ไอ๊ ถามวัต สุทธิพงศ์
 
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 มกราคม 2560
 
 
เรื่องของไอ๊ EPISODE 7

11 พฤศจิกายน 2559
โดย ถามวัต สุทธิพงศ์

วันนี้ตื่นตั้งแต่ตีสี่ ค่อนข้างตกใจ เพราะนัดหมายกับสมาคมคนตาบอดไว้ว่าจะไปพบกันตอนตีสี่ครึ่ง

พอเลิกตระหนกกับเวลาก็พยายามปลอบใจตัวเองว่า เอาน่า...บ้านเราใกล้ ก่อนที่จะหยิบเครื่องอาบน้ำอย่างกุลีกุจอ แล้วพุ่งตัวเข้าไปวิ่งผ่านน้ำ ใช้เวลาไปทั้งหมดสิบนาทีเศษ โดยรวมเวลานั่งทำใจ

ย้อนไปเมื่อวานนี้ ราวเที่ยงกว่า ๆ ไอ๊นั่งไล่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์อย่างไร้จุดหมาย ไม่นานเท่าไหร่ ไอ๊ได้พบข้อความเชิญชวนรวมกิจกรรมถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศที่พระบรมมหาราชวัง

ในชั้นแรก ไอ๊ยอมรับว่า มีความรู้สึกสองจิตสองใจ จะไปดี...หรือไม่ไปดี และความรู้สึกไม่อยากไปดูจะมีอิทธิพลสูงกว่าความอยากไปเสียด้วย

(เดี๋ยว ๆ... อย่าเพิ่งด่าไอ๊นะ...ได้โปรด)

สาเหตุที่ไอ๊ไม่อยากไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากว่า เสื้อดำที่สุภาพ หมายถึง ที่สามารถออกงานสโมสรได้ ไอ๊มีน้อยมาก น้อย...จนกระทั่ง หากสวมแล้วต้องรีบซักทันทีเพื่อใช้ในงานต่อไป

“เดี๋ยวซื้อเสื้อตัวใหม่ก็ได้

งานยังงี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ...”

และอีกเหตุผลมากมายจากแม่ที่ทำให้ไอ๊ตัดสินใจมายืนต่อแถวแต่เช้ามืด

“ไปวัดมหาธาตุ”

แม่โบกรถสามล้อ เช้ามืดอย่างนี้ ที่ตลาดแถวบ้านพบสิ่งที่มีชีวิตซึ่งเรียกว่าแม่ค้าไม่กี่ราย

“โอ๊ย...มันไปไม่ถึงหรอกคุณ”

นั่นคือปากคำจากพลขับ แปลกใจอยู่ไม่น้อย ทำไมภาษาปากของคนที่บ้านของไอ๊เรียกพวกคนขับรถว่า “โชเฟ่อ” สงสัยเหมือนกันไหมครับ

“ไปที่ใกล้ที่สุดแล้วกันพี่ เอ้า...ไป”

ไอ๊ต่อรองแล้วไม่รอการตอบรับ ปีนขึ้นรถสามล้อกับแม่หน้าตาเฉย

แล้วพวกเราสามคนบนรถสามล้อก็มาหยุดรถที่ทุ่งพระเมรุบริเวณตรงข้ามกับอดีตมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองด้วยความอนุเคราะห์จากพี่ ๆ ตำรวจจราจร

ไอ๊ยืนต่อแถวกับผู้คนที่มีความตั้งใจมาถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ซึ่งไอ๊ก็ไม่รู้ว่า “แถว” มันยาวสั้นเท่าไหร่ แม่ของไอ๊กลับไปถึงบ้านนานแล้วหลังจากเมื่อรู้ว่าลูกมาถึงที่รวมตัวกับพวกคนที่สมาคมคนตาบอด

“ตื่นกันกี่โมงเนี่ย”

หลายคนพยายามไถ่ถามซึ่งกันและกัน แม้ไม่ใช่งานรื่นเริง และแม้แต่ละคนจะมีความรู้สึกสลดต่อความสูญเสียยิ่งใหญ่ หากน้ำใจคนกลับไม่ได้เหือดหายไปกับพระเจ้าแผ่นดิน

แล้วไม่นานเท่าไหร่ เมื่อประตูพระบรมมหาราชวังเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เจ้าหน้าที่จึงเชิญพวกคนพิการมาตรวจความพร้อม อันได้แก่ เสื้อผ้า หน้า ผม และอาวุท เป็นลำดับแรก โดยตลอดการปฏิบัติต่อคนพิการจะมีเจ้าหน้าที่แจ้งประชาชนกลุ่มอื่น ๆ ให้ทราบถึงความจำเป็นในการอำนวยความสะดวกแก่คนพิการก่อน

พอตรวจความเรียบร้อยแล้ว คราวนี้คนพิการถูกแยกกลุ่มแล้วครับ เพราะแต่ละคนจะมีอาสาสมัครดูแลคนพิการประจำตัว ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคนของใคร อาสาสมัครที่ถูกเตรียมไว้จากสมาคมคนตาบอดกลายเป็นหมันไปเลยครับ เสียดาย...คุยอะไรกันไว้ดิบดี

ในเวลานี้ที่ไอ๊ได้มีโอกาสเข้ามาในพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษชัยศรี บอกตามตรงว่า ความรู้สึกแรกที่สัมผัสคือ ความเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงรองเท้าคัทชูดังกระทบอิฐบล็อกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

ก๊อบ...ก๊อบ...ก๊อบ

‘ข้าพระพุทธเจ้าชื่อถามวัต สุทธิพงศ์’

ก๊อบ...ก๊อบ...ก๊อบ

‘ข้าพระพุทธเจ้าเป็นคนพิการทางสายตา มีความตั้งใจน้อมจิตถวายบังคมต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ และเพื่อส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย’

ก๊อบ...ก๊อบ...ก๊อบ

ไม่เฉพาะเพียงความเงียบเท่านั้น ทว่าความเย็นจนรู้สึกหนาวเยือกถึงในอกพยายามแทรกผ่านอนุสติที่จะรำลึกถึงพระเจ้าแผ่นดินรัชการที่ 9

“ถอดรองเท้า ถุงเท้า แล้วใส่ในถุงที่เจ้าหน้าที่เตรียมให้นะครับ”

เสียงกร๊อบแกร๊บของถุงพลาสติกคล้ายไฟลุกโหมเซ็งแซ่อยู่ทั่วไปในทันทีที่เจ้าหน้าที่แจ้งระเบียบแก่พวกเรา

เมื่อทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง ก็ได้เวลาตั้งแถวเข้าสู่พระที่นั่งดุษิตมหาปราสาท

ประวัติศาสตร์ชีวิตที่ครั้งหนึ่งได้เฝ้าแหนพระเจ้าแผ่นดิน แม้จะเป็นการเข้าเฝ้าเพียงพระบรมโกศก็สุดแสนภูมิใจเหลือเกิน

“ตรงหน้าของเราคือพระบรมโกศเลยค่ะ”

อาสาสมัครประจำตัวไอ๊บอกเมื่อเราต่างนั่งลงพับเพียบเรียบร้อย

ไอ๊ได้มีโอกาสนั่งอยู่เบื้องขวาของพระที่นั่ง ใกล้กับอาสนะสงฆ์ หมายความว่าไอ๊ได้นั่งอยู่ตรงข้ามพระบรมโกศ เจดีย์ห้าชั้นประดับทองแพรวพราว ซึ่งถือเป็นสีสันอันเดียวที่เราพอจะได้เห็นนอกจากสีดำ

“กราบ...”

คือเสียงของเจ้าหน้าที่บอกบทให้พวกเรากระทำอย่างพร้อมเพรียง

ไอ๊มีสีหน้าเลิ่กลั่ก รู้สึกว่าตนเองเงยหน้าขึ้นมาไวเกินภายหลังจากที่ก้มลงกราบพร้อม ๆ คนอื่น ๆ

เพราะแสนนานเหลือเกินกว่าเจ้าหน้าที่จะบอกบทอีกครั้งว่า

“ลุกขึ้นค่ะ...”

ธ คือพระเจ้าอยู่เหนือหัวใจราษฎร์
ธ คือปราชญ์กำเนิดศาสตร์อันยิ่งใหญ่
ธ คือผู้ประสาทพรพอเพียงไว้
ธ คือฝนมาดับไฟคลายร้อนเร่า

ธ คือพระมาโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ธ คือไต้ส่องหัวใจคนโง่เขลา
ธ คือผู้นำทางให้เดินก้าว
ธ คือดาวฤกษ์ดวงใหญ่ส่องใจชน

ก้าวเถิดก้าวเดินเท้าตามรอยพ่อ
ก้าวเถิดก้าวอย่ารั้งรออย่าสับสน
ก้าวเถิดก้าวเดินทางไปไม่อับจน
ก้าวเถิดก้าวจะสุขล้นถ้ารู้พอ

ก้าวเถิดก้าวเดินเท้าตามรอยท่าน
ก้าวเถิดก้าวตามให้ทันศาสตร์ท่านก่อ
ก้าวเถิดก้าวสรรพความรู้มีไว้รอ
ก้าวเถิดก้าวมาเถิดหนอพ่อสอนเจ้า

ทั้งฝนเทียมรินหลั่งเพื่อดินชุ่ม
เขียวชอุ่มทั่วหล้าอันป่าเขา
หนองน้ำเอยข้าวในนาไม่ซึมเซา
ระบบเผ่าพันธุ์พงศ์คงสมปอง

ทั้งพระราชจริยวัตร
เห็นถนัดว่าดีเลิศไม่เป็นสอง
กตัญญูรู้คุณคนรู้ปกครอง
ไทยทั้งผองโปรดมองลองทำตาม

เพียงรู้รักรู้สามัคคีไว้
เพียงน้อมใจใฝ่พอเพียงพออิ่มหนำ
เพียงตัวเราที่พอเพียงเพียงเราทำ
เพียงพอนั้นก็สำราญเพราะเราพอ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม


Create Date : 26 มกราคม 2560
Last Update : 26 มกราคม 2560 19:01:00 น. 0 comments
Counter : 262 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

อาณาจักรแห่งเรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เราเป็นนักแสวงหา...
เรายังคงค้นหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อหามาแล้ว...
เราจะนำมาเล่า
New Comments
[Add อาณาจักรแห่งเรา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com