...ส บ า ย ๆ ส ไ ต ล์ มื อ ไ ม่ PRO แ ถ ม ยั ง... LOWFESSIONAL ...

<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 ธันวาคม 2553
 

ความร้อนขึ้น น้ำไม่รั่ว กับปัญหาที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง


[รวมเรื่องที่ผ่านมา]
วันก่อนเจอเหตุการระทึกอีก ทุกๆเช้าผมก็ดูแลน้ำท่าบริบูรณ์ดี ไปทำงานตามปกติ ช่วงเที่ยงต้องย้ายไปเข้าอีกออฟฟิชนึง ระหว่างขับรถไปก็ชำเลืองดูเกจ์น้ำมันที่เอามาแสดงแก๊ส(กำลังเห่อ) และดูเกจ์ความร้อนไปด้วย แอบเห็นว่ามันแกว่งๆไปทางเกินครึ่งอยู่เหมือนกัน แต่ระยะทางไม่ไกลเท่าไรก็ถึงที่หมาย จอดรถก้มดูนั่นนี่ก็ไม่มีรอยน้ำ พัดลมก็หมุนปกติ ก็เลยเข้าทำงาน

เลิกงานจะกลับบ้าน ขับออกมาได้สัก 2-3 กม. ผ่านตัวเมือง สังเกตเกจ์ความร้อนมันขึ้นเรื่อยๆ การจราจรช่วงเลิกงานก็ค่อนข้างติดขัด ดูท่าทางจะไม่ยอมลงง่ายๆ จึงต้องแฉลบจอดข้างทาง

มองเห็นรอยน้ำถูกดันทิ้งออกทางหม้อพักเยอะอยู่ ก็ทำตามที่บอกกล่าวกันต่อๆมา คือห้ามเติมน้ำขณะเครื่องร้อนเด็ดขาด ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง เริ่มๆจะมืด

นึกอยากจะขยับรถแอบบลงชิดขอบทางอีกหน่อย เลยลองติดเครื่องดู เกจ์ความร้อนลดลงมาบ้างแล้ว ขยับสักหน่อยคงไม่เป็นไร ก็ติดเครื่องได้ แต่กดคันเร่งไม่ได้เลย เครื่องจะตื้อๆและดับทันที

ตายละหวา...งานเข้าซะมั้ง เลยโทรหาเพื่อนคนที่เป็นช่างยนต์ ทำงานโรงงานก็เกี่ยวกับรถยนต์ (แต่เวลาอยู่บ้านไม่ยอมรับซ่อมรถยนต์ ชอบแต่ไปวางระบบคอมฯ ระบบดาวเทียม ระบบกล้องวงจรปิด)ได้รับคำแนะนำจนสามารถทำตามและกลับบ้านได้ ตามนี้ครับ
  1. ถ้าความร้อนขึ้นจนรถดับไปเอง โอกาสพังสูงมาก ดังนั้น เห็นความร้อนขึ้น ให้รีบหาที่จอดก่อนเลย

  2. จอดรถ ดับเครื่อง เปิดฝากระโปรงไว้สักครึ่งหรือหนึ่งชั่วโมงก่อน เพื่อลดความร้อนและแรงดันต่างๆลงบ้าง

  3. อย่าเปิดฝาหม้อพักที่มันกำลังพ่นน้ำหรือพ่นไอน้ำ แง้มเมื่อไรมันพุ่งสวนออกมาแน่ ไม่ใบหน้าก็ฝ่ามือได้พองแน่

  4. ตรวจดูก่อนว่าไม่มีน้ำทะลักออกมาตามท่อต่างๆ คือผมกำลังจะเติมน้ำ แต่ถ้าเห็นว่ามันจะรั่วออกได้หมดก็คงเปล่าประโยชน์

  5. พัดลมหม้อน้ำหมุนปกติ (ถ้าไม่หมุนก็ต้องแก้ปัญหานี้ก่อน)

  6. หาผ้าหนาๆมาพับๆๆให้พอเหมาะมือ คลุมลงไปที่ฝาหม้อน้ำ

  7. ตอนนี้เครื่องดับอยู่ กดมือลงไปที่ฝาด้วยน้ำหนักมือพอประมาณ อย่าเอาใบหน้าไปรอรับฝาตรงๆ อาจใช้อีกมือกดช่วยก็ได้ ค่อยๆหมุนฝาให้เปิดออก ช่วงปลายๆอาจจะมีแรงดัน ดันน้ำหรือไอน้ำฟู่ๆออกมา อย่าปล่อยมือทันที เพราะฝาอาจจะกระเด็นเป็นอันตรายได้ ให้กดมือบังคับไว้ ค่อยๆหมุนทีละนิดๆเพื่อระบายความดัน จนเปิดได้ในที่สุด

  8. ไปติดเครื่องรถ ถ้าติดได้ก็มีโอกาสรอด ถ้าติดไม่ได้ก็มีโอกาสลาก(ต้องลากนั่นแหละ ไม่ต้องพยายามแล้ว)

  9. รถผมติดได้ จึงทำตามคำแนะนำต่อไป คือค่อยๆเติมน้ำลงในหม้อน้ำ ย้ำว่าต้องค่อยๆ เพราะมันจะกระเด็นสวนออกมาได้ทุกเวลา การทำเช่นนี้ เพื่อนบอกว่า จะทำให้น้ำใหม่กับน้ำเก่าค่อยๆปรับอุณหภูมิเข้าหากัน เครื่องก็จะไม่ถูกน้ำเย็นฮวบฮาบจนแตกร้าว
    ค่อยๆเติมจนเต็ม แล้วลองเร่งเครื่องดูบ้าง น้ำจะต้องดันออกสลับดึงเข้า แสดงว่าโอกาสรอดสูงละ ให้ปิดฝาหม้อน้ำ

  10. จากข้อข้างบน แอบดีใจว่าเร่งเครื่องได้โดยไม่ดับแล้ว รอดแล้วผม...

  11. ขับกลับบ้าน เพื่อมาหาละเอียดอีกทีว่าความร้อนขึ้นสูงได้อย่างไร

วันรุ่งขึ้นก็ก้มๆมุดๆเพื่อหาร่องรอย ติดเครื่อง ขยับนั่นนี่ไปเรื่อยๆ สังเกตว่าเมื่อไปขยับสายพัดลมหม้อน้ำ รอบมันสะดุดๆ บางทีหยุดไปเลย ขยับๆอีกก็ติดได้อีก ใช่เลย...นี่แหละอาจเป็นหนึ่งในต้นเหตุของความร้อนขึ้น

จริงๆแล้ว ผมพบอาการนี้ตั้งแต่ตอนขับน้ำมันแล้ว คือขับช้าๆรถติดๆความร้อนมีขึ้นๆลงๆบ้าง แต่พอขับยาวออกนอกเมืองมันก็ปกติทุกที นึกๆอยากจะซ่อมมันก็ไม่มีอะไรเสียให้เห็น พอขับลืมๆไปหลายๆวันมันก็แสดงอาการอีก จนผมต้องเตรียมผ้าเตรียมน้ำติดรถไว้ตลอดเวลา

จังหวะที่พัดลมมันไม่หมุน หรือติดๆดับๆ ถ้าอยู่ในเมือง ขับช้าๆ ความร้อนมันคงขึ้นได้ แต่พอขับยาว ลมที่ปะทะด้านหน้าคงเข้ามาช่วยกัน จึงยังอยู่รอดมาได้จนทุกวันนี้
ผมคลำสายไล่จากพัดลมลงไปเรื่อยๆ พบว่าในจังหวะที่มันสะดุดๆนั้น สายอุ่นๆขึ้นมาทันที และถ้าขยับไปโดนจังหวะที่มันหยุด สายจะร้อนมาก

สายน่าจะชอร์ต หรือชอร์ตๆขาดๆอยู่ข้างใน จึงได้แกะเทปพันสายออก ก็พบปัญหาที่ซ่อนอยู่ ดังรูปที่ผมแนบมานั่นเอง



  1. สายพัดลม เป็นคู่สายที่แยกออกมาจากท่อใหญ่ ผมสังเกตว่า มันตีคู่ติดกันหนึบๆมาแบบที่ไม่น่าจะเป็น และสายก็ถูกปอกในแบบแฉลบออกข้างๆ (จุด 1 และ 2) เพราะไม่สามารถแยกสายออกจากกันได้ และช่าง(คนใหนก็ไม่รู้) มัดสายพัดลมเข้าไปแบบนั้นแหละ แล้วพันด้วยเทปพันสายไฟปิดไว้

  2. หลังจากพิจารณาโดยละเอียดแล้ว ผมฟันธงว่า มันไม่ใช่สายคู่ แต่มันเป็นสายที่ "ละลายติดกัน" (จุดที่ 3) ผมจึงพยายามผ่าแยกจากกัน แต่มันลามเข้าไปถึงในท่อรวม และพบว่าลวดทองแดงข้างใน มันก็เบี่ยงไปเบี่ยงมา หากบิดหรือขยับสาย โอกาสที่มันจะไปแตะกันก็สูงมาก และยังไม่รู้ว่า มันไปเบียดกันอยู่ตรงใหนบ้าง

  3. ผมเอาคัทเตอร์ค่อยๆผ่าท่อรวมให้เป็นรอยแยก แล้วดึงสายพัดลมย้อนลงไป จนพบว่า มันเป็นสาย 2 เส้นที่แยกกันอยู่จริงๆ (จุดที่ 4)

  4. ผมจึงตัดในส่วนที่มันละลายติดกันนั้นทิ้งไป แล้วปอกสาย 2 เส้นนั้นมาบัดกรีเข้ากับสายพัดลมใหม่ ทีนี้ไม่ว่าจะเขย่าสายอย่างไร พัดลมก็หมุนได้ไม่มีสะดุดแล้ว ผมทดลองดูให้ลมดูดความร้อนออกมาจากหม้อน้ำ ไม่ใช่เป่าเข้าไป ก็เป็นอันว่าต่อสายได้ถูกขั้วแล้ว

  5. จัดการพันด้วยเทปพันสายไฟ และเก็บรายละเอียดอื่นๆให้เรียบร้อย

สรุปว่าจบไปอีกงาน ไม่รู้ว่าจะเจออะไรอีก...

อัพเดทล่าสุด
หลังจากเจอเหตุการณ์ความร้อนขึ้นๆลงๆอีกหลายครั้งจนทนไม่ไหว กลัวเครื่องจะพังลงไปซะก่อนเวลาอันควร จึงได้ฤกษ์แวะไปร้านหม้อน้ำ เลือกเอาร้านข้างๆเพื่อนที่เปิดเต๊นท์รถอยู่ (ยืมมือเพื่อนหน่อย จะได้ไม่ถูกฟัน)

สรุปว่า หม้อน้ำตันไปสักครึ่ง ถอดมาแทงแล้วก็ไม่หาย ช่างบอกว่าแข็งและแน่นตึ้บ แทงไม่เข้า การซ่อมอย่างเดียวที่ทำได้ก็คือปิดท่อน้ำวิ่งในส่วนที่ตัน กลายเป็นว่าเหมือนมันตันอยู่นั่นเอง (แล้วจะซ่อมทำไม) หลังจากพูดคุยถึงข้อดีข้อเสีย และโทรปรึกษาเมียเรียบร้อยแล้ว ก็ตกลงเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ คราวนี้เป็นแบบ 2 แถว จุน้ำมากกว่าเดิม ราคา2พัน8ร้อยบาท วิ่งมาหลายวันแล้ว อุณภูมิไม่ขึ้นไม่ลง คงที่ตลอด สรุปว่าน่าจะถูกจุดที่สุดแล้ว...


Create Date : 18 ธันวาคม 2553
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2554 18:36:07 น. 12 comments
Counter : 66568 Pageviews.  
 
 
 
 
ขอบคุณค่ะ

Photobucket

ไว้แก้ง่วงจ้าาา บ่ายๆแบบนี้ง่วงนอน
 
 

โดย: Junenaka1 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:13:42:45 น.  

 
 
 
 
 

โดย: หน่อยอิง วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:17:49:08 น.  

 
 
 
แวะมาอ่านค่ะประกันภัยรถยนต์
 
 

โดย: carinsurance (loveyoupantip ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:1:26:37 น.  

 
 
 
แวะมาอ่านค่ะฝากเว็บหน่อยนะค่ะรถมือสอง
 
 

โดย: secondcar (loveyoupantip ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2554 เวลา:18:30:04 น.  

 
 
 
 
 

โดย: pest (loveyoupantip ) วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:2:12:54 น.  

 
 
 
 
 

โดย: p5qhealth (ponglds ) วันที่: 6 เมษายน 2555 เวลา:20:32:31 น.  

 
 
 
เป็นข้อมูลที่ดีมาก ๆ ครับ
 
 

โดย: abhi IP: 182.52.92.93 วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:10:37:32 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากค่ะ..ได้ประโยชน์เยอะเลยค่ะ
 
 

โดย: น้องมายด์ IP: 182.52.45.248 วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:23:53 น.  

 
 
 
ดีมากๆคับ เป็นความรู้อีกอย่างที่บางทีช่างไม่มีทางรู้ได้เลย เยี่ยมมากๆคับ
 
 

โดย: NUCHA IP: 182.53.149.223 วันที่: 20 สิงหาคม 2556 เวลา:9:50:48 น.  

 
 
 
แจ๋วครับ
 
 

โดย: รุ่ง IP: 1.47.67.126 วันที่: 5 กันยายน 2557 เวลา:10:40:19 น.  

 
 
 
รถมีปัญหาแบบนี้เหมือนกันไปซ้อมที่ไหนคะ
 
 

โดย: Chi IP: 27.145.18.194 วันที่: 26 สิงหาคม 2559 เวลา:21:38:42 น.  

 
 
 
รถมีปัญหาแบบนี้เหมือนกันไปซ้อมที่ไหนคะ
 
 

โดย: Chi IP: 27.145.18.194 วันที่: 26 สิงหาคม 2559 เวลา:21:40:41 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

mitrapap
 
Location :
สระบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




Free Domain Names @ .co.nr!
[Add mitrapap's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com