|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แสนสเน่ห์..กัวเตมาลา ตอนที่1-ครั้งที่สี่นี้เป็นเคล็ด
มีคำพังเพยของฝรั่งประโยคหนึ่งที่ว่า "Third time is the charm"
แปลเป็นภาษาไทยง่ายๆว่า ทำอะไรเป็นครั้งที่สามนี้เป็นเคล็ดดี เป็นเรื่องดี จะต้องประสบความสำเร็จ
แต่ของดิฉันนี้ต้องเขียนว่า "Fourth time is the charm" เพราะว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่เราไปเที่ยวกัวเตมาลา อีบ้านนี้ถ้าไปเที่ยวไหนแล้วสนุก ของกินอร่อย ไม่แพงแล้วล่ะก็ จะตะบี้ตะบันไปมันอยู่นั่นแล้วไม่รู้จบ ไม่รู้เป็นอะไร
นอกจากบาหลี และพม่าแล้ว กัวเตมาลานั้นเป็นอีกหนึ่งประเทศในดวงใจ ไปเที่ยวครั้งไหนก็ประทับใจสุดแสน ถ้าจะหาคำวิเศษณ์ภาษาอังกฤษ มาขยายคำนามว่า"กัวเตมาลา"แล้วไซร้ คำนั้นก็คือ...
...Magical....
กัวเตมาลาเป็นประทศในอเมริกากลาง เป็นประเทศเล็กๆ จนๆ ถือว่าเป็นประเทศที่สาม เป็นประเทศด้อยพัฒนา(หรือจะเรียกแบบ political correct ก็ต้องเรียกว่า ประเทศกำลังพัฒนา) แต่เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง
ภูมิประเทศของกัวตามาลานั้น มีทั้งที่ราบสูง (highland) ที่มีอากาศค่อนข้างเย็นตลอดปี กลางคืนนี่หนาวเอาเรื่องเลยล่ะ มีป่าดิบชื้น (rain forest)อยู่ทางเหนือของประเทศ อากาศจึงร้อนชื้น ฝนตกชุกปีละ 6 เดือนคล้ายๆกับเมืองไทย
แถมมีชายฝั่งทะเลที่สวยงาม หาดทรายขาวทอดยาวไปกับทะเลคาริบเบียน อีกฝากนึงของประเทศติดกับมหาสมุทรแปซิฟิค
มีเมืองโบราณแสนสวยตีนภูเขาไฟ เป็นเมืองที่ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเคยมีอดีตที่รุ่งเรืองอย่างมาก เป็นถึงเมืองหลวงศูนย์กลางการปกครองของราชสำนักสเปนทั่วทั้งอเมริกากลาง
มีมหานครเก่าแก่ของชาวมายา ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองแห่งนะคะพ่อแม่พี่น้อง กัวเตมาลานั้นเป็นศูนย์กลางอารยธรรมของชาวมายาเมื่อสามสี่พันปีก่อน ร่องรอยอารยธรรมสูงส่งของชาวมายานั้น มีให้เห็นได้ทั่วไปในกัวเตมาลา โดยเฉพาะปิระมิดใหญ่มโหฬารกลางป่าใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อสามพันปีก่อน เทียบกับฝรั่งในยุโรปที่เพิ่งโผล่ออกมาจากถ้ำ
มีทะเลสาบแสนสวยที่เกิดจากภูเขาไฟ แถมยังมีภูเขาไฟที่ยังแอ็กทีฟอยู่ถึงสามลูกกระหนาบข้างซ้ายขวา สวยเสียจนคนที่เดินทางมาพบ หวังไว้ว่าจะอยู่แค่สามสี่วัน จากสามสี่วันกลายเป็นสามสี่เดือน บางคนนั้นถึงกับจากมันไปไม่ได้ ต้องสร้างบ้านแปงเมืองอยู่แถวๆนั้นเลย
แต่สำหรับดิฉันแล้ว สิ่งที่ติดตาต้องใจดิฉันที่สุด คือผู้คนค่ะ สถานที่ก่อสร้างดูๆแล้วมันก็ยังงั้นๆ สิ่งที่ทำให้ดิฉันชอบ หรือไม่ชอบที่ต่างๆที่ไปเที่ยวคือผู้คน แล้วกัวเตามาลานี่เด็ดที่สุด คือเรื่องชาวพื้นเมือง (Indigenous people) ซึ่งเต็มไปด้วยสีสัน
การแต่งตัวทั้งหญิงทั้งชายนั้นเด็ดมากๆ นั่งดูทั้งวันได้ไม่มีวันเบื่อ หมู่บ้านหนึ่งแต่งสีหนึ่ง สิบหมู่บ้านแต่งกายต่างกันไปสิบแบบ ถ้าออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว 80 เปอเซ็นต์ของผู้หญิง ยังแต่งชุดพื้นเมืองอยู่เลยค่ะ
ไปเปิดพาสปอร์ตเล่มเก่าๆดู (ใครเป็นอย่างเรามั่ง พาสปอร์ตเล่มเก่าๆนี่หายไม่ได้นะ เก็บไว้อย่างดี ว่างๆก็มานั่งเปิดดูว่าเราไปเที่ยวไหนมาบ้าง เหมือนเป็นโรคจิต) ก็เห็นว่า...
ดิฉันไปกัวเตมาลาครั้งแรกเมื่อปี 1992 ตอนนั้นได้งานสายการบินใหม่ๆ ลูกเต้าก็ยังไม่มี เลยซื้อตั๋ว ID90 ไปเที่ยวคอสตาริก้า
แต่อีนังประเทศคอสตาริก้านั้น น่าเบื่อขนาดหนักในความคิดของเราสองคนผัวเมีย เพราะไม่มีคนพื้นเมืองเจ้าถิ่นให้ยลเลย เนื่องจากโดนฆ่าล้างโคตรสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว เหลือแต่พวกเมสติโซ(Mestizos-เลือดผสมสเปนกับชาวพื้นเมือง)กับพวกสืบเชื้อสายโดยตรงมาจากสเปน
ไม่มีตลาดสด ไม่มีชาวบ้านแต่งตัวชุดพื้นเมืองสวยๆ น่าเบื่อมากๆ
ถามฝรั่งนักท่องเที่ยวแถวๆนั้น เขาบอกว่าถ้ายูอยากดูชาวพื้นเมืองแต่งตัวสวยๆ ทำไมไม่ไปกัวเตมาลาล่ะ ใกล้แค่นี้เอง นั่งเครื่องชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น
สองคนผัวเมียรีบไปซื้อตั๋วจากซานโฮเซ คอสตาริก้า ไปยังกัวเตมาลาซิตี้ กัวเตมาลา โดยไม่รู้เหนือรู้ใต้เลย ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ไปถึงตกใจมาก เพราะมีทหารถือปืนกลทั้งเมือง ไปไหนก็มีแต่ทหารถือปืนกล มารู้ทีหลังว่า ตอนนั้นสงครามกลางเมืองในประเทศกัวเตมาลาเพิ่งสงบลง แต่ก็ไม่ได้ทำความหวาดกลัวให้สองคนผัวเมียอย่างใด
ครั้งแรกมีเวลาในกัวเตมาลาแค่ 3 วัน แต่ก็ประทับใจมาก ได้เห็นชาวพื้นเมืองแต่งตัวเด็ดๆ สวยขาดใจทั้งชายหญิง
ครั้งที่2 นั้นไปเมื่อปี 1994 ไม่ได้ตั้งใจไปแต่อย่างใดค่ะ แต่ไปเพราะสแตนด์บายขึ้นเครื่องไปเม็กซิโกซิตี้ไม่ได้ พอดี๊เครื่องไปกัวเตมาลาซิตี้กำลังเตรียมจะขึ้นเครื่อง ดิฉันเลยเดินไปถามพนักงานว่ามีที่ว่างไหม หล่อนตอบว่า ว่างโลด ยูกระโดดขึ้นเลย มีเวลาที่กัวเตมาลาแค่ สามสี่วันอีกแล้ว
ครั้งที่ 3 ในปี 1998 ก่อนท้องน้องไทได้ 1 ปี คราวนี้เตรียมตัวไปค่ะ เที่ยวสนุก ได้ไปหลายที่ พอมีลูกโตพอที่มันจะฟังความได้ ดิฉันกับสามีได้เล่าให้มันฟังหลายครั้งหลายหนว่า กัวเตมาลานั้นมีสเน่ห์เสียเหลือเกิน พอเอ็งโตหน่อยแล้วพ่อกับแม่จะพาไป
ครั้งที่ 4 นี้ไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวมาก ไม่ได้ตั้งใจจะไปกัวเตมาลาด้วยซ้ำ
เพราะลูกดิฉันหยุดเทอม 3 อาทิตย์เมื่อ spring break แรกเริ่มเดิมทีนั้น จะกลับเมืองไทยอย่างที่ทำทุกครั้งที่ลูกหยุดเทอม แล้วจะพาลูกไปปักกิ่ง ไปดูพระราชวังต้องห้าม ไปเล่นzip line ที่กำแพงเมืองจีน (มีอยู่ด่านหนึ่งที่นักท่องเที่ยวน้อยที่สุด)
แต่พี่ท่านเช็คอุณหภูมิของปักกิ่งกลางเดือนมีนาคมแล้ว ทำหน้าเศร้ามาบอกว่า ที่รักจ๋า ปักกิ่งมันยังหนาวอยู่เลย อุณหภูมิยังเป็นเลขหลักเดียวอยู่เลย อันนี้ต้องเข้าใจนะคะ พวกดิฉันนั้นอยู่เมืองหนาว หนาวนานหิมะปีละ 6 เดือน จะไปวะเคชั่นที่ไหน ก็อยากไปที่ๆมันอุ่นๆร้อนๆ แบบว่าได้ใส่เสื้อสายเดี่ยว(ตัวดิฉันนะคะ ไม่ใช่พี่ท่าน) ใส่กางเกงขาสั้น ใส่รองเท้าอีแตะแบบคีบ
เหมือนพี่น้องชาวไทยนั่นแหละค่ะ พอไปเที่ยวก็อยากหนีอากาศร้อน ไปไหนๆที่มันมีหิมะ มีอากาศหนาว ได้ใส่เสื้อหนาว หมวกถุงน่องถุงมือถ่ายรูปเล่น
รู้ดังนั้น ดิฉันในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของบ้านนี้ เลยสั่งการโพล๊ะลงไปว่า งั้นเราไปกัวเตมาลาแทนแล้วกันเธอจ๋า ปักกิ่งนั้นรอไว้เดือนตุลาตอนที่ลูกมันปิดเทอมดีกว่า ไม่หนาวอากาศกำลังดี ชั้นอยากไปไหนที่ไม่ต้องนั่งเรือบินนานๆ ชั้นเบื่อเครื่องบินกับสนามินจะอ้วกแตก กัวเตมาลานี่แหละใกล้ที่สุด ชั้นว่าลูกมันต้องชอบกัวเตมาลาแน่นอน
ก่อนอื่น ต้องขอเล่าความเป็นมาของประเทศกัวเตมาลาให้ฟังสั้นๆก่อนค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวตามดิฉันเที่ยวไม่สนุกไม่รู้ด้วยนะ ที่ดิฉันว่าสั้นๆ ถ้ามันยาวเกินไปก็อ่านข้ามๆไปบ้างก็ได้ค่ะ
ชาวมายานั้น อาศัยอยู่ในคาบสมุทรยูคาตานทางต้อนใต้ของเม็กซิโก ทั่วทั้งประเทศกัวเตมาลา และประเทศฮอนดูรัสมานานถึงสี่พันปีมาแล้ว ยังมีสิ่งก่อสร้างของชาวมายาทิ้งไว้ให้คนรุ่นนี้ได้ดูไปทั่ว
จำได้ไหมคะว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบทวีปอเมริกาเมื่อปี 1492 ไม่ถึงยี่สิบปีหลังจากนั้น ในปี 1521 นายพลสเปนชื่อ เฮอร์นาน คอเตส (Hernan Cortes) ได้ชัยชนะเหนือชนชาติแอสเทค (Astecs) ในเม็กซิโกอย่างราบคาบเด็ดขาด
คอเตส จึงมีคำสั่งให้ เปโดร เด อัลวาราโด (Pedro De Alvarado) นายพันมือขวา ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนที่โหดและเหี้ยมที่สุด เดินทางลงไปดินแดนใต้ลงไปจากเม็กซิโก ไปดูสิว่ามีอะไรให้สเปนได้ถือครองได้อีก (สเปนค้นพบว่าชาวแอสเทคในเม็กซิโก มีทองจำนวนมากมายมหาศาล เลยอยากได้อีก)
ปรากฏว่า เพียง 3 ปีเท่านั้น ในปี 1524 เอลวาราโด สามารถพิชิตชาวพื้นเมืองได้ราบคาบเด็ดขาด ยึดดินแดนตั้งแต่ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส เอลซาวาดอร์ นิคารากัว คอสตาริก้า เรื่อยไปถึงปานามา
**หมายเหตุนะคะว่า ชาวพื้นเมืองที่เอลวาราโดพิชิตได้นั้น ไม่ใช่ชาวมายาสายตรงซึ่งมีอารยธรรมอันสูงส่ง เพราะอารยธรรมมายาสิ้นสลายลงเมื่อประมาณ ปีคศ. 900 ประมาณ 600 ปีก่อนที่โคลัมบัสจะพบอเมริกา
ชาวพื้นเมืองที่สามารถพิชิตได้ เป็นลูกหลานเหลนโหลนของชาวมายาที่รวมตัวกันเป็นหมู่บ้าน หรือเป็นเผ่า ไม่ใช่เป็นมหานคร
เพราะฉะนั้น ใครดูเรื่อง"อะเพาะคาลิปโต้-Apocalypto"ของเมล กิบสัน โดยเฉพาะตอนจบ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดค่ะ
ตั้งแต่ปี 1524 เป็นต้นมา เมื่ออเมริกากลางตกเป็นของราชสำนักสเปน คนพื้นเมืองได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ที่ดินที่เคยเป็นของตัวเองตกเป็นของราชสำนักสเปน คนพื้นเมืองทุกคนตกเป็นทาส ต้องทำงานหนักเพื่อราชสำนักสเปน ต้องถูกบังคับให้เปลี่ยนศาสนาเป็นโรมันคาทอลิค คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนจะโดนเผาทั้งเป็น ภาษาพูดภาษาเขียนของมายากลายเป็นของต้องห้าม
เป็นที่รู้กันว่า หลังจากปี 1524ไม่กี่ปี คนพื้นเมืองกว่า 3 ล้านคนต้องตายไปเพราะความหิวโหย จากการทำงานหนัก หรือโรคภัยที่เขาไม่มีภูมิต้านทานเลย เช่น โรคหวัดธรรมดานี่ล่ะค่ะ
กัวเตมาลาได้รับอิสรภาพจากสเปนเมื่อปี 1831 กว่าสามร้อยปีของการเป็นทาส แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีนัก เพราะว่าชนชั้นปกครองของกัวเตมาลานั้น มาจาก 66 ตระกูล ที่สืบเชื้อสายโดยตรงมาจากสเปน ผลัดเปลี่ยนกันครอบครองกัวเตมาลา ที่ดินถึง 40 เปอเซ็นต์ในประเทศก็ตกอยู่ในมือของคนใน 66 ตระกูลนี่ด้วย
ส่วนคนพื้นเมือง ลำบากยังไงก็ยังลำบากอย่างนั้น แบบที่ฝรั่งชอบเรียกว่า the bottom of the food chain เสียเปรียบเขาทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณูปโภค ด้านสังคม ด้านการศึกษา ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงในสังคมกัวเตมาลา มีมากเหลือเกิน เหมือนภูเขาไฟที่คุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเมื่อไรมันจะระเบิดประทุออกมา
เอาแค่นี้แล้วกัน ยิ่งเขียนยิ่งเศร้า สงสารชาวบ้าน ไปเที่ยวกันได้แล้วค่ะ
Create Date : 29 เมษายน 2552 |
Last Update : 29 เมษายน 2552 2:06:45 น. |
|
11 comments
|
Counter : 2160 Pageviews. |
|
|
|
โดย: bicycleman วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:8:16:09 น. |
|
|
|
โดย: Yolanrita วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:13:36:26 น. |
|
|
|
โดย: micky IP: 58.8.211.23 วันที่: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:34:09 น. |
|
|
|
โดย: เด็กเด็ก IP: 117.47.223.50 วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:09:35 น. |
|
|
|
โดย: bite25 วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:16:44:42 น. |
|
|
|
โดย: พัชรา IP: 125.24.83.185 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:44:21 น. |
|
|
|
โดย: พัชรา IP: 125.24.83.185 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:46:44 น. |
|
|
|
โดย: CAT IP: 203.155.158.3, 61.19.249.105 วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:9:06:39 น. |
|
|
|
โดย: น่ารัก IP: 82.169.27.177 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:3:36:18 น. |
|
|
|
โดย: Nok IP: 192.99.14.34 วันที่: 24 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:06:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อยากไปมั่งจังครับ มีรายละเอียดอะไรน่าสนใจก็กรุณาเล่าไว้ให้เป็นแนวทางด้วยนะครับ