ระวังเรื่องการค้นหาสถานที่ใน GPS เพราะบางที่ไม่ใช่ "วัด" อาจสับสน(เหมือนผมได้) เช่นที่นี่  "วิหารพระมงคลบพิตร"

ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะขับตาม GPS ไปเรื่อยๆ แต่ขอบอกว่า การขับรถเข้าวงเวียน ซึ่งมีถึง 2 จุดนั้น ลำบากพอสมควร ต้องรักษาความเร็ว ตำแหน่งและทิศทางให้ดี ไม่ค่อยมีใครยอมใครหรือหลีกทางให้ใคร เป็นอะไรที่ไม่ชอบเลยจริงๆ

จริงๆแล้วกำลังเป็นฤดูหนาว แต่ฝนตกซะนี่... พอไปถึงก็เลยเดินลัดเลาะไปตามเต๊นท์ขายของต่างๆ กำลังเที่ยงพอดี แวะเติมพลังกันก่อน คนนี้บอกว่าก๋วยเตี๋ยวเรือรสชาติใช้ได้

ส่วนอีก 2 คนสั่งข้าวผัดกระเพราหมูไข่ดาว กับผัดพริกอ่อนหมูไข่ดาว โดยส่วนตัวแล้ว ออกจะจืดๆไปหน่อย ปรุงพริกน้ำปลาแล้วไม่ดีขึ้น พริกอ่อน, หอมหัวใหญ่ และมะเขือเทศรสแปลกๆ น่าจะเก็บไว้นาน เลยต้องเขี่ยไว้ขอบๆ

กาแฟเย็นก็ออกแนว "จ๋องแจ๋ง" แต่พอดีว่าเป็นคนที่เห็นคุณค่าของเงินที่จ่ายไป เลยกินจนเรียบทุกอย่าง ฝนยังพรำๆนิดๆ ถ่ายรูปหน้าวิหารสักหน่อย ภรรยากับพ่อตาครับท่าน

บริจาคเท่าไรก็ได้ ก็จะได้ดอกไม้ธูปเทียน และทองคำเปลว 1 อัน ไหว้พระ ปิดทองด้านนอก แล้วก็เข้ามาไหว้พระมงคลบพิตรในวิหาร ปิดท้ายด้วยการ "เสี่ยงเซียมซี" กันตามธรรมเนียม

จากนั้นก็มาตรวจสอบดวงชะตา จากหมายเลขเซียมซีที่เสี่ยงออกมา

องค์พระมงคลบพิตรในอดีต ที่มีผู้บันทึกภาพไว้ ติดไว้ให้ศึกษากันรอบๆวิหาร

ได้รับการบูรณะมาหลายครั้งหลายครา ปัจจุบันเป็นแบบนี้

ผู้คนหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ระหว่างที่นั่งพักอยู่ เห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินผ่านมา ฟังไม่ออกว่าพูดภาษาอะไร เดาไม่ถูกว่ามาจากชาติใหน หรืออาจจะเป็นตอนเหนือของไทยก็ได้ แอบประทับใจอย่างหนึ่งก็คือ ในขณะที่ผม, ภรรยา และพ่อตานั่งอยู่ตรงนั้น เวลาพวกเธอเดินผ่าน พวกเธอจะย่อตัวหรือก้มหลังลงนิดๆทุกคน ซึ่งผมนั่งอยู่กว่าสิบนาที ไม่พบอาการแบบนี้ในหมู่นักท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งคนไทยด้วยกันเอง...

กิจกรรมตรงนี้ก็คงคุ้นๆตากันดี มีปล่อยนกปล่อยปลา มีขายล็อตตารี่ มีโรตีสายไหม ส่วนบริเวณใกล้เคียงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีก็คือ การขี่ช้างชมเมือง หรือถ้ายังพอมีเรี่ยวแรงอยู่บ้าง ก็สามารถเช่าจักรยานปั่นไปได้ตามใจนึกกันเลย

ทริปนี้รีบไปรีบกลับ เลยไม่ได้แวะที่ใหนต่อ ท่านใดจะไปจริงๆ สามารถค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้เลยครับ