ชื่ออื่นๆ : ว่านเหลือง (กลาง) สากเบือ (ละว้า) ขมิ้นขึ้น (เหนือ) ละเมียด (เขมร)
ชื่อสามัญ : Zedoary,Luya-Luyahan
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Curcuma Zedoaria Rose วงศ์ : ZINGIBERACEAE
ลักษณะทั่วไป
- ต้น : ขมิ้นอ้อยเป็นพรรณไม้ล้มลุกจะงอกงามในฤดูฝน และจะมีต้นโทรมหัวใหญ่ในฤดูหนาว อยู่ในจำพวกเดียวกัน ขิง ข่า
- ใบ : ทางด้านท้องใบจะมีขนนิ่ม ๆ ในหน้าแล้งใบจะแห้งลงหัวจึงบางครั้งเราก็เรียกว่าขมิ้นหัวขึ้น
- ดอก : จะออกเป็นช่อ ก้านดอกนั้นจะยาวและพุ่งออกจากเหง้าที่อยู่ใต้ดิน ช่อดอกนั้นจะมีใบประดับ และดอกจะมีสีขาว ตรงปลายช่อดอกจะเป็นสีชมพู ส่วนดอกสีเหลืองจะบานจากล่างขึ้นข้างบน และจะบานครั้งละ ๒-๓ ดอก
การขยายพันธุ์ : โดยการใช้เหง้ามาปลูก และควรจะปลูกราว ๆ เดือนพฤษภาคม ย่างเข้าฤดูฝน ไม่ควรให้น้ำขังจะทำให้เหง้าขมิ้นเน่าเสีย
ส่วนที่ใช้ : เหง้าที่อยู่ใต้ดิน ใช้ได้ทั้งสดและแห้ง
สรรพคุณ : ใช้หุงกับน้ำมันมะพร้าว นำมาใส่แผล จะทำให้แผลหายเร็ว เพราะหัวขมิ้นอ้อยนั้น มีรสฝาด (tannin) และใช้บรรเทาอาการฟกช้ำบวมได้ ส่วนเหง้าสดนั้นนำมาบดล้นำมาผสมกับน้ำปูนใส สามารถนำมาดื่มรักษาโรคท้องร่วงได้
อื่นๆ : สามารถนำมาใช้แต่งสีเหลืองของอาการบางชนิด เช่น ข้าวเหนียวเหลือง ขนมเบื้องญวน และยังนำมาย้อมสีผ้าให้เป็นสีเหลืองได้
ตำรับยา
1. รักษาอาการท้องร่วงได้ ให้ใช้หัวของขมิ้นอ้อยสด ประมาณ ๒ แว่น นำมาบดผสมกับน้ำปูนใส ใช้รับประทานได้
2. รักษาเสี้ยน หนามตำ โดยการนำขมิ้นอ้อยมา ๕ แว่น ข้าวเหนียวสุก ประมาณ ๑ กำมือ ดอกชบา ๕ ดอก ใช่ตำพอก สามารถดูดเสี้ยนและหนองออกจากแผลได้
3. รักษาแผล ใช้ขมิ้นอ้อยที่หุงในน้ำมันมะพร้าว แล้วนำมาใส่ แผลใหายเร็ว เพราะขมิ้นอ้อยเป็นยาฝาดสมานด้วย
4. รักษาฝี ถ้าเป็นฝีหัวเดือน ให้นำใบไผ่เผ่าไฟให้ใหม้ส่วนหัวขมิ้นอ้อยนั้น นำมาตำด้วยกัน แล้วใช้น้ำเป็นกระสายยา และใช้ได้ทั้งกินและทา หรือพอกด้วยก็ได้
5. รักษาอาการปวดบวม ฟกช้ำ นำขมิ้นสด ๆ นำตำให้ละเอียด แล้วนำมาพอกที่บวม บรรเทาอาการปวดข้อ ฟกช้ำบวม
6. รักษาอาการเป็นหวัด นำหัวขมิ้นอ้อย พริกหาง อบเชยเทศ นำมาต้มและเติมน้ำผึ้งนำมารับประทานได้
ขอบคุณข้อมูลจาก samunpri.com