วันนั้น กับ วันนี้(2)....เปลี่ยนผู้นำสถานะการณ์เปลี่ยน...????
เรื่องต่อไปนี้มาจาก ความทรงจำล้วนๆ ไม่ได้ฟังใครมา..???? ก่อนทักษิณมาไม่กี่ปี..ผมไปทำพาสปอร์ต..ที่แจ้งวัฒนะ... เตรียมเอกสารไปมากมาย..คนไปทำกันมากจนแน่นไปหมด.. เสียเวลานั่งรอและเข้าคิวรอทำไปค่อนวัน... ไปทำอีกครั้งในยุคทักษิณ..ไปถึงแจ้งวัฒนะ..ค่อนข้างแปลกใจ.. คนมีน้อย..เอ่..คนทำไม.ไม่ไปต่างประเทศ..ทั้งไปเที่ยวทั้งไปทำงาน...???? พอไปยื่นเอกสาร..จนท.บอกขอบัตรประชาชนใบเดียวค่ะ..???? นั่งรอไม่ถึง 5 นาทีก็เรียกไปถ่ายรูป..อีกไม่ถึง 10 นาที..ก็จบกระบวนการ.. รวมๆทั้งกระบวนการไม่น่าเกิน 17 นาที..อ้อ..ยังงี้เองถึงคนน้อย..เพราะเสร็จเร็ว.. เดียวนี้ยิ่งง่ายใหญ่...เพราะกระทรวงมาเปิด สนง.ทำพาสปอร์ตที่อุบลฯให้เลย...
ก่อนหน้านั้น..ผมไปทำบัตรประชาชน..ข้ามไปทำที่ฝั่งวาริน... เพราะยุคทักษิณทำให้สามารถทำบัตรประชาชนที่ไหนก็ได้..??? ไปถึงอำเภอวาริน..การต้อนรับดีมากจนไม่อยากเชื่อว่า..นี่คือสถานที่ราชการ..??? จนท.ทุกคนกุลีุกุจอต้อนรับพร้อมน้ำเย็น..กับทุกคนที่ไปหา.. ภายในไม่กี่นาทีก็ได้บัตรประชาชนที่เป็นบัตรสมาร์การ์ดออกมา...
พรรคพวกไม่ว่าทำธุรกิจอะไรต่างก็หน้าใสเบิกบาน.. เพราะขายดีเงินทองหมุนเวียนไหลมาเทมา.. โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านที่ทำผลิตภัณฑ์โอท๊อป... ยิ่งไม่ต้องพูดถึง..เพราะเหมือนพระมาโปรด..ข้าวเป็นราคา.. เสร็จฤดูทำนาก็มาทำโอท๊อป จนต้องเรียกลูกหลานกลับบ้าน... หมู่บ้านที่เคยเงียบเหงาเพราะมีแต่คนแก่คนเฒ่าเฝ้าเรือน..มานานปี... เริ่มมีเสียงแคนเสียงพิณยามค่ำคืนเมื่อเสร็จจากงาน...
แน่นอนสิ่งที่ลืมไม่ได้คือการได้หน้าได้ตาจากประเทศเพื่อนบ้าน... วันนั้น..ความสัมพันธระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านทั้ง 4 คือ.. ลาว พม่า เวียตนาม และกัมพูชา เจริญงอกงามสุดๆ.. ถึงขั้นมีการประชุมร่วมรัฐมนตรีระหว่างประเทศ... ไทย-ลาวที่อุบล,ไทย-กัมพูชาที่ศรีสะเกษ,ไทย-เวียตนามที่นครพนม. ส่วนไทย-พม่า..ผมไม่แน่ใจ..ว่ามีหรือไม่???? แต่ที่แน่ๆคือ ระดับนายกรัฐมนตรีของเวียตนามมาเยี่ยมไทยอย่างเป็นทางการ.. เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปี...ซ่ึงแสดงให้เห็นความสัมพันธระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน.. ช่วงนั้นผมไปเที่ยวที่ไหนไม่ว่า ที่ฮ่องกง,เวียตนาม,สิงคโปร.. ประชาชนที่นั่นต่างก็กล่าวชมถึงนายกไทย..ว่า..เก่ง..ทำให้เรามีหน้ามีตาไปด้วย... และที่ลืมไม่ได้คือ..การเอาหน่วยคอมมานโดไปรับคนไทยที่พนมเปญ... เพราะนั่นหมายถึง..ประเทศเราเป็นประเทศมหาอำนาจอย่างแท้จริง..เมื่อต้องใช้อำนาจ.. ในขณะที่ ประเทศไทยก็ยังสามารถช่วยประเทศเพื่อนบ้านด้วยการให้กู้เงิน.. ในขณะที่สมัยนี้เมื่อไม่นาน..เราถูกตอกหน้าว่า..ไม่ต้องการเงินกู้จากไทย..????
ความภาคภูมิใจของผมกับนายกทักษิณนั้น..อยู่ที่ผลงานล้วนๆ.. หลายสิ่งหลายอย่างในเมืองไทยผมคิดว่า..เจริญถึงขั้นสูงสุดในยุคนั้น... การปราบยาบ้า โต๊ะบอล จนแทบสูญพันธุ์จากแผ่นดินไทย.. และสามารถเอาหวยขึ้นมาอยู่บนดินจนเจ้ามือหวยใต้ดินแทบเลิกกิจการ... แบบที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่า..ผลงานชิ้นหนึ่งยังทิ้งเอาไว้..คือ ห้องสมุด"ความรู้กินได้" ที่มาทำต้นแบบที่อุบล...และต้องเลิกที่อื่นๆไปเพราะไม่มีงบประมาณ...ตามนี้ครับ..
//www.guideubon.com/web/viewtopic.php?t=31634
นั่นคือย่อๆที่วันนี้ผมคิดถึง นายกทักษิณ...????? ต่างกับวันนี้.. 2 ปีที่ผ่านมากับยุคนาย(ก)อภิสิทธิ... เราใช้เงินที่มาจากการกู้ไปมหาศาล..กับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ... ไม่มีผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่ผลงานเดียว.. สิ่งง่ายๆหลายสิ่งกลายเป็นสิ่งที่ทำให้มันยาก..ให้เป็นปัญหา... เช่น เรื่องแจกเงิน 2000 บาท..แต่ต้องไปรับเองที่ภูมิลำเนา..หรือต้นสังกัด.. ลูกน้องผมหลายๆคนอยู่จังหวัดอื่นต้องหยุดงานเดินทางมารับ.. หักค่าเดินทางค่ากินก็เหลือไม่กี่บาท..????? หรือแม้แต่ของขวัญปีใหม่ที่น่าภูมิใจ..ก็แค่บอกให้ไปชั่งไข่ขาย... แถมบอกว่า..ถ้าไม่ดีก็เลิก..นี่คือ..สิ่งที่เราได้จากผู้นำ...????? ที่ถึงวันนี้..ยังสับสนว่า..ตนเองควรจะถือสัญชาติใด..??????
คนที่หูหนวกตาบอดก็ยังสามารถรับรู้สิ่งที่แตกต่างกันของวันนั้นกับวันนี้... แต่...ป่านนั้นก็ยังมีคนเชียร์อภิสิทธิ เชียร์ ปชป..อย่างไม่ลืมหูลืมตา.. จนอยากจะบอกว่า..ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา..????? เพราะวันนี้ทั้งข้าวของแพง..ซ้ำร้ายขาดตลาดเพราะการกักตุน.. อีกไม่นานเกินรอ..เราคงได้ปันส่วนอาหารกันแน่..ถ้ายังบริหารแบบนี้... จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ..กับประเทศไทยที่ต้องมาตกต่ำถึงเพียงนี้.. เพราะแค่ผู้นำคนเดียว..???????????
.........................................................................................................................
ของฝากครับ.."ปรัชญาชีวิตและการทำงาน" ของ ดร.เทียม โชควัฒนา(ต่อ)
12. อย่าปล่อยชีวิตให้หมดไปอย่างไร้ค่า คนเราถ้าเข้าใจการจากไปอย่างไม่ย้อนกลับของเวลาย่อมใช้ชีวิตในแต่ละช่วงอย่างมีค่า
13. เร็ว ช้า หนัก เบา ในการทำงาน ควรหมั่นพิจารณาอยู่เสมอว่า งานไหนทำก่อน งานไหนทำทีหลัง งานไหนต้องจริงจัง และงานไหนที่พอควร
14. ความสำเร็จย่อมเป็นของผู้มีความเพียร อยากประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน ต้องพาตัวเข้าหางานอย่าคอยให้งานมาหาตัว เพราะงานคือทุกอย่างของชีวิตที่เราต้องพากเพียรและพยายามทำตลอดไป
15. ไม่มีอะไรเกินความพากเพียรของมนุษย์ คนเราถ้าไม่นิ่งนอนใจ แต่เพียรพยายามใช้สติปัญญาต่อสู้อย่างเต็มกำลังแล้ว ในที่สุดเราก็จะเป็นผู้มีชัยชนะ
16. ความสำเร็จของงาน อยู่ที่คุณภาพของคน หัวใจในการทำงานให้สำเร็จ มิใช่อยู่ที่การสร้างคนให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเท่านั้น แต่ต้องร่วมถึงการสร้างเสริมให้ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความรัก และความสามัคคีด้วย
17. แค่หยุดอยู่กับที่ ก็กลายเป็นผู้ล่าหลัง นักธุรกิจต้องเป็นคนไม่หยุดนิ่งเพียงวันนี้แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยทันโลก พร้อมที่จะก้าวสู่วันพรุ่งนี้ได้เสมอ
18. ชมเกินจริงเป็นโทษ ติเกินเหตุเสียน้ำใจ การชมเชย อย่าให้เขาหลงระเริงจนอาจลืมกับความสำเร็จ ก่อให้เกิดความประมาทที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวในอนาคตได้ การติ ต้องทำด้วยจิตใจที่หวังดีและใช้คำพูดที่สร้างสรรค์
19. ผู้ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส มักเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ความเป็นคนมีอารมณ์ดี ยิ้มแย้มมีชีวิตชีวานั้นเป็นเสน่ห์ของมนุษย์อย่างแท้จริง
20. ทำดีเปรียบการเดินทวนกระแสน้ำ ทำชั่วเปรียบการลอยตามน้ำ การทำความดีเปรียบเหมือนปลาว่ายทวนน้ำขึ้นไปที่สูงจะพบแต่น้ำที่ใสสะอาดฉันใด คนที่พยายามทำความดีแม้จะลำบากยากเย็น ก็ย่อมพบชีวิตที่ดี สะอาดสดใสอันเป็นมงคลแก่ตนเองฉันนั้น
....................................................................................................................................................................
Create Date : 02 มีนาคม 2554 |
Last Update : 2 มีนาคม 2554 19:42:17 น. |
|
2 comments
|
Counter : 991 Pageviews. |
|
|
|
แวะมาทักทายกันจ้า
เรามีกรรมเพราะยังมีคนหลงกับคำพูดหวานหูดูน่าเชื่อถืออยู่ทุกวันนี้