II. แรกพบ




วินทร์ พลวานิช เดินก้าวเข้าสู่โรงพยาบาล เมื่อเดินผ่านประตูที่เป็นกระจกสะท้อนภาพชายหนุ่มที่ผมเผ้ารุงรังจึงหันไปขยับสันแว่นตาเทอะทะให้เกี่ยวกลับไปบนจมูกสันคม ปัดทรงผมให้ดูยุ่งเหยิงแล้วเดินถือสัมภาระคู่ใจไปตามทาง พนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้ามาใกล้ด้วยสายตาระแวดระวัง


“มาหาหมอหรือเปล่าครับ”
“เปล่าครับ”

ชายหนุ่มชูบัตรประจำตัวนักข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่ไปหยิบยืมมาจากเพื่อนพร้อมเปิดกระเป๋าเป้ให้เห็นว่าภายในมีกล้องถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์เสริมอยู่เต็ม ไม่มีอาวุธอันตรายอื่น รปภ.เห็นดังนั้นจึงปล่อยให้เดินเข้าด้านในโรงพยาบาล พร้อมกันกับเสียงสัญญาณโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชายหนุ่มจึงหันไปรับโทรศัพท์ เมื่ออยู่ตามลำพังแล้วชายหนุ่มจึงทำตัวตามสบาย พูดเสียงหวาน


“มาถึงแล้วครับคุณแม่”

“ที่ว่าถึงน่ะ ถึงตรงไหนยะ ตาวินทร์ ลงจากเครื่องแล้วทำไมไม่กลับเข้าบ้าน แม่อุตส่าห์เลือกไฟลท์ที่มาลงแล้วพาเข้าบ้านทันก่อนเคอร์ฟิว ปรากฏเจ้าเชิดบอกว่าไปรับลูกที่สนามบินแล้วได้แต่กระเป๋าเสื้อผ้ากับของฝากกลับบ้าน ส่วนตัวแกเผ่นแน่บไปหาเพื่อน”

เสียงมารดาตะโกนแว้ดๆๆ ต่อว่าต่อขานเข้ามาในโทรศัพท์

“โธ่ คุณแม่ จะหัวเสียทำไมครับ ก็คุณแม่บอกให้ผมกลับมาทำงาน ตอนนี้ผมก็มาอยู่ที่ทำงานแล้วไงฮะ”

“ตายแล้ว จำวันผิดหรือเปล่าตาวินทร์ กำหนดการประชุมกรรมการบริษัทที่แม่จะพาลูกไปเปิดตัวเป็นประธานคนใหม่น่ะมันวันพรุ่งนี้นะลูก”
“จำไม่ผิดหรอกครับ ว่าต้องเข้าประชุมพรุ่งนี้”
ลูกชายตอบเสียงกลั้วหัวเราะ
“แต่ผมอยากลองเข้ามาสำรวจตอนที่ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งท่านประธานก่อน พอลงจากเครื่อง ก็ได้ยินข่าวปาระเบิดขวดใส่แบงก์ อยู่แถวๆโรงพยาบาลของคุณแม่พอดี เห็นว่าคนเจ็บระนาว งานนี้น่าสนใจดีครับ ผมเลยไม่ขึ้นรถน้าเชิด แต่เรียกแท็กซี่ไปหาไอ้วุฒิแทน ไปยืมชุดนักข่าวของมันมา ถือโอกาสสำรวจแผนรองรับอุบัติเหตุหมู่ของคุณแม่ไปด้วยเลย”

“โอ๊ย ตายๆๆ ลูกชั้น กลับมาถึงก็มาทำอะไรพิเรนทร์ๆ แล้วแม่ก็ส่งลูกไปเรียนบริหารนะ ไม่ใช่ไปเป็นนักข่าว”

“โธ่...คุณแม่ครับ นี่แหละงานบริหาร ผมไม่อยากทำตัวเป็นท่านประธานที่เอาแต่นั่งห้องแอร์ เซ็นต์อนุมัติใบขอซื้อเครื่องมือแพทย์ไปวันๆนะครับ ถึงคุณแม่จะอยากให้เป็นอย่างนั้นก็เถอะ”

“เชื่อเค้าเลย สมกับที่พ่อแกส่งไปร่ำเรียนหลักสูตรบริหารงานโรงพยาบาลจากฮาร์วาร์ดมาโดยตรง นี่เขาสอนให้ทำขนาดนี้เลยเหรอ”
“เปล่าฮะ ผมก็แค่อยากทำอะไรแก้เซ็งเล่น แค่นี้ก่อนนะครับแม่ ตอนนี้ผมสวมบทนักข่าวอยู่นะครับ เดี๋ยวก็ความแตกกันพอดี”

ไม่รอฟังเสียงมารดาคัดค้าน ชายหนุ่มปิดสัญญาณโทรศัพท์แล้วตรงไปยังห้องฉุกเฉิน ช่วงเวลาเย็นย่ำ อาทิตย์อัสดงสาดแสงเข้าระดับสายตาจนภาพข้างหน้าดูพร่าเลือน ประตูห้องฉุกเฉินถูกผลักออกเพื่อขนย้ายผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัด ชายหนุ่มยกกล้องขึ้นเล็งเพื่อถ่ายภาพบรรยากาศด้านใน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่เดินขวักไขว่และผู้คนจอแจ กล้องตัวเล็กจิ๋วกลับจับภาพโฟกัสไว้กับเป้าหมายหนึ่ง ที่สะกดตรึงให้เขาไม่สนใจภาพใดอีก


*•.,¸,.•*•.,¸,.•*•.,¸,.•*•.,¸,.•*


“เดียว”
“ครับพี่สา”

“ช่วยเข็นคนไข้หญิงเสื้อสีชมพูไปที่โซนแดงนะ คนนี้โคม่าสเกลน้อยกว่า 8 การประเมินแรกรับผิดนะ ปล่อยให้อยู่โซนเหลืองไม่ได้”
“ครับพี่”

“แล้วคนไข้เตียง CPR ที่ขาขาดโคม่าสเกลเป็น 0 แล้ว ย้ายขึ้นเฟอร์โน่พาไปโซนน้ำเงินนะ เดี๋ยวพี่รายงานแพทย์ให้ไซน์เดดก่อน แล้วจะตามไปคอนซัลท์ญาติคนไข้ด้วย”
“ครับ”

เด็กหนุ่มยังละล้าละลัง ยืนทบทวนคำสั่ง
“ไปโซนเหลือง เข็นคนไข้หนักไปโซนแดงก่อน แล้วย้ายคนไข้ที่ไม่รอดแล้ว ไปไว้โซนน้ำเงิน โอเคมั้ย”
รสาสรุปให้โดยย่อและตบบ่าให้กำลังใจ
"ครับ!"
เด็กหนุ่มค่อยเผยรอยยิ้มโล่งใจและกุลีกุจอไปทำงานต่อ


“โอยยยย..... หมอช่วยด้วย..... พยาบาลช่วยด้วย”

ผู้ป่วยที่นอนบนรถเข็นไม่ห่างออกไปพอได้ยินเสียงพูดคุยก็โอดครวญขอความช่วยเหลือ รสาเหลียวหน้าเหลียวหลังไม่เห็นใครก็เข้าไปประกบ

“มาแล้วค่ะ ใจเย็นๆนะคะ คนไข้ลืมตาได้ไหมคะ ขอดูม่านตาหน่อยค่ะ”
รสาคว้าอุปกรณ์เท่าที่มี ดึง MASS CASUALTY CARD ออกมาบันทึกและปฐมพยาบาลผู้ป่วยรอแพทย์ที่ยังรักษาผู้ป่วยในโซนแดงไม่แล้วเสร็จ


*•.,¸,.•*•.,¸,.•*•.,¸,.•*•.,¸,.•*


กล้องที่ถูกซูมเข้าไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวใบหน้านวลงาม ปอยผมหลุดจากหมวกสีขาวลงมาระแก้มแดงระเรื่อ อากัปกิริยาที่ดูแลผู้ป่วยนั้นคล่องแคล่วแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความละมุนละไม ชายหนุ่มกดชัตเตอร์ไปได้ระยะหนึ่งใบหน้านั้นก็หันมาเขม้นมอง โดยไม่ทันตั้งตัว เจ้าหล่อนก็เคลื่อนที่มาในระยะประชิดเหมือนนางแบบที่เดินเข้ามาให้โฟกัสเต็มหน้ากล้อง ขณะที่มีเสียงเพลงประกอบชวนฝันบรรเลงคลอ

“กรุณาหยุดถ่ายรูปด้วยค่ะ”
“ครับ?”

เสียงเพลงบรรเลงในหัวกลายเป็นแผ่นตกร่อง

“ว่าไงนะฮะ”
สายตาคมใต้แว่นยักคิ้วถาม ว่าที่ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลคนใหม่ตีบทนักข่าวเจ้าปัญหา เที่ยวซอกซอนไปถ่ายรูปผู้ป่วยเพื่อนำไปลงหนังสือพิมพ์ตามอำเภอใจ

“ขออภัยที่เราต้องรักษาสิทธิผู้ป่วยด้วยการไม่อนุญาตให้คุณถ่ายรูปผู้ป่วยตามใจชอบ ขอเก็บกล้องของคุณมาให้เราตรวจสอบก่อนกลับด้วยค่ะ”

ฮัดช่า! คนของคุณแม่นี่ได้รับการอบรมมาดีจริงๆ... ชายหนุ่มยิ่งนึกประทับใจหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมาอีก วินทร์กลั้นยิ้มแล้วแกล้งโต้คารมเล่น


“ไหนครับคุณพยาบาล ป้ายห้ามถ่ายรูป ไม่เห็นมีติดตรงไหนในโรงพยาบาลนี่ครับ อยู่ดีๆจะยึดกล้องผม อย่างนี้ก็เท่ากับลิดรอนสิทธิของสื่อมวลชนเหมือนกันนะครับ”

ประโยคที่ตอบกลับมาฉะฉานไม่แพ้กัน รสากอดอกยืนจ้องบุรุษตรงหน้า นิ่งคิดนิดหนึ่งแล้วจึงเอียงหน้าถาม

“ถ้าอย่างนั้น...ขอดูบัตรประจำตัวสื่อมวลชนของคุณหน่อยสิคะ”

‘ชิท!...’ ชายหนุ่มนึกในใจ ตอนชูให้รปภ.ดูข้างหน้าโรงพยาบาล เราใช้วิธีเอาหัวแม่โป้งบังรูปที่ติดบัตรเอาไว้ แต่ถ้าต้องควักเอามาให้สาวเจ้าดูจะๆ เห็นจะโดนจับได้คาหนังคาเขาว่าปลอมตัวมา ยิ่งถ้าใครนำกล้องไปเปิดดู ภาพด้านในก็ล้วนเป็นภาพอิริยาบถต่างๆของพยาบาลสาวที่อยู่ตรงหน้า เรื่องอาจจะโกลาหลบานปลายอย่างคาดไม่ถึง

“ขอโทษครับ”

บุรุษที่สามที่เข้ามาใหม่ เป็นนายแพทย์หนุ่มที่เดินออกมาเปลี่ยนโซน เห็นชายหนุ่มและหญิงสาวปะทะคารมกันจึงหยุดถาม

“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“ก็นักข่าวคนนี้สิคะ คุณหมอ”

รสาหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้มาใหม่ บุรุษในชุดกาวน์สีขาวยืนหันหลังให้ผนังกระจกใสที่มองผ่านออกไปเห็นด้านนอก ชั่ววินาทีที่กระพริบตา ฉากหลังของผนังที่ดูว่างเปล่านั้นกลับปรากฏร่างของคนคนหนึ่งร่วงลงมาและกระแทกพื้นดังโครม!! ผนังกระจกบานใหญ่ถูกย้อมด้วยละอองเลือดที่กระเซ็นออกมาจากร่างที่แหลกเหลว พยาบาลสาวเห็นภาพนั้นเต็มตา แต่ไม่ทันจะหวีดร้องด้วยพยางค์ใด เพียงกระพริบตาภาพที่ปรากฏข้างหน้าก็มลายหายไปสิ้น เหลือแต่ภาพตึกและทางเดินโล่งๆและบรรยากาศเดิมที่เห็นซ้ำจำเจ นายแพทย์หนุ่มหันมองตามเมื่อเห็นรสายืนตัวแข็งและมองจ้องออกไปด้านนอก

“คน คนฆ่าตัวตาย…!”

รสาเค้นคำออกมายากเย็นจนฟังเป็นเสียงกระซิบ สะบัดหน้าแล้วเงยมองขึ้นด้านบน ไตรรัตน์เห็นใบหน้าของหญิงสาวซีดลงจึงเข้าไปประคอง แต่รสาผลักออกแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปกดลิฟท์ วินทร์จับคำพูดไม่ถนัดเดินออกไปผลักประตูแล้วแหงนหน้าขึ้นมองด้านบนก่อนจะตะโกนลั่น

“มีคนอยู่บนดาดฟ้า เหมือนกำลังจะกระโดดลงมา รีบไปช่วยเร็ว!”


Create Date : 21 มิถุนายน 2554
Last Update : 21 มิถุนายน 2554 22:02:09 น. 3 comments
Counter : 652 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ ทักทายค่ะ

แวะชมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ อย่าลืม Vote ให้ด้วยนะค่ะ

ThaiLand Travel สถานที่ท่องเที่ยว



โดย: nonguide วันที่: 21 มิถุนายน 2554 เวลา:22:31:39 น.  

 
กำลังสนุกเชียว ขอแอดชื่อไว้จะได้ตามมาอ่านถูกนะครับ


โดย: pippojuve วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:0:28:05 น.  

 
สนุกมากๆๆ ไม่เป็นอันทำงานแล้ว....ขอบคุณ


โดย: cat__a IP: 110.168.108.126 วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:14:41:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุริกะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




users online
pageviews
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
21 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add รุริกะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.