ไอ๊ ถามวัต สุทธิพงศ์
 
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 มกราคม 2560
 
 

เรื่องของไอ๊ EPISODE 45

23 มกราคม 2560
โดย ถามวัต สุทธิพงศ์

ความคิดถึง เมื่อเกิดมีขึ้นมาคราใด...
ความรู้สึกหวงแหน เป็นเจ้าของ
ความรู้สึกเสียดาย
ก็จะเกิดมีขึ้นเป็นตัวแปรตาม...
มันเข้ามาจับจองเต็มพื้นที่ห้องหัวใจ ละม้ายเข้ามาเป็นเจ้าเรือนแห่งอารมณ์
มันคือความรู้สึก คืออารมณ์ ที่จะควบคุมบงการจิตใจให้เกิดทุกข์

สิ่งนี้ก่อให้เกิดทุกข์...
ความทุกข์จากการสูญเสีย อันเนื่องมาจากความคิดถึงคนใดคนหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก่อให้เกิดความรู้สึกหวงแหน เป็นเจ้าของ สู่ความรู้สึกเสียดายที่จะขาดไร้ซึ่งคนนั้นหรือสิ่งนั้นไว้ยึดเหนี่ยว

สิ่งนี้ก่อให้เกิดทุกข์...
ความทุกข์จากการพลัดพราก อันเนื่องมาจากความคิดถึงคนใดคนหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก่อให้เกิดความรู้สึกหวงแหน เป็นเจ้าของ สู่ความรู้สึกเสียดายที่จะขาดไร้ซึ่งคนนั้นหรือสิ่งนั้นไว้ผูกพัน

สิ่งนี้ก่อให้เกิดทุกข์...
ความทุกข์จากความผิดพลาด อันเนื่องมาจากความคิดถึงคนใดคนหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก่อให้เกิดความรู้สึกเสียดายต่ออดีตที่เลยผ่าน สู่ความรู้สึกหวงแหน เป็นเจ้าของในช่วงเวลาที่ไม่มีทางย้อนกลับคืนมาได้จริง

ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดทุกข์ทั้งหมดทั้งสิ้น...
ความคิดถึงจึงไม่ก่อให้เกิดคุณค่าใดต่ออารมณ์ของมนุษย์
คือสิ่งไร้ค่าที่ทำให้เสียเวลาในการประกอบกิจนานาอันจะเกิดประโยชน์คุณค่าต่อตนเองและผู้อื่น

อย่างไรก็ตาม แม้ความคิดถึงคือทุกข์ แต่ความคิดถึงอันนั้นย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงให้ความรู้สึกทุกข์กลายเป็นกำลังสติปัญญาได้...
คิดไปให้ถึงตัวตนของคนนั้นหรือสิ่งนั้น
คิดไปให้ถึงความคิดจิตใจของคนนั้นหรือสิ่งนั้น
คิดไปให้ถึงโมงยามซึ่งคนนั้นหรือสิ่งนั้นยังเกิดมีความตั้งอยู่
คิดไปให้ถึงไหวพริบปฏิภาณการแก้ไขปัญหาของคนนั้นหรือสิ่งนั้น
คิดไปให้ถึงคนนั้นหรือสิ่งนั้น เพื่อถ้าหากถึงโมงยามของเรา เราจะทำอย่างไร...
ความคิดถึงจึงกลายเป็นคุณประโยชน์อันยอดยิ่งต่อสติปัญญาของมนุษย์
เพราะคิดถึงคนนั้นหรือสิ่งนั้นเพื่อใช้เป็นตัวอย่าง แบบอย่าง
เพราะคิดถึงคนนั้นหรือสิ่งนั้นเพื่อใช้เป็นรากฐานในการพัฒนาสิ่งใด อนาคต
เพราะคิดถึงคนนั้นหรือสิ่งนั้นสู่ความวัฒนาสถาวรต่อมวลมนุษย์ทั้งหลาย

ถ้ามนุษย์ทั้งหลายเหล่านี้คิดให้เป็น
ประโยชน์ทั้งมวลจะเกิดมีขึ้นมาถึงกายตนนั่นแล
...ความคิดถึง คิดไปให้ถึง จึงเป็นการคิดให้เป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
ความคิดถึงจะเป็นการบ่อนทำลายต่อมนุษย์ทั้งหลายได้นั้น ก็ต่อเมื่อ มนุษย์ทั้งหลายใช้อารมณ์คิดถึง

วงดนตรีไดมอนด์ ด้วยการนำทีมโดยพี่สุเมตร ธรรมวงศ์ มนุษย์ผู้ชายซึ่งมองโลกทั้งใบในแง่ดี มีความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและมวลมนุษย์ทั้งหลาย ทำให้วงดนตรีของเขายังสามารถยืนหยัดมาจนถึงขวบปีที่ 18
เป็นวงดนตรีโดยคนตาบอดเพียงวงเดียวที่มีอายุยาวนาน และดูท่าทางว่าจะไม่มีทีท่าหมดอายุไปได้โดยง่าย
สารกันบูดซึ่งไม่ได้ก่อโทษต่อใครทั้งมวลที่วงดนตรีไดมอนด์เลือกใช้เห็นจะเป็น ความรักและความเชื่อที่ตรงกัน...
“เรารักในเสียงดนตรี
เรามีความสุขที่ได้ร้องเพลง
เราชื่นใจที่ยังมีคนชื่นชมในสิ่งที่เราทำ
เราเชื่อว่า ทุกคนคงรับรู้และได้รับในความสุขจากเรา”
คือสิ่งที่ทุกคนในวงดนตรีรู้สึกและฝากให้พี่สุเมตรกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูด
ปัจจุบันนี้วงดนตรีไดมอนด์ยังเป็นวงดนตรีข้างถนนที่ได้รับเกียรติให้ถูกจ้างงานโดยร้านอาหารบ้าง งานกิจกรรมพิเศษบ้าง เป็นระยะ ๆ แม้ไม่บ่อยเท่ากับศิลปินชื่อดังที่มีดวงตามองเห็น แต่ก็ถือเป็นเกียรติที่พวกเขาทั้งหลายภูมิใจว่า อย่างน้อยก็ยังมีคนมองเห็นคุณค่าที่พวกเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยสมอง สองมือ และหัวใจ

นับตั้งแต่วันเสาร์ ที่ 21 มกราคม 2560 กระทั่ง วันอังคาร ที่ 31 มกราคม 2560 วงดนตรีไดมอนด์มีความตั้งใจแรงกล้าว่า
“พี่จะทำคอนเสิร์ตเพื่อแบ่งปันความสุขที่พี่มีสู่เพื่อนพี่น้องภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม”
พี่สุเมตร หรือพี่เมตที่ไอ๊มักใช้เรียกขาน บอกกับไอ๊อย่างฉุกละหุก เข้าใจว่าก่อนหน้าจะจัดคอนเสิร์ตเพียงหนึ่งวัน
“คอนเสิร์ตที่พี่กับเพื่อน ๆ ไดมอนด์จะคิดทำ คงใช้เป็นรูปแบบคอนเสิร์ตข้างถนน เพื่อทุกคนสามารถเข้าถึงได้
โดยอาจจะต้องชักชวนเพื่อนศิลปินที่สนใจมาช่วยกันแบ่งปันความสุขอันนั้นด้วย ลำพังพี่กับเพื่อนไดมอนด์ทำกันไม่ไหวหรอก ต่อให้มีนักร้องนักดนตรี แต่ถ้าไม่มีสถานที่ให้ไปเล่น ไม่มีคนมาดูมันก็ไม่ได้นะไอ๊”
พี่สุเมตรบอกไว้อย่างนั้น

“คิดถึงพ่อ ขอยิ้มสู้ เพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม”
คือชื่อคอนเสิร์ตซึ่งจะจัดในวันดังกล่าว (ท่านใดสนใจโทรศัพท์ไปสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 089-776-5696)
เหตุผลที่ใช้ชื่อว่า “คิดถึงพ่อ ขอยิ้มสู้ เพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม” เป็นชื่อคอนเสิร์ต เนื่องจากว่า
“คนตาบอดเกิดและเติบโตมาด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์ยิ้มสู้
นี่คือบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานแก่คนตาบอดให้รู้จักยิ้มรับปัญหา
ในเมื่อพวกเราได้คำสอนจากพ่อหลวงรัชการที่ 9 มาใส่เกล้าใส่กระหม่อม ทำไมเราถึงไม่นำเอาคำสอนของพ่อมาใช้ช่วยเหลือสังคมบ้าง จริงไหม”

เมื่อประเทศไทยเผชิญหน้ากับความทุกข์โศกอันใหญ่หลวง จากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่เคารพรักอย่างหาที่เปรียบมิได้ ซึ่งเหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้งให้เพื่อนมนุษย์ภาคใต้จำต้องประสบปัญหาจากอุทกภัย
ที่แม้ว่าหลายภาคส่วนจะร่วมกันบรรเทาทุกข์ภัยให้คลายจาง แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่เพียงพอ เพราะการต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก เสาหลักในครอบครัว ย่อมไม่สามารถประเมินค่าทางจิตใจของคนที่ยังอยู่ข้างหลังได้
...วงดนตรีไดมอนด์จึงขอเป็นตัวแทนคนตาบอดกลุ่มหนึ่งที่จะช่วยเพื่อนมนุษย์ที่ประสบภัยให้เกิดมีความสุขตามสมควร แม้ชีวิตจะดีไม่มากเท่าเดิม แต่มันจะดีกว่าทุกวันท่ามกลางความสูญเสียในปัจจุบันนี้

“ใช่ว่าผมจะมีเงิน และอยู่ดีกินดีเพียงพอจะช่วยเหลือคนอื่นนะครับ
แต่ผมคิดว่าผมและเพื่อน ๆ มีความสามารถที่จะพอทำให้เพื่อนมนุษย์มีความสุขไปได้ในแต่ละวัน
คนตาบอดก็อยากทำความดีตามรอยพ่อหลวงรัชการที่ 9
ท่านคือต้นแบบที่ทำให้ผมและเพื่อน ๆ อยากทำความดี แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยก็ตาม”
คือสิ่งที่พี่สุเมตรย้ำให้ผู้ชมคอนเสิร์ตในยามเย็นวันเสาร์ ที่ 21 มกราคม (วันแรกของคอนเสิร์ต) ได้เข้าใจถึงจุดประสงค์

พี่สุเมตรบอกกับไอ๊ว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ ภายหลังจากการหักค่าใช้จ่ายภายในวงดนตรี เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร เป็นอาทิ ก็จะนำส่งมอบไปที่มูลนิธิครอบครัวข่าวสาม

ไอ๊ได้มีโอกาสไปสังเกตการณ์คอนเสิร์ตข้างถนน “คิดถึงพ่อ ขอยิ้มสู้ เพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ที่พี่สุเมตรและเพื่อนไดมอนด์ได้ดำเนินการในวันแรก มันทำให้ไอ๊สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างโดยแท้จริง
พลังงานอันนั้นคือความรักในเสียงดนตรี
ความรักในเพื่อนมนุษย์
ความตั้งใจให้ความสุขแด่คนทั้งมวล
ความเชื่อใจในทีมตนเอง และผู้ร่วมแจม
ความสามัคคี โดยคิดว่าทุกคนทั้งคนเล่น คนร้อง คนฟัง คือทีมเดียวกัน
ผ่านการร้องเพลงที่แม้ว่านักร้องนำจะลืมเนื้อบ้าง...อะไรบ้าง หรือมือกลองจะเข้าไม่ถูกบ้าง คีย์บอร์ดจำไลน์ประสานไม่ได้ มือกีต้าจะท่อนโซโล่ไม่ได้ แต่ทุกคนก็ช่วยพาให้เพลงจบได้อย่างสวยงาม เป็นภาพจำที่ไอ๊จะไม่มีวันลืม

ปล. ฝากความระลึกถึงพี่ ๆ ตาดีที่เป็นทีมงานวงไดมอนด์ทั้งสี่คน ซึ่งคอยดูแลพี่ ๆ คนตาบอดในวงไดมอนด์หลายหลากมากมี ทั้งวิ่งไปซื้อน้ำ ซื้อถ่าน ควบคุมเสียง ยกของทั้งไปและกลับ ประกอบอุปกรณ์การแสดงดนตรีให้ดูเป็นระเบียบ และหน้าที่อีกมากมายที่ไอ๊บอกออกไปไม่หมด

ฝากความระลึกถึงพี่ปุ้ย (นักร้องหญิงเพียงคนเดียว) ที่ทำให้ไอ๊ได้รู้ว่า การร้องเพลงอย่างมีความสุข อย่างมีอินเนอร์ ควรทำกันอย่างไร

ฝากความระลึกถึงพี่เจษฎา (มือคีย์บอร์ด) ที่คายตะขาบวิชาการเล่นคีย์บอร์ดให้ไอ๊ โดยที่พี่แกไม่รู้ตัว เพราะไอ๊แอบสังเกตวิธีการเล่นคีย์บอร์ดของพี่เขาอยู่เงียบ ๆ (อิอิ)

ฝากความระลึกถึงพี่สุเมตร หรือพี่เมตของไอ๊ (มือกลอง) ที่ทำให้ไอ๊ได้มีโอกาสไปรับชมรับฟังการเล่นดนตรีเป็นวงใหญ่ โดยไม่หวนกั้นสรรพความรู้ใด ๆ

ฝากความระลึกถึงผู้คนภายในวงดนตรีอีกมากมายที่ไอ๊เอ่ยชื่อแส้ไปไม่หมด กราบขอบคุณครับ

ปล. 2 ระหว่างทางทั้งไปและกลับ ไอ๊ได้พบเจอผู้คนที่แสนดีมีน้ำใจหลายต่อหลายคนสวนทางผ่านมา
ทั้งวัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่งแถวสถานีรถไฟบางซื่อที่ช่วยดูรถ CHUTTLE BUS รับส่งระหว่างรถไฟบางซื่อกับรถไฟลอยฟ้าสายสีม่วง แม้จะช่วยเหลือด้วยอาการเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยยังขาดประสบการณ์ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ฉายแววกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้วิธีการช่วยเหลือคนตาบอด
ทั้งชายหนุ่มจากสถานีติวานนท์ที่ขึ้นรถไฟลอยฟ้าสายสีม่วงเพื่อจะกลับบ้านแถวปุณณวิถี เข้ามาช่วยเหลือไอ๊จนทำให้ รปภ. ถูกเจ้านายเตือนว่าละเลยหน้าที่ ทั้ง ๆ ที่ชายหนุ่มคนนั้นช่วยเหลือในโมงยามที่ รปภ. ไม่ได้มีหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว (เรื่องระบบรถไฟฟ้านี่ ไอ๊คงต้องนำมาคุยเพิ่มเติมในตอนหน้าอีกสักหน่อยเสียแล้วครับ)

ขอกราบขอบพระคุณโชคชะตา หรืออะไรก็ตามที ที่ทำให้ไอ๊ได้มีคืนวันที่น่าจดจำ
และที่ขาดไม่ได้ ไอ๊ขอกราบขอบพระคุณตนเองที่ไม่หยุดเรียนรู้ ไม่หยุดที่จะให้โอกาสตัวเองได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา
ขอบคุณที่ไอ๊ยังไม่ตายครับ

ปล. 3 ทีแรกว่าจะนำภาพและเสียงบรรยากาศภายในวันเสาร์ ที่ 21 มกราคม 2560 มาเผยแพร่ แต่พอลองให้ญาติ ๆ ของไอ๊ดูกันแล้ว พวกเขาบอกว่า ภาพมันสั่นไหว แม้เสียงจะแจ๋วสักเท่าไหร่ก็ตาม...น่าเสียดาย

อ่านเป็นข้อความอย่างเดียวไปแล้วกันนะคับ (อิอิ)

ปล. 4 ท่านใดมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อยากให้ไอ๊เผยแพร่ สามารถเรียกขานวานใช้ให้ไอ๊ไปเยี่ยมไปหาได้ทุกเวลาเลยนะครับ
ไอ๊ถือว่ามันเป็นการสร้างแบบฝึกหัดใหม่ ๆ ในชีวิตการเขียนของไอ๊เอง




 

Create Date : 31 มกราคม 2560
0 comments
Last Update : 31 มกราคม 2560 1:33:31 น.
Counter : 571 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

อาณาจักรแห่งเรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เราเป็นนักแสวงหา...
เรายังคงค้นหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อหามาแล้ว...
เราจะนำมาเล่า
New Comments
[Add อาณาจักรแห่งเรา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com