บนดาดฟ้า...
ในภวังค์ครึ่งตื่นครึ่งฝัน นางเห็นมือนั้นกวักเรียก พอเขม้นมอง เจ้าของมือที่กวักฝ่ามือนั้นก็ขยายใหญ่เข้ามาจนแทบปิดใบหน้านางได้มิด นางจึงถอยหนีออกมาสองก้าว มือนั้นก็ยืดยาวขึ้น พอสุดเอื้อมก็เหมือนชูเคว้งคว้าง เสียงลมพัดหวีดหวิวกับกระแสเสียงที่จับใจความไม่ได้ กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นให้ก้าวเข้าไปใหม่ ทันใดนั้นกลับมีเสียงตะโกนแทรก
คุณคะ!
คราวนี้เหมือนน้ำเย็นสาดเข้าไปบนกระจกพร่ามัว มือที่กวักเรียกกับลมหวีดหวิวกลายเป็นละอองคลื่นปลิวกระจาย เบื้องหน้ากลายเป็นขอบฟ้าฉาบทาด้วยแสงตะวันสีแดงเพลิง ก้มมองปลายเท้า ห่างเพียงสองก้าวเป็นขอบตึกความสูงหกชั้น หญิงสาวผงะด้วยความกลัว หันหลังไปมองที่มาของเสียงเรียกพบหญิงสาวในชุดขาวทั้งตัว ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตัวสั่น หายใจหอบเหนื่อยด้วยต้องวิ่งออกจากลิฟต์และวิ่งขึ้นบันไดดาดฟ้ามาอีกต่อ
ฮั่ก... คุณ ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นคะ
นางพยายามเรียบเรียงความคิด
ใช่... แล้วเรามาทำอะไร... อ้อ... เราคิดถึงลูก คิดถึงสามี เราอยากตาย... เรากำลังคิดหาวิธีตาย
น้า น้าตายไม่ได้นะ
มือเล็กๆมาดึงชายกระโปรง คราวนี้มองหาต้นเสียงได้ง่ายกว่า เป็นเด็กหญิงวัยรุ่น รูปหน้าและแววตาสวยคมกว่าอายุ แต่ภาพรวมบ่งบอกถึงวัยเยาว์ด้วยรูปร่างผอมบาง จมูกรั้น ผมหยักศก ผิวขาวราวกับไร้เลือด รสายังไม่หายเหนื่อยหอบ แต่เห็นทันทีก็จำได้
อะ...
...แอนี่... หญิงสาวหลุดคำพูดได้แค่พยางค์แรกก็แน่นหน้าอก ต้องหายใจเข้าแรงขึ้น หลับตารวบรวมสติสัมปชัญญะ จากนั้นแพทย์หนุ่มกับนักข่าวผู้ไม่รู้ทิศทางค่อยเปิดประตูดาดฟ้าตามมา ร่างของเด็กสาวหายไปจากกรอบสายตาของหญิงสาวทั้งคู่
แล้วพวกคุณมาทำอะไรกัน อย่าเข้ามานะ!
หญิงสาววัยกลางคนในชุดผู้ป่วยก็เหมือนเพิ่งรวบรวมสติคืนมาได้ ใต้ตึกด้านล่างเริ่มมีคนอออยู่เต็ม บ้างโบกไม้โบกมือห้าม บ้างชี้ไม้ชี้มือสั่งการ อีกหลายคนวิ่งโกลาหลเพื่อหาอุปกรณ์มารองรับ หันกลับมามองรอบตัวมีร่างของคนแปลกหน้า ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล และนักข่าว
คุณหลบไปก่อน
รสาหันไปบอกชายหนุ่มอีกสองคนด้านหลัง นายแพทย์หนุ่มบุ้ยใบ้
เธอบอกให้นายหลบไป ผมเหรอ ใช่ เขากลัวนักข่าว เขากลัวหมอต่างหาก คนไข้ที่ไหนก็กลัวหมอทั้งนั้น หมอนั่นแหละหลบไป
ชั้นบอกว่าอย่าเข้ามา กลับไปให้หมด!
ผู้ป่วยสาวบนราวดาดฟ้าตวาดเสียงสั่น ชายหนุ่มสองคนถอยออกไปคนละหลายก้าว รสาเองก็เตรียมถอยหลัง แต่ทันใดนั้นก็เหมือนมีแรงดันนุ่มๆที่แผ่นหลัง พอหันมองก็พบว่าเด็กสาวเมื่อครู่มายืนอยู่ข้างๆ พินิจมองจนแน่ใจ เธอคือผู้ป่วยที่ก่อนหน้านี้ยังนอนอยู่บนเตียง เวลานี้กลับมาเดินเล่นบนดาดฟ้าตรงหน้าของคนที่กำลังจะฆ่าตัวตาย เด็กสาวยกมือขึ้นลูบแก้มแล้วหันหน้ามาทางหญิงสาว รสาสบตากับเด็กสาวเข้าอย่างจัง ได้ยินเสียงเอ่ยขึ้นเบาๆ
พี่เห็นหนู? รสาพยักหน้ารับ กะแล้วเชียว แถมมาได้ทันเวลาอีกต่างหาก
เด็กสาวผายมือไปข้างหน้า หญิงสาวแปลกหน้าบนขอบดาดฟ้ากระพริบตาอีกสองสามทีน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม
พี่เรือง พี่เรืองมาเรียกฉันแน่ๆ
สบสายตาลังเลและไม่มั่นใจ ประกอบกับอาการหวาดผวากลัวตายสุดขีดก่อนร่างจะตกถึงพื้น ทำให้พยาบาลสาวพอคาดเดาได้ว่าบุคคลตรงหน้าไม่ได้ตายอย่างเต็มใจนัก
คุณคะ... อย่าตายแบบนี้เลยนะคะ รสาจับปอยผมรวบไปด้านหลัง สูดลมหายใจเข้าลึกรวบรวมกำลังใจ ระหว่างเปิดบทสนทนา พยาบาลสาวพยายามขยับเข้าไปใกล้หญิงคิดสั้นทีละนิด
เธอ เธอเป็นใคร ดิฉันเป็นพยาบาลค่ะ เมื่อครู่ดิฉันอยู่ข้างล่าง ดิฉันเห็นภาพคนร่วงตกลงไป... จังหวะนั้นชายหนุ่มทั้งสองคนต่างขนลุก ขยับเข้าหากันโดยไม่รู้สึกตัว
ผู้หญิงคนนั้น ใส่เสื้อผ้าสีเดียวกับคุณ วินาทีที่ร่วงลงมาจะถึงพื้น เธอไขว่คว้าหาที่ยึดเกาะ หวังว่าจะมีสักมือมาช่วยดึงเธอขึ้นไป แต่ทันใดนั้นกะโหลกก็กระแทกลงถึงพื้นก่อน แรงกระแทกดันมันสมองแตกออกทางด้านข้าง ลูกตากระเด็นออกมาในสภาพเหลือกโปน ริมฝีปากของเธอเผยอร้องออกมาเหมือนจะบอกว่า ช่วยด้วย แต่พอดิฉันกระพริบตาแค่ครั้งเดียว ภาพนั้นก็หายไป
หญิงสาวตรงหน้าเกิดอาการใจสั่นและหวาดผวาเมื่อพยาบาลสาวเล่าถึงเหตุการณ์เสมือนจริงโดยมีเธอเป็นผู้แสดงละครสดให้เห็นตรงหน้า รสาขยับเข้าไปใกล้อีก พูดด้วยเสียงละมุนขึ้น
ดิฉันไม่ทราบว่าคุณมีปัญหาอะไร แต่การตายไม่ใช่ทางแก้ปัญหานะคะ ช่วงวินาทีก่อนตายคุณอาจนึกอยากได้โอกาส แต่คุณจะไม่มีทางคว้าได้เลย มาทางนี้ดีกว่าค่ะ ดิฉันจะพาคุณไปหาหมอ รักษาตัวให้หาย แล้วไปตั้งต้นใหม่ ตอนเราเกิดมาเราก็ไม่มีอะไร ตอนนี้อย่างดีก็แค่ตัวเปล่าเหมือนตอนที่เกิด นึกเสียว่าเริ่มใหม่นะคะ
หญิงนิรนามเช็ดน้ำตาและมีทีท่าลังเล จากนั้นค่อยๆ บ่ายหน้ากลับเข้ามาในทิศตรงกันข้ามกับพื้นปูนด้านล่าง รสายิ้มอย่างโล่งอก
มาค่ะ...
ในนาทีวิกฤตนั้น นักข่าวหนุ่มยกกล้องขึ้นจับภาพคนพยาบาลสาวยื่นมือไปรับหญิงนิรนาม ฉากหลังเป็นภาพอาทิตย์อัสดงกำลังทอดเงาลงมาขนานกับตึกระฟ้า ทิวทัศน์ที่ปรากฏในเวลาตะวันตกดินที่คนโบราณของไทยเรียกขานด้วยชื่อชวนขนหัวลุกว่า ผีตากผ้าอ้อม เพื่อนชาวต่างชาติกลับเรียกด้วยชื่อแสนหวานว่า วานิลา สกาย
วินทร์ประทับภาพแห่งความทรงจำนั้นไว้ด้วยการกดชัตเตอร์
รสาดึงหญิงนิรนามเข้ามากอดไว้และส่งต่อให้กับนายแพทย์หนุ่ม ไทยมุงที่อยู่ด้านล่างปรบมือให้กำลังใจระงมอยู่ด้านล่าง เจ้าหน้าที่มากมายทยอยกันเข้ามาดูเหตุการณ์จนถึงบนดาดฟ้า วินทร์ถือโอกาสตอนชุลมุนหลบเร้นออกไปเงียบๆ รสาปล่อยหญิงนิรนามไว้ในมือแพทย์แล้วหันไปกวาดตามองหาเด็กสาว ท่ามกลางผู้คนที่จอแจไปมา
ก็ไม่ปรากฏเงาของเด็กสาวเลยแม้แต่นิด
*.,¸,.*.,¸,.*.,¸,.*.,¸,.*
พยาบาลสาวตัดสินใจเดินกลับไปยังห้องพักผู้ป่วยของเด็กสาว แต่ทันที่ที่ไปถึง รสาพบเพียงเตียงที่ว่างเปล่า ข้างในห้องแม่บ้านกำลังทำความสะอาดบริเวณโดยรอบและจัดห้องสำหรับผู้เข้าพักคนต่อไป
ป้าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรคะ
เมื่อกี้นี้เอง คุณพยาบาลข้างนอกเรียกป้ามา บอกว่าต้องจัดห้องให้แขกวีไอพีคนใหม่ด่วนเลยนี่นา
แต่เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว เตียงนี้ยังมีคนไข้อยู่เลยนี่คะ
คนไข้ก่อนหน้านี้น่ะเหรอ คุณพยาบาลข้างนอกบอกว่าพอแม่เลี้ยงมาเยี่ยมแล้วกลับไปก็อาการกำเริบหรือกินยาฆ่าตัวตายเข้าไปอีกนี่แหละ ไม่รู้ไปหายามาจากไหน กินเข้าไปแล้วก็น้ำลายฟูมปาก นอนชักอยู่บนเตียง พากันเข็นเข้าไอซียูเตรียมล้างท้องอีกรอบ ตามหมอกันให้จ้าละหวั่น
แม่บ้านเล่าพลางเทน้ำยาถูพื้นแล้วลงมือทำความสะอาด รสาลำดับเหตุการณ์ซึ่งขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด
เด็กที่อยู่บนเตียงนี้ ผมหยักศก ผิวขาวๆ ตัวเล็กๆเท่านี้นะคะป้า พยาบาลสาวทำมือประกอบเพื่อให้แน่ใจว่าตนไม่ได้เข้าห้องผิด อือ ใช่ เมื่อเช้าป้าเข้ามาทำความสะอาด เด็กคนนี้แหละ แล้วตอนนี้อาการเค้าเป็นยังไงบ้างคะ
ป้าจะไปรู้เหรอคู้ณ ป้าเป็นแม่บ้านนะ ไม่ใช่หมอ
แม่บ้านเริ่มโบกไม้โบกมือ เพราะเป็นคำถามที่เกินภูมิปัญญาจะตอบ รสายิ้มเพลียๆ เอ่ยขอบคุณแล้วเดินออกจากห้องดังกล่าวไปขอข้อมูลกับพยาบาลรักษาการณ์ประจำชั้น เมื่อได้หมายเลขเตียงในห้องไอซียูแล้วจึงขอตัวออกมา
Create Date : 22 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 22 มิถุนายน 2554 7:25:53 น. |
|
2 comments
|
Counter : 908 Pageviews. |
|
|
แวะชมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ อย่าลืม Vote ให้ด้วยนะค่ะ
ThaiLand Travel สถานที่ท่องเที่ยว