บุคคลที่ควรกราบ
นิทานเรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากแคว้นอโยธยาในอดีต หากแต่เรื่องราวผ่านมานานหลายร้อยปี จึงไม่ปรากฏที่มาว่ามาจากแคว้นไหน แต่ผู้เล่ามักบอกว่า นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วในโบราณกาล
พระราชาแห่งราชอาณาจักรหนึ่งถึงเวลาใกล้สวรรคต เมื่อทรงเหลียวดูประยูรญาติรอบกาย บ้างก็ยังทรงพระเยาว์ บ้างก็เป็นพระเทวีที่ทรงอ่อนแอ เมื่อไม่พบผู้ใดเลยที่เหมาะสมจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระราชาองค์ใหม่ พระราชาองค์เก่าจึงตัดสินใจสถาปนาสามัญชนคนหนึ่งซึ่งมีปัญญามากขึ้นมาครองอำนาจแทน เสนาอำมาตย์พากันไม่เห็นด้วยแต่พระราชาก็ไม่ทรงเปลี่ยนพระทัย ยืนยันให้สามัญชนคนนั้นขึ้นมาเป็นพระราชาองค์ใหม่แทน
ก่อนสิ้นบุญพระราชาองค์เก่า เหล่าเสนาอำมาตย์ต่างรวมตัวกันกระด้างกระเดื่อง เมื่อเข้าว่าราชการก็ต่างพากันไม่ทำความเคารพพระราชาองค์ใหม่ เนื่องจากไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ซึ่งจุติลงมาจากสวรรค์ พระราชาทราบดังนั้น จึงให้ช่างแกะสลักประจำตัว ไปตัดเสาสะพานข้ามแม่น้ำต้นหนึ่ง นำไปแกะสลักเป็นประพุทธรูปสวยงามประดิษฐานอยู่ในวิหาร เหล่าเสนาอำมาตย์เมื่อเข้าไปในวิหารเพื่อประกอบพิธีทางสงฆ์ เมื่อไปเห็นพระพุทธรูปก็ก้มลงกราบ พระราชาเสด็จตามเข้ามาแล้วตรัสถามว่า พวกท่านทำอะไรกันอยู่หรือ เสนาอำมาตย์ตอบพร้อมกันว่า กำลังกราบพระพุทธรูปพระเจ้าข้า พระราชาได้จังหวะ จึงตรัสถามต่อ
แล้วพวกเจ้ารู้หรือไม่ ว่าพระพุทธรูปแกะสลักองค์นี้ ทำจากอะไร ทำจากไม้พระเจ้าข้า เหล่าเสนาอำมาตย์ตอบอย่างพร้อมเพรียง
แล้วพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า ไม้ที่นำมาแกะพระพุทธรูปนี้ นำมาจากที่ใด เสนาอำมาตย์มองหน้ากันเลิกลั่ก เมื่อพระราชาหันไปทางราชครูผู้ดูแลการแกะสลักพระพุทธรูปดังกล่าว ราชครูได้ทำการชี้แจงแถลงไข
พระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักขึ้นจากตอสะพาน ที่แต่เดิมที ส่วนบนก็ถูกเหยียบย่ำโดยผู้คนที่เดินผ่านสะพาน ส่วนล่างก็จมปลักอยู่ในโคลนใต้น้ำ พระเจ้าข้า
เมื่อไม้จากตอสะพาน เปลี่ยนมาเป็นพระพุทธรูป พวกเจ้ายังจะกราบหรือไม่ เพราะอะไร
เหล่าเสนาอำมาตย์นิ่งฟังแล้วก็พากันตอบว่า
ยังจะกราบอยู่พระเจ้าข้า เพราะนี่คือพระพุทธรูป ไม่ว่าจะสร้างจากอะไร แต่เมื่อผ่านการสลักเสลา ทำพิธี และนำมาประดิษฐานในวิหารแล้ว ก็ย่อมกลายเป็นพระพุทธรูปที่สมควรแก่การกราบไหว้
พระราชาฟังแล้วก็ทรงสรวล ตรัสอย่างเรียบง่ายว่า
แล้วต่างอะไรเล่า กับพระราชาที่แต่เดิมเป็นสามัญชนหากแต่ได้รับการฝึกอบรม และสถาปนาเป็นกษัตราธิราช พวกเจ้าจงตรองดูเถิด ว่าจะพระราชาองค์นั้น สมควรแก่การกราบไหว้หรือไม่
เหล่าเสนาอำมาตย์เมื่อได้ฟังดังนั้นก็ต่างพากันได้สติ ต่างน้อมกายลงถวายพระพร ทำความเคารพในพระราชาองค์ใหม่ และไม่มีใครคิดกระด้างกระเดื่องอีกต่อไป
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา พระราชาพระองค์ใหม่ ก็ได้ปกครองบ้านเมืองโดยธรรมและเป็นที่เคารพยำเกรงของข้าราชบริพารตราบจนสิ้นอายุขัย
กุศโลบายกำราบเหล่าเสนาอำมาตย์ของพระราชาพระองค์นี้ มีคติสอนใจอย่างน้อยข้อหนึ่ง นั่นคือพระองค์มิได้ทรงเลือกทางที่จะใช้อำนาจที่พระองค์มี ลงโทษแต่ละคนที่กระด้างกระเดื่อง แต่ทรงใช้ปัญญาในการชี้แนะให้แต่ละคนเกิดความเข้าใจและยอมรับ
มิพักต้องสงสัย ปัญญาในเรื่องปรมัตถ์มีไว้ปล่อยวางไม่ยึดติดกับสุขทุกข์ ลาภ ยศ สรรเสริญและคำนินทาฉันใด ปัญญา สำหรับสมมติทางโลก ก็มีไว้ให้ดำเนินไปด้วยความปกติสุขราบเรียบฉันนั้น
คุณผู้อ่านเห็นด้วยไหมคะ : )
Create Date : 20 เมษายน 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 20 เมษายน 2554 20:23:51 น. |
Counter : 1367 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|