จินตนาการจากความว่างเปล่า
Imagination from the emptiness
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
30 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ความเปลี่ยนแปลง

    ฉันชอบความเรียบง่าย
    ฉันชอบความท้าทายของชีวิต
    ฉันชอบลองทดสอบจุด limit
    ฉันชอบลองพิชิตซึ่งตัว "ฉัน"

ภาพ: wallpaper ใหม่ @ home โดย Oly E-420, Macro without flash

เกิดอะไรขึ้นมากมายในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มรู้ว่าคุณแฟนเก่าของฉันมีน้องคนใหม่ จนกระทั่งพวกเราคุยกันเคลียร์โดยตกลงจะเป็นเพื่อนกัน เวลาหกปีที่ผ่านมามันผ่านไปรวดเร็วเหมือนสายน้ำจริงๆ ฉันยังจำได้ถึงวันแรกที่ได้เจอเค้าฉันไม่ชอบเลย เด็กใหม่จบโทจาก MIT ท่าทางหยิ่งๆ คนนั้น ทำไมฉันต้องจับฉลากได้เค้ามาเป็นคนที่ฉันต้องคอยดูแลด้วยนะ? เพื่อนสนิทฉันคนหนึ่งมาถามฉันตรงๆ ว่าอยากจะแลกฉลากกับเค้าใหม่? แต่ฉันก็ปฏิเสธและก็คอยดูและเค้า(อย่างจริงจัง)มาตลอดเวลาหนึ่งปี

ปีนั้นเป็นปีที่มีอะไรๆ เกิดขึ้นมากมาย ด้วยความที่เป็น PhD ปีสาม ฉันเดินทางไป 12 ประเทศทั่วโลกในปีเดียว (เดินทางตลอดเวลา) ไม่ค่อยอยู่อังกฤษเท่าไรนัก แต่ก็มีเรื่องอะไรๆ ทำให้พวกเราได้มาสนิทกัน หลังๆ ฉันถึงได้รู้ว่าเค้ามาจีบฉัน นึกว่าที่ดีๆ กันเป็นเพราะฉันดูแลเค้าไว้ดี ฉันได้เรียนรู้ทีหลังว่าเค้าชอบฉันตั้งแต่ก่อนเราเจอกัน เค้าชอบฉันในตัวอักษรและตามหาฉัน สมัยนั้นฉันเป็น webmaster ของสมาคมฯ และเขียนอะไรๆ มากมาย รวมทั้งได้เขียนข้อความต้อนรับเค้าเข้าสู่เคมบริดจ์

เกือบปีถัดมาตอนที่ฉันใกล้จบ... จากเพื่อนสนิทพวกเราก็ตัดสินใจคบกัน มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นพอควร และฉันก็ตัดสินใจรับทำงานเพื่ออยู่ต่อที่อังกฤษเป็นเวลาอีกเกือบปี แต่สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจกลับเมืองไทย หลายๆ ครั้งฉันก็อดเผลอคิดไม่ได้ว่าถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจกลับเมืองไทย และรับทำงานต่อที่อังกฤษตาม offer ที่ได้มาที่จะให้ฉันเปลี่ยนสัญชาติเป็นอังกฤษ และ ถือ passport UK ชีวิตเราสองคนคงไม่ได้หักเหไปเป็นอย่างนี้? แต่ทว่าคนเราแต่ละคนก็มีทางเลือกให้กับตัวเองเดินต่างกัน

การรักษา Long distance relationship ระยะเวลาหนึ่งปีเป็นเรื่องที่สนุกสนานพอควร และแล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับฉันให้เค้าได้พบกันน้องคนใหม่แสนน่ารักก่อนกลับเมืองไทยในขณะที่ยังคบกันกับฉันอยู่ ตอนเค้ากลับเมืองไทยใหม่ๆ ทุกๆ อย่างระหว่างพวกเราเป็นเรื่องสวยงามทีเดียว จนกระทั่งประมาณครึ่งปีผ่านไปพวกเราถึงได้เรียนรู้ว่า "อุปสรรค" มันเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วพวกเราเริ่มคุยกันเรื่องการเลิกรามาเรื่อยๆ ด้วยความแตกต่างอย่างสูงโดยเฉพาะในด้านฐานะทางสังคม ฉันเริ่มเรียนรู้จักโลกมากขึ้น

หลังจากหนึ่งปีที่เค้ากลับเมืองไทยเราก็ตัดสินใจเลิกกัน... แต่พอผ่านไปไม่กี่เดือนเค้าก็กลับมาและพวกเราก็ไปไหนมาไหนกันปกติเหมือนเดิม จริงๆ แล้วฉันเพิ่งมาทราบทีหลังไม่นานนี้เองว่าเค้ามีน้องอีกคนที่คบกันอยู่ที่อังกฤษแล้วอย่างที่เกริ่นไป แต่ด้วยความที่เค้าไม่กล้าทำให้ฉันเสียใจจึงไม่เคยบอกกันตรงๆ อาจเพราะ มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้ฉันเข้าใจผิดว่าพวกเรายังคบๆ กันอยู่ และเค้าก็ไม่กล้าทำร้ายจิตใจฉันโดยเล่าว่าเค้ามีอีกคนแล้ว จนเวลาผ่านไปสองปีนั่นแหล่ะ เมื่อ "ปม" ทั้งหมดคลายลง (คือฉันได้ไปเห็นบน web ว่าน้องคนใหม่ของเค้าที่อังกฤษบอกว่าคนที่ฉันคบๆ อยู่เป็นแฟนของน้องเค้า) ความจริงก็เลยเปิดเผยขึ้น

เราจึงกล้าที่จะคุยกันตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุกสิ่งเป็นเพียงมุมมองและข้อมูลที่ทำให้คนเราเข้าใจผิดกัน และปมทั้งหลายก็คลายได้ง่ายๆ คำพูดที่ฉันให้เค้าได้หลังจากคิดอยู่หลายวันทีเดียวก็คือ "ไม่เป็นไรหรอก" ฉันแทบไม่เชื่อตัวเองว่าสามารถตัดบทสั้นๆ ได้ว่า "ช่างมันเถอะ เรื่องราวมันผ่านมาแล้ว... เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ แต่เราสามารถ 'เลือก' ที่จะสร้างอนาคตที่จะมาถึงให้มันออกมาดีได้" ฉันสามารถพูดออกไปได้ว่า "ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันเชื่อว่าฉันเข้มแข็ง" แล้วฉันก็พูดว่า "นายไปเถอะไปคบกับน้องเค้าดีๆ อย่าทำให้น้องเค้าต้องเสียใจ"... พอได้พูดออกไปจริงๆ ฉันก็รู้สึกว่าใจของฉันนั้น "เบา" สบายทีเดียว มันเป็นความรู้สึกของการ "ให้" กระมัง

เพื่อนรักฉัน (และเขา? บางคน ด้วยความที่สังคมเราใกล้กันที่เมืองไทย) หลายๆ คนเป็นเดือดเป็นแค้นแทนฉันทีเดียว (เหมือนจะเข้าใจผิดตามๆ ฉันกันไปหมด ^^') หลายๆ คนรู้สึกเหมือนฉันโดนหลอก หรือรู้สึกเสียดายที่ฉันเสียเวลาของชีวิตมาหลายปีแทนทีจะได้พบได้เจออะไรดีๆ กว่านี้... หลายๆ คนเขียนข้อความรุมด่าเค้ามากมายจนฉันแอบสงสารทีเดียว... แต่ไม่เป็นไรหรอกนะเพื่อนๆ ฉันว่าวันนี้ฉันได้บทเรียนดีๆ ของชีวิตทีเดียว และฉันก็ได้เรียนรู้ว่าอย่างน้อย ก็ยังมีเพื่อนดีๆ อยู่มากมาย ทั้งคนที่รู้จักและคนที่ไม่รู้จัก ในวันที่ฉันแสนเศร้า...

ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะ :)


Create Date : 30 มิถุนายน 2551
Last Update : 30 มิถุนายน 2551 22:04:17 น. 8 comments
Counter : 516 Pageviews.

 


MIT ? Made in Taiwan ?







โดย: khon na derm IP: 124.120.44.202 วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:22:11:37 น.  

 
555 อ่านมาอย่างซึ้ง..ว่าจะเขียนตอบแบบซึ้งๆซะหน่อย
แต่พออ่านเจอมุขของคุณ คนหน้าเดิม แล้ว ฮาเลย
อารมณ์เปลี่ยนทันที 555

เอาใหม่ๆ...
ความเปลี่ยนแปลง...ทำให้เกิดประสบการณ์...
และ..ทำให้เราได้เรียนรู้ ได้อยู่อย่างเข้มแข็ง...

(แต่ต่อไป..ขอให้เจอแต่ความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีละกันเนอะ) ^.^


โดย: Ja~ IP: 118.173.240.238 วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:50:21 น.  

 
ภาพสวยจัง...


โดย: KoNSaRaLeW (tanongsak312 ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:00:56 น.  

 
หมอคนหนึ่ง เล่าให้ผมฟังว่า เพื่อนผู้หญิง คนหนึ่งของเขาแต่งงาน ได้สักระยะเวลาหนึ่ง ขณะเดินทางโดยรถเก๋งส่วนตัวปรากฎว่าเกิดประสบอุบัติเหตุ แฟนหนุ่มตัดสินใจหักพวงมาลัยเอาด้านคนขับเข้าปะทะ ผลก็คือผู้ชายได้รับบาดเจ็บ ผู้หญิงปลอดภัย

เป็นอะไรที่ช่างซาบซึ้งมากๆ ที่ผู้ชายคนหนึ่งยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อให้ผู้หญิงที่ตนรักมีชีวิตรอด

แต่ต่อมาผู้ชายคนนั้นก็มีเมียน้อย จบ... สรุปว่า ความรัก กับ การนอกใจเป็นคนละส่วนกัน


โดย: กวินทรากร วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:24:15 น.  

 
--- K. khon na derm ---

ฮะ ฮะ MIT = Made in Taiwan
อ่านแล้วน้ำหูน้ำตาไหลทีเดียว


--- Ja ---

จ้า... ต่อไปขอให้ Ja ได้เจอสิ่งที่ดีในชีวิตเช่นกัน


--- คุณ KoNSaRaLeW ---

ดีใจที่ชอบภาพถ่ายง่ายๆ ภาพนี้นะคะ :)


--- คุณกวินทรากร ---

ประโยคนี้พูดเหมือนแฟนเก่าไร้นามเปี๊ยบเลยค่ะ หุหุ


โดย: ไร้นาม วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:42:50 น.  

 
[[ เพื่อนๆ ]]

วันนี้ขออนุญาติ ไปทำ website ของสมาคมหน่อยนะคะ
คงไม่ได้ up blog เพราะว่า งานราษฏรตรึมเลย (update
ภาพ Rally, ทำประกาศเรื่องงานเลี้ยง Oxbridge Dinner)

ติดตามได้ที่: //www.cambridgesociety.org


โดย: ไร้นาม วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:46:23 น.  

 
มาเล่าอะไรให้ฟังครับ เขียนไว้ในอนุทิน

โอ้ย...โดนเจ๊ดาว..ต่อว่า "นังกวิน ถ้าหล่อนทำไม่ได้อย่างที่พูด คราวหลังก็อย่ารับปากอะไรกะฉันอีกนะยะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่เชื่ออะไรที่หล่อนพูดอีก" บอกว่าจะไปเป็นเพื่อนเจ๊ดาวเรียนลีลาศแต่ผิดนัดมาสองหนและ (เรียนจันทร์-อังคาร) ใจเย็นๆ เจ๊เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปเป็นเพื่อนเจ๊เข้าชมรม สวดมนต์เจริญภาวณา ที่ตึกสงฆ์อาพาธ ฮาๆเอิ๊กๆ วันนี้ คุณออฟ รับโทรศัพท์จากป้าบุญส่ง (แม่บ้านประจำสำนักงาน) ซึ่งคุณหมอสาวสวยท่านหนึ่ง โทรศัพท์วานให้ช่วยขนย้ายเตียงจากหอพักแพทย์ (เธอขอย้ายห้อง จากตึก A ไปตึก B ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน) ป้าส่งโทรมาขอความช่วยเหลือที่ศูนย์แพทย์ฯ "อะไรนะป้าส่ง ขนเตียงไม่ไหวเหรอ อืมๆ งั้นเดี่ยวให้คนไปช่วยนะ" ศูนย์แพทย์ฯ มีบุลคลากร 20 กว่าคน มีผู้ชาย 3 คน ทีแรกแกล้งทำไม่ได้ยิน "นี่กวิน เป็นผู้ชายหรือเปล่า ไปช่วยป้า เขาหน่อยสิ" เซ็งจริงๆ เดินไปๆที่ลิฟท์ ลงลิฟท์ เดินข้ามถนนหน้าโรงพยาบาล เดินตรงเข้าไปยังหอพักแพทย์ฯ กะว่าจะนั่งรอหน้าหอพักเพื่อรอคุณอาร์ต ที่กำลังตามลงมาช่วยขนเตียง แต่ปรากฎว่า เจอป้าส่งรออยู่แล้ว ป้าส่งพาเดินขึ้นไปที่ชั้น 3 ให้ช่างถอดเตียงสำเร็จรูปออกเป็น 3 ส่วน เบาจัง เราก็ช่วยแบกส่วนที่กว้างๆ ขนย้ายข้ามฝั่งไปยังตึก B ขึ้นไปที่ชั้น 2 เข้าไปในห้อง ซึ่งเป็นห้องคุณหมอสาวสวยท่านหนึ่ง ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี (ได้เข้าห้องสาวๆ) สังเกตในห้องเธอเลี้ยงกระรอกไว้หนึ่งตัว เฮ้ย..อะไรกัน เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ด้วยหรือ..นึกถึงตัวเองสมัยก่อนที่เคยเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ (hamster) พอสักพัก รู้สึกว่าไม่ค่อยมีเวลาดูแล เลยหาเจ้าของใหม่ให้มัน ต่อมาทราบภายหลังว่า มันตาย..สงสัยมันคิดถึงเรา จริงๆ การจับสัตว์มาขังกรง เป็นการทรมานสัตว์ เป็นบาปนะครับคุ้ณ แล้วอีกหน่อยเวรกรรมจะตามทัน จะต้องรู้สึกว่าตัวเองโดนกักขังด้วยอะไรสักอย่าง ..(ทำใมไม่บอกกะหมอเขาไป) ก็มันธุระไม่ใช่นี่ แม๋จะไปบอกเธอหรือว่า "คุณครับ การเลี้ยงสัตว์มันก็ดีอยู่หรอกแต่ว่า ผมว่ากระรอกมันน่าจะชอบอยู่ตามธรรมชาติมากกว่านะครับ" ("แล้วคุณยุ่งอะไรด้วยล่ะคะ" ถ้าเธอพูดแบบนี้ล่ะ จึ๋ย) เอาเหอะสัตว์โลกเป็นไปตามกรรม..สาธุ ปล.แล้วจะแผ่เมตตาถึงเจ้านะ เจ้าหนูแฮมสเตอร์



โดย: กวินทรากร วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:58:01 น.  

 
--- คุณกวินฯ ---

ฮะ ฮะ ขอบคุณที่นำมาปันให้อ่านนะคะ



โดย: ไร้นาม วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:09:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไร้นาม
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]





"อ่านคนอ่านที่ความคิด
หาใช่ชื่อเสียงเรียงนาม"
Friends' blogs
[Add ไร้นาม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.