เพาะถั่วงอกปลอดสารพิษ
ผักปลอดสารพิษ, ผักออแกนิค, ผักไฮโดรโปนิกส์ ต่างๆเหล่านี้ สนใจมานานมากแล้ว แต่หาโอกาสทำไม่ได้สักที บางทีก็ต้องลงทุนมากเกินตัว(เอง)ไปหน่อย ก็เลยอ่านๆวางๆไปเรื่อย ค้นไปค้นมาก็ไปพบการเพาะถั่วงอกปลอดสารพิษ ทั้งแบบปลูกไว้กินเองก็มี ปลูกไว้ขายก็หลายแห่ง ที่สำคัญคือสามารถค่อยๆทำค่อยๆลองไปได้ เลยสนใจมากเป็นพิเศษ ในที่สุดก็ตัดสินใจลองดูสักที
ผมเลือกที่จะเพาะในแบบ "ไร้กระสอบ ระบบน้ำวน" ไม่ใช้สารเคมีใดๆทั้งสิ้น น้ำประปากับถั่วเขียวเพียวๆเลย...
เอาละ...ผมจะบันทึกไว้ที่นี่ เพื่อไว้ดูพัฒนาการของตัวเองว่าจะเป็นไปในรูปใด และอาจจะพอเป็นประโยชน์สำหรับท่านอื่นๆด้วย รอติดตามครับ เริ่มไปได้ระยะหนึ่งแล้ว เดี๋ยวขอเวลารวบรวมแป๊บ...
++++++++++++++ ตัดตอนมารีวิวเต็มๆวันนี้ 21 มิถุนายน 2558 หลังจากที่ได้ทดลองใช้เมล็ดถั่วของเทสโก้โลตัสดูแล้ว ปรากฎว่าไม่ได้แตกต่างจากถั่วอื่นๆสักเท่าไร วันนี้เลยจัดมา 3 ถุง แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดละ 700 กรัม ล้างน้ำ 3 น้ำเพื่อชะล้างผงฝุ่นต่างๆ แล้วแช่น้ำธรรมดาไว้ ตั้งแต่ 10 โมงเช้า กลับมาเริ่มทำตอน 22 น. ก็ไม่เป็นไร ตามสูตรบอกว่า 6 ถึง 8 ชั่วโมง บางสูตรบอกว่าแช่ไว้ 1 คืน ส่วนผมเอาตามสะดวกเข้าว่า แต่ไม่น้อยกว่า 8 ชม.ละกัน จะเห็นว่ามีฝ้าๆขาวๆลอยน้ำอยู่ ตามสูตรเขาว่าแบบนี้ดี เปอร์เซ็นต์งอกมีเยอะ เมล็ดเริ่มบวมๆปริๆ มีโผล่ออกมาบ้างแล้ว ก็ล้างอีก 3 น้ำ หรือจนกว่าน้ำจะใส ก็เทน้ำทิ้ง พักเมล็ดไว้ เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป เอาตะแกรงมาวางซ้อนกัน อันถี่อยู่ล่าง เอาไว้ให้รากเกาะ อันห่างอยู่บน วางไว้ 6 ชุด เพราะต้องการเพาะ 6 ชั้น เอาถั่วมาใส่ทีละชุด โดยกำมาวางเรียงไปทีละกำ กะให้เท่าๆกันจนหมดที่แช่ไว้จากเมล็ด 700 กรัม แล้วก็เอามือเกลี่ยให้แผ่ออก กะว่าไม่ให้ซ้อนกันเกิน 2 เมล็ด จากที่ทดลองผ่านๆมา ผมจะเน้นให้อยู่กลางๆ เพราะริมๆน้ำจากฝักบัวไปไม่ค่อยถึง ต้นจะเล็กกว่าตรงกลางเล็กน้อย บางสูตรก็ว่าน้ำคลอรีนดี ฆ่าเชื้อ บางสูตรก็ว่าทำให้รากเน่า ผมเลยขอกลางๆ เอาน้ำประปาผ่านเครื่องกรองน้ำตัวนี้ เอาไปใส่ถัง ให้ระดับน้ำต่ำกว่าก้นตะกร้าประมาณ 1 นิ้ว ผมใช้น้ำประมาณหม้อครึ่ง เอา EM ของคิวเซผสมลงไป 2 ฝา เอาเครื่องปั๊มน้ำหย่อนลงไป ร้อยท่อน้ำผ่านช่องหูตะกร้าขึ้นมา แล้วประกอบฝักบัวเข้ากับฝา สวมท่อยางเข้ากับฝักบัว แล้วรัดให้แน่นพอประมาณ เนื่องจากน้ำมีแรงดันพอสมควร เคยมีอยู่ครั้งที่ตัวรัดมันลื่นคลายตัวเอง น้ำเลอะพื้นไปหมด ต้องระวังด้วย ไฟอาจดูดเอาได้ จากนั้นยกตะแกรงถั่วไปวางซ้อนกัน 6 ชั้น ชั้นที่ 7 เอาตะแกรงถี่วางทับด้วยตะแกรงห่างอีกที เพื่อกันน้ำจากฝักบัวชะเมล็ดถั่วกระจาย จากนั้นก็ปิดฝา เสียบเครื่องควบคุม รดน้ำ 1 นาที-หยุด 1 นาที-รดน้ำ 1 นาที-หยุด 5 นาที เป็นอย่างนี้เรื่อยๆไป เมล็ดพันธุ์ถังละ 700 กรัม รวม 2 ถัง 1400 กรัม ลองดูว่าจะได้ถั่วงอกเท่าไร
รูปข้างล่างนี้สัพเพเหระตั้งแต่เริ่มทดลอง เริ่มขาย มีเสียบ้างอะไรบ้างทิ้งทั้งถังเลยก็มี เอาเป็นว่า ถ้าทำไว้กินเอง นานๆเพาะที หรือเพาะ 3-4 รอบ คงโชคดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเพาะต่อเนื่องเพื่อส่งขาย อันนี้เรื่องเยอะแน่นอน ตะแกรงต้องล้างให้สะอาด ตากแดดอย่างน้อย 1 วันเต็ม ถ้าไม่มีแดดต้องผึ่งในที่ร่ม 2 วัน ถ้าจะให้ชัวร์ต้องราดน้ำร้อน (เคยเอาต้มแล้วตะแกรงเสียรูปหมด มันคงร้อนเกินไป)
ยากกับการผลิตแล้ว การหาที่ขายเขาว่ายากกว่า คู่ต่อสู้ของเราไม่ใช่ถั่วอ้วนๆขาวๆไม่มีรากตามท้องตลาด แต่คนส่วนมากชอบเอาถั่วปลอดสารของเราไปเปรียบเทียบกันให้เราท้อ...
ตลาดย่อยของเราอยู่ที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวปลอดสาร ที่เขามีแนวคิดในการใช้ของปลอดสารอยู่บ้างแล้ว เช่น ใช้ลูกชิ้นปลอดสารอยู่เป็นต้น ตามโรงเรียน โรงพยาบาล ถ้าติดต่อได้ละเยี่ยมเลย มีผู้เพาะบางรายส่งประจำอยู่ อย่างได้อย่างนั้นบ้าง คงอีกสักพัก...
08 กรกฎาคม 2558 บันทึกเพิ่มเติมที่ผ่านมา ทดลองให้น้ำอยู่นอกถัง เจาะถัง ให้น้ำอยู่ในกะละมังข้างนอก แล้วปั๊มเข้าไปรดข้างใน ด้วยความคิดที่ว่า เมื่อน้ำอยู่นอกถัง อากาศจะหมุนเวียนได้ดีกว่า น้ำเสียยาก ทดลอง 2 แบบ คือ 1. ไม่ใช้ตะกร้า เอาตะแกรงวางลงในถังโดยตรง ผลออกมาคือถั่วงอกขึ้นไม่ตรง ทำให้ตะแกรงเอียง เลยหนีจากวงน้ำที่มาจากฝีกบัว ผลคือไม่โดนสายน้ำซะเยอะ คุมผลผลิตไม่ได้ ยกเลิก 2. ใช้ตะกร้าเหมือนเดิม ผลลัพท์ไม่แตกต่าง ความต่างอยู่ที่การเปลี่ยนน้ำ ซึ่งการเปลี่ยนน้ำทุก 1 วัน ไม่ว่าจะทำแบบใหน ให้ผลลัพท์ที่ดีหมด ถึงจะเลี้ยงน้ำเดียวได้ 2 วัน แต่ก็ได้ถั่วงอกที่ไม่แข็งแรง หัวหลุด น้ำหนักหายไปเยอะเลย ยกเลิกเช่นกัน
สุดท้ายก็กลับมาทำแบบเดิม โดยใช้น้ำประปาไม่ต้องกรอง ไม่ต้องใส่EM ตัดขอบตะกร้าไม่ให้มันบีบรัดสายยาง เพราะจะทำให้น้ำไม่แรง แล้วก็ใช้เทียนหยดปิดรูฝักบัวไป 1 แถว เพื่อเร่งให้น้ำแรงขึ้น กระจายมากขึ้น กับตั้งใจเปลี่ยนน้ำให้แน่นอน ตอนนี้เลยลงเครื่องเพิ่มเป็น 6 เครื่อง เดินเครื่องวันละ 2 ถัง ผลิตไม่ทันขายแล้ว
จะทดลองอีกอย่างก็คือ เอาผ้าขาวบางแบบหนาๆหน่อยมาวางระหว่างตะแกรง โดยให้ทำหน้าที่รับน้ำไว้บ้าง เพื่อให้รากถั่วงอกดูดน้ำไปใช้ และล่อให้รากที่ลอยอยู่บ้างนั้น ดิ่งลงล่างเพื่อหาความชื้น น่าจะทำให้รากลอยน้อยลง
17 กรกฎาคม 2558 ลองเพาะควบคู่กัน ระหว่างใช้ทิชชู่ซ้อน 2 ชั้น กับแบบกระสอบป่าน ใช้ถั่วงอก 750 กรัม วันเสาร์เย็นเก็บเกี่ยว จะได้รู้ว่าได้ผลแตกต่างกันอย่างไร
รูปบนนี้ทดลองไปแล้วครั้งนึง ใช้ถั่วงอก 600 กรัม ไม่ได้ปิดด้านบนสุดด้วยกระสอบป่าน ผลคือน้ำชะเมล็ดถั่วกระจัดกระจาย หล่นมางอกนอกตะแกรง ยาวทั้งต้นทั้งราก 2 ถัง เมล็ดถั่ว 1.2 กก. ได้ถั่วงอกประมาณ 3.5 กก.
ลองใช้กระสอบป่าน ผลผลิตดีมาก ต้นไม่ยาวมาก ออกแนวสั้นอวบ สวย รากไม่เยอะ ไม่เสียเวลาเด็ดราก ถือว่าดีมาก เมล็ด 800 กรัม ได้ผลผลิต 4.5 กก. น้ำดีตลอด 2 วัน แต่การทำความสะอาดกระสอบป่านค่อนข้างยาก
ลองใช้กระดาษทิชชู่อีกรอบ คราวนี้เปลี่ยนรูปแบบการซ้อนทับ เกลี่ยเมล็ดให้เป็น 4 เหลี่ยมตามแนวกระดาษ แล้วปิดทับด้านบนสุดด้วยกระสอบป่าน เพื่อไม่ให้สายน้ำพุ่งลงไปกระจายเมล็ดถั่ว วันเสาร์เย็นรู้ผล...
21 กรกฎาคม 2558 สรุปผลการเปรียบเทียบ ระบบใช้กระสอบ รดน้ำทุก 2 ชม. ระหว่างการใช้กระสอบป่านกับการใช้กระดาษทิชชู่ ผลปรากฏว่าได้ผลผลิตใกล้เคียงกัน ต้นอวบสั้นเหมือนกัน แต่กระสอบป่านยุ่งยากเรื่องการล้างแล้วนำมาใช้ใหม่ ส่วนกระดาษทิชชู่นั้นดึงทิ้งพร้อมรากได้เลย
แต่ระบบใช้กระสอบ ไม่ว่าจะเป็นทิชชู่หรือกระสอบป่าน ต้นถั่วงอกจะอ้วน เนื่องจากมีน้ำให้ดูดซึมได้ตลอดเวลา และเพราะว่ามีน้ำในลำต้นมาก จึงเหมาะแก่การเพาะแล้วขายทันที หรือนำไปประกอบอาหารโดยไว หากแข่เย็นไว้จะทำให้ออกแนวช้ำน้ำ การเก็บไว้ในตู้เย็นนานๆหรือแช่เย็นไว้นานๆไม่ค่อยเวิร์ค ในขณะที่การเพาะแบบไร้กระสอบนั้น ถึงแม้ว่าต้นไม่สั้นอวบ แต่แช่ตู้เย็นไว้ได้นับ 10 วัน...!
ปัญหา(ส่วนตัว)อีกอย่างก็คือ รอบการเก็บผลผลิต เนื่องจากการเพาะแบบใช้กระสอบนั้น จากการเพาะมา 6 ถัง พบว่า...
- การเพาะที่ 48 ชม. ต้นเล็ก ยังไม่พอดี - เพาะ 60 ชม.จะแตกใบอ่อนมากและยาวเกิน - ที่เหมาะสมคือ 52 ชม. ถ้าเริ่มลงถัง 20.00 น. ถัดไปอีก 2 วันต้องไปเก็บตอนเที่ยงคืน หากเพาะเช้า อีก 2 วันต้องไปเก็บสายๆหรือเที่ยงๆ สรุปสูตรของการเพาะแบบใช้กระสอบคือ เพาะเวลาใหน อีก 2 วันเวลานั้นบวก 4
รูปนี้ ถ่ายเมื่อเวลาผ่านไป 60 ชม. ดันฝาลอยขึ้นมาเลยเชียว
และยาวอย่างนี้ แต่ก็ยังคงความอร่อยอยู่เหมือนเดิม
วันนี้...กลับมาที่ระบบไร้กระสอบอีกครั้ง(หลังจากเพิ่งไปเย็บกระสอบมา 200 กว่าบาท โดนบ่นระงม...) แต่จะรองด้วยตาข่ายรูเล็ก 2 ชั้น และจะไม่ใช้ถังดำ แต่จะวางตะกร้าในห้องที่ค่อนข้างมืดแทน เพาะชั้นละ 100 กรัม ถ้าได้ 3 กิโลกรัมขึ้นไปถือว่าสอบผ่าน วันพฤหัสที่จะถึงรู้ผลครับ
เมล็ดชั้นละ 100 กรัม เกลี่ยซ้อนกันน้อยที่สุด
ตั้งท่าแล้วถ่ายรูป เอาจริง...
ปรากฎว่าพอเอาตะแกรงเมล็ดเข้าตะกร้า ประกอบฝักบัว ปิดถัง เดินเครื่อง น้ำกระเซ็นกระจายเลยขอบกะละมัง เปียกพื้นไปหมด...งานนี้โดนบ่นแน่ เลยต้องยกเลิกโปรเจ็ค นำกลับไปลงถังอย่างเดิม ไว้รอดูผลเรื่องรากที่จะลงพื้น 2 ชั้นได้ดีกว่าเดิมหรือไม่ และผลผลิตจะเป็นอย่างไร...
24 กรกฎาคม 2558 เก็บผลผลิตแล้ว ได้ต้นผอมยาวไม่อวบตามมาตรฐานของการเพาะแบบไร้กระสอบ การซ้อนตะแกรงถี่ 2 ชั้นไม่มีผลทำให้อวบขึ้นแต่ประการใด แต่การเพาะชั้นละ 100 กรัม ทั้งหมด 6 ชั้น รวมเป็น 600 กรัม ไม่ค่อยเบียดเสียดกัน ต้นเสียน้อยมาก ถ้าคิดตามค่าทั่วๆไปก็จะประมาณ 6 เท่าของเมล็ด ตามทฤษฎีจะได้ 3.6 กก. ตอนนี้ได้เกือบ 4 กก. ถือว่าสอบผ่าน
เย็นนี้เก็บ 1 ถัง ลงใหม่อีก 2 ถัง...ยาวไป...
ไว้มีอะไรเพิ่มเติมจะแวะมาอัพเดทเรื่อยๆ ขอให้สุขภาพดีกันทุกๆคนนะครับ
(ติดตามได้อีกช่องทางที่ เฟสบุค ครับผม)
Create Date : 16 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 26 มกราคม 2560 23:32:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5634 Pageviews. |
|
|
|