ชื่ออื่น ๆ : ขิงเผือก (เชียงใหม่) ขิงแดง ขิงแกลง (จันทบุรี) สะเอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เกีย (จีน)
ชื่อสามัญ : Ginger
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Zingiber officinalis Roscoe.
วงศ์ : ZINGIBERACEAE
ลักษณะทั่วไป
- ต้น: เป็นพรรณไม้ล้มลุก มีลำต้นอยู่ใต้ดินซึ่งเรียกว่าเหง้า ลำต้นจะมีความสูงประมาณ 50-100 ซม. ลักษณะเหง้าที่อยู่ใต้ดินจะกลมและแบน ลำต้นแท้จะมีลัษณะเป็นข้อ ๆ เนื้อในจะเป็นสีขาวหรือเหลืองอ่อน สุดท้ายของข้อนั้นจะเป็นยอดหรือต้นเทียมใหญ่เท่าแท่งดินสอดำ และกาบหรือโคนใบหุ้ม
- ใบ : เป็นชนิดใบเดี่ยว จะออกสลับกันเป็นสองแถว ก้านใบนั้นจะยาวห่อหุ้มลำต้น ใบเขียวยาวรูปหอก ฐานใบนั้นเรียวแหลม ขอบใบจะเรียบ มีความกว้างประมาณ 2 ซม. ยาวประมาณ 20 ซม. รูปใบคล้ายใบไพล
- ดอก : จะออกรวมกันเป็นช่อจากลำต้นใต้ดิน ซึ่งจะแท่งขึ้นมาจากเหง้า มีก้านช่อดอกยาวประมาณ 20 ซม. ทุก ๆ ดอกมีกาบสีเขียวปนแดงลักษณะโค้ง ๆ ห่อรองรับ กาบนั้นจะปิดแน่นเมื่อดอกยังอ่อน และจะบานให้เห็นดอกในภายหลัง ดอกที่ปิดกันแน่นนั้นจะยาวประมาณ 5 ซม. กว้างประมาณ 2.5 ซม.
- กลีบดอก : จะติดกันแน่นยาวประมาณ 2 ซม. และมีสีเหลืองออกเขียวส่วนกลีบรองดอกจะยาวประมาณ 2.5 ซม. เป็นเยื่อบาง ๆ หุ้มอยู่ และมีกลีบเลี้ยงติดกันเป็นหลอดยาวประมาณ 1 ซม.ทั้งกลีบดอกและกลีบรองดอกนั้น ตรงปลายของมันจะแยกเป็น 3 กลีบ สามารถอุ้มน้ำ และหลุดร่วงไว โคนกลีบดอกม้วนห่อ ส่วนตรงปลายของกลีบจะผายกว้างออก
- เกสร : จะมีอยู่ 6 อัน เกสรตัวผู้ที่ฝ่อไปจีมีสีม่วงแดง และจะมีจุดสีเหลือง คล้ายลิ้น ตรงปลาย จะมนกลมสั้นกว่ากลีบดอก ส่วนที่มีลักษณะคล้ายลิ้นนั้นมีก้านเกสรตัวเมียอยู่ 1 อัน และมีอับเรณูล้อมรอบรังไข่ มีอยู่ 3 ห้อง
- เมล็ด (ผล) : จะมี 3 พู ภายในเมล็ด ผลจะกลม ผลโตและแข็งแรง วัดผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 1 ซม.
- เหง้า : เมื่อแก้จะมีรสเผ็ดร้อนมก เนื้อเหง้าขิงสีเนื้ออมเหลือง ๆ
การขยายพันธุ์ : โดยการใช้เหง้า ปลูกในดินร่วนซุยผสมปุ๋ยหมัก โดยยกดินให้เป็นร่องห่างกันประมาณ 30 ซม. ปลูกห่างกันประมาณ 20 ซม. และลึกประมาณ 5-10 ซม. ต้องระวังโรคเชื้อรา ตอนที่มีฝนตกมาก ๆ นิยมปลูกไว้ตามบ้านเรือนทั่วไป ชอบดินเหนียวปนทรายที่มีอินทรีย์วัตถุมาก อากาสค่อนข้างชื้นแต่การระบายน้ำดี ไม่ชอบน้ำขังแฉะ แสงแดดพอควร
ส่วนที่ใช้ : ต้น ใบ ดอก ผล ราก เหง้า เปลือกเหง้า น้ำมันระเหยใช้เป็นยา
สรรพคุณ :
- ต้น ขับผายลม บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อ บำรุงไฟธาตุรักษานิ่ว คอเปื่อย ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าพยาธิ รักษาโรคตา บิด ลมป่วง ท้องร่วงอย่างแรง อาเจียน
- ใบ ใช้ใบสด แล้วคั้นเอาน้ำกิน 15 มล. มีรสเผ็ดอาการชกช้ำจาการหกลมหรือกระทบกระแทก ช่วยย่อยอาหาร ขับผายลม รักษาโรคกำเดา นิ่ว คอเปื่อย เบาขัด ฆ่าพยาธิ ขับลมในลำไส้ และโรคตา
- ดอก ทำให้ชุ่มชื่น ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าพยาธิ บำรุงไฟธาตุ รักษานิ่ว เบาขัด คอเปื่อย และบิด ผล รักษาอาการไข้ นอกจากจะใช้เดี่ยว ๆ แล้วขิงยังใช้ผสมในยารักษาต่าง ๆ คือ รักษามะเร็งกรามช้าง มะเร็งดอกบุก หนองใน ทำให้หญิงที่มีสามีแล้วแต่ไม่มีบุตรสามารถมีบุตรได้ ยาบำรุงน้ำนม เป็นยาอายุวัฒนะ บรรเทาอาการคอแห้ง เจ็บอก กระหายน้ำ ตามืด ตาฟาง ตาต้อกระจก วิงเวียนหัว รักษาโรคอันผูกหัวใจ โรคประสาทพิการ โรคทั้วปวง ปวดเอว
- ราก จะมีรสเผ็ดและขม ทำให้เนื้อหนังสดชื่น ขับลม ทำให้เสียงไพเราะ ช่วยให้หลอดคอโปร่ง ฆ่าพยาธิซึ่งเป็นตัวเชื้อโรค เจริญอาหาร รักษาบิดตกเป็นโลหิตดุจสีขมิ้น นิ่ว ไอ
- เหง้า ใช้ทั้งเหง้าแก่แล
ขอบคุณข้อมูลจาก samunpri.com