|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปันใจไปเนปาล ตอนที่ 5-พาลูกไปดูแรด
สามวันต่อมา ถึงเวลาจะไปจิตวันแล้ว ราชรถที่ออเดอร์ไว้ที่ทราเวลเอเจ้นท์ก็มาเกยหน้าโรงแรมพอดี
ก่อนอื่นต้องขอบอกเล่าการจองที่พักและรถราไปจิตวันก่อน เผื่อคนอื่นในนี้อยากจะลอกการบ้าน
จิตวันเป็นวนอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดและป๊อปปูล่าที่สุดในเนปาลค่ะ มีระบบการจัดการที่ดีมาก ดีกว่าตัวรัฐบาลเนปาลด้วยซ้ำไปเพราะว่ามีองค์กรต่างชาติเข้ามาช่วยตั้งระบบการจัดการไว้นานมาแล้ว จิตวันยังได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกด้วยนะเออ
จิตวันมีสัตว์ต่างๆมากมายค่ะ ที่เด่นๆคือเสือดาว(คำว่าจิตวัน แปลว่า เสือดาวในภาษาเนปาลี) เสือลายพาดกลอน หมี ตะโขง จระเข้ แต่ที่เด่นที่สุดคือ แรด เป็นแรดคนละพันธุ์กับแรดทางอาฟริกานะคะ แรดที่จิตวันเป็นแรดอินเดีย (Indian Rhino) ที่มีลักษณะเด่นเฉพาะแตกต่างกับแรดอาฟริกาอย่างเห็นได้ชัด
ตอนที่เพื่อนสนิทดิฉันที่เมืองไทยรู้ว่าดิฉันจะไปดูแรดที่จิตวัน มันถามดิฉันว่า "แล้วผัวแกเขาไม่รู้เหรอว่าเขาอยู่กินกับจ่าฝูงแรดตัวจริงมาเกือบยี่สิบปีแล้ว" เขารู้ว้อย แต่รู้ก็เมื่อมันสายเกินแก้แล้ว
เพื่อนดิฉันมันพูดถึงเรื่องดิฉันแรด ทำให้นึกถึงความหลังตอนที่ดิฉันตกลงเป็นคู่ตุนาหงันกับพี่ท่าน แม่เลยพาดิฉันและเฮียไปไหว้ยายของดิฉัน
บอกเสียก่อนว่า ยายดิฉันนั้นเป็นคนไทยแท้ลุ่มแม่น้ำสะแกกรังจังหวัดอุทัยธานี มาแต่งงานกับตาซึ่งเป็นคนกรุงเทพ อยู่กรุงเทพมาเจ็ดสิบปี แต่ขอโทษเถอะค่ะ ความศิวิไลซ์ไม่ได้แอ้มเธอแม้แต่น้อย เธอยังพูดจาภาษาไทยแท้แบบลูกทุ่งอย่างยิ่ง ได้ยินได้ฟังแล้วอิ่มอรรถรสทุกครั้งไป
พอเธอเห็นหลานเขยเข้า เธอก็หันไปบอกแม่ดิฉันว่า
"กูสงสารไอ้ฝรั่งคนนี้ มันมาหลงรักลูกเอ็งได้ยังไง หน้าตาท่าทางมันเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ แต่ดูอีนังหลานสาวกูสิ มันยังกับม้ากระทืบโรง แล้วยังงี้มันจะตามเมียมันทันหรือนี่"
...บอกแล้วว่ายายของดิฉันนั้นเธอเป็นไทยแท้ๆ
ตอนนี้ยายอายุ 90 แล้วแต่ยังด่าไฟแล่บอยู่เหมือนเดิม ยิ่งแก่ยิ่งด่ามัน เวลาไปหายาย หลานๆชอบแหย่ยายให้ยายด่าเล่น เรื่องอะไรยายด่าไม่มันเท่าเรื่องขอเงิน
เวลาดิฉันไปหา พอไหว้เสร็จแล้วดิฉันจะแหย่ยายว่า "ยายๆ ขอตังค์ห้าพัน"
แค่นั้นแหละค่ะพี่น้องผองเพื่อน ยายจะด่าออกมาเป็นชุดเลย ขุดขึ้นมาด่าตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นไหนๆของญาติทางพ่อดิฉัน เคยดูลำตัดชาวบ้านไหมคะ แบบที่เขาด้นออกมาสดๆน่ะ ยังไงยังงั้นเลย
หลานๆกับแม่จะนั่งหัวเราะกันคิกคักๆ พอยายเห็นพวกเราหัวเราะก็จะด่าต่ออีกหนึ่งชุดเป็นของแถม แม่มาบอกที่หลังว่า ยายเขาชอบด่า ให้ยายด่าไปเหอะไม่งั้นวันๆยายเขาเหงา
บอกแล้ว...ว่าการด่า(และโดนด่า)ภาษาไหนไม่ซาบซ่านจับใจเท่าภาษาไทย
อะแฮ้ม..เข้าเรื่องเสียที
การเดินทางไปจิตวัน ทำได้สองทางค่ะคือ บินไป ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็ถึงสนามบินที่ใกล้จิตวันที่สุด แล้วต้องนั่งรถเข้าจิตวันไปอีกครึ่งชั่วโมง
อีกหนทางหนึ่งคือนั่งรถไป จิตวันอยู่ห่างจากกาฏมัณฑุไปแค่ 180 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเมืองไทยสองชั่วโมงก็ถึง แต่นี่มันไม่ใช่สยามประเทศ 180 กิโลของเนปาล ใช้เวลาขับรถ 4-5 ชั่วโมงค่ะ
ดิฉันทีแรกนั้นตั้งใจว่าจะนั่งเรือบินไปเพราะสะดวกกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า แต่คุณพระบอกว่า นั่งรถไปเหอะเธอ เวลาเราโคตรเยอะเลยไม่ได้รีบเที่ยวไปไหนสักหน่อย นั่งรถเราจะได้ดูวิวไปด้วย แต่ดิฉันรู้แกวหรอกว่าเฮียเขาอยากนั่งรถเพราะพี่แกอยากประหยัดเงิน 100 เหรียญ งกซะไม่มี แต่คราวนี้ดิฉันยอมยกให้ค่ะ จะเอาชนะเสียทุกครั้งมันก็ยังไงอยู่ ให้พี่เขาชนะเรื่องเล็กๆน้อยๆแล้วดิฉันชนะเรื่องใหญ่กว่านี้ดีกว่า
*********************************************** โม่หินของชาวบ้านแถวนั้น รูปร่างแปลกตาไม่เหมือนของไทย
นั่งรถไปนี่หมายถึง รถยนตร์ส่วนตัวมีคนขับพร้อมนะคะ รวมค่าน้ำมันอะไรเรียบร้อยแล้ว จากกาฏมัณฑุ-จิตวัน เขาคิด 120 เหรียญค่ะ ไม่แพงค่ะเพราะตั้งสามคน นั่งรถตั้ง 4-5 ชั่วโมง
วิบากกรรมยังมีค่ะพี่น้อง คนอื่นเขานั่งรถจากกาฏมัณฑุไปจิตวัน ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง แต่ดิฉันและพวกใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมงค่ะ เนื่องจากมีอุบัติเหตุกลางถนนเลย
เล่าให้ฟังก่อนว่า เนปาลนั้นมีถนนเส้นทางหลักอยู่สองสายเท่านั้น
*สายหนึ่งจากกาฏมัณฑุไปโพครา
*อีกสายหนึ่งจากกาฏมัณฑุไปถึงลุมพินีจดชายแดนอินเดีย ซึ่งสายนี้ผ่านจิตวันพอดี
พูดถึงฟรีเวย์เนปาลนี่ อย่านึกถึงถนนหกเลนส์แปดเลนส์เหมือนสยามประเทศนะคะ
ไม่ใช่ค่ะ มันเป็นถนนขรุขระปุปะสองเลนส์เท่านั้นเอง เต็มไปด้วยรถสิบล้อจากอินเดียเป็นร้อยเป็นพันคัน อย่าลืมนะคะว่า เนปาลเป็นประเทศไม่ติดทะเล น้ำมัน วัตถุดิบสำคัญๆต้องขนส่งมาจากอินเดียทั้งนั้น
************************************************ รถติด
วันมหาวินาศนั้น เป็นวันที่มีอุบัติเหตุกลางถนน รวมทั้งคนที่นี่ขับรถแบบไม่มีวินัยเลย รถติดข้าจะแซง แซงแล้วก็มากระจุกกันอยู่ไม่มีใครถอย มันก็ติดสิคะ หิวกันซ่กเลยต้องเอาของกินที่เตรียมมาให้ไทเอามากินประทังไปก่อนเกือบหมดกระเป๋า
ที่สำคัญ อันเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบากจริงๆค่ะ โดยเฉพาะห้องน้ำห้องท่า รถติด 10 ชั่วโมงอย่างนี้ดิฉันก็ต้องเข้าห้องน้ำดิคะ ผู้ชายนั้นเข้าข้างทางได้ แล้วดิฉันล่ะคะ ร้านแถวนั้นไม่มีห้องน้ำค่ะ เข้าส้วมในป่ากัน ส่วนที่มีก็สกปรกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สยองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เดชะบุญ เวลาดิฉันไปไหนมาไหนนั้น จะพกโสร่งไปหนึ่งผืนไม่มีขาดเพราะสารพัดประโยชน์จริงๆ ไม่มีผ้าเช็ดตัวก็เอามาเช็ดตัวได้ ผ้าปูที่นอนหรือหมอนโรงแรมไม่สะอาดดิฉันก็เอาโสร่งมาปูทับอีกที
คราวนี้ก็เหมือนกัน ดิฉันเปิดหลังรถเอาโสร่งมาผลัดค่ะ ถอดกางเกงออกแล้วนุ่งโสร่งแทน คราวนี้เลยเข้าข้างทางได้ไม่มีปัญหา
เพราะฉะนั้นสาวๆจะนั่งรถไปจิตวันหรือโพครา ใส่กระโปรงเหอะ ง่ายที่สุด เข้าห้องน้ำง่ายกว่าเยอะเลยค่ะ
นึกถึงตอนนั้น...ดิฉันโกรธสามีมากเกือบจะเอากระซวกไส้แล้วเอาเลือดมาดื่มกินแล้ว นี่ถ้านั่งเรือบินนี่มาถึงตั้งแต่ 11 โมงเช้า คณะของดิฉันกว่าจะไปถึงที่พักก็หนึ่งทุ่มพอดี ดิฉันกับไทกินข้าวแล้วสลบเหมือด
ตื่นมาเพิ่งเห็นว่า ห้องพักนั้นติดแม่น้ำเลยค่ะอีกฝั่งของแม่น้ำคือบัฟเฟอร์โซนของจิตวันซึ่งมีหญ้าช้างขึ้นอยู่ทึบมาก
พูดถึงที่พักที่จิตวันมั่งดีกว่า ที่พักที่จิตวันมีให้เลือกสองสถาน
*โรงแรมที่ตั้งอยู่ในตัวอุทยานแห่งชาติเลย มีอยู่ 7 โรงแรมด้วยกันค่ะ ที่มีชื่อเสียงที่สุดและแพงที่สุดคือ Tiger Top Resort เอาลิ้งค์มาให้ดูด้วยนะคะ
//www.tigermountain.com/index.php?linkid=9&sublink=1
รายชื่อโรงแรมทั้งเจ็ดที่อยู่กลางป่าจิตวันเลยนั้น สามารถหาดูได้ในโลนลี่แพลเน็ตค่ะ
ราคาแพ็คเก็ตจะอยู่ที่ คนละ 300 เหรียญยูเอสต่อวันค่ะ แพงมากกกกก ส่วนมากจะเป็นพวกทัวร์คนรวยจากยุโรปมาพักที่นี่ หาแบบพวกดิฉันคือพวก independent travelers นั้นหาได้ยากยิ่งค่ะ
แต่มีคนบอกว่า ถึงแม้จะแพง แต่ห้องพักก็ธรรมดามากนะคะ ไฟฟ้าก็ไม่ได้มีตลอดคืน เพราะอยู่กลางป่าเลย อาหารก็ธรรมดา แต่โลเคชั่นนี่สิคะถือว่าเป็นทำเลทอง เพราะอยู่กลางอุทยานแห่งชาติ ตื่นเช้ามาก็เห็นแรดเดินกินหญ้าเลย
ใครจะไปจิตวัน ลองเช็คราคาแพ็คเก็ตของโรงแรมที่อยู่ในจิตวันเลยนะคะจากเอเจ้นท์ที่กาฏมัณฑุ ถ้ามาตอนโลว์ซีซั่น อาจจะได้ถูกมากๆค่ะ ไม่ลองไม่รู้ค่ะต้องเช็คราคาดู
*สำหรับพวกเบี้ยน้อยหอยน้อยกว่าพวกแรกที่ได้นอนกลางจิตวัน เรายังมีหนทางค่ะนั่นคือ นอนที่หมู่บ้านที่ชื่อ โซราฮา(Sauraha) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ในเขต buffer zone ของอช.จิตวัน แบบข้ามแม่น้ำเล็กๆไปก็เป็นจิตวันแล้ว
************************************************ โรงแรมที่ดิฉันนอนสองคืนแรก ชื่อโรงแรม Hotel River Side
ก่อนอื่นต้องมาเข้าใจก่อนว่า buffer zone คืออะไร มันก็คือเขตล้อมรอบจิตวันมีความกว้าง 5 กิโลเมตร ในบัฟเฟอร์โซนนี้ ไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนมาสร้างบ้านสร้างโรงแรมเป็นอันขาด ห้ามมีการตัดไม้และล่าสัตว์เป็นอันขาด แต่อนุญาตให้ชาวบ้านท้องถิ่นเข้าไปเก็บของป่าได้
จะมาสร้างรีสอร์ตร้านอาหารบ้านพักผ่อนของคนรวยประชิดติดเขาใหญ่อย่างสยามประเทศนั้นไม่ได้ค่ะ
************************************************ บริเวณโรงแรม
บอกแล้วว่าจิตวันมีระบบการจัดการที่ดีมาก องค์กรต่างชาติหลายๆองค์กรเข้ามาจัดทำโครงการหลายอย่าง เพื่อให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์จิตวัน และมีส่วนในรายได้ของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจิตวัน ทำให้ชาวบ้านรู้ถึงประโยชน์ของป่า ไม่มีป่า ไม่มีแรด ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวแล้วก็ไม่มีรายได้จากจิตวันต่อไป
โซราฮาเป็นหมู่บ้านเล็กๆในบัฟเฟอร์โซน ที่มีโรงแรมที่ไม่แพงอยู่หลายแห่ง จะมาค้างคืนแบบไม่มีแพ็คเก็ตก็ได้ ซื้อมาเป็นแพ็คเก็ตก็ได้ค่ะ
*********************************************** โรงแรม Hotel River Side นี้ ถ้าซื้อแต่ห้องอย่างเดียว ราคาตกอยู่ที่ห้องละ 21 เหรียญยูเอสต่อคืน รวมภาษีและอาหารเช้าแล้ว
ถ้าซื้อแบบ package ตกอยู่ที่ 110 เหรียญยูเอสต่อคืน รวมอาหารสามมื้อ และกิจกรรมทุกอย่าง ส่วนมากคนจะมาพักกันที่จิตวันสามวันสองคืนค่ะ
***Tips*** ใครจะมาจิตวัน ก่อนจองโรงแรมควรจะถามสองคำถามนี้ *โรงแรมนั้น อยู่ในจิตวันหรืออยู่ที่โซราฮา เดี๋ยวจะมาผิดหวังที่หลังเหมือนนักท่องเที่ยวที่คิดว่าตัวเองจะได้นอนในป่าจิตวัน แต่ต้องมานอนที่หมู่บ้าน
*ถ้าโรงแรมอยู่ที่โซราฮา โรงแรมติดแม่น้ำหรือเปล่า โซราฮาเป็นหมู่บ้านเล็กติ๊ดเดียวค่ะ มีโรงแรมทั้งที่อยู่ติดแม่น้ำและไม่ติด แต่เราว่าติดแม่น้ำได้บรรยากาศมากกว่า เพราะข้ามฝั่งแม่น้ำไปนี่ก็เป็นบัฟเฟอร์โซนของจิตวันแล้ว
************************************************ อย่างนี้เลย ห้องนอนดิฉันที่โรงแรมติดแม่น้ำพอดี ได้บรรยากาศม๊ากมาก
ดิฉันเจอโรงแรมน่ารักมากที่โซราฮาในโลนลี่แพลเน็ต อยากจะพักโรงแรมนี้ทั้ง 4 คืนเลย แต่สองคืนแรกนั้นเต็ม เอเจ้นท์ที่จองบอกว่าเอางี้ไหม ไปนอนโรงแรมที่เจ้าของเป็นพี่น้องกับโรงแรมที่ดิฉันอยากนอนสองคืนก่อน แล้วค่อยย้ายวิกสองคืนสุดท้าย
เช้าวันแรกที่จิตวัน เรานั่งเรือขุดไปดูนกดูไม้ เยี่ยมชมศูนย์ขยายพันธุ์ช้างเนปาล และไปเที่ยวหมู่บ้านชาวบ้านค่ะ
ไปไหนมาไหนในเขตจิตวัน คุณต้องมีไกด์ที่มีใบประกอบอาชีพถูกต้องนำทางค่ะ จะไปเดินเทิ่งๆเข้าไปคนเดียวไม่ได้
นั่งเรือมาสักพัก ไกด์หันมาเห็นไทนั่งเอามือราน้ำเล่น เลยบอกไทว่า
"Babu(คนเนปาลเรียกเด็กผู้ชายว่า บาบู คงเหมือนไอ้หนูอะไรทำนองนั้น) Get your hands off the water. There are big crocodiles around here"
ไทสยอง แต่ดิฉันสยองยิ่งกว่า
นกตะกรุม ตัวใหญ่มากๆ
นกยูง กล้องดิฉันมีปัญญาถ่ายซูมได้เท่านี้ล่ะค่ะ
หอสังเกตการณ์ของชาวบ้าน ข้ามฝั่งแม่น้ำไปคืออช.จิตวัน ที่ต้องมีหอสังเกตการณ์นี่เฝ้าแรดค่ะ เพราะแรดพวกนี้ฉลาดมาก ถึงมีลวดไฟฟ้าขึงไว้ด้วย แต่ก่อนที่แรดจะข้ามฝั่งแม่น้ำมาแอบกินข้าวที่ชาวบ้านปลูกไว้
แรดจะคอยดูก่อนว่า มีแสงไฟในหมู่บ้านไหม ถ้าไม่มี แปลว่าไฟดับ(ที่เนปาลไฟดับกันทุกวัน วันละหลายๆครั้ง) ถ้าไฟดับถึงจะข้ามมากินข้าวชาวบ้านได้ ไม่ต้องกลัวไฟดูด กร๊ากกกก
ต่อจากนั้น แวะไปดูช้างที่ elephant breeding center ที่นี่มีลูกช้างวิ่งเผ่นพ่านอยู่ 4-5 ตัว น่าร๊ากมากๆๆๆๆๆ พอเห็นไทก็เอางวงมาล้วงกางเกงไทขอขนมกิน ไทมันก็พูดแต่ว่า I don't have anything for you!
ถามไกด์ว่า ทำไมต้องมีศูนย์ขยายพันธุ์ช้างเนปาล ได้ความมาว่า ที่จริงในเนปาลนั้น ช้างป่าในป่าจริงๆนั้น มีน้อยมาก
เมื่อก่อน เมื่อช้างไม่พอความต้องการ ก็มีการนำพันธุ์มาจากอินเดียบ้าง ลาวบ้าง ไทยบ้าง
แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เพราะว่าช้างเหล่านั้นไม่ชินต่อสภาพอากาศเนปาล ที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือไม่ชินกับควาญคนใหม่ เลยต้องมีการขยายพันธุ์จากช้างเนปาลด้วยกันเอง
ตูดช้าง
ที่จริงเราขโมยกล้วยจากโรงแรมมาหวีนึง อยู่ในแบ็คแพ็ค กะจะเอามาให้ลูกช้างกิน แต่ไกด์บอกว่า กรุณาอย่าเอาอะไรให้มันกิน เพราะว่าพอมันได้กินของอร่อยจากนักท่องเที่ยว พฤติกรรมโดยธรรมชาติของมันเปลี่ยนไป
ดิฉันเลยเอากล้วยกลับโรงแรม ที่เขาพูดนั้นถูกต้องไอ้เราต่างหากไม่ทันคิด
อันนี้ไกด์เอามาให้ดูแล้วทายว่าอะไร ไม่มีใครทายออก มันคือแคนดี้ของช้างค่ะ ข้างในเป็นข้าวเปลือกคลุกผสมกับกากน้ำตาลอ้อย แล้วห่อด้วยหญ้าช้าง ช้างชอบมากเพราะมันหวานหอม ควาญต้องทำให้ช้างกินวันละ 25 กิโลทุกตัว
เสร็จแล้วไปเดินดูหมู่บ้านของชาวทารู (Tharus) เมื่อก่อนนี้ นอกจากชาวทารูแล้ว ไม่มีใครสามารถอาศัยอยู่แถวจิตวันได้เลย เพราะว่ามาเลเรียชุกชุมมาก
แต่ชาวทารูนี้เป็นกลุ่มชนพิเศษ คือมีภูมิต้านทานโรคมาเลเรียโดยธรรมชาติ จึงเป็นกลุ่มชนดั้งเดิมในเขตจิตวันอยู่กันมาหลายร้อยปี
เลยได้สิทธิพิเศษจากรัฐบาลเนปาล สามารถเก็บของป่าและฟืนจากต้นไม้ที่ตายแล้วได้ในเขตบัฟเฟอร์โซน
*********************************************** บ้านนกพิราป เลี้ยงไว้กินเนื้อ
แถมยังได้เงินปันผลจากรายได้จากนักท่องเที่ยวจากจิตวันด้วยค่ะ จะได้ช่วยรักษาป่าจิตวันไว้นานๆ เพราะผลประโยชน์ของคนและสัตว์นั้นมีร่วมกัน
ไทอยากถ่ายรูปกับแพะ
คนนี้ก็อยากถ่ายรูปกับลูกแพะ เพราะมีความหลังว่าเมื่อตอนเด็กๆ อยู่บ้านนอก พ่อไปเอาลูกแพะมาจากไหนก็ไม่รู้มาให้ตัวนึงมาเลี้ยงจนโตแก่ตายจากกันไป
ไทฟังแล้วอ้าปากหวอ บอกว่าเมื่อไรยูจะไปซื้อลูกแพะมาให้ไอเลี้ยงมั่ง
ลอมฟางที่ไม่ได้เห็นมานานแล้วตั้งแต่เป็นเด็กๆ
จบจากไปเที่ยวหมู่บ้านก็กลับไปโรงแรมค่ะ เพื่อที่จะ.....
...อาบน้ำให้ช้าง
แต่ช้างเจ้ากรรมตัวนี้ มันคงจะร้อนมาก พอเห็นน้ำ มันทิ้งตัวลงไปนอนทันที ทั้งพ่อทั้งลูกเกือบจะจมน้ำตาย
เรียกยังง้ายยย มันก็ไม่ยอมลุก
ความฝันที่จะได้ถ่ายรูปขี่ช้างยังงี้ แล้วให้ช้างพ่นน้ำใส่ยังงี้ ก็ต้องเป็นอันพังทลายลงไป
บ่ายสามโมงมีช้างมารับที่โรงแรมเลย จะพาไปดูแรด ที่จิตวันนี่มันแรดอินเดียอยู่ชุกชุมมากๆ ที่ใครๆมาจิตวันเพราะต้องการจะมาดูแรดนี่ล่ะค่ะ
ช้างตัวนึง นั่งได้มากที่สุด 4 คน แต่ตัวที่เรานั่งมีแค่สามคนพ่อแม่ลูกนี่ก็เบียดจะตายอยู่แล้ว พี่ท่านเดี๋ยวนี้ตูดใหญ่มากๆ (ของดิฉันก็ใช่ย่อย)
นั่งช้างจากโรงแรมไปสักครึ่งชั่วโมงได้ แล้วควาญช้างของเราก็ซิ่งฉายเดี่ยว ไม่ยอมตามช้างตัวอื่นๆไป บอกว่าทางนี้แรดมากกว่า เอาวะตามใจพี่เขา ...แล้วเราก็ได้เจอสองตัวแม่ลูกนี่ค่ะ...
ไม่รู้ใครเป็นเหมือนดิฉันมั่ง พอเห็นสัตว์ป่าจริงๆที่อยู่ในธรรมชาติ ไม่ต้องอยู่ในกรงที่สวนสัตว์ ดิฉันจะมีความสุขความร่มเย็นในใจมากๆ
ได้เห็นมันมีความสุขความสบายไม่มีคนมาทำร้ายมัน มีที่กว้างให้เดินไปไหนก็ได้ ไม่ต้องอยู่ในกรงขัง ไม่มีปาหี่ของคนที่แห่แหนมาดูมัน
เดินไปหน่อยก็เจออีกสองตัวแม่ลูก แรดนั้นไม่ได้อยู่ตามป่าทึบ แต่จะอยู่ใกล้หนองน้ำ ใกล้ทุ่งหญ้า
ไทเห็นควาญช้างเอาของ้าวลงที่หัวช้าง มันจิตตกมาตั้งแต่เห็นคนเตะหมาที่ปักตะปุร์แล้ว ไทถึงกับน้ำตาคลอเชียวกลัวช้างเจ็บ มันก็น่าจะเจ็บหรอกเป็นเหล็กแหลมๆขนาดนั้น
เราต้องสะกิดควาญเบาๆ บอกว่า I'll give you a big tip if you don't use that sharp thing on him again
************************************************ เดินมาได้อีกสักสิบนาที ก็เห็นแรดสามตัวพ่อแม่ลูก
ใครว่าผู้ชายไม่มีเซลลูไลต์
แรดอินเดียไม่เหมือนแรดอาฟริกานะคะ มีเหมือนเกราะอยู่รอบตัวด้วยค่ะ
ใกล้มากๆ โปรดสังเกตหูช้าง แทบจะเอื้อมมือไปจับตัวแรดได้เลย กลับไปโรงแรมถามคนที่นั่นว่า แล้วแรดมันไม่รำคาญคนหรือ คนแถวนั้นบอก แรดมันตาไม่ค่อยดี หูไม่ค่อยดี มันไม่เห็นคนหรอก มันเห็นแต่ช้างไม่เห็นคนบนหลังช้าง
กลับโรงแรมทิปควาญช้างอย่างงาม 500 รูปี( ประมาณ 200 บาท) พี่แกไหว้แล้วไหว้อีก ในฐานะที่มีความดีความชอบมากทำให้เราเห็นแรดตั้ง 7 ตัว คณะอื่นที่ขี่ช้างตามกันไปเป็นฝูงเห็นแค่สามตัวเอง
พี่ท่านบอกว่าทำไมดิฉันทิปมากอยางนั้น (อีนี่งก) ดิฉันบอกว่าไม่มากหรอกเธอจ๋า ไอ้ห้าเหรียญยูเอสหรือเทียบเท่านั้น ชั้นซื้อสตาบัคส์มากินซดสามโฮกก็หมดแล้ว (เวลาดิฉันไปทำงานเช้าๆต้องตื่นตีสาม ถ้าไม่ได้สตาบัคส์ triple shots เอาไม่อยู่ค่ะ สิบโมงเช้านี่ดิฉันก็สัปหงกแล้ว)
กลับมาเล่าให้แม่ฟังที่กรุงเทพ แม่ก็บอกเสียงเดียวกับดิฉันเลยว่า ผัวเธอมันงก นินทาสามีเสียเลย
โรงแรมที่เรานอนค่ะ ชื่อ Sapana Village Lodge
//www.sapanalodge.com/sapana_lodge.php
พี่ท่านไปเจอในเวบ Thorn tree ใน Lonely planet เป็นโรงแรมที่ป๊อปปูล่ามาก แต่ก็เป็นโรงแรมที่มีการตกแต่งสวยงามที่สุดแถวนั้น แถมเป็นโรงแรมที่พวก NGO จากฮอลแลนด์สร้างไว้ร่วมกับชาวบ้านแถวนั้น รายได้ทั้งหมดแบ่งให้กับชาวบ้าน 50 เปอเซ็นต์
คืนละ 22 เหรียญค่ะ ห้องสามเตียงนะคะ รวมอาหารเช้า ถูกโคตรรรรรร ราคานี้เป็นราคาห้องอย่างเดียวนะคะ ไม่รวมกิจกรรม
แต่กว่าจะได้นอนโรงแรมงามๆอย่างนี้ก็เหนื่อยเจียนตาย หลังจากนอนที่โรงแรม river sideได้สองคืน สองคืนต่อมาจะย้ายไปที่ Sapana ผู้จัดการที่River side เรียกไปคุยบอกว่าโรงแรม Sapana เพิ่งโทรมาบอกว่า ที่ยูจองไว้สองคืนคงจะนอนไม่ได้ เพราะว่าห้องน้ำเสีย ยูนอนที่นี่ต่ออีกสองคืนได้ไหม
อ้าว เล่นอย่างนี้ก็ต้องมีอาการ "องค์ลง" สิคะ อีนังผู้จัดการนี่พออ้าปากพูดก็เห็นลำไส้ใหญ่ มาพูดได้ยังไงง่ายๆว่าห้องน้ำเสีย เสียก็หาคนมาซ่อมสิ พี่ท่านมองหน้าเมียก็ส่งสารกันได้ว่า มันต้องมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่กว่าเรา พักนานกว่าเรา ตัดหน้ามาคาบไปกินแน่ๆเลย
พี่ท่านเลยบอกดิฉันว่า เธอลองซ้อนมอเตอร์ไซต์ไปดูสิว่ามันจะเอายังไง ของอย่างนี้บ้านดิฉันคนเป็นเมียต้องออกหน้าค่ะ สามีเป็นคนเถียงใครไม่เป็น เถียงเขาทีไรแพ้ทุกที
ไม่รู้เกิดมาเป็นฝรั่งได้ไง ฝรั่งร้อยทั้งร้อยมันเถียงคอเป็นเอ็น
ดิฉันเลยโบกมอเตอร์ไซต์แถวนั้นไปที่ Sapana อยู่ไม่ไกลค่ะ สองโรงแรมนี้ห่างกันไม่ถึงสามกิโล
ไปถึงเจอหน้าผู้จัดการของ Sapana ดิฉันซัดหมัดแรกออกไปทันที คนเร็วกว่าได้เปรียบกว่าแน่นอน รีบใส่ทันทีว่า ไหนยู ขอดูหน่อยไห้องน้ำที่ยูว่าเสียน่ะ มันห้องไหนยังไงกัน มันเสียแน่หรือเปล่า อย่าให้ชั้นรู้นะว่ายูดับเบิ้ลบุ๊คแล้วเอาเรื่องห้องน้ำมาแก้เกี้ยว
Let me tell you that double-booking is NEVER a good business practice.
สงสัยพี่ชายผู้จัดการโรงแรม River side ตะแล็บแก็ปมาบอกแน่ๆว่า อีเจ๊จากแบ็งค่อกอีซ้อนมอเตอร์ไซต์ออกไปแล้ว เอ็งหาเรื่องแก้ตัวไว้ดีๆแล้วกัน ผู้จัดการยิ้มเอาใจบอกว่า แหม กำลังจะโทรไปบอกเลยว่า ห้องน้ำที่มันเสียนั้น แก้ไขจนเรียบร้อยดีใช้ได้แล้ว ห้องพักพร้อมเช็คอินได้เลย
ปาฏิหาริย์มีจริงหรือผู้จัดการเถียงสู้ดิฉันไม่ได้ก็ไม่รู้ ห้องน้ำที่ว่าซ่อมยากๆนั้น อยู่ๆมันก็ดีขึ้นมาในพริบตา ดิฉันเลยให้คนคาบข่าวไปบอกสองหนุ่มว่า ยูสองคนย้ายข้าวของมาเลย ชั้นจัดการจนเรามูฟอินได้แล้ว
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าจะมาพักโรงแรม Sapana Village นี้ ต้องคอนเฟิร์ม คอนเฟิร์ม และคอนเฟิร์มค่ะ แต่พอพักแล้วคุ้มค่ามากค่ะ สวย สะอาด ถูก และเงียบ พวกดิฉันสามคนไม่ได้ขอมากไปกว่านี้เลย (นี่มันก็มากแล้วนะ)
ข้อมูลมาแล้วค่ะสำหรับการจองโรงแรม River Side กับ Sapana
สำหรับ Sapana จองโดยตรงก็ได้ที่
Ram krishna Sapana village lodge Chitwan national park Sauraha-3 chitwan Nepal phone:- 00977-056-580308/580356 //www.sapanalodge.com Email:- sapanavillage@hotmail.com info@sapanalodge.com
สองโรมแรมนี้ มีทราเวลเอเจ้นท์ตัวแทนที่กาฏมัณฑูด้วยค่ะ ในย่านทาเมล
Mr. Babu (ตัวแทน) Reservation Manager Good Taste Tour & Travel Good Taste Trek & Expedition A One Business Complex (304) Thamel Kathmandu Phone: 00977-1-4425073 เวลาทำงาน แปดโมงเช้าถึงหกโมงเย็น
หาไม่ยากค่ะ อยู่ใจกลางทาเมลเลย ถามๆเขาดูว่า A One Business Complex เดินไปทางไหน
Create Date : 08 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2552 23:58:56 น. |
|
14 comments
|
Counter : 3808 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Offita IP: 65.82.240.14 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:3:05:05 น. |
|
|
|
โดย: Tip IP: 125.26.153.207 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:15:46:45 น. |
|
|
|
โดย: immi sp IP: 125.25.210.20 วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:20:40:32 น. |
|
|
|
โดย: Tip IP: 125.26.142.210 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:1:35:50 น. |
|
|
|
โดย: หน่อยจิง IP: 124.120.242.62 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:9:16:48 น. |
|
|
|
โดย: ^_^ yim yim IP: 88.193.177.59 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:22:55:34 น. |
|
|
|
โดย: flymom (flymom ) วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:3:57:00 น. |
|
|
|
โดย: tip IP: 125.26.195.142 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:20:51:57 น. |
|
|
|
โดย: Tip IP: 125.26.195.142 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:20:56:30 น. |
|
|
|
โดย: flymom (flymom ) วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:5:33:58 น. |
|
|
|
โดย: Tip IP: 113.53.173.39 วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:19:26:17 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:18:42:03 น. |
|
|
|
โดย: ลูกน้ำสีส้ม วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:5:43:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ช้างน้อยน่าร๊ากก แรดก็น่ารัก โรงแรมสุดท้ายนั่นน่าพักมากๆค่ะ ถ้าไม่ได้พักนี่เสียดายแย่เลย ดีนะที่อภินิหาร เอ๊ย ปาฏิหารย์ มีจริง