XVII. DOPAMINE

ตอนนี้ตั้งชื่อจากรายการยาที่โผล่มาในตอนท้าย หน้าตาประมาณนี้ค่ะ ('',)


7 วันผ่านไป....

ฟ้าใสนั่งเหม่อมองโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่รสาใช้มานานนม รอเสียงเรียกเข้าจากใครบางคนที่ห่างหายไปร่วม 1 อาทิตย์ เสียงจากปลายสายล่าสุดคือเขามีธุระหลายประการต้องสะสาง น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นเจือด้วยความอึดอัดใจบางอย่างที่ฟ้าใสพอจะคาดเดาได้ ว่าหากเธอดื้อรั้นดันทุรังจะตามตื๊อต่อไป ก็เท่ากับผลักไสให้เขาเบื่อหน่ายและสลัดเธอออกจากชีวิตเร็วขึ้น การรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้มีแต่ต้องรับฟังอย่างใจเย็น ให้เขาเห็นว่าเธอสามารถรอคอยจนกว่าเขาจะว่าง และเป็นที่พึ่งพิงทางใจเมื่อเขาเหน็ดเหนื่อยและถวิลหาความอ่อนหวาน แต่มันก็น่าหงุดหงิดใจอยู่เหมือนกันไม่ใช่หรือ กับการรอคอยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้ชายไปวันๆ

มันน่าจะมีอะไรให้ทำมากกว่านี้สิน่า...

จากการสืบเสาะข้อมูลในอินเตอร์เน็ตทำให้เธอรับรู้ว่า ในปัจจุบัน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้เปลี่ยนโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ ที่แค่สัมผัสหน้าจอก็เข้าสู่ระบบปฏิบัติการได้ น่าเอ็นดูรสาผู้ยังใช้มือถือรุ่นเก่าตั้งแต่สมัยเรียน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีที่เธอสามารถกดดูข้อมูลต่างๆได้ตามความเคยชินเก่า ไม่ว่าจะเป็นรหัสเอทีเอ็มที่เซฟไว้ในกล่องข้อความส่วนตัว การจัดกลุ่มเบอร์โทรไว้ตามความสัมพันธ์ให้คาดเดาได้ง่าย ฟ้าใสกดไล่เรียงเบอร์ไปเรื่อยๆ เพื่อมองหาใครสักคนที่น่าสนใจ...

'ไตรรัตน์' ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน มีคำนำหน้าเป็น Dr. และเป็นชื่อเดียวกับเจ้าของแจกันดอกไม้ที่ถูกนำมาเปลี่ยนข้างเตียงให้รสาทุกวันขณะนอนอยู่ในโรงพยาบาล โดยเจ้าตัวแทบไม่ได้มานั่งอยู่ข้างเตียง แน่ล่ะ ก็คุณวินทร์มาเฝ้าเอง ไม่ก็สั่งคนให้มานั่งเฝ้าแทนอยู่ตลอดเวลา และคนนี้หรือเปล่านะ ที่มักจะแวะมานั่งเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนแม่บ่อยๆ แต่มาทีไร เธอก็ออกไปข้างนอกกับวินทร์เสียมาก แต่คุณหมอก็ขยันเข้าหามารดาอย่างไม่ย่อท้อ เพิ่งรู้ว่ารสาก็เสน่ห์แรงไม่ใช่เล่น หญิงสาวเบ้ปากยิ้มนัยน์ตาวาววับ

“โทรกลับหาคุณหมอหน่อยสิสา”

มารดาเดินออกมาจากในครัวระหว่างที่ลูกสาวกำลังนั่งดูโทรศัพท์ นางเปิดสมุดบันทึกเล่มเล็กที่จดความรู้สึกและสิ่งต่างๆที่นึกได้เอาไว้ พร้อมกับรายการต่างๆที่ต้องทำเป็นลำดับ

“เขาไม่ได้มานานแล้วนะ ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน ที่แม่ขอให้เขารอเจอแกอยู่จนมืด ที่ไหนได้ พอแกกลับมา กลับพากันพลอดรักอยู่กับท่านประธานอะไรนั่นอยู่ในรถ น่าอายจริงๆเลย วันหลังอย่าทำอีกนะลูก”

นางบ่นพลางขยับตัวเข้ามานั่งที่โซฟาด้วย

“ใครใช้ให้เค้ามารอล่ะแม่ แถมไม่พอ ใช่หมอคนนี้หรือเปล่าคะที่ขับรถชนสา จริงๆน่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายซะให้เข็ด ดีนะ...อวัยวะยังอยู่ครบ”

“แกนี่ก็ ทำตัวเป็นยัยฟ้าไปได้ ไม่ยอมเสียเปรียบใคร ถึงแกไม่ฟ้อง หมอไตรรัตน์เขาก็จ่ายค่ารักษาตัวให้แกทั้งหมดอยู่แล้ว ท่าทางเขารู้สึกผิดมากเลยนะลูก”

‘…ทำตัวเป็นยัยฟ้าไปได้...’
โธ่ ช่างไม่รู้เลยว่านี่แม่คุยอยู่กับใคร ฟ้าใสออกอาการหงุดหงิด

“อือ ก็ได้ค่ะ ดีเหมือนกัน ช่วงนี้คุณวินทร์มีธุระ ไม่ค่อยแวะมาหาหนูเลย ไปกับหมอไตรบ้างก็ได้”

“จะดีเหรอลูก แม่ว่า เลือกคบไปสักคนหนึ่งเถอะ คุณวินทร์ที่เป็นเจ้าของบริษัทอะไรนั่น แม่ดูท่าทางก็เป็นคนมีอัธยาศัยไมตรี แต่อย่างเรา แม่ว่าไม่คู่ควรกับเขาหรอก”

“ก็นี่ไงแม่ อย่างฟ้า เอ้อ..อย่างสาน่ะ สวยสั่งได้ ถ้าไปกับคุณวินทร์ไม่รอด ก็จะได้มีหมอไตรไว้ดูเล่น เมื่อเช้าหนูค้นเจอที่อยู่ของพ่อแล้วละ เดี๋ยวจะโทรนัดให้หมอมารับหนูไปหาพ่อด้วย”

“พ่อแกเหรอ... เอ อยู่ไหนนะ”

“ไม่ต้องนึกหรอกค่ะแม่ ป่วยการเปล่า ยังไงแม่ก็จำไม่ได้หรอก”

ฟ้าใสตัดบท และเดินปึงปังเข้าห้อง นภามองตามลูกสาวอย่างสับสนและงุนงง

หรือนางจดจำชื่อลูกสาวผิดคนกันแน่นะ...

•.,¸,.•*¯`•.,¸,.•*

วินทร์นั่งจ้องมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานมาชั่วอึดใจหนึ่งแล้ว ความลังเลและสับสนภายในใจที่พยายามกลบเกลื่อนด้วยการทำงานอย่างจริงจังมาหลายวันเริ่มมาถึงขีดสุด การบอกความจริงกับรสาซึ่งทำให้เขาพิชิตใจหญิงสาวได้ง่ายดายเพียงนี้ กลับไม่ทำให้เขารู้สึกดีใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ชายหนุ่มกลับรู้สึกผิดหวังและขัดแย้งในตัวตนของหญิงสาวขึ้นทีละเล็กทีละน้อยในหลายๆสถานการณ์ เมื่อหันกลับมาถามตัวเองใหม่ ว่าแล้วเราชอบผู้หญิงคนนี้ที่ตรงไหน หากมันคือความประทับใจแรกพบแล้วต้องการให้เธอสร้างความประทับใจนั้นอย่างสม่ำเสมอและเป็นเช่นนั้นตลอดกาล ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เมื่อคนสองคนได้คบกัน ก็ควรรับได้ทั้งส่วนที่ดี และส่วนที่เสียของกันและกันได้

คิดได้ดังนั้น เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่เคยคุ้น...
แต่รสาที่เป็นรสาอย่างที่เขาเห็นอยู่ทุกวันนี้... มันไม่ใช่...

วินทร์ชะงักมือไว้เพียงเท่านั้น แต่ในเวลาเดียวกัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นด้วยตัวของมันเอง เบอร์โทรไม่คุ้นแต่ก็ตัดใจรับ

“สวัสดีครับ”

วินทร์รับโทรศัพท์แต่ปลายสายเงียบเสียง

“สวัสดีครับ... ต้องการพูดกับใครครับ”

สัญญาณถูกตัดไปเพราะปลายสายวางหู... คงเป็นคนโทรผิด แต่ก็น่าจะขอโทษขอโพยกันสักหน่อย... วินทร์ไม่คิดโทรกลับและนึกตำหนิตัวเองที่กดรับตั้งแต่แรก พาลทำให้ไม่มีแก่ใจจะกดเรียกหาเบอร์ที่ค้างไว้ เขาเลื่อนแฟ้มที่เซ็นค้างไว้มาดูงานต่อ

รสาในร่างอนัลยานีวางสายโดยไม่ได้พูดสักคำ ถอนหายใจแล้วบอกตัวเอง

...ไม่มีทาง...เขาคงไม่มีทางยอมเชื่อหรอก

เด็กสาวหยิบกระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ขึ้นมาและกดใหม่ ครั้งนี้ปลายสายเสียงดังอยู่นาน รสาเกือบวางสาย แต่ในที่สุดก็มีคนมารับ

. . . . . . .

“สวัสดีครับ ไตรรัตน์พูดครับ”

•.,¸,.•*¯`•.,¸,.•*

“สวัสดีค่ะคุณหมอ...นี่รสาพูดนะคะ”
เจ้าของชื่อเป็นบุคคลที่ไตรรัตน์รู้จักดี แต่เสียงที่อยู่ในโทรศัพท์ กลับเป็นเสียงเด็กสาววัยแรกรุ่น ไตรรัตน์เลิกคิ้วและระบายลมหายใจก่อนเอ่ยถาม

“รสาไหนครับ”
“เอ่อ...”

น้ำเสียงไม่มั่นใจ แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีหยอกเย้า จะว่าผู้ช่วยพยาบาลฝึกหัดโทรมาสวมรอยก็ไม่น่าใช่ แต่ใครจะโทรผิดได้เหมาะเจาะและบังเอิญขนาดนี้

“รสา อรัญวงศ์ พยาบาลผู้ป่วยในชั้นห้า ตึกอายุรกรรมค่ะ”
ไตรรัตน์ฟังแล้วส่ายหน้า ตอบเน้นเสียงหนัก

“น้องครับ หมอรู้จักพยาบาลที่ชื่อรสาดี รู้กระทั่งบ้านอยู่ที่ไหน หลังคาบ้านสีอะไร และหมอมั่นใจว่า เธอไม่ได้ไปทำศัลยกรรมเส้นเสียงให้กลายเป็นเด็กสาว และคงไม่โทรมาหาหมอเอาค่ำมืดป่านนี้หรอกนะครับ”

เด็กสาวรีบทักท้วง

“คุณหมอคะ กรุณาเถอะค่ะ อย่าเพิ่งวางสาย”
เขากำลังจะทำอย่างนั้นจริงๆ

“เราพบกันครั้งแรก วันที่ 12 มีนาคม...”

ไตรรัตน์เลิกคิ้ว ผ่อนลมหายใจหน่าย แต่ก็ยอมฟังต่อ

“วันนั้นมีเหตุการณ์อุบัติเหตุหมู่ คุณหมอเพิ่งมาทำงานเป็นวันแรก และมาช่วยเย็บแผลกับใส่เฝือกคนไข้ที่กระดูกหัก ต่อมาคุณหมอช่วยรสาจากนักข่าวที่มารังควาน…”

รสาในร่างเด็กสาวเล่าละเอียดลออ ไม่เว้นแม้แต่ลักษณะชามในร้านข้าวต้ม เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นจริง รายละเอียดบางเรื่อง แม้เป็นคนทั่วไปรับสารมา ต่อให้สนิทก็ไม่ใช่จะเล่าทุกรายละเอียดปานนั้น ไตรรัตน์เริ่มเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ก็ยังตัดบท

“เอาล่ะนะครับ สรุปมาย่อๆ ว่าน้องต้องการอะไร”

“นาทีที่เกิดอุบัติเหตุ สาจำได้ ว่าเป็นเสียงคุณหมอ ที่บอกว่า...ผมจะช่วยคุณเอง...คุณหมอหมายความว่ายังไงคะ”

คราวนี้ไตรรัตน์ฉุนกึกและขึ้นเสียง

“หมายความว่ายังไง? คุณนั่นแหละหมายความว่ายังไง ผมขอร้อง อย่าเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น”

“คุณหมอคะ โปรดเชื่อเถอะค่ะ สา... เอ้อ ดิฉันไม่ได้โทรมาเพื่อจะแบล็คเมล์ ใส่ร้าย หรือกลั่นแกล้งคุณหมอแน่ๆ ตรงกันข้าม ดิฉันอยากจะขอให้คุณหมอมาช่วยพิสูจน์ว่า ดิฉันคือรสา แต่โผล่มาอยู่ในร่างของคนอื่น”

ไตรรัตน์หัวเราะขื่นๆ แล้วทวนคำ

“ร่าง?”
“ค่ะ... ส่วนร่างของดิฉัน คนที่อยู่ในนั้นเป็นคนอื่น...เธอชื่อฟ้าใส”

รสาบอกข้อมูลสุดท้ายทั้งที่ไม่แน่ใจ เขาจะเชื่อ...หรือไม่เชื่อ ปลายสายเงียบ แต่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ได้ถูกตัด ต่างคนต่างทิ้งจังหวะเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ไตรรัตน์จึงตอบกลับ

“โอเค คุณอยู่ที่ไหนล่ะ ผมจะไปหาตอนนี้เลย”

ฟังเสียงเด็กสาวที่ระบุเบอร์ห้องพักรักษาตัวของโรงพยาบาล ไตรรัตน์เห็นทะลุไปถึงหน้าชาร์ต

“ด.ญ. อนัลยานี ลียานุวัตร”

ชื่อนี้ที่เขาไม่เคยลืม ไตรรัตน์วางหูโทรศัพท์ หยิบกุญแจรถและออกจากห้องไปในทันที

•.,¸,.•*¯`•.,¸,.•*

นายแพทย์หนุ่มผลุนผลันเข้าไปในหอผู้ป่วย ผ่านเคาน์เตอร์ที่พยาบาลกำลังบันทึก Nurse’s note (เหตุการณ์ทางการพยาบาล) บ้างก็กำลังง่วงหงาวหาวนอน พอเห็นเป็นแพทย์เดินมาก็ลุกขึ้นต้อนรับ แต่ไตรรัตน์เดินผ่านไปโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น พยาบาลและผู้ช่วยทั้งหลายได้แต่มองตามแล้วหันไปซุบซิบกัน

“วันนี้ไม่ใช่เวรหมอไตรไม่ใช่เหรอพี่”
“อือ... หมอเค้าโทรไปคอนซัลท์กันเองมั้ง”

เหมือนเสียงซุบซิบจะได้ยินไปถึงหู นายแพทย์หนุ่มหยุดกึก แล้วเดินกลับมาหาพยาบาลที่เคาน์เตอร์

“ผมขอชาร์ตคนไข้ห้อง 501”
“ขะ... ค่ะ”
“คนไข้ออนยาอะไรอยู่บ้างครับ”

พยาบาลที่ถูกตั้งคำถามรีบลนลานเปิดดู Nurse’s note ไตรรัตน์พลิกชาร์ตดูประวัติพลาง ... ไม่มีอาการทางจิต, ไม่เคยได้รับยาระงับประสาท ... หลังฟื้นจากโคม่า ผู้ป่วยมีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ดีทุกอย่าง

“คนไข้เพิ่งย้ายออกจากไอซียูเมื่อวาน รู้สึกตัวดีขึ้น แต่ความดันยังต่ำ คุณหมอ MED ให้ออฟยาเดิม แต่ยังออน Dopamine อยู่ค่ะ drip ที่ 10 หยดต่อนาที drip มา 16 ชั่วโมง ความดันก็เริ่มคงที่แล้วค่ะ คุณหมอจะให้ออเดอร์ต่อไหมคะ”

พยาบาลคนเดิมรายงาน ไตรรัตน์เงยหน้าจากชาร์ต

“ครับ ขอบคุณ”

นายแพทย์หนุ่มยื่นชาร์ตคืนแล้วหันหลังเดินจาก พยาบาลประจำเคาน์เตอร์ถือว่าเป็นคำสั่งให้ยาต่อ จึงดำเนินการส่งออเดอร์ยาไปยังห้องจ่ายยานอกเวลาราชการ

โดปามีนเป็นยาในระบบหัวใจและหลอดเลือดที่มีความสำคัญต่อชีวิตผู้ป่วย และหน่วยงานเภสัชกรรมรับประกันเวลาส่งยาให้หอผู้ป่วยได้ภายใน 15 นาที พยาบาลง่วงนอนบวกกับร้อนใจเมื่อเห็นแพทย์เฉพาะทางเดินมาสั่งยาที่วอร์ดเอง จึงเขียนรับคำสั่งแพทย์และส่งคำร้องขอไปยังห้องจ่ายยาโดยไม่ยืนยันขนาด ส่วนเภสัชกรเห็นว่าเป็นคำสั่งยาด่วนและเป็นยาเดิมของผู้ป่วย จึงไม่ได้ทบทวนออเดอร์เพิ่มเติมให้แต่อย่างใด

ยาในตะกร้าเดินทางมาตามเวลาที่กำหนด...

•.,¸,.•*¯`•.,¸,.•*

ไตรรัตน์เดินเข้าไปในห้อง เด็กสาวนั่งตัวตรงรออยู่บนเตียงนอนของผู้ป่วย ไฟที่เปิดสลัวทำให้เห็นเด็กสาวตรงหน้าเลือนราง แต่กิริยาอาการนั้นก็คลับคล้ายคลับคลากับหญิงสาวที่เขารู้จัก พอเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นใบหน้าชัด ซีดเซียวแต่ยังคงมีร่องรอยที่เห็นแล้วเย็นใจ นายแพทย์หนุ่มเหลือบตาลงต่ำ เห็นสายน้ำเกลือยังระโยงระยาง ปลายสายคือเข็มแหลมทิ่มแทงเนื้อบริเวณข้อมือ มีสำลีและเทปกาวปิดทับแต่ยังปรากฏรอยเลือดซึม เด็กสาวก้มลงมองตาม พลิกแขนของตัวเองขึ้นแต่ก็ยกได้ไม่ถนัด

“เคยแต่แทงเข็มฉีดยาให้คนอื่น พอโดนแทงไปหลายๆเข็ม กับโดนปักคาไว้บ้าง เจ็บดีเหมือนกันนะคะ”

เด็กสาวพูดพลางฝืนยิ้ม เจ็บกว่าเนื้อคือใจที่ปวดร้าวและสะอื้นไห้อยู่ในอก หันมามองไตรรัตน์ที่สายตายังสับสนและเต็มไปด้วยคำถาม น้ำตาเจ้ากรรมพลันเอ่อขึ้นมาอีก ไม่ได้... เธอจะร้องไห้ในเวลานี้ไม่ได้ ไตรรัตน์ควบคุมตัวเองได้มากกว่า ดึงมืออีกข้างที่ไม่ถูกแทงน้ำเกลือมากุมไว้แล้วปลอบเบาๆ

“ไหนลองค่อยๆเล่า... ผมช่วยอะไรได้ผมก็จะช่วยครับ”

รสารวบรวมกำลังใจ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ไตรรัตน์ฟังช้าๆ คู่สนทนาพยักหน้าและรับฟังโดยไม่ขัดแย้ง ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ หญิงสาวเปิดอกเล่ากระทั่งตอนที่เห็นวินทร์กับฟ้าใสเคียงกัน น้ำตาก็คลอเบ้า

“คุณรักเขา?”
ไตรรัตน์เอ่ยแทรก เด็กสาวชะงัก ดึงมือกลับไปเช็ดน้ำตา ไม่ตอบคำถาม

“เอ้อ ขอโทษ ที่ผมถามไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องเท่าไหร่ แล้วคุณมาอยู่ในร่างนี้ได้ยังไงครับ”

“ฉันก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ทนอยู่ในสภาพของวิญญาณล่องลอยแบบนั้นไม่ไหว จมลงไปในทะเลสีดำ แล้วก็มีมือฉุดฉันขึ้นไป ลืมตาอีกที... ก็มาอยู่ในร่างนี้”

ความทุกข์ถาโถม เด็กสาวก้มหน้าและเริ่มร้องไห้ ไตรรัตน์ยืนอยู่ข้างเตียงจึงโอบศีรษะนั้นและลูบเบาๆ รสาซบกับไหล่ไตรรัตน์แล้วสะอื้น

“อุ๊ย!”

พยาบาลคนใหม่ผลักประตูเข้ามาพร้อมรถเข็นยาและชาร์ตผู้ป่วย ทำหน้าเลิกลั่ก
“จ๋าจะเอาน้ำเกลือมาเปลี่ยนแล้วก็ให้ยาต่อน่ะค่ะ เอ้อ...”

รสาผละออกจากไหล่หันไปทางอื่น ไตรรัตน์ยืนบังไว้

“เดี๋ยวหมอให้ยาคนไข้เองครับ ขอดูอาการคนไข้อีกไม่เกินห้านาที”
“แหะ.. ค่ะ งั้น.. จ๋าออกไปรอข้างนอกนะคะ”
“ครับ”

นายแพทย์หนุ่มยิ้มอ่อนโยน และหันไปยิ้มกับเด็กสาวใหม่

“ไม่เป็นไรนะครับ ผมจะหาทางช่วยคุณเอง แต่ตอนนี้คุณต้องพักก่อน”
ว่าพลางหันไปเลื่อนรถเข็นยามาใกล้

“ผมเปลี่ยนน้ำเกลือให้นะครับ”
รสาเช็ดน้ำตาและฝืนยิ้ม พยักหน้าขอบคุณ นายแพทย์หนุ่มขยับหมอนและปรับเตียงให้เด็กสาวเอนลงนอนราบและหรี่ไฟลง

“ปรนนิบัติคนอื่นมามาก ตอนนี้โดนปรนนิบัติบ้าง รู้สึกดีขึ้นไหมครับ”

ไตรรัตน์หันมาตั้งคำถามเป็นเชิงสัพยอก ก็พบกับสายตาของเด็กสาวที่มองตามด้วยความซาบซึ้ง นายแพทย์หนุ่มหลบสายตานั้นแล้วหันไปหยิบถุงน้ำเกลือที่พยาบาลผสมยามาให้เรียบร้อย เขียนบอกความเร็วในการให้ยาตามกำหนดมาตรฐาน นายแพทย์หนุ่มเปลี่ยนน้ำเกลือโดยไม่ต้องแทงเข็มใหม่เนื่องจากเข็มเดิมยังคาไว้โดยใช้ Heparin lock

เสียงโทรศัพท์มือถือสั่นอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ไตรรัตน์ยังจัดเตรียมยาไม่เรียบร้อย ได้แต่พลิกเบอร์ดู หน้าจอที่เห็นเฉพาะต่อหน้าไตรรัตน์นั้น ปรากฏชื่อผู้โทรคือ’รสา’

รสาที่อยู่บนเตียงเห็นสีหน้ากังวลใจของไตรรัตน์ครู่หนึ่งจึงทัก

“ให้พยาบาลมาทำต่อก็ได้นะคะ คุณหมอมีธุระก็กลับก่อนเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”

ไตรรัตน์บอกปัดและตัดสาย เปลี่ยนสายน้ำเกลือต่อเข้ากับ hep lock ตรวจสอบความเรียบร้อยแล้วค่อยเอ่ยลา

“เอาไว้พรุ่งนี้ผมมาเยี่ยมใหม่นะครับ”

คนป่วยพยักหน้า รู้สึกใจโล่งขึ้น มองตามไตรรัตน์ที่เดินจากไปปิดประตูเบาๆ ในแสงไฟสลัว แล้วหันไปมองหยดน้ำเกลือที่ค่อยๆหยดลงมาในตำแหน่งที่จัดวางเยื้องกับศีรษะ

รสาไม่ได้สังเกต infusion pump …

อัตราการให้น้ำเกลือโดยที่มีโดปามีนผสมต้องผ่านการคำนวณเทียบกับน้ำหนักตัวผู้ป่วย บนถุงน้ำเกลือระบุชัดที่ 10 หยดต่อนาที หากรสาเฉลียวใจและมองจำนวนหยดต่อนาทีบน infusion pump ก็จะพบว่า ความเร็วนั้นสูงเกินค่ามาตรฐานเกือบห้าเท่า

ยาบางชนิดรักษาชีวิตได้ และเมื่อให้ผิดขนาด ผิดความแรง ก็ทำลายชีวิตได้เช่นกัน ระหว่างที่เด็กสาวหลับตาลง สารละลายที่ประกอบด้วยน้ำเกลือและตัวยากำลังถูกลำเลียงผ่านหลอดเลือดดำและส่งตรงไปที่หัวใจห้องบนขวาอันเป็นที่หมาย ความแรงนั้นจะทวีคูณขึ้นและส่งผลอย่างรุนแรงภายในระยะเวลาที่ไตรรัตน์เดินออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว

ไตรรัตน์สตาร์ทรถพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรกลับ สองทุ่มสามสิบนาที เขามีนัดไปรับฟ้าใสที่อยู่ในร่างรสา...


Create Date : 23 กันยายน 2554
Last Update : 23 กันยายน 2554 8:26:11 น. 3 comments
Counter : 671 Pageviews.

 
คนเป็นโรคไตวาย มีอยู่สองทางที่รักษาได้คือ ฟอกไตไปตลอดชีวิตหรือไม่ก็ต้องมีไตใหม่มาเปลี่ยนเเละไตนั้นร่างกายของผู้รับต้องไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านไตใหม่ที่ได้รับการเปลี่ยนด้วยเเละต้องกินยาไปตลอดชีวิต


โดย: VEE IP: 66.172.227.200 วันที่: 24 กันยายน 2554 เวลา:22:47:58 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ VEE

ใช่แล้วค่ะ
นิยายเรื่องนี้กำลังจะเข้าสู่ phase
ของทางเลือกที่สองเลยล่ะ

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ^^


โดย: รุริกะ วันที่: 24 กันยายน 2554 เวลา:23:31:07 น.  

 
โอ๊ยวางไม่ลงจ้า


โดย: cat__a IP: 115.87.116.98 วันที่: 23 สิงหาคม 2555 เวลา:15:48:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุริกะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




users online
pageviews
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add รุริกะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.