พราวตะวัน...โรมานซ์สตอรี่
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
9 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
ด มิ ศ ร า ย อ ด รั ก บ ท ที่ 3

ชนวีร์มาถึงบ้านอัตรคุปต์เพื่อพบกับความผิดหวังเมื่อเขมิกาไม่อยู่บ้าน

“คุณเขมไปช่วยงานที่บริษัทน่ะค่ะ เดี๋ยวก็คงกลับค่ะ เข้าไปรอข้างในก่อนไหมคะ?” ชายหนุ่มไม่รีรอเลยที่จะพยักหน้า ตอบรับด้วยความยินดี


“ไปรอที่สวนหลังบ้านไหมคะ? นั่งรอในบ้านน่าจะอึดอัด”
“ก็ดีครับ”

เขาถูกพามายังม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นพิกุลขนาดใหญ่ ก่อนที่หญิงกลางคนจะค้อมกายเดินหายเข้าไปทางหลังบ้าน แล้วกลับมาพร้อมน้ำเย็นในแก้งทรงสูง

“ทานน้ำก่อนนะคะ”

“ขอบคุณครับ” แล้วนางก็จากไปทิ้งให้ชนวีร์เหลียวมองไปรอยกาย ลมเย็นสดชื่นพัดโชยผ่านมาพอจะทำให้คนหัวใจขุ่นกระด้างอย่างเขาคลายความร้อนอกร้อนใจลงได้บ้าง

สนามหญ้าสีเขียวตรงหน้าชวนให้นึกถึงร่างเล็กขะมุกขะมอมที่เขาวิ่งไล่ตามเมื่อวานนี้ ...เจ้าตัวเล็ก หน้าตาผ่องใสดุจดอกไม้แรกแย้ม ...คิดถึงยังไม่ทันไร เจ้าตัวเล็กแสนซนก็แอบย่องมาจากทางด้านหลัง

ในมือมีกิ่งไม้ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยรังมดแดง ดมิศรายิ้มเจ้าเล่ห์ ยกกิ่งไม้นั้นขึ้นสูงเหนือศีรษะ จากนั้นก็ทิ้งโครมลงบนตัวของชนวีร์

“ยะฮู้!”

“เฮ้ย!” คนตัวโตกระโดดผลุง สองแขนปัดป่ายไปตามเนื้อตัว “อะไรวะเนี่ย!”
“เป็นไงบ้าง...มดแดงของเราน่ะ กัดเจ็บไหม?”

“ไอ้เด็กบ้า!!” ชายหนุ่มสบถเสียงขรม สองมือก็ปัดเจ้ามดตัวเล็กๆที่กัดผิวกายจนเขาแสบคันไปแทบทั้งตัว “เล่นอะไรบ้าๆ!”

“เราไม่ได้เล่น...ก็เห็นรังมดแดงรังนี้มันเกาะอยู่บนกิ่งนี้มานานแล้ว เลยอยากไล่มันไปให้พ้น ไม่อยากให้มันไปกัดคนในบ้าน”

“เลยเอามันมากัดฉันแทน?” ชายหนุ่มมองหน้าคนที่ยิ้มเผล่ตรงหน้าอย่างหงุดหงิด

...หนอย ไอ้ตัวเล็ก วันนี้อย่าได้หวังเลยว่าจะรอดเงื้อมือไอ้วีไปได้! ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะวะ ไอ้วีทนไม่ไหวแล้วโว้ย! คิดเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันในใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะชี้นิ้วไปยังแม่ตัวดี

“อย่าหนีนะโว้ย วันนี้ไม่รอดแน่ เจ้าตัวเล็ก” แล้วเขาก็กระโจนเข้าใส่ ร่างเล็กนั้นมีดีก็ตรงที่หลบได้ว่องไวนัก มือที่จะจับแขนกลมกลึงกลับพลาดเป้า...ร่างใหญ่เซถลาล้มลงบนพื้นหญ้า

“แน่จริงอย่าหนีซิวะ” ดมิศราหัวเราะเสียงใส ดูเหมือนจะสะใจกับภาพตรงหน้ามากนัก

“ถ้ามัวแต่จะมาจับเรา มีหวังนายคงคันคะเยอ มีตุ่มแดงไปทั้งตัวแน่ ฮะ ฮะ” แล้วมันก็หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง น้ำมูกน้ำตาไหล

“ลูกเต้าเหล่าใครกันน่ะฮึ ไม่มีใครสั่งใครสอนหรือไง?” วูบหนึ่งที่ชนวีร์เห็นประกายกล้าในดวงตาคู่สวย เจ้าตัวเล็กหยุดหัวเราะ ตีหน้าบึ้ง จ้องเขาอย่างเอาเรื่อง

“อย่ามาว่าพ่อแม่เรา”

“ถ้าไม่อยากให้ว่าก็รู้จักทำตัวดีๆ มีมารยาทหน่อยซิ” ได้โอกาสสอน ชนวีร์จึงไม่รีรอ แต่ดมิศรากลับเบะปาก

“นายไม่ได้เป็นญาติเรา ทำไมเราจะต้องเชื่อ” คนตัวโตไม่อาจเถียงกลับได้ เมื่ออาการคันรอบกายดูจะรุนแรงหนักขึ้นๆ ตามเนื้อตัวกลายเป็นจ้ำๆสีแดง น่ากลัวจนชนวีร์รู้สึกว่าตัวเองไข้ขึ้น

“โอย...ทำไมมันคันอย่างนี้วะ” คนตัวโตบ่นพึม “นี่คิดจะยืนดูอย่างเดียวเลยรึไงหนูน้อย”

“อย่ามาเรียกเราว่าหนูน้อย เราไม่ใช่เด็กแล้ว”

ถึงจะอาการแย่แค่ไหน หากชนวีร์ก็อดขำไม่ได้ ท่าทางแบบนี้เนี่ยนะไม่ใช่เด็ก...สายตาคมกริบมองร่างเล็กที่ก้าวเข้ามานั่งยองๆใกล้ๆ หน้าตาของเธอผุดผ่อง สะอาดสะอ้านกว่าเมื่อวานที่เขาได้พบ

...บางทีอาจจะไม่ใช่เด็กแล้ว แต่เป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตต่างหาก...
“ดูนายอาการไม่ดีเลยนะ”

“ก็ใช่น่ะซิ ดูซะ!” ชายหนุ่มยื่นแขนล่ำสันที่แดงก่ำให้อีกฝ่ายดู “ดูฝีมือเธอซะ เห็นไหมว่ามันดูแย่แค่ไหน?” เจ้าจอมซนขมวดคิ้ว กัดริมฝีปากของตนเอง
“สงสัยจะแพ้”

“หา?! ว่าอะไรนะ”

“ไม่รู้จักรึไง แพ้มดแดงน่ะ” คนฟังอ้าปากค้าง รู้สึกตัวรุมๆแถมยังมึนศีรษะเสียด้วย “คุณคงแพ้มากเลยล่ะถึงได้แดงไปทั้งตัวแบบนี้”

“ก็แย่น่ะซิ ” ดมิศราจ้องมองใบหน้าเหยเกของชนวีร์อยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดใจ มือบางเอื้อมมาแตะหน้าผากของอีกฝ่ายที่สะดุ้งน้อยๆ แทบจะถอยศีรษะออกห่าง

“กลัวอะไร? แค่จะดูว่าเป็นไข้ไหม ไม่ได้จะแกล้งอะไรสักหน่อย”
“ดูเป็นด้วยเหรอ?”

“คุณตัวร้อน...” น้ำเสียงที่ตอบแผ่วเบาจนคนป่วยชักได้ที เอาเสียงตัวเองเข้าข่ม

“เป็นไงล่ะ เล่นอะไรไม่รู้จักคิด” โดนต่อว่าหนักเข้า ดมิศราก็หน้างอง้ำ ร่ำๆจะฟาดกำปั้นหนักๆใส่หน้าคล้ำๆนั่น แต่เห็นสภาพแล้วหญิงสาวก็อดสงสารไม่ได้

“มา...เข้าไปนอนพักในบ้านก่อน”ว่าพลางลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือให้เขาจับ “เราจะช่วยพยุงเอง”

“ตัวเล็กแค่นี้เนี่ยนะ! จะช่วยอะไรได้” ดมิศราไม่เคยเกลียดอะไรเท่ากับคำสบประมาท...หญิงสาวเชิดหน้า ฉุดคนตัวโตให้ลุกขึ้นยืนด้วยแรงอารมณ์
“นี่ไง ทำไมจะช่วยไม่ได้” ร่างเล็กจับแขนล่ำสันพาดบ่า มืออีกข้างจับไว้ที่เอวของเขา

“เฮ้ย...ไม่ต้อง! เดินเองได้”

“เราบอกว่าจะช่วย ก็ต้องช่วย”

“ก็บอกว่าเดินเองได้ ขาไม่ได้เจ็บเสียหน่อย จะมาช่วยทำไม”
“เอ๊ะ! ก็บอกว่าจะช่วยไง ไม่เข้าใจเรอะ?!”

เออ....ไอ้จอมซนมันดื้อด้านเสียด้วยแฮะ!...ชนวีร์คิดในใจ ขณะพยุงตัวเองเดินเข้าไปในตัวบ้าน เพื่อที่คนตัวเล็กจะได้ไม่รับน้ำหนักมากเกินไป วูบหนึ่งที่ชนวีร์คิดถึงแผนการบ้าๆของตัวเอง บางทีถ้าเขาจะสืบเสาะหาความจริงเกี่ยวกับการแต่งงานของเขมิกาและชนาธิป...อาจจะตะล่อมถามเจ้าตัวเล็กนี้ได้ หรือไม่ก็ถ้าอยากจะใกล้ชิดเขมิกา เจ้าจอมซนคนนี้น่าจะช่วยเขาได้มาก

...หลอกเด็กง่ายกว่าผู้ใหญ่ไม่ใช่หรือ?...

แววตาของชายหนุ่มเป็นประกาย จนเมื่อถูกพามานั่งบนโซฟาในห้องรับแขก และดมิศราเงยหน้ามาเห็น

“เป็นอะไร? ทำไมมองเราแบบนั้น”

หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น บอกชัดว่าไม่พอใจเป็นนักหนา
“มีแผนอะไรอยู่รึไง?”

เอ...ชักจะไม่ใช่เสียแล้ว ก็ไอ้เด็กคนนี้มันฉลาดเกินกว่าที่เขาคิด! ชนวีร์กระแอมกระไอ ทำทีเป็นเอนหลังพิงเบาะ แล้วหลับตา

“จะมีแผนอะไรเล่า ตอนนี้แค่คิดจะเดินไปไหนก็ยังไม่ไหวเลย”
คนที่ยืนกอดอกมองไม่เอ่ยอะไร ห้องทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบจนชายหนุ่มต้องเผยอเปลือกตามอง

“จะให้นั่งอยู่เฉยๆแบบนี้น่ะเหรอ?”
“หายคันหรือยังล่ะ?”

“ก็ยังน่ะซี่ คันจะตายแต่ไม่อยากเกา กลัวมันจะลามยิ่งกว่านี้” คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก หมุนตัวหันหลังจากไป เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็กลับมาพร้อมกับอ่างน้ำในมือ

“จะเช็ดตัวให้” ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ถึงกับสะดุ้งโหยง กระเถิบหนีไปจนสุดโซฟาตัวยาว

“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันเช็ดเอง”
“ไม่ได้ !” ดมิศราปฏิเสธเสียงหนักแน่น “เราเป็นคนทำนายเป็นไข้ เราก็ต้องรับผิดชอบ”

ชนวีร์ กุมขมับปวดศีรษะขึ้นมาอย่างแรง ...
“เช็ดตรงไหนบ้างล่ะ”

“ก็ทั้งตัวซี่ นายคันทั้งตัวเลยนี่นา”
“บ้า!”

“ไม่บ้าล่ะ”เจ้าตัวเล็กปราดเข้ามาทำท่าว่าจะปลดกระดุมเสื้อของเขา ชนวีร์รีบปัดมือเล็กออก แล้วเขยิบเข้าไปนั่งโซฟาตัวถัดไป

“เฮ้ย...หยุดเลยนะ หยุดเลย นั่งอยู่ตรงนั้นแหละ”

ดูเถอะ...มันทำหน้าตาบ้องแบ๊วไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆทั้งสิ้น แล้วทำไมหนอ...ทำไมเขาต้องกลัวมันด้วย ก็แค่เช็ดตัว! ชนวีร์ใจเต้นแรง ทั้งหน้าและตัวร้อนผ่าวไปหมด

“อะไรกัน คนเค้าอุตส่าห์จะช่วย ยังจะมาทำเล่นตัว”

...โธ่ เด็กเอ๋ยเด็ก...ชนวีร์คร่ำครวญ ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยคำใด เสียงรถยนต์ก็แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เจ้าตัวเล็กวางอ่างน้ำลงบนโต๊ะตัวเตี้ยในทันที

“สงสัยพี่เขมจะมาแล้ว” ว่าพลางกระโดดผลุงลุกขึ้น แล้ววิ่งออกไปรับอย่างหน้าชื่นตาบาน นั่นละชนวีร์ถึงได้หายใจคล่อง

“อะไรนะ?!” เสียงใสๆของเขมิกาดังแว่วเข้ามาให้ได้ยิน “แล้วเราไปทำกับเขาแบบนั้นทำไมกัน ฮึ ยัยเล็ก โอย...ถ้าเค้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”
เสียงใสกังวานของดมิศราเบามากจนชนวีร์ไม่ได้ยิน

“พี่จะทำโทษเรายังไงดีเนี่ย ยัยเล็ก” น้ำเสียงนั้นแม้จะไม่พอใจอยู่มากหากก็ไม่ได้ดุดันเกรี้ยวกราดจนเกินไปนัก ชนวีร์เห็นเจ้าเด็กจอมซนเดินก้มหน้างุดตามหลังอาสาวแล้วให้นึกสงสารนัก...ก็แค่เด็ก ไม่รู้ประสีประสาอะไรก็เท่านั้น

“อย่าไปว่าเธอเลยครับ เธอคงไม่ได้ตั้งใจ”

เขาอุตส่าห์ช่วยให้ไม่ถูกลงโทษ แต่ตัวต้นเหตุกลับถลึงตาใส่ อ้าปากบอกเขาโดยไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาว่า...อย่ามายุ่ง...

เถอะ...รอให้หายเจ็บก่อน แล้วเขาจะเอาคืนเรื่องที่ทำให้เจ็บตัว แถมยังมาทำอวดดีอีกด้วย

“เป็นยังไงบ้างคะ?”

“ค่อยยังชั่วแล้วครับ” เขาโปรยยิ้มอย่างที่จะให้หวานที่สุดเท่าที่เคยทำ แต่ทว่า...ในสายตาของดมิศรามันกลับดูเป็นการเบะปากมากกว่า หญิงสาวหัวเราะลั่น

“ขำอะไรยัยเล็ก ไปเลย...ไปรอพี่บนห้อง เดี๋ยวพี่จะตามไปสะสางเรื่องนี้” เสียงเข้มๆนั้นทำให้รอยยิ้มหุบลงทันควัน ก่อนจะเดินตัวลีบออกจากห้องไป
เขมิกาส่ายหน้าอย่างระอา เมื่อหันมามองคนที่ตัวแดงไปทั้งตัว จึงยิ้มบางๆอย่างขอลุแก่โทษ

“ขอโทษแทนหลานฉันด้วยนะคะ แกค่อนข้าง...ซนไปหน่อย ว่าแต่คุณจะไปหาหมอไหมคะ ฉันจะไปส่ง”

“โอ๊ะ ไม่ต้องครับ...ตอนนี้ก็ค่อยยังชั่วแล้ว” ชายหนุ่มตอบตามความจริง เหลือบเห็นอ่างน้ำใบเล็กที่ตั้งอยู่ตรงหน้าชวนให้นึกถึงเจ้าเด็กตัวแสบ
“ฝากถึง...เอ่อ...ยัยเล็ก ไช่ไหมครับ?”

“ใช่ค่ะ ดมิศรา อัตรคุปต์ หรือเล็กนั่นเองล่ะค่ะ”
อ้อ...ชื่อดมิศรา เพราะซะด้วย...

“ชื่อแปลกดีนะครับ”

“พี่กรินทร์ พ่อของยัยเล็กตั้งให้น่ะค่ะ แปลว่าเป็นใหญ่เหนือความมืด”
“อะไรครับ?” หญิงสาวยิ้มกว้าง ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงสดใส

“ก็พระจันทร์ไงคะ”
“อ้อ...” เขาพึมพำในลำคอ “ไม่น่าเชื่อ ซนขนาดนั้นกลับชื่อเพราะ”

“พี่กรินทร์เค้าเลือกชื่อเก่งน่ะค่ะ” ชนวีร์ยิ้มให้ ก่อนจะพยุงกายลุกขึ้น อาการคันคะเยอดูจะบรรเทาลงมากแล้ว แต่ไอ้เรื่องปวดศีรษะนี่ซิ ที่ดูจะยังไม่หายเสียที ถึงกระนั้นเขาก็บอกเขมิกาไปว่า

“ผมค่อยยังชั่วแล้วครับ...เสียดายที่มาวันนี้ได้คุยกับคุณเขมิกาแค่แป๊บเดียว ไว้คราวหน้าเราคงได้พบกันอีกนะครับ”
“แล้วคุณชนวีร์มีธุระอะไรกับฉันหรือคะ?”

“ไม่มีครับ แค่...มาเยี่ยม” เขาว่าพลางผงกศีรษะลา

“วันนี้ผมกลับก่อนนะครับ ไปรักษาตัวก่อน ไว้วันหลังผมจะมาหาใหม่” ชายหนุ่มยิ้มกว้างก่อนจะเดินเลี่ยงจากมา หากยังไม่ทันก้าวพ้นห้องรับแขกนั้น เขาก็หันกลับมา

“คะ?”

“คุณเขมจะไปที่รีสอร์ทบ้างไหมครับ?”

“ไปซิคะ...วันมะรืนฉันจะไปเยี่ยมคุณปู่ แล้วก็ถือโอกาสส่งยัยเล็กด้วยค่ะ”
คำตอบนั้นทำให้ชนวีร์ตัดสินใจกลับไร่ในวันพรุ่งนี้ทันที...เขาตั้งใจไว้ว่ามะรืนจะเข้าไปเหยียบรีสอร์ทอันตราที่อยู่ข้างบ้าน ...เพื่อที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอจะได้แนบสนิทแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และบางทีจุดมุ่งหมายของเขาอาจจะสัมฤทธิผล




Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2554 23:14:50 น. 1 comments
Counter : 110 Pageviews.

 
แสบจังนะน้องเล็ก เล็กพริกขี้หนูจริงๆ


โดย: keepwalkinggirl IP: 71.183.83.81 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:16:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

runsita
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์ใด ๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยาย เรื่องสั้น ในบล็อคแห่งนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์

หลังไมค์
เมลล์ถึงพราวตะวัน
ออนไลน์
ผู้เยี่ยมชมทั้งหมด

อยากอ่านนิยายแนวไหนมากที่สุด

View Results
Create a Poll


Friends' blogs
[Add runsita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.