ชื่ออื่น ๆ : ถั่วมุม (ภาคเหนือ), ถั่วจิม (เชียงใหม่), ถั่วดำ, ถั่วเขียว, ถั่วทอง (ไทย-ภาคกลาง)
ชื่อสามัญ : Mung bean, Mungo, Mongo bean, Green bean
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phaseolus aureus Roxb.
วงศ์ : PAPILIONACEAE
ลักษณะทั่วไป :
- ต้น : เป็นพรรณไม้ล้มลุกเนื้ออ่อน และจะมีอายุนานเพียงไม่เกิน 1 ปี ลำต้นจะมีขนเป็นสีน้ำตาล และจะแตกกิ่งก้านสาขา
- ใบ : เป็นใบรวมประกอบด้วยใบย่อยประมาณ 3 ใบ ฐานใบนั้นจะกว้างตรงปลายใบและแหลม
- ดอก : ดอกนั้นจะเป็นสีเหลือง
- เมล็ด(ผล) : ผลนั้นจะออกเป็นฝักและมีขนเป็นสีน้ำตาลอยู่ทั่วฝัก ฝักจะมีความยาวประมาณ 6-10 ซม. ส่วนเมล็ดถั่วเขียวจะมีสีแตกต่างกัน จะเป็นสีเขียวหรือสีเหลืองก็ได้ สีเหลืองก็คือถั่วทองที่เราเรียกกันนั้นเอง
การขยายพันธุ์ : โดยการเพาะเมล็ด
ส่วนที่ใช้ : เมล็ด ใช้เป็นยา
สรรพคุณ :
- เมล็ด นำมาต้มแล้วกินเป็นยาขับปัสสาวะ สำหรับคนที่เป็นโรคเหน็บชา ส่วนถั่วเขียวที่ดิบ หรือที่ต้มสุกแล้วใช้ตำพอก เป็นยารักษาภายนอกช่วยบ่มหนองให้ฝีสุก และยังใช้ในโรคอื่น ๆ ได้เช่นการคลอดลูกยาก โรคท้องมาน และท้องร่วง
อื่น ๆ : ถั่วเขียวเป็นพรรณไม้ที่ให้ประโยชน์มาก ทั้งทางด้านอาหารและในด้านที่ใช้เป็นยาถั่วเขียวนี้เมื่อนำมาเพาะ เป็นถั่วงอก จะให้วิตามินเอ บี และซีสูงมาก สำหรับในด้านที่ใช้เป็นยานั้น ถึงแม้จะพบว่าใช้ได้ผลในการรักษาโรคต่าง ๆ นั้น แต่ก็ไม่มีผลการทดลองที่ยืนยันว่ารักษาได้ผลที่แน่นอน
ถิ่นที่อยู่ : พรรณไม้นี้มักจะปลูกกันทั่วไปในเขตร้อน โดยเฉพาะประเทศจีน อินเดีย และมาเลเซียในประเทศไทยบางท้องถิ่นก็นิยมปลูกกันในนา หลังจากที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก samunpri.com