พราวตะวัน...โรมานซ์สตอรี่
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
12 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
ด มิ ศ ร า ย อ ด รั ก บ ท ที่ 6

เสียงแหลมๆของสาวร่างบางในชุดกระโปรงสั้นตรงหน้าเขานั้น ทำให้ชนวีร์ถึงกับเบะปาก ร่ำๆจะเอามือขึ้นปิดหูอยู่รอมร่อ ถ้าเจ้าน้องชายตัวดีจะไม่โผล่มาเสียก่อน ร่างบางแทบจะโผเข้าไปกอดอย่างไม่อายสายตาใคร ชฎายุที่ยืนอยู่ข้างๆเอียงหน้ากระซิบริมหูของเขาเบาๆอย่างออกจะชื่นชมว่า

“ไอ้ธิปมันเสน่ห์แรงจริงๆว่ะ” ชนวีร์ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ทำเพียงยืนมองภาพนั้นด้วยความขบขัน ยิ่งเมื่อเห็นคุณกนกยืนกอดอกเขม้นมองมา แถมยังถอนหายใจฮึดฮัดๆอย่างไม่พอใจด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เขาอดขันไม่ได้

...วันนี้ไอ้ธิปตายแน่!...

การคาดเดาของชนวีร์ไม่ผิดเลยสักนิด เมื่อคุณกนกเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

“นายธิป! วันนี้แกติดธุระไม่ใช่หรือไง?”

“ธุระอะไรครับ? วันนี้ผมว่า....” พูดยังไม่ทันจบประโยค คนเป็นพ่อก็สวนกลับทันควันด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่า

“แกมีนัดกับแฟนแกไม่ใช่รึไง?” เสียงห้าวต่ำจงใจเน้นคำว่า...แฟน...แถมยังปรายตามองร่างบอบบางที่โอบแขนแนบชิดกับชนาธิปอย่างสาแก่ใจด้วยใบหน้าของเธอซีดเผือด

“อะไรกันคะ? ธิปมีแฟนแล้วงั้นเหรอ ”

“บ้า! ธิปน่ะหรือจะมีใครนอกจากน้องแนนคนดีคนนี้ล่ะครับ” สุ้มเสียงนั้นหวานหยดย้อยจนคนที่ยืนฟังทั้งสามคนเบะปากพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“ใช่...ไม่ใช่แฟน แต่เป็นว่าที่เจ้าสาวต่างหาก” คุณกนกก้าวลงจากบ้านตามมาสมทบตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน เขาจับจ้องใบหน้าที่เริ่มเคร่งเครียดของคนที่ชื่อว่า...น้องแนน...อย่างจริงจัง “หนูไม่รู้รึไงว่านายธิปมันกำลังจะแต่งงานเดือนหน้า”

“ไม่จริ๊ง!!” เสียงแหลมๆหวีดร้องอย่างไม่เชื่อ “ไม่จริงใช่ไหมคะ ธิป”
คนถูกถามได้แต่อ้ำอึ้ง...ไม่อาจแก้ตัวอะไรได้เลย จวบจนน้องแนนของเขาเดินงอนตุ้บป่องจากไปนั่นแหละ เขาถึงได้หาเสียงตัวเองเจอ

“โธ่...พ่อ! จะแกล้งผมไปถึงไหนครับ”

“นี่แกคิดว่าฉันแกล้งเหรอ ฮะ?! ฉันทำจริงโว้ย ไม่ได้แกล้ง” ตวาดใส่เพื่อระบายอารมณ์เสร็จสับก็เดินลงส้นเท้าขึ้นบ้านไป ไม่วายกำชับให้ชนาธิปไปส่งดมิศราหาหมอพร้อมกับเขมิกา

“พี่วีจะไปส่งอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? ผมไม่เห็นจำเป็นต้องไปนี่”

“งั้นแกก็ไม่ต้องไปส่งหนูดมิศราก็ได้ แค่ไปเป็นเพื่อนหนูเขมก็พอ” ไม่ว่าจะอย่างไรคุณกนกก็บังคับให้ชนาธิปต้องไปอยู่ดี ไม่ว่าจะในฐานะคนรักที่แสนดีของเขมิกา หรือพี่เขยที่แสนดีของดมิศราก็ตาม


รถเก๋งคันใหญ่แล่นเข้าสู่ตัวเมืองที่การจราจรเริ่มคับคั่ง ถนนสายยาวดูเหมือนจะทอดไกลออกไปเมื่อชนาธิปที่นั่งอยู่ด้านหลังกับดมิศราและเขมิกาเอาแต่ขยับตัวอย่างเมื่อยขบ เท่านั้นยังไม่พอยังถอนหายใจเฮือกๆด้วยความเบื่อหน่ายอย่างไม่คิดจะปิดบัง

“ไอ้ธิป! แกเป็นอะไรวะ?” คนขับรถซึ่งก็คือชนวีร์เหลือบมองน้องชายตัวดีทางกระจกหลัง เกิดความอดรนทนไม่ไหวโพล่งถามขึ้นมา ขณะที่คนที่นั่งข้างๆกลับนิ่งเงียบ ทอดสายตามองวิวทิวทัศน์มาตลอดทาง เรียวปากบางของชฎายุละม้ายแย้มออกน้อยๆราวกับกำลังขบขันในบางสิ่งบางอย่าง

“เบื่อ! ไม่รู้จะมากันเยอะแยะไปทำไม?”

“ก็มาเป็นเพื่อนฉันไงคะ? เจ้าบ่าวสมควรจะมาส่งเจ้าสาวไม่ใช่หรือคะ คุณชนาธิป” น้ำเสียงเย็นนั้นเป็นของร่างบอบบางที่นั่งติดประตูรถอีกด้านคนละฝั่งกับชนาธิป

“มากับฉันทำให้คุณลำบากใจนักรึไง?”เขมิกาแสร้งตวัดสายตาค้อน ขณะที่ดมิศราซึ่งนั่งตรงกลางระหว่างชนาธิปและชนวีร์ถอนใจเฮือกด้วยเสียงอันดัง บอกชัดว่าจงใจเป็นนักหนา

“ที่จริง ไม่สมควรจะมีใครมาด้วยซ้ำ ก็บอกแล้วว่าเล็กไม่เป็นอะไร พี่เขมก็ไม่เชื่อ”

“ก็พี่เป็นห่วง ไปให้หมอตรวจ พี่จะได้สบายใจ”

“โธ่...คุณเขมิกา ยัยเด็กแสบนี่มันอึดจะตาย ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกครับ” ฟังแล้วคนเป็นอาถึงกับเลือดขึ้นหน้า หันขวับไปจ้องชนาธิปอย่างเอาเรื่อง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนจ้องอีกฝ่ายเขม็ง

“กรุณาพูดให้มันดีๆนะคะ นี่มันหลานสาวของฉันนะ” ชนาธิปยักไหล่ไม่สนใจ ขณะที่ชนวีร์กับชฎายุหูผึ่ง สังเกตอากัปกิริยานั้นอย่างตั้งใจ


ชนวีร์นั้นเหลือบมองหน้าคนข้างๆ ละม้ายต้องการส่งสัญญาณถึงความผิดปกติ...ก็คนที่กำลังจะแต่งงานกัน หรือคนทีรักกัน มีหรือที่จะคุยกันด้วยน้ำเสียงห่างเหิน แถมยังจิกกัดกันเช่นนี้เล่า...เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลัง เขาแน่ใจชัดเจนก็วันนี้เอง

ดวงตาคมตวัดมองกระจกหลัง ทันสบกับดวงตากลมโตสุกสกาวของดมิศรา มันจ้องเขาตอบ ไม่ยอมหลบเสียด้วย

...ไม่เคยมีสักครั้งที่เขามองสบตามันแล้วใจจะไม่เต้นแรง...ทำไมหนอ? ทำไมกัน?

ชนวีร์เป็นฝ่ายเบนสายตาจากมาก่อน เมื่อชักจะรู้สึกว่าหัวใจตัวเองมันแกว่งไกวเกินไป ผู้ชายย่างสามสิบอย่างเขาทำไมถึงได้หวั่นไหวง่ายดายกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ก็ไม่รู้ซิน่า...หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ จึงเลิกคิด คราวนี้สายตาจดจ่ออยู่กับถนนเบื้องหน้าไม่มีวี่แววว่าจะวอกแวกไปที่ใดอีก

“นี่นาย! จะมานั่งเบียดเราทำไม หา?” เสียงใสๆของดมิศราตะโกนลั่นรถ ไม่แพ้เสียงของชนาธิปที่โต้กลับไปอย่างรุนแรงเฉกเดียวกัน

“ก็นี่มันรถบ้านฉัน ฉันจะทำอะไร จะนั่งกินที่ขนาดไหนมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน หรือจะเถียง”

ชนาธิปกอดอกเหล่ตามองคนตัวเล็กอย่างเป็นต่อ...เพียงเท่านี้ มันก็ไม่อาจเถียงอะไรได้อีก แต่ก่อนที่เขาจะได้ใจ ไม่รู้ทำไม้ ไอ้คนตัวเล็กดันเบียดมาใกล้เขาเสียจนเขาต้องกระเถิบไปจนชิดประตูรถ มันก็ยังไม่หยุด เขยิบมาใกล้อีก...จนชนาธิปได้กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่จากกายคนที่เขายังเห็นว่าเป็นเด็ก

วูบหนึ่งที่เขาเผลอมองสบดวงตายิ้มๆของมัน...พลันรับรู้ได้ทันทีว่าไอ้ที่เขาเห็นว่าเด็ก ท่าจะไม่ใช่เสียแล้ว ภายใต้ท่าทางแก่นๆ และหน้าตามอมแมมของมันกลับแฝงไว้ด้วยเสน่ห์แสนน่ารัก

“ยัยเล็ก! ทำอะไรน่ะ ไปนั่งเบียดคุณธิปเค้าทำไม มานี่เลยมา!” เขมิกาจับแขนของดมิศราแล้วดึงให้กลับมานั่งเบียดชิดตนเอง พร้อมกับเสียงใสเจื้อยแจ้ว

“ก็อยากมาแกล้งให้เล็กนั่งเบียดพี่เขมทำไมล่ะ เล็กเลยแกล้งกลับซะบ้างน่ะซิ” คนเป็นอาดูเหมือนจะทำเสียงบางอย่างในลำคอ ก่อนจะใช้สองมือโอบร่างเล็กไว้ราวกับไม่อยากให้เขยิบกายไปใกล้ชายที่นั่งอยู่อีกฟากนั้นอีก
ทันทีที่ได้ยินบทสนทนาทั้งหมด แม้จะไม่ได้มองเห็นด้วยตาตัวเอง ชนวีร์ก็ถึงกับครางในลำคอเบาๆจนชฎายุต้องหันขวับมามองอย่างแปลกใจ

“เป็นอะไรวะ?”

“เปล่านี่...”ชนวีร์เลือกที่จะปฏิเสธ...ก็จะให้เจ้าลุกพี่ลูกน้องอย่างชฎายุรู้ได้อย่างไรเล่า ว่าเขารู้สึกแปลกๆ...เหมือนๆจะหงุดหงิด ไม่พอใจ แถมยังห่วงอยู่ลึกๆเสียด้วย เขาพยายามหาคำตอบกับตัวเองเกี่ยวกับความรู้สึกอันแสนประหลาดนี้ ...สุดท้ายก็ได้ข้อสรุป

...ก็ไอ้ธิปมันเป็นเสือผู้หญิง แล้วเจ้าตัวเล็กมันก็เป็นผู้หญิง ...ผู้หญิงที่กำลังจะโตเป็นสาวเสียด้วย แล้วอย่างนี้กุหลาบที่กำลังจะเบ่งบานมีหรือที่หมู่ภมรจะไม่รอวันเชยชม...


บางทีไอ้ธิปมันอาจจะนึกแผลงๆลองเด็ดดอมกุหลาบที่กำลังจะบานดอกนี้ไปเชยชมก็เป็นได้ คิดแล้วก็พลันรู้สึกแสบๆคันๆในหัวใจ ...แบบที่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ จนต้องเงยหน้ามองกระจกหลังจ้องหน้าน้องชายตัวดีของตนเอง

เพียงแค่เห็นแววตากรุ้มกริ่ม วับหวานของมัน เขาก็ชักกังวล และเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กของเขาขึ้นมาครามครัน

ได้ฟังเสียงในหัวใจของตัวเองแล้วก็ต้องสะดุ้ง...ก็ไอ้เจ้าตัวเล็กมันเป็นของเขาซะเมื่อไหร่เล่า ทำไมเขาถึงทึกทักเอาเองว่าเป็นของเขา ชนวีร์ถอนใจเฮือกเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่ทราบได้ ก่อนจะสลัดศีรษะขับไล่ความฟุ้งซ่านออกไป

โชคดีที่รถเลี้ยวผ่านประตูของโรงพยาบาลเข้ามาพอดี ทำให้ความสนใจของเขาถูกหันเหไปยังเรื่องข้อเท้าแพลงของดมิศรา...เถอะ ถึงจะยังไม่พ้นเรื่องของเจ้าตัวเล็ก แต่ก็ยังดีกว่าคิดอะไรเลื่อนเปื้อน แบบที่ไม่น่าเป็นไปได้
ชนวีร์ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่า...เขาหวงเจ้าตัวเล็ก ทั้งหวงทั้งห่วงเป็นนักหนา ชายหนุ่มนั่งกุมพวงมาลัยเหม่อลอยอยู่บนรถเช่นนั้นเกือบนาทีหลังจากที่คนอื่นๆลงจากรถไปเรียบร้อยแล้ว ร้อนถึงชฎายุต้องเดินย้อนกลับมาเรียกถึงรถ

ชายหนุ่มเคาะกระจกรถ แล้วร้องเรียกเสียงดัง

“ไอ้วี! เฮ้ย! ตายรึยังวะ!”

นั่นล่ะ...ชนวีร์ถึงได้รู้สึกตัว รีบลงจากรถ
“ยังไม่ตายโว้ย นายจะแช่งให้ฉันตายรึไง?!”

“ถามจริงๆเถอะ เป็นอะไรไปวะ เห็นเหม่อตั้งแต่ขับรถแล้ว” คนรู้ทันจ้องจับผิด หากชนวีร์ก็ทำปากแข็งไม่บอกอะไร นอกจากปฏิเสธท่าเดียว

“บ้าน่า ไอ้ยุ ฉันจะเป็นอะไรได้วะ? ไป...ไป เข้าไปข้างในกัน” แล้วเขาก็ตัดบทลากอีกฝ่ายเดิน

ตามสามคนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

แล้วดมิศราก็ไม่ได้เป็นอะไรมากอย่างที่เจ้าตัวบอก หมอแค่ให้ยาทามาหลอดหนึ่ง พันผ้าให้พร้อมกับบอกให้เดินอย่างระมัดระวัง เจ้าตัวเล็กถึงกับหน้างอง้ำเดินตัวปลิวนำหน้า ชนวีร์เห็นละว่ามันทำท่าจะโวยวายใส่ จึงพูดดักหน้าไว้เสียก่อน

“อย่าโวยวายแถวนี้นา อายเค้า” เป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงสาวหันขวับกลับมา ตั้งท่าจะอ้าปาก พอได้ยินน้ำเสียงเข้มๆ พร้อมกับแววตาจริงจังของชนวีร์แล้วก็ชักอย่างกวนประสาท

“จะอายทำไม? เราไม่ได้ทำอะไรผิด”

แล้วมันก็ไม่เชื่อเขา...ชนวีร์ลอบถอนใจ เมื่อเห็นดมิศราเดินเข้ามาใกล้ แถมยังกอดอกยืดไหล่ตรงมองเขาอย่างเอาเรื่อง

“ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร ดูซิ มาเสียเวลาเปล่า”

“ยัยเล็ก” เขมิกาปรามเบาๆพร้อมกับลากตัวหลานสาวตัวดีเดินนำไปยังรถเก๋งคันใหญ่ของชนวีร์

“เสียมารยาทจริง คุณวีเค้ามาส่งเพราะหวังดี เป็นห่วงเรา เรายังจะไปพูดไม่ดีใส่เค้าอีก ...ให้มันได้อย่างนี้ซิ!”

เขมิกาสั่นศีรษะจับเจ้าตัวเล็กขึ้นรถ ทันทีที่สามหนุ่มเดินมาถึง

“ไปทานกลางวันกันก่อนนะครับ คงหิวแย่แล้ว” ชนวีร์เสนอ และทุกคนก็ไม่คัดค้าน ยกเว้น...ดมิศรา เจ้าจอมแสบที่ทำตัวเป็นคู่ปรับของเขาได้ทุกวินาที
“เราไม่หิว”

“ไม่หิวก็ต้องกิน นี่มันเกือบจะบ่ายโมงแล้วนะ” อาสาวเอ่ยเสียงเข้ม “อย่าเรื่องมากนักเลยน่า”

“เล็กแค่อยากกลับไปอ่านหนังสือน่ะค่ะ อีกไม่กี่วันก็จะสอบแล้ว”

“เราเนี่ยนะจะอ่านหนังสือ” เขมิกาถึงขั้นหัวเราะขบขัน “จะมาขยันเอาทำไมตอนนี้ อย่ามาหลอกพี่ให้ยากเลย”

“ไม่ได้...” ดมิศรายังพูดไม่จบ เสียงทุ้มๆของชนาธิปก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เย็นนี้ค่อยอ่านก็ได้ ให้ฉันช่วยติวไหมล่ะ”

ไม่ใช่ดมิศราเท่านั้นหรอกที่อึ้งๆไป แต่เป็นทั้งรถเลยก็ว่าได้ เขมิกานั้นเบิกตากว้าง เอียงหน้ามองคนที่นังอยู่ริมประตูฝั่งนู้นอย่างไม่เชื่อหู ชฎายุเองก็หันขวับมามองเจ้าหนุ่มจอมเสเพลอย่างสงสัย ขณะที่ชนวีร์ดูจะเกร็งไปทั้งตัว
รถที่เขาขับดูจะเซออกนอกถนนเล็กน้อย จนคนข้างๆร้องลั่น

“เฮ้ย! ไอ้วี!” นั่นละ คนขับจึงได้สติ หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้ามาตามถนนสายเดิม

“เป็นอะไรไปวะ?!” ชฎายุตะโกนลั่น ขณะที่เขมิกาก็ถามอย่างตกใจไม่แพ้กัน

“เป็นอะไรคะ คุณวี?”

“เอ่อ...ไม่เป็นอะไรครับ แค่วูบไปหน่อย ขอโทษทุกคนด้วยนะ” ชนวีร์เหล่สายตามองไอ้ตัวต้นเหตุสองคนที่นั่งชิดกันอยู่ทางเบาะหลัง แล้วอาการคันๆในหัวใจก็ชักจะกำเริบอีกครั้ง

...ดวงตากลมโตแป๋วแหววของมันจ้องมองมายังเบื้องหน้า ชวนให้ตัวเขารู้สึกว่าอากาศภายในรถมันร้อนๆแปลกพิกล...


รอเรื่องนี้กันนานล่ะซี่...อิอิ
กลับมาอัพแล้ว แต่ไม่ได้อัพประจำนะคะ
อ่านไปเรื่อยๆแล้วกันเนอะ จบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น


Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2554 10:58:46 น. 6 comments
Counter : 202 Pageviews.

 
เขมมิกาเป็นอาดมิศราแล้วทำไมดมิศราเรียกพี่ล่ะทำไมไม่เรียกอา


โดย: mimny วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:13:26 น.  

 
รอลุ้น


โดย: praeweso IP: 110.169.9.82 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:19:39 น.  

 
มาเป็นกำลังใจจ้า พี่วีร์เริ่มหลงรักนางเอกแล้วช่ายป่ะ


โดย: นก IP: 125.25.47.9 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:54:22 น.  

 
ติดตามเป็นกำลังใจให้คะ แต่ว่าขอออกความเห็น นิดนึงว่า จะมีแต่คนพากันรักนางเอกมากไปไหมคะ อานางเอกก็สวยแต่ ทำไมไม่มีใครหลงรัก


โดย: คนอ่านนิยาย IP: 125.25.171.0 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:49:08 น.  

 
ไม่ชอบนายธิปเลย
เจ้าชู้ไม่เลือกหน้า...ชิ


โดย: lovely IP: 113.53.78.250 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:11:21 น.  

 
อ่ะๆ จะเป็นผู้ใหญ่หลอกเด็กละคราวนี้


โดย: keepwalkinggirl IP: 71.183.83.81 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:39:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

runsita
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์ใด ๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยาย เรื่องสั้น ในบล็อคแห่งนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์

หลังไมค์
เมลล์ถึงพราวตะวัน
ออนไลน์
ผู้เยี่ยมชมทั้งหมด

อยากอ่านนิยายแนวไหนมากที่สุด

View Results
Create a Poll


Friends' blogs
[Add runsita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.