปด้วย นี่มันคำสาปวูดูชัดๆ!! ตอนนี้โดราเอม่อนโกรธแค้นที่ซูเนโอะชอบแกล้งโนบิตะ จนขาดสติถึงกับควักของวิเศษที่ชั่วร้ายนี้ขึ้นมา แต่ก็ยังทำใจที่จะใช้มันไม่ลง จนกระทั่งโดนโนบิตะเอาไปถ่ายเล่น แล้วตุ๊กตาตกไปอยู่ในมือเด็กเปรตอย่างกันโกะและไจโกะ จากนั้นความหนุกหนานก็เริ่มต้นขึ้น...

กันโกะและไจโกะได้ตุ๊กตาไปสามตัว คือพ่อแม่โนบิตะ และโดราเอม่อน ตุ๊กตาทั้งสามถูกเอามาเล่นคุณหมอตรวจคนไข้ กันโกะตรวจแล้วบอกว่าตุ๊กตาพ่อแม่ตัวร้อนก็เลยเอาไปแช่ตู้เย็น ทำให้ทั้งพ่อและแม่ตัวจริงหนาวสั่นต้องไปซุกในผ้าห่ม ส่วนของโดราเอม่อนโดนจัดหนัก กันโกะและไจโกะจับตุ๊กตาไปเล่นผ่าตัด ว่าแล้วไจโกะก็กระโดดโลดเต้นด้วยความยินดีเมื่อได้ยินกันโกะวินิจฉัยว่า "รายนี้อาการหนักมากเลยนะเนี่ย ต้องรีบผ่าตัดด่วนแล้ว" "เย้! เอาเลยๆ หั่นมันให้เป็นชิ้นๆเลย!" ผลก็คือโดราเอม่อนโดนหั่นหัวเกือบหลุด (โชคดีที่เป็นหุ่นยนต์) "ฮึ่ม... หั่นยังไงก็ไม่ขาดซะที" "งั้นต้องลองเอาค้อนทุบ!" หลอนฟ่ะ... โดราเอม่อนช่วงแรกๆก็แอบดาร์คแบบนี้ละครับ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าตุ๊กตาที่โดนผ่าตัดกลายเป็นพ่อแม่แทนที่จะเป็นโดราเอม่อนจะเป็นยังไงน้อ...?



อันดับ 3 ธนาคารเพิ่มเงิน



"เครื่องผลิตเงินน่ะฉันไม่มี!" โดราเอม่อนยืนยันเสียงแข็งแบบนี้หลายครั้ง เพราะการผลิตเงินเองมันผิดกฎหมาย ถึงจะมีของวิเศษที่ล้ำเลิศมหัศจรรย์เพียงใด โลกอนาคตก็ไม่อนุญาตให้ผลิตเงินกันเองนะจ๊ะ ...แต่มันมีของวิเศษที่ขี้โกงยิ่งกว่าเครื่องผลิตเงินอีกครับ (อ้าว!)

ธนาคารเพิ่มเงินนี้ให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงถึงชั่วโมงละ 10% แถมถ้าฝากประจำ 1 ปีจะให้ดอกชั่วโมงละ 50% นั่นคือฝากแค่บาทเดียววันนี้ ปีหน้าคุณมีเงิน 5.8 x101,119 บาท เรียกว่าสูงกว่างบประมาณประเทศทั้งโลกเป็นล้านๆๆๆๆเท่า (งบประมาณทั้งโลกปี 2013 = แปดร้อยล้านล้านบาท) ซื้อดาวนาเม็กได้เลยครับ


ไม่รู้ว่าธนาคารนี้เป็นของวิเศษที่ผลิตเงินออกมาได้ หรือมีการทำธุรกรรมจริงๆผ่านโลกอนาคต ซึ่งถ้าเป็นแบบหลังผมเชื่อว่าธนาคารแบบนี้คงล้มละลายภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง ธนาคารนี้มีดอกการกู้สูงมหาศาลเช่นกัน (ชั่วโมงละ 20%) แต่คงไม่มีใครโง่ไปกู้แบบโนบิตะหรอก


อันดับ 2 ปุ่มเผด็จการ



คุณเคยเกลียดใครสักคนไหม? คุณอยากให้ใครบางคนหายออกไปจากชีวิตหรือไม่? ทีวีไดเร็ควันนี้มีอุปกรณ์เพื่อกำจัดคนที่คุณเหม็นขี้หน้าโดยเฉพาะ! "ปุ่มเผด็จการ" ไม่เพียงแต่ลบคนที่คุณรังเกียจให้หายไปเท่่านั้น แต่อุปกรณ์นี้จะลบความทรงจำของผู้คนและการกระทำทั้งหมดทั้งมวลของคนที่คุณเกลียดให้หายไปจากโลกตลอดกาล ราวกับไม่เคยมีคนๆนั้นบนโลกนี้มาก่อน

โนบิตะได้รับอุปกรณ์สุดชั่วช้านี้มาจากโดราเอม่อนหลังจากเขาบ่นว่าไม่อยากให้โลกนี้มีไจแอนท์ โดราเอม่อนสาธิตการใช้ปุ่มนี้ด้วยการลบแมลงวันทิ้งไปตัวนึง แล้วก็กระซิบโนบิตะว่า "เป็นไงล่ะ สะดวกสบายดีมั้ย? เกลียดขี้หน้าใครก็แค่ลบให้คนๆนั้นมันหายไปซะเลย ถ้าแบบนั้นมันคงเป็นโลกที่มีความสุขมากเลยใช่ไหมล่ะ หึหึหึ"  (ตอนเด็กๆผมอ่านแล้วกลัวพี่ม่อนตอนนี้จังครับ) โนบิตะลังเลใจที่จะใช้ของวิเศษชิ้นนี้ แต่พอออกมาข้างนอกก็โดนไจแอนท์ไล่ทุบอีก จนเผลอลบไจแอนท์ทิ้งไปจนได้ แม้โนบิตะจะสำนึกผิดที่ทำให้เพื่อนคนหนึ่งถูกลบหายไป แต่คนอื่นๆไม่ได้ยินดียินร้ายกับการที่ไจแอนท์หายไปจากโลกสักนิด ...นั่นก็เพราะไม่มีไจแอนท์ในโลกนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วน่ะสิ! ไจแอนท์ถูกลบไปจากความทรงจำของเพื่อนทุกคน แม้แต่ครู หรือแม่ของไจแอนท์ก็ไม่เคยรู้จักเด็กคนนี้มาก่อน หลงเหลือเพียงความรู้สึกว่างเปล่าทิ้งไว้ในความทรงจำของโนบิตะผู้กดสวิตซ์เท่านั้น (หลอนโคตรๆ!!) และในช่วงท้ายตอน ด้วยความโกรธแค้นที่ตัวเขาถูกทุกคนรุมกลั่นแกล้ง ทำให้โนบิตะเผลอลบทุกคนในโลกนี้หายไปทั้งหมด


การลบคนทิ้งไปจากประวัติศาสตร์นั้นมีจริงในสังคมที่ผู้ขึ้นมามีอำนาจต้องการลบเรื่องราวของปรปักษ์ออกจากความทรงจำของผู้คน เช่นครั้งที่สตาลินได้ลบนิโคไลเยชอฟออกจากภาพที่ถ่ายคู่กับเขา, WWE ลบชื่อของคริสเบนวาออกจากทำเนียบ, หรือชื่อของมูบารัคถูกลบออกจากอนุสาวรีย์ทั้งหมดในอียิปต์หลังถูกโค่นล้ม อันที่จริงอุปกรณ์นี้มีไว้สั่งสอนเผด็จการให้รู้สึกถึงผลเสียของการลบคนๆหนึ่งออกจากชีวิตไป แต่คอนเซ็ปต์ของอุปกรณ์ที่แสนหลอกหลอนนี้ก็ทำให้ปุ่มเผด็จการกลายเป็นของวิเศษโหดสัสอันดับสองได้ไม่ยาก


อันดับ 1 ตู้โทรศัพท์สั่งโลก



ในฉบับไพเรทเรียกของวิเศษชิ้นนี้หลายชื่อทั้งตู้โทรศัพท์วิเศษ, ตู้ติ๊ต่าง, ฯลฯ แล้วแต่คนจะแปล แต่ผมชอบชื่อตู้โทรศัพท์สั่งโลก เพราะมันเท่ดี และอานุภาพของวิเศษชิ้นนี้ก็เป็นแบบนั้นจริงๆครับ ตู้นี้สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้เพียงยกหูขอ ไม่ว่าจะขอให้โลกนี้เป็นโลกที่ชอบนอนกลางวัน ขอให้เป็นโลกที่เล่นพันด้ายเป็นอาชีพ ขอให้เป็นโลกที่คนไม่เคยเห็นหน้าตัวเอง  หรือแม้แต่ขอให้โลกนี้กลายเป็นโลกเวทมนต์ ตู้ที่แสนดีนี้ก็จะสร้างโลกคู่ขนานขึ้นมาให้เราและบิดห้วงมิติให้ซ้อนทับกับโลกปัจจุบันทันที (ฮารุฮิยังอาย!) จะขอแบบมีเงื่อนไขก็ยังได้ครับ เช่นโนบิตะเคยขอให้โลกมีค่าเงินเหมือนในอดีต มีเฉพาะโนบิตะเท่านั้นที่ยังมีเงินหมื่นเยนอยู่ในมือ ...แบบนี้ก็ยังได้! ผมว่าสิ่งที่ของวิเศษอื่นทำได้ เจ้าเครื่องนี้ขอได้หมดครับ เช่นขอให้ไจแอนท์หายไปจากโลก เผลอๆก็อาจจะขอได้


อ.ฟูจิโมโตะเคยเล่าไว้ว่าของวิเศษของโดราเอม่อนนั้นเป็นแบบสารพัดนึก คือสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่มีขีดจำกัดของความเป็นไปได้ ไม่เหมือนเอสเปอร์มามิที่มีความสามารถจำกัด และต้องแก้ปัญหาด้วยความยากลำบากมากกว่า โดราเอม่อนจะมีของวิเศษประเภทสารพัดนึก (อยากขออะไรก็ขอได้) หลายอย่าง ทั้งยาโกหก 108, ปากโกหก, ไดอารี่วิเศษ แต่ไม่มีชิ้นไหนถูกหยิบมาโชว์ความขี้โกงแบบไม่สนใจเงื่อนไขบ่อยเท่ากับเจ้าตู้นี้แล้วครับ

แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเจ้าเครื่องมือวิเศษสุดขี้โกงชิ้นนี้ ถูกหยิบขึ้นมาครั้งแรกสุดเพื่อขอให้โลกนี้เป็นโลกที่ไม่มีการละเล่นในวันปีใหม่ เพราะโนบิตะเล่นไม่เก่งสักอย่างแค่นั้นเอง



นอกจากนี้โดราเอม่อนยังมีของวิเศษโหดๆอีกเยอะอย่าง การ์ดซาตาน, พาสปอร์ตซาตาน, เครื่องสร้างมนุษย์, กงจักรตัดมนุษย์, กรรไกรตัดเงา, เครื่องทรมาน 100 ประการ, ฯลฯ (บางชิ้นเป็นของที่ไม่ตั้งใจเก็บไว้ แต่บางชิ้นก็ชวนให้สงสัยว่าแกซื้อมาทำไมเนี่ย?!!) อาห์... เด็กๆเอ๋ย พวกเธอว์จงอย่าได้โดนความน่ารักของเจ้าแมวตัวนี้หลอกล่ะ จริงๆแล้วมันชั่วร้ายมากเลยหละ